ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่153 บังเอิญเจอที่ร้านมือถือ
บทที่153 บังเอิญเจอที่ร้านมือถือ
“พระเจ้า ไม่รู้ว่าใครไปหาเรื่องสวี่ต้าหยวนคนโหดเหี้ยมคนนี้เข้า เดาว่าวันนี้คนคนนั้นต้องหายนะแน่”
คนขับรถกำลังขับรถ เวลานี้พูดอย่างอกสั่นขวัยหายอยู่บ้าง
เห็นได้ชัดว่าเขารู้จักสวี่ต้าหยวน และเคยได้ยินคำร่ำลือของสวี่ต้าหยวนมา
และด้านในนี้ มีเฉินเกอที่มึนงงเล็กน้อยเพียงผู้เดียว “นี่สรุปสวี่ต้าหยวนมีที่มายังไง? เก่งกาจกว่าหลี่เฟยหงแห่งตลาดการค้าจินหลิงอีกเหรอ?”
เวลานี้เฉินเกอถามคนขับรถ
พอมองรอบหนึ่ง ด้านหลังเหมือนไม่มีสวี่ต้าหยวนคนนั้นตามมา นี่ถึงทำให้ในใจเฉินเกอสงบลง
“อะแฮ่ม จะพูดยังไงล่ะ หลี่เฟยหงก็เป็นคนเก่งแห่งจินหลิง เบื้องหลังพึ่งบริษัทการค้าจินหลิง กรุ๊ป แต่สวี่ต้าหยวนคนนั้น เบื้องหลังยังพึ่งตระกูลสวี่ที่ยิ่งใหญ่แห่งจินหลิง เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของสวี่ไห่ซานประธานของ บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไห่ชานกรุ๊ปถึงแม้ว่าบริษัทการค้าจินหลิงกรุ๊ปจะเป็นบริษัทอันดับหนึ่ง แต่จะพูดอย่างไรก็เป็นกิจการที่เข้ามาจากเขตอื่น มีที่มาประวัติการก่อตั้งที่จินหลิงสิบกว่าปี แต่บริษัทอสังหาริมทรัพย์ไห่ชานกรุ๊ปไม่เหมือนกัน มีมาตั้งแต่สี่สิบปีก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนหน้านี้ตระกูลสวี่ก็หยั่งรากลึกที่จินหลิง เป็นงูท้องถิ่นอย่างแน่นอน”
“ไม่ใช่อย่างที่คำโบราณว่าเหรอ มังกรแกร่งกดงูท้องถิ่นไม่ลง แต่ว่าบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไห่ชานกรุ๊ปกับบริษัทการค้าจินหลิงกรุ๊ป ภายนอกทั้งสองฝ่ายก็อยู่กันด้วยดีมาก ต่างฝ่ายต่างไว้หน้ากัน”
คนขับรถเหมือนคนชอบพูด พอได้พูดก็หยุดไม่อยู่เลย
ส่วนเฉินเกอฟังคนขับรถแนะนำตระกูลสวี่นี้ โดยเฉพาะสวี่ไห่ซาน จึงนึกขึ้นมาได้
ตนเองเคยได้รับรู้เกี่ยวกับตระกูลสวี่มาครั้งหนึ่งแล้ว
เมื่อไรกันนะ?
สวี่ตงสวี่ชาว ทำไมพี่น้องสองคนนี้หายไปจากจินหลิง? อีกทั้งครั้งก่อนทำไมจ้าวยีฟานร้องไห้อยู่ในหอพักไม่กล้าออกมา สุดท้ายพ่อแม่ของหล่อนออกหน้าก็ไม่เป็นผล เป็นตนเองที่ให้หลี่เจิ้นกั๋วโทรศัพท์ไปแก้ไขเรื่องนี้
ไม่ใช่ว่าตอนนั้นคนที่กินข้าวในวิลล่าสปาคือลูกชายของสวี่ไห่ซาน ลูกคนรวยที่ชื่อสวี่เว้ย เพราะดื่มเหล้าไปแล้วหยอกล้อจ้าวยีฟานกับหลินเจียว
หลังจากนั้นสวี่ตงก็ออกหน้าเรียกคนมาตีสวี่เว้ย
สุดท้ายพอหาเรื่องเข้าก็พบกับการแก้แค้นกระหน่ำรุนแรงของตระกูลสวี่
ตนเองไม่ได้สนใจสวี่จ้าว เพียงแค่ให้หลี่เจิ้นกั๋วออกหน้า ไกล่เกลี่ยเรื่องของจ้าวยีฟานกับหลินเจียวให้
ครั้งนี้ถือว่าตระกูลสวี่ไว้หน้าแล้ว
แต่เฉินเกอก็เคยได้ยินหลี่เจิ้นกั๋วเตือนขึ้นมาด้วย บอกให้เฉินเกอระวังความปลอดภัย หลบซ่อนสถานะให้ดีอะไรทำนองนี้
