ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่149 หลินเจียวเสียความทรงจำแล้ว
- Home
- ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี
- บทที่149 หลินเจียวเสียความทรงจำแล้ว
บทที่149 หลินเจียวเสียความทรงจำแล้ว
เฉินเกอไม่ได้ขับรถไป แต่เรียกรถนั่งไปที่โรงพยาบาลโดยตรง
เนื่องจากห้องที่หลินเจียวอยู่เป็นห้องคนไข้เดี่ยววีไอพี
ตอนที่เฉินเกอไปถึง สภาพแวดล้อมเงียบสงบมาก
“ออกไป ออกไปให้หมดเลย ไม่เจอคุณชายท่านนั้นที่ช่วยฉันไว้ ฉันจะไม่รับการตรวจอะไรของพวกคุณทั้งนั้น ไสหัวไป”
คิดไม่ถึงว่าเพิ่งมาที่หน้าประตู
ก็ได้ยินเสียงตะคอกของหลินเจียว
ตามมาด้วยคุณหมอและพยาบาลระดับสูงกลุ่มหนึ่งถูกหล่อนปาข้าวของไล่ออกมาแล้ว
“เฮ้อ คุณหลินท่านนี้อารมณ์ร้ายเหลือเกิน ไม่ให้ตรวจโรค ถ้าเกิดรักษาอาการล่าช้าจะทำอย่างไรกัน?”
“ใช่แล้ว ไม่มีทางเข้าใกล้ได้เลย”
พยาบาลสองสามคนพูดอย่างร้อนใจ
ทันใดนั้นพอหมุนดวงตาก็มองเห็นเฉินเกอที่ถือผลไม้ประเภทนั้นขึ้นมา
“คุณชายเฉินสวัสดีค่ะ ในที่สุดคุณก็มาแล้ว คนไข้ฟื้นมาโวยวายอยากเจอคุณมาโดยตลอดเลยค่ะ”
พยาบาลสาวสวยหลายคนรีบเข้ามาล้อมเฉินเกอไว้
เพราะวันนั้นเฉินเกอเป็นคนขับรถแลมโบกินีมาทันที ซึ่งหรูหราที่สุด ย่อมถูกกลุ่มพยาบาลสาวสวยเหล่านี้ติดตาม และทักทายคุณชายเฉินอย่างเคารพสักหน่อย
“อ่อ คุณหมอจ้าว หลินเจียวฟื้นมาเมื่อไรกัน? อาการหล่อนเป็นอย่างไรบ้าง?”
เฉินเกอพยักหน้านิ่งๆ ให้พยาบาลกลุ่มนี้ จากนั้นถามหมอเจ้าของไข้วัยกลางคนที่นามสกุลจ้าว
คุณหมอจ้าวคนนี้พอมองเห็นเฉินเกอดวงตาก็เป็นประกาย
จากนั้นโบกมือให้หมอที่เหลือคนอื่น แสดงว่าให้พวกเขาออกไปก่อน
“คุณชายเฉินสวัสดีครับ คนไข้เพียงแค่สมองได้รับการกระทบกระเทือนเล็กน้อย ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรใหญ่โต โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกเราใช้ยาตัวหนึ่งกับหล่อนแล้ว ตอนนี้หล่อนสูญเสียความทรงจำประมาณครึ่งเดือนไป”
คุณหมอจ้าวยิ้มอย่างประจบอยู่บ้าง
นี่ทำให้เฉินเกออึดอัดพอสมควร เมื่อวานหลังจากตนเองพาหลินเจียวมาส่งก็โทรศัพท์หาหลี่จ้าวเจิ้นกั๋ว ต้องการเขาช่วยจัดการห้องคนไข้ในโรงพยาบาลให้ และพยาบาลเฝ้าไข้โดยเฉพาะ
แต่ตนเองไม่ได้บอกว่าอยากให้หลินเจียวเสียความทรงจำ
แต่นี่ก็คิดได้ไม่ยาก ต้องเป็นเพราะหลังจากตนเองโทรศัพท์เสร็จ จ้าวเจิ้นก็กั๋วรีบโทรศัพท์หาโรงพยาบาลทางนี้ทันที ไม่เพียงจัดการห้องคนไข้และหมอพยาบาลให้ ยังบอกว่าทำให้หลินเจียวไม่สามารถจำเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ได้ด้วย
จ้าวเจิ้นกั๋วคนนี้ ความคิดรอบคอบเสียจริง
เฉินเกอหัวเราะอย่างขมขื่นในใจ
แต่เป็นแบบนี้ก็ดี วันหลังหูของเขาก็ลดเรื่องยุ่งยากไปอย่างหนึ่ง
“ได้ เรื่องนี้รบกวนคุณแล้วนะ วันหลังผลประโยชน์ย่อมไม่น้อยแน่ ผมขอไปดูหล่อนก่อน”
“ได้ครับคุณชายเฉิน”
เฉินเกอผลักประตูเข้าไป
“ไสหัวออกไปเลย ฉันบอกแล้ว……เชี่ย เฉินเกอ ทำไมเป็นนายล่ะ?”
