ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่148 หลักฐานติดๆ กัน
บทที่148 หลักฐานติดๆ กัน
“เธอรู้เหรอ?”
จ้าวชานถามอย่างตกใจแล้วรอฟังอยู่
“อืมๆ” จ้างยีฟานพูดด้วยความมั่นใจมาก “นี่เป็นรถหรูคันหนึ่งที่จอดอยู่ในสวนสาธารณะมหาวิทยาลัยจินหลิงของพวกเรามาโดยตลอด ก่อนหน้านี้มีคนลือว่ารถคันนี้เป็นคุณชายเฉินซื้อมา ต่อมาก็มีลือมาอีกว่าเป็นบุคคลลึกลับไม่ธรรมดาในคณะวรรณคดีที่มหาวิทยาลัยพวกเราเป็นคนซื้อ มีคนว่ากันว่าความจริงก็คือคุณชายเฉินผู้โด่งดัง”
“ดังนั้นรถคันนี้น่าจะยังจอดอยู่ที่มหาวิทยาลัยของพวกเราถึงจะถูก ทำไมคนร่ำรวยลึกลับคนนั้นถึงเอารถมาจอดไว้ที่นี่ล่ะ?”
“นี่เป็นคฤหาสน์ที่คุณชายเฉินซื้อนะ”
จ้าวยีฟานขมวดคิ้วไว้ พูดอย่างยากจะเชื่อ
ใช่แล้ว นั่นก็ไม่เป็นอะไรหากใครๆ ก็ตามล้วนเชื่อว่าเฉินเกอคือคุณชายเฉิน
เพียงแต่จ้าวยีฟานคนเดียวเท่านั้นที่ทำไม่ได้
หล่อหวาดกลัว กลัวเป็นพิเศษ
เมื่อสักครู่ตอนอยู่ที่อยู่ในคฤหาสน์ หล่อนคิดอย่างหนัก อยากจะเอาทุกอย่างนี้ย้ายออกจากตัวของเฉินเกอ
ขอเพียงเหตุผลสักข้อหนึ่งที่จะนำสิ่งพวกนี้หลบจากตัวของเฉินเกอได้ก็พอแล้ว
ไม่ง่ายที่จ้าวชานจะให้เหตุผลมา
แต่ตอนนี้จะอธิบายอย่างไร?
รถของคนรวยลึกลับจอดอยู่ที่นี่แล้ว ร่ำลือว่าเขาคือคุณชายเฉิน จากนั้นตอนนี้ก็มั่นใจได้แล้วว่าบุคคลนั้นต้องเป็นคุณชายเฉิน
ถังหรานบอกว่าคุณชายเฉินเข้ามา
คนที่เข้ามามีเพียงเฉินเกอเท่านั้น
บุคคลร่ำรวยลึกลับคนนี้อยู่คณะวรรณคดีเฉินเกอก็อยู่คณะวรรณคดี
ลมหายใจจ้าวยีฟานใกล้จะเร่งเร็วขึ้นมา
ทำไมนะ ทำไมเรื่องทุกอย่างถึงแสดงออกมาว่าเฉินเกอคือคุณชายเฉินที่ลึกลับท่านนั้นล่ะ
“เอ๋ ดูแล้วเมื่อกี้นี้เจ้าหนุ่มนั้นก็มีที่มาอยู่บ้างจริงๆ เอาแบบนี้แล้วกัน ทุกคนฟังที่ฉันจัดการ ต่อไปเจอเขาแล้ว หลบได้ก็หลบ ถึงแม้หลบไม่ได้ก็ต้องต้อนรับให้สมศักดิ์ศรี”
จ้าวชานสูดอากาศเย็นๆ ทีหนึ่งแล้วกำชับไป
เขาใจกล้ามาก ทว่าตั้งแต่เด็กเขาก็ได้รับความคิดมาเพียงอย่างเดียว เจอเรื่องอะไรที่เกี่ยวข้องกับคำว่าเฉิน ยามจัดการขึ้นมาต้องระมัดระวังให้ดี
ตอนนี้ก็ใช่เลย
ถึงแม้จะไม่รู้ว่าเฉินเกอมีสถานะอะไร แต่ฉันจ้าวชานคนนี้ เห็นเขาก็ต้องต้อนรับอย่างสมเกียรติ นี่ต้องไม่มีข้อบกพร่องแน่นอนมั้ง?