เพราะบริษัทการค้าจินหลิงกรุ๊ปอยู่ในจินหลิงเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่จริง แต่ไม่ใช่ทุกบริษัทจะกลัวบริษัทการค้าจินหลิงกรุ๊ปไปหมด
โดยเฉพาะในสายตาของพวกเขา รู้เพียงว่าเป็นบริษัทที่พี่สาวเฉินเสี่ยวเปิด และที่มาความน่าเกรงขามต่อเฉินเสี่ยวก็ไม่ชัดเจน ดังนั้นธุรกิจของงูท้องถิ่นจึงไม่หวาดกลัว
แม้กระทั่งในที่ลับยังใบ้เล่ห์เหลี่ยมไม่น้อยด้วย
อย่างเช่นครั้งที่แล้วเฉินเกอกับซูมู่หานถูกลักพาตัว หลี่เจิ้นกั๋วเคยโทรศัพท์ไป โทรไปหาสวี่ไห่ซานโดยตรงพร้อมใช้น้ำเสียงแลกเปลี่ยนอย่างไม่คำนึงถึงทุกอย่าง
ทำให้สงสัยว่าสวี่ไห่ซานกำลังเล่นตลก
นี่แสดงว่าในสายตาของหลี่เจิ้นกั๋ว ตระกูลสวี่มีระดับความสำคัญ
เดิมทีสวี่ต้าหยวนเป็นลูกพี่ลูกน้องของสวี่ไห่ซาน ฉันว่าตระกูลสวี่ที่ไหนจะเก่งกาจได้ขนาดนี้กันล่ะ
เฉินเกออยู่บนรถ กำลังครุ่นคิดเรื่องนี้
สิ่งสำคัญกลับไม่ใช่กลัวเรื่องเดือดร้อน ถ้าไม่ได้อย่างไรก็นำเรื่องนี้ไปบอกพี่สาวอย่างเฉินเสี่ยว ให้เธอใช้อิทธิพลตระกูลมาแก้ไข โดยเฉพาะถึงตระกูลสวี่จะยอดเยี่ยมแค่ไหน ในสายตาเมืองหนานหยางตระกูลเฉิน ก็เป็นเสมือนมดตัวหนึ่ง
แต่ตอนนี้ทุกอย่างล้วนรอมือถือของตนเองดีแล้วค่อยปรึกษากับหลี่เจิ้นกั๋วอีกทีเถอะ
สถานที่ที่เฉินเกอพาถังหว่านพวกเธอมาคือที่พักของซูเฉียงเวย
สถานที่นี้ห่างไกลผู้คนที่สุดแล้ว
สวี่ต้าหยวนคนนั้นคงหาที่นี่ไม่เจอภายในชั่วโมงครึ่ง
“พี่เฉินเกอ พี่มาแล้วเหรอ”
“ต้าหู่ เอ้อหู่ เสี่ยวหยิงล่ะ?”
พอเข้าไป ต้าหู่ เอ้อหู่ที่กำลังซักเสื้อผ้าในลานบ้านรีบเข้ามาล้อมทันที
“ไปทำกับข้าวในบ้านกับพี่เฉียงเวยล่ะ!”
ไม่นานซูเฉียงเวยก็พาเสี่ยวหยิงออกมากันหมดแล้ว
เฉินเกอไม่ได้อธิบายมากมาย เพียงแต่เล่าเรื่องที่คืนนี้ถังหว่านพวกเธอสองแม่ลูกจะมาพักที่นี่ง่ายๆ สักหน่อยเท่านั้น แน่นอนว่าซูเฉียงเวยไม่มีปัญหา จึงรีบไปจัดเก็บที่พักให้ถังหว่าน
และพอถังหว่านฟังเฉินเกอบอกว่าซูเฉียงเวยเลี้ยงดูเด็กสามคนนี้ด้วยตนเอง ยิ่งรู้สึกประทับใจต่อซูเฉียงเวยคนนี้มาก
อาจจะเป็นประสบการณ์ที่ตนเองดูแลลูกสาวคนเดียวมาเอง ถังหว่านกับซูเฉียงเวยถึงมีความรู้สึกเห็นใจซึ่งกันและกันตั้งแต่แรกเจอ พอเจอหน้ากันทั้งสองคนก็คุยกันจนติดลมแล้ว
ส่วนเฉินเกอล่ะ หลังจากพวกเขาจัดการเรียบร้อย ก็ไปห้างมือถือแห่งนั้นแถวนี้คนเดียว รีบเปลี่ยนมือถือมาใช้
ถ้าไม่อย่างนั้นคงเสียเวลาจัดการเรื่อง
นี่คือห้างสรรพสินค้ามือถือแห่งหนึ่ง มีมือถือทุกยี่ห้อดังทั้งหมด
คนก็ไม่น้อยเลย
เฉินเกอเดินไปเดินมา ไม่รู้ว่าจะซื้อยี่ห้อไหนดี
อยากจะเลือกที่ทนทานสักอัน
สุดท้ายสายตาล็อกไปด้านบนมือถือที่คุณภาพดีสุดๆ ราคาที่แสดง ต้องการ18888เต็มๆ
สามารถพูดได้ว่าเป็นมือถือที่ค่อนข้างแพงเลยทีเดียว
“ขอโทษนะ เอามือถือใหม่ล่าสุดอันนี้ให้ผมดูหน่อย ขอบคุณครับ”
