ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่155 มาหาถึงที่
บทที่155 มาหาถึงที่
“นึกไม่ถึงตอนนี้เฉินเกอแสร้งทำได้ขนาดนี้เลยเหรอ? ฮ่าๆ ถ้าวันนี้พวกเราไม่เจอเขาเข้า ไม่แน่ว่าเขาอาจจะต้องเดินเข้ามาในร้านมือถือกี่ร้านต่อกี่ร้าน จากนั้นทำท่าทางว่าจะซื้อ”
“จริงด้วย ผลสุดท้ายก็ไม่ซื้ออะไร เฮ้อ คนที่ชอบเสแสร้งแบบนี้ฉันเห็นมาเยอะจริงๆ”
เพื่อนสมัยมัธยมปลายอีกสองคนค่อยๆ พูดดูถูก
“เฉินเกอ ฉันหวังว่าวันหลังนายน่าจะทำอะไรที่เป็นรูปธรรมหน่อย เงื่อนไขครอบครัวนายก็แย่กว่าคนอื่นๆ ยิ่งเรื่องการงานในอนาคต จุดเริ่มต้นของนายก็คงยิ่งต่ำกว่าใคร แม้แต่คุณชายติงที่เป็นลูกคนรวยแบบนี้ยังไม่กล้าซื้อหาตามใจชอบเลย นายยังมาแสร้งทำอะไรอยู่ตรงนั้นล่ะ!”
คนที่พูดพวกนี้คือหลี่ชือหาน
พูดตามตรงก่อนหน้านี้ความสนใจของหล่อนล้วนอยู่ที่ตัวของติงห้าว
เดิมทีไม่ได้ใส่ใจเฉินเกอเลย
ตอนนี้เฉินเกอโดนติงห้าวเหยียดหยามเข้า หลี่ชือหานก็อดไม่ไหวจริง พูดสั่งสอนเฉินเกอตามไปด้วย
สั่งสอนเสร็จ หลี่ชือหานก็ส่ายหน้าอย่างดูแคลน
“คุณชายติง ทำไมคุณถึงมาที่นี่แล้ว เมื่อกี้ฉันยื่นขอกับหัวหน้าแล้ว เมื่อครู่ทางร้านพวกเราตัดสินใจลดราคามือถือรุ่นนั้นให้คุณลงมาอีกสองพัน บอกก่อนว่าถ้าคุณซื้อสองเครื่อง แต่ว่าคุณชายติง คุณต้องรับปากฉัน วันหลังจะดึงลูกค้ามาให้ฉันมากๆ ถ้าไม่อย่างนั้นฉันโดนหัวหน้าพวกฉันด่าตายแน่”
จู่ๆซูหมิงเดินเข้ามาขวางติงห้าวไว้ในเวลานี้ ก่อนจะเสนอขายไปยกหนึ่งอย่างกะทันหัน
แถมยังอยากขายของเก่งมาก ไม่รู้ว่าหล่อนจะเสียเปรียบไปมากแค่ไหน
แต่พอเป็นแบบนี้ เฉินหลินกับหลี่ชือหานต่างก็หวั่นไหวพอสมควร
ทว่าติงห้าวกลับลำบากใจ แต่ยุ่งยากใจก็ส่วนยุ่งยากใจ ไม่ใช่ไม่มีจุดที่ย้ายหัวข้อได้เลย
“อะแฮ่ม พี่ซูหมิงพี่รอก่อนนะ พี่อย่าคิดว่าผมเป็นคนรวยอะไร คนรวยจริงๆ อยู่นี่ต่างหาก ฮ่าๆๆ คนที่รวยท่านนี้เขาอยากซื้อมือถือราคา28888 พี่มากล่อมผม ไม่สู้ไปกล่อมเขาดูล่ะ!”
ติงห้าวรีบย้ายหัวข้อมาที่ตัวเฉินเกอแล้ว
“เชอะ? เขาน่ะเหรอ? ถ้าเขาซื้อไหว ฉันจะตบปากตัวเองต่อหน้าผู้คนสองทีเลย ฮ่าๆๆ”
พอซูหมิงมองเห็นเฉินเกอ ก็หัวเราะเยาะเย้ยดังๆ ทันที ก่อนจะพูดตามมา “โอ๊ย คุณชายติง คุณอย่าเปลี่ยนหัวข้อสิ รีบไปดูที่ร้านฉันหน่อยเถอะ!”