หลินเจียวหยิบแก้วหนึ่งขึ้นอยากจะขว้าง ผลสุดท้ายพอมองเห็นเฉินเกอ หล่อนก็ตะลึงค้างไปแล้ว
พูดตามจริงหลังจากเมื่อวานตอนเย็นที่สะลึมสะลือแล้วฟื้นมา ผ่านความฉงนช่วงก่อนหน้านี้ และช่วงหลังที่หมอพยาบาลเหล่านี้มีท่าทีระมัดระวังกับตนเอง ทำให้หลินเจียวเกิดอารมณ์คุณหนูใหญ่ขึ้น
เริ่มต้นหลินเจียวถามว่าตนเองมาได้อย่างไร
หมอบอกว่าเขาที่เป็นคุณชายท่านหนึ่งจัดเตรียมมาให้คุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังเป็นห้องคนไข้ระดับสูงพิเศษ
บวกกับตอนที่หลินเจียวรีบร้อนถามคุณชายคนไหน หมอพวกนี้อย่างไรก็ไม่ยอมพูด
บวกกับแต่ละคนล้วนเคารพต่อหลินเจียวมาก
ดังนั้นจึงมีฉากที่หลินเจียวกำเริบเสิบสานขึ้นมาเมื่อกี้
แต่นึกไม่ถึงว่าจะเห็นเฉินเกอเข้าให้
“ฟังจากน้ำเสียของเธอ ดูเหมือนเธอจะดีขึ้นมาไม่น้อยเลย”
เฉินเกอนำผลไม้วางไว้และนั่งลงมา
“นี่ เฉินเกอนายมาได้อย่างไรกัน? เดี๋ยวก่อน นายอย่าบอกว่าฉันนะ นายเป็นคนที่ช่วยฉันไว้? และสรุปว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน? ทำไมฉันจำไม่ได้เลย”
หลินเจียวถามอย่างประหลาดใจอยู่บ้าง
“ฉันเป็นคนที่ช่วยเธอไว้ สำหรับเกิดเรื่องอะไรขึ้น? คงเป็นเพราะตอนที่เดินเล่นอยู่ในสวน เธอเดินเร็วเกินไปจนสะดุดโดนก้อนหินเข้าให้ เลยล้มลงหัวไปกระแทกบนก้อนหินอีกก้อน จากนั้นฉันเลยช่วยพาเธอมาส่งที่โรงพยาบาลแล้ว”
เฉินเกอพูดอย่างหน้าไม่แดงสักนิด
“อ่า! ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง แค่กๆ” หลินเจียวปิดหน้าไว้อย่างต่ำต้อย
เฉินเกอใกล้จะหัวเราะออกมาแล้ว “ทำไมฉันดูท่าทางของเธอเหมือนผิดหวังมากที่ฉันเป็นคนช่วยเธอไว้?”
เชอะ ใช่แน่นอนสิ!
เดิมทีคนอื่นเขาคิดว่าตนเองถูกรถคันหนึ่งชนเข้าเบาๆ จากนั้นรถคันนี้เป็นรถหรู เจ้าของรถหรูคงเป็นคุณชายเพอร์เฟกต์
สุดท้ายดีที่สุดเมื่อวานยังฝนตกด้วย ท่ามกลางสายฝน คุณชายเพอร์เฟกต์ท่านนั้นนั่งยองๆ ลงอย่างระวัง
กอดตนเองไว้แตะแก้มของตนเองเบาๆ รีบถามมา “คุณผู้หญิง คุณไม่เป็นไรนะ?”
เห็นตนเองสลบ คุณชายเพอร์เฟกต์ท่านนี้ก็อุ้มตนเองไปที่รถ จากนั้นเข้ามาส่งที่โรงพยาบาลอย่างเร่งรีบ
หลังจากนั้นเขาก็จะถือผลไม้น่ารับประทานกองใหญ่มาเยี่ยมตนเอง แถมยังปอกแอปเปิลให้ตนเองด้วย
อีกทั้งยังพาตนเองไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะ อยู่ด้วยกันแบบนี้ไปครึ่งเดือน กระทั่งทั้งสองคนเกิดความรู้สึกต่อกันขึ้นมาฉับพลัน
เขาหลงรักฉันแล้ว และในค่ำคืนที่ดวงดาวเต็มท้องฟ้า เขาก็มาคุกเข่าขอตนเองแต่งงาน
ชั่วขณะที่ขอแต่งงาน ท้องฟ้าเต็มไปด้วยดอกไม้ไฟที่เขียนว่าผมรักคุณ
“เจียวเจียว ผมรักคุณ คุณแต่งงานกับผมได้ไหม? ผมยินยอมใช้ทั้งหมดของผมมาแลกกับความสุขในชีวิตของคุณ”
“อืมๆ”
จากนั้นทั้งสองคนก็เริ่มแลกจูบกันในค่ำคืนโรแมนติกนี้ ตอนที่จูบไปได้ครึ่งหนึ่ง หลินเจียวลืมตาขึ้น
เชี่ย เฉินเกอ!