เฉินเกอพูดกับพนักงานขายของคนหนึ่งด้วยความสุภาพ
พนักงานขายมองเห็นเฉินเกออยู่ที่นี่มองหาตั้งนานแต่แรกแล้ว ดูการแต่งตัวของเขาสิ เหอะๆ คิดว่ากำลังเลือกมือถือราคาถูกอันไหนอยู่ล่ะ
แต่คนประเภทนี้มักจะรักษาหน้าตามาก
ต้องมาเดินเล่นแถวยี่ห้อดังบางส่วนก่อน ดูๆ หน่อย จากนั้นแกล้งทำเป็นท่าทางไม่ค่อยเหมาะ สุดท้ายก็เลือกยี่ห้อที่ไม่ค่อยดังราคาสองสามร้อย
เชอะ คนแบบนี้หล่อนเห็นมาเยอะเหลือเกิน
ดังนั้นพอมองเห็นเฉินเกอที่ท่าทางต๊อกต๋อยเดินเข้ามาทางนี้ หล่อนก็ดูถูกพอสมควร
ตอนนี้ได้ยินว่าเฉินเกอบอกว่าอยากดูมือถือเครื่องแพงที่สุด
พนักงานขายพูดอย่างรำคาญ “ขอโทษนะคะคุณผู้ชาย มือถือรุ่นนี้ของพวกเราไม่อนุญาตให้ลองได้ คุณจำเป็นต้องชำระเงินก่อน”
หมายความว่าวางเงินลงมาคุณก็เป็นคุณชาย ไม่มีเงินก็ไสหัวออกไปเสียเถอะ
“ผมดูหน่อยก็ไม่ได้เหรอ?”
เฉินเกอถามขึ้น
ตอนนี้เขาไม่มีกระเป๋าเงินอยู่กับตัว ต้องเอาซิมการ์ดของตนเองใส่เข้าไปก่อน ถึงจะใช้เงินในแอปพลิเคชันได้
“ไม่ได้ค่ะ นี่เป็นกฎของทางร้านพวกเราค่ะคุณผู้ชาย”
พนักงานขายยิ้มเยาะสักนิด
“พี่เสี่ยวหมิง ยุ่งอยู่เหรอ วันนี้ผมพาเพื่อนหลายคนเข้ามาดูมือถือหน่อย”
“ฮ่าๆๆ ยินดีต้อนรับอยู่แล้ว”
ในเวลานี้ ผู้ชายคนหนึ่งพาชายหญิงหลายคนเข้ามาแล้ว
“ติงห้าว ครั้งนี้ร้านพวกเรามีรุ่นดังออกมาใหม่ด้วย ไม่อยากเปลี่ยนใหม่เหรอ?”
สาวสวยที่ชื่อซูหมิงเวลานี้พูดเสนอขายยิ้มแย้มกับติงห้าว
“อ่อ? รุ่นดังอะไรกัน?”
พวกติงห้าวเข้ามากันเป็นกลุ่ม
และในเวลานี้ ผู้หญิงคนหนึ่งชายตามองเฉินเกอที่เตรียมออกไป ชั่วขณะนั้นตะลึงอยู่บ้าง
“เชี่ย เฉินเกอ นายอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
ส่วนผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่ใครอื่น คือเฉินหลิน
และด้านข้างหล่อน หลี่ชือหานกำลังยืนอยู่ ส่วนใหญ่ก็คือคนเมื่อครั้งที่แล้วพวกนั้น
ดูท่าทางตอนนี้พวกหล่อนตามติงห้าวมาเที่ยวแล้ว
ส่วนเฉินเกอล่ะ เห็นพวกเขาตั้งนานแล้ว
ดังนั้นเมื่อสักครู่จึงอยากไป
โดยเฉพาะเพื่อนนักเรียนหญิงมัธยมปลายหลายคนนี้ ความผูกพันทางจิตใจทั้งหมดล้วนจบลงแล้ว ไม่มีอะไรน่าคุย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพอเจอหน้าก็มาเสียดสีตนเอง เฉินเกอยังไม่อยากไร้สาระถึงขั้นตบหน้าพวกหล่อน
ดังนั้นจึงหลบไปอย่างรวดเร็ว
แต่ยิ่งอยากหลบ ก็ดูจะหลบไม่พ้น
“มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ดูท่าทางเขาคงมาซื้อมือถือ”
“พระเจ้า เฉินเกอ นายยังมาซื้อมือถือ นายเป็นเจ้าพ่อใหญ่เหรอ หรือว่านายย้ายบ้านแล้วเหรอ? คาดไม่ถึงคิดจะซื้อมือถือแล้ว? โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมาเลือกร้านยี่ห้อดังแบบนี้?”
เฉินหลินพูดด้วยน้ำเสียงตกใจ
และหลี่ชือหานที่อยู่ข้างหนึ่ง กำลังมองเฉินเกออยู่ เพียงแค่ส่ายหน้าหัวเราะอย่างขมขื่น