“คุณผู้หญิงคะ ในร้านของพวกเรามีกฎว่าไม่สามารถมาแย่งลูกค้าในร้านอื่นได้”
เด็กสาวพนักงานขายเวลานี้พูดเสียงเบาๆ ดูประหม่ามาก
“หึๆ เธอมาใหม่สินะ? ในห้างนี้มีใครไม่รู้จักฉันซูหมิงสาวสังคมบ้าง ไม่รู้จักก็ไปสอบถามหน่อยนะ ยังพูดมากอยู่อีก ระวังเลิกงานฉันจะหาคนจัดการเธอ
หญิงสาวไม่พูดอะไรอีกอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรม
“คุณผู้หญิง มือถือรุ่นนี้ คุณใส่ถุงให้ผมอีกเครื่องหนึ่งเถอะ ผมจะซื้อสองเครื่อง”
เฉินเกอไม่ได้สนใจคำเสียดสีของพวกหล่อน
เวลานี้พูดกับพนักงานขายแล้ว
ทำไมล่ะ?
เพราะเมื่อกี้เฉินเกอนึกขึ้นได้ เหมือนว่ามือถือของซูเฉียงเวยก็ควรเปลี่ยนเสียหน่อย ในเมื่อมาซื้อครั้งหนึ่ง ก็ถือโอกาสให้ซูเฉียงเวยไปด้วยเครื่องหนึ่ง
“เฮ้ย พวกเธอได้ยินไหม? ฮ่าๆๆ ยังซื้อสองเครื่องด้วย”
ฟังคำพูดนี้ ทุกคนพ่นขำทันที
แม้แต่ซูหมิงยังมองเฉินเกอด้วยความสนใจอยู่บ้าง นี่คนโง่มาจากที่ไหนกัน? เล่นตลกรึไง?
แต่ว่าพนักงานขายก็หยิบอีกเครื่องหนึ่งให้เฉินเกออย่างจริงจังมาก
เฉินเกอหยิบมือถือขึ้น สแกนไปบนที่จ่ายเงินในวีแชททันที จากนั้นก็ได้ยินเสียงติ๊ง
“ชำระเงินสำเร็จ วีแชทได้รับเงิน57776หยวน”
“เชี่ย?”
“อะไรกัน?”
และจากนั้นได้ยินเสียงระบบอย่างชัดเจน
ทุกคนล้วนตกตะลึงกัน
โดยเฉพาะติงห้าว หนึ่งวินาทีก่อนยังจับท้องหัวเราะ เวลานี้หลังได้ยินชำระเงินสำเร็จ เอวของเขาโค้งอยู่ล่ะ ตอนนี้รอยยิ้มหดลง มองเฉินเกอด้วยหน้าตาตกตะลึง
เฉินหลินกับหลี่ชือหานปากอ้าค้างนิดหน่อย
เวลานี้หายใจเร่งรีบอยู่บ้าง
เดิมทีพวกหล่อนดูถูกเฉินเกอไว้ แต่คาดไม่ถึงเฉินเกอจะซื้อมือถือแพงที่สุดสองเครื่องทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่งจ่ายเงินอย่างตาไม่กะพริบสักนิด
เฉินเกอเอาเงินมาจากไหน?
ซูหมิงตกใจเช่นกัน รู้สึกว่ายังไม่ได้ตบ แก้มก็ร้อนระอุขึ้นแล้ว
“เฉินเกอ นายมีเงินได้ยังไง?”
เห็นเฉินเกอหยิบมือถืออยากออกไป
เฉินหลินจับแขนของเฉินเกอเอาไว้
เชี่ย! พวกหล่อนเป็นคุณครูเงินเดือนหนึ่งยังแค่ห้าหกพัน แต่แป๊บเดียวเฉินเกอก็ใช้เงินเดือนทั้งปีของพวกหล่อนซื้อมือถือได้แล้ว?
นี่สุดๆ ไปเลย
หรือว่าเฉินเกอถูกรางวัลเข้าแล้ว?