พูดจบ จ้าวชานมองทางจ้าวยีฟานอีกครั้ง “ยีฟาน เธอไม่ต้องคิดแล้ว สรุปเธอฟังที่ฉันพูด วันหลังถ้าเจอเฉินเกออีก เกรงใจเคารพเขาบ้างก็พอ ไม่อย่างนั้นก็ไปขอโทษเขาเพราะเรื่องในวันนี้โดยเฉพาะ”
“เกรงใจหน่อย? ขอโทษ? มีสิทธิ์อะไรที่ฉันต้องไปเกรงใจต้องขอโทษเขา? คุณชายจ้าว คุณเป็นลูกชายของผู้จัดการใหญ่ของจินหลิง คุณกลัวเฉินเกอพวกโลโซแบบนี้ทำไมกัน? คุณบอกว่าฉันว่าเห็นใครไม่ถูกชะตาคุณก็จะจัดการคนนั้นให้ไม่ใช่เหรอ? ได้ ฉันจะบอกคุณ ฉันเห็นเฉินเกอแล้วไม่ถูกชะตา คุณช่วยฉันตีเขาให้ตาย ขอเพียงคุณจัดการเขา วันหลังฉันจะเป็นคนของคุณ”
จ้าวยีฟานกลับกระโดดขึ้นมาแล้ว
เพราะในใจของหล่อนจ้าวชานคนนี้ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ คาดไม่ถึงจะมากลัวเฉินเกอแล้ว?
นี่ไม่ใช่แสดงว่าเฉินเกอเก่งกาจกว่าจ้าวชานเหรอ
ในเมื่อเป็นคนที่ตนเองดูถูก ก็ต้องเป็นคนเลวตลอดกาลถึงจะถูกสิ จ้าวยีฟานไม่หวังว่าเฉินเกอจะสามารถมีชื่อเสียงแบบนี้ได้เด็ดขาด
ดังนั้นหล่อนจึงตะโกนออกมาเหมือนคนบ้า
“เชี่ย เธอบ้าไปแล้วรึไงจ้าวยีฟาน?”
จ้าวชานพูดอย่างไม่ดีใจเท่าไร
จะว่าอย่างไรเงื่อนไขของจ้าวยีฟานก็ยั่วยวนมาก เขาจ้าวชานคนนี้เจ้าชู้เป็นนิสัย และทำตามอำเภอใจมาตลอด แต่อย่างไรเสียก็ไม่ใช่หมูโง่เข้าใจไหม
มีความเป็นได้มากว่าเฉินเกอคนนี้จะเป็นคุณชายเฉิน ยังจะมาตีเขาให้ตายอีกเหรอ? ด่าไปประโยคหนึ่งถ้าลิ้นของตัวเองยังอยู่ก็เหลือกำลังแล้ว
“ฉันไม่สน ยังไงเฉินเกอก็ไม่ใช่คุณชายเฉิน คุณบอกแล้วไม่ใช่เหรอ เขาอาจจะเป็นพวกติดตามคนหนึ่ง เขาจะเป็นคุณชายเฉินไปได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไรล่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเป็นพวกขี้แพ้ยากจนที่โด่งดังในมหาวิทยาลัยของพวกเราเลยนะ”
เบ้าตาจ้าวยีฟานใกล้จะร้องไห้ออกมาแล้ว
จ้าวชานทำอะไรไม่ถูก ในใจสับสนวุ่นวายเช่นกัน
และเวลานี้มือถือของจ้าวชานดังขึ้น พอมองดูก็รับขึ้นด้วยสีหน้าโมโห โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังเปิดลำโพงออกอย่างไม่ปิดบังสักนิด
“เชี่ย ซูเจี๋ย นายไปตายที่ไหนแล้ว ไม่ใช่ตกลงกันแล้วเหรอว่าวันนี้จะพาหลินเจียวมาที่คฤหาสน์หยุนติ่งเมาท์เทน? ทำไมพวกนายสองคนไปเปิดห้องกันแล้วหรือไง?”