ดังนั้นทุกคนคงสามารถจินตนาการถึงอารมณ์ของหลินเจียวในเวลานี้ได้มั้ง
“นี่ๆๆ เธอมาดึงมือฉันทำไม ฉันถามอยู่นะ? เธอผิดหวังมากรึไงที่ฉันช่วยเธอไว้?”
เฉินเกอมองท่าทางหลินเจียว ใบหน้าเต็มไปด้วยความหลงใหล อดหัวเราะอย่างขมขื่นไม่ได้ ก่อนจะพูดขึ้น
“อ่า! ฉัน……ฉันมีที่ไหนกัน! เฮ้อ เฉินเกอ ความสูงนายก็ไม่ถือว่าเตี้ย หน้าตาเหรอ ความจริงขอเพียงใส่เสื้อผ้าดูดี หน้าตายังหล่อมาก ตอนนี้ล่ะ หลังจากที่นายถูกรางวัลก็มีเงินแล้ว มีสังคมหน่อย สามารถพูดได้ว่าเป็นคุณชายเพอร์เฟกต์แล้ว!”
“แต่ว่านายยังห่างกับคุณชายเพอร์เฟกต์ที่มีความสามารถแท้จริงอยู่ ยังห่างกันอยู่มากๆ เลย ฉันไม่รู้มันเรื่องอะไรกัน อาจจะเป็นในเรื่องของนิสัยประจำตัวล่ะมั้ง!”
หลินเจียวพูดอย่างบ่นๆ “เชอะๆ ฉันยังคิดว่าจะเป็นคุณชายเพอร์เฟกต์แบบในจินตนาการช่วยฉันไว้ซะอีก แต่ว่าเป็นนาย ก็ไม่แย่!”
หลินเจียวรู้ เฉินเกอมีเงินมาก ถึงแม้จะไปเป็นเด็กเลี้ยงให้คนอื่นเขาก็เถอะ แต่มีเงินก็ดี ตนเองจะได้ล่อลวงเขาหน่อย เงินจะไม่ใช่ของหล่อนทั้งหมดเหรอ!
แต่เฉินเกอก็ถือว่าดูออกแล้ว ความทรงจำในตอนนี้ของหลินเจียวน่าจะประมาณครั้งที่แล้วช่วงที่อยู่สาขาพวกหล่อน ตอนก่อนสารภาพรักจนถูกจ้าวยีฟานเข้าใจผิด
“เฉินเกอ นายปอกแอปเปิลให้ฉันได้ไหม?” หลินเจียวเอามือท้าวแก้มไว้ เวลานี้เอียงหน้าน้อยๆ มองทางเฉินเกอด้วยหน้าตางดงาม แถมยังยิ้มเล็กน้อย
“แต่ฉันไม่ได้ซื้อแอปเปิลมา มีกล้วยล่ะ เธอจะกินไหม?”
เฉินเกอก็รู้สึกผิดในใจต่อหล่อนอยู่บ้าง รถชนเข้า ทั้งยังทำหล่อนเสียความทรงจำอีก ในใจของคนก็ไม่ใช่ไร้รสชาติอะไร
เฉินเกอนำกล้วยลูกใหญ่ส่งให้หล่อน
“โอ๊ย ฉันไม่ต้อง……แหวะๆ ฉันไม่กิน นายเอาไปทางอื่นเลย”
“เฉินเกอ นายช่วยไปซื้อแอปเปิลให้ฉันได้รึเปล่า ฉันอยากกินแอปเปิลที่ปอกแล้ว”
หลินเจียวดึงมือของเฉินเกอแล้ว
เฉินเกอรีบเก็บกลับมา “ก็ได้ ฉันจะไปซื้อให้ เธอรอก่อน!”
พูดจบก็ออกไปแบบหนีๆ
เฉินเกอทางนี้เพิ่งเข้ามาในลิฟต์
ลิฟต์ด้านข้างก็เปิดออกพอดี
ผู้หญิงสี่ห้าคนถือตะกร้าผลไม้เดินออกมาจากด้านใน
“ยีฟาน ตอนโทรศัพท์มาหลินเจียวพูดชัดเจนรึเปล่า ที่นี่เป็นห้องคนไข้แขกพิเศษนะ!”
“อืมๆ วางใจเถอะสวีเสีย บอกดีแล้ว ไป พวกเราไปดูหล่อนกัน!”