จ้าวชานด่าว่าไปตามตรง
“อย่าพูดถึงเลยคุณชายจ้าว วันนี้ผมเจอหายนะใหญ่ จากนั้นโดนพ่อผมตีมาปางตาย แม่ผมพึ่งใส่ยาให้ผมเสร็จเนี่ย”
“อะไร? อาซูของฉันตามใจนายดีอย่างกับอะไร คาดไม่ถึงจะตีนายแล้วเหรอ? นายไปหาเรื่องอะไรเข้า นอกจากนายไปผิดใจคนตระกูลเฉิน ถ้าไม่อย่างนั้นคงไม่มั้ง?”
“ผมไม่รู้จริงๆ ว่าผมไปหาเรื่องใครเข้า? ผมจะไปล่วงเกินคนของตระกูลเฉินได้ยังไงล่ะ ผมไม่โง่นะ ถ้าพูดถึงต้นเหตุ คือวันนี้เกือบจะขัดแย้งกับพวกคณะวรรณคดีเข้าให้ พี่รู้ไหม แม้แต่พี่เจิ้งยวี่ยังตบผมเข้าให้เพราะผมไปผิดใจหลี่ปินคุณชายหลี่ของคณะวรรณคดีคนหนึ่งเข้า หลินเจียวรู้จักเขา”
“เชี่ย หลี่ปินคุณชายหลี่? ทำไมฉันไม่เคยได้ยิน? พี่ยวี่ยังตบนายมาด้วย?” จ้าวชานมึนงงอยู่บ้าง สรุปวันนี้มันเป็นอะไรกัน
“เดี๋ยวก่อน คุณว่าใครนะ? หลี่ปิน? แล้วคุณแน่ใจว่าหลินเจียวกับพวกเขารู้จักกันเหรอ?”
ส่วนคำพูดนี้กลับทำเอาจ้าวยีฟานร่างกายสั่นเทา
หล่อนเข้ามาถามที่ด้านข้างมือถือทันที
“ใช่แล้วยีฟาน เธอน่าจะรู้จักเหมือนกัน หลินเจียวผู้หญิงคนนั้นบอกฉันว่าหอพักเธอกับพวกเขามักเชื่อมไมตรีกัน สรุปหลี่ปินคนนั้นมีที่มายังไง เชี่ย โหดจริงๆ ว่ะ”
“อืมๆ ถ้าเป็นแบบนี้ฉันก็รู้แล้ว แต่หลี่ปินเป็นพวกคนจนคนหนึ่ง เขาไม่มีอำนาจอะไร เป็นไปได้ยังไงที่จะมาดึงดูดความฮือฮาได้มากขนาดนี้”
“ใครบอกไม่ใช่กัน ฉันค้นหามาโดยเฉพาะ หลี่ปินไม่มีเบื้องหลังอะไร ที่บ้านเขายากลำบากมากจริงๆ ตอนที่มีหน้ามีตาเพียงหนึ่งเดียวก็คือในราชวงศ์หมิง ตระกูลพวกเขาชิงสอบบัณฑิตได้สามอันดับแรก ก็แค่นี้เอง ฉันไม่เข้าใจทำไมฉันถึงโดนพ่อตีแรงขนาดนี้”
แม้แต่บรรพบุรุษคนในครอบครัวสิบแปดรุ่นซูเจี๋ยก็ไปพลิกออกมาแล้ว ยิ่งไม่เข้าใจทั้งหมดเลย
ส่วนจ้าวยีฟานก็ชะงักนิ่ง หล่อนเหมือนนึกถึงอะไรได้ หล่อนไม่อยากไปถามคนคนนั้น แต่ยังอดมาไม่ได้
“ซูเจี๋ย ฉันถามคุณอีกอย่าง ด้านข้างหลี่ปิน คนที่ชื่อเฉินเกอตามไปด้วยรึเปล่า?”
จ้าวยีฟานถามอย่างเคร่งขรึม
“เชี่ย เธอรู้ได้ยังไง? ถูกๆ มีคนที่ชื่อเฉินเกอตามมาด้วยคนหนึ่ง คือลูกน้องของคุณชายหลี่ ฉันเห็นว่าคนที่จัดเตรียมโรงแรมร้านอาหารล้วนเป็นคนที่ชื่อเฉินเกอจัดการทั้งหมด ตอนนั้นเขายังหยิบขวดเหล้ามาทุบหัวลูกพี่ลูกน้องฉันอีก แต่เขาเหมือนจะรู้จักพี่ยวี่นะ”
ซูเจี๋ยเล่าความสงสัยของตนเองออกมาจนหมด
“ที่แท้ก็เป็นเขา”
จ้าวยีฟานตกใจอีกครั้ง
หลี่ปินคุณชายหลี่อะไร เขาเป็นลูกน้อง เฉินเกอ มีความเป็นไปได้เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ เขาก็คือคุณชายเฉินแห่งจินหลิงในตำนาน
คุณชายเฉินที่ครอบครองทรัพย์สมบัตินับไม่ถ้วนคนนั้น
“เฮ้ย ดูแล้วคนที่ชื่อเฉินเกอคนนั้น พวกเราอย่าไปหาเรื่องเลย ครั้งต่อไปเจอเขาก็ขอโทษกับเขาไปเถอะ ถ้าเป็นคุณชายเฉินจริง พวกเราต้องจบเห่แน่”
“จริงด้วยๆ ดีที่เมื่อกี้ฉันยังไม่ได้พูดอะไรรุนแรงไปกับเฉินเกอ ตอนที่จับเขา ฉันก็แค่จับเบาๆ เอง”
ผู้หญิงหลายคนต่างตกใจจนสีหน้าซีดเซียวกันหมด
สำหรับเรื่องนี้ จ้าวชานเพียงแค่พยักหน้าหนักแน่น
เห็นทุกคนกลัวเฉินเกอกันหมด
จ้าวยีฟานกลับหัวเราะเสียงดังขึ้นมา “ฮ่าๆ พวกขี้ขลาดพวกนี้ พวกเธอขี้ขลาดกันจริงๆ โลโซอย่างนามสกุลเฉินคนหนึ่งก็ทำพวกเธอตกใจกันแบบนี้ได้แล้ว ดี พวกเธอกลัวเขาใช่ไหม ฉันจ้าวยีฟานคนนี้ไม่กลัวเขา เฉินเกอมีอะไรวิเศษนักหนา แถมยังคุณชายเฉินนั้นอีก ฉันไม่เชื่อ เฉินเกอก็คือพวกโลโซคนโง่ผู้ชายเลวๆ เท่านั้นเอง”
จ้าวยีฟานกำหมัดไว้แน่น เล็บจิกเข้าไปกลางฝ่ามือแล้ว
หล่อนไม่เชื่อ ในใจหล่อนยิ่งไม่สบาย ทำไมคนที่สูงส่งกลุ่มนี้ สุดท้ายถึงได้กลัวเฉินเกอกันหมดล่ะ?
พูดถึงเฉินเกอ
ตอนนี้เขากลับมาถึงหอพักและนอนหลับไปตั้งนานแล้ว เรื่องนี้จ้าวจื่อซิ่งจัดการอย่างไร เขาขี้เกียจจะเข้าไปถาม
หลับตื่นเดียวถึงเช้า
วันต่อมา เฉินเกอไม่มีเรื่องอะไรให้ทำแล้ว
จากนั้นถึงได้นึกถึงหลินเจียวขึ้นมา โดยเฉพาะตนเองชนหล่อนเข้าให้ ดูหน่อยดีกว่าว่าหล่อนฟื้นหรือยัง?