นั่นต้องถูกรางวัลเท่าไรกัน?
เห็นได้ชัดว่าเฉินหลินกับหลี่ชือหานสนใจปัญหานี้มาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งร้อนใจอย่างมากๆ ที่จะรู้คำตอบแม่นยำ
นายขโมยมาแย่งมา นี่คงไม่เป็นอะไรมั้ง ขอเพียงนายบอกทุกคน เงินนี้ไม่ใช่นายถูกรางวัลใหญ่ได้มาก็พอ
ถ้าไม่เป็นอย่างนั้น ในใจคงลำบากเป็นพิเศษ
“ฉันมีธุระ ไม่อยู่กับพวกเธอแล้ว”
เฉินเกอขี้เกียจตอบคำถามนี้ ทำไมต้องบอกพวกเธอด้วย
ตอนนี้หมุนตัวไปอย่างเย็นชา ภายใต้สายตาที่ตกตะลึงพรึงเพริดของพวกหล่อน ก่อนจะจากไปแล้ว
หลังจากออกมาข้างนอก เฉินเกอใช้มือถือทันที วินาทีแรกก็โทรศัพท์ไปหาหลี่เจิ้นกั๋ว
บอกเขาถึงสถานการณ์ในตอนนี้ของตนเอง ดีที่สุดให้เขามารับตนเองสักหน่อย เจอหน้ากันแล้วคุยเรื่องนี้หน่อย พยายามแก้ไขให้เสร็จแต่แรก
พอหลี่เจิ้นกั๋วได้ฟังก็ตกใจค้างแน่นอน
ยังชักช้าได้ที่ไหนกัน
เฉินเกอวางโทรศัพท์ลง ส่งตำแหน่งที่อยู่ให้เขา จากนั้นตนเองไปที่บ้านซูเฉียงเวยแล้ว
พึ่งผ่านหน้าประตูของโรงเรียนปฐมเพื่อเด็กยากไร้มา
เฉินเกอนิ่งไปอย่างรวดเร็ว
เพราะอยู่ด้านหน้า คนกลุ่มใหญ่ล้อมไว้เต็ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งยังมีรถหรูหลายคันขวางทางอยู่
ด้านข้าง รถแท็กซี่คันหนึ่งถูกทุบจนแตกละเอียด ล้อมตรงกลางไว้ มีเสียงร้องโหยหวนมาไม่หยุด
เห็นได้ชัดว่ามีคนถูกตี
รถหรูคันหนึ่งนี้ เฉินเกอคุ้นตามาก และแวบหนึ่งก็ตกใจเนื้อเต้นขึ้นมา ไม่ใช่สวี่ต้าหยวนยังจะเป็นใครได้
คาดไม่ถึงเขาตามมาแล้ว
และรถแท็กซี่ที่โดนทุบจนพังนั้น เฉินเกอยิ่งรู้จักดี คือรถคันที่ตนเองเรียกนั่งมาคันนั้น
ฝูงชนที่ล้อมดูล้วนมองด้านข้าง
เฉินเกอทำหน้าประหม่า แต่มองไปผ่านฝูงชน ยังเห็นคนขับรถที่มาส่งตนเองที่แท้กำลังโดนตี
ตีจนหน้าเต็มไปด้วยเลือดสด นอนอยู่บนพื้น
“แม่ง จะพูดไม่พูด นังนั่นกับไอ้หนุ่มคนนั้นที่แกไปส่งตอนนี้พวกมันอยู่ที่ไหนกัน?”
เสียงตะคอกเย็นยะเยือกของสวี่ต้าหยวนลอยมา
“สวี่ต้าหยวน ท่านไว้ชีวิตผมเถอะ ผมไม่รู้จริงๆ ถ้าผมรู้ ต้องบอกท่านไปแน่”
คนขับรถนอนอยู่ที่พื้นพูดอ้อนวอน
“พวกเขาลงรถกันที่นี่ จากนั้นผมก็ไม่รู้แล้วว่าไปที่ไหนกัน”
“เชี่ย ยังจะมาปากแข็งกับฉันอีก ตีต่อไป”
ลูกน้องกลุ่มหนึ่งยกกระบองขึ้นมาก็ทุบ
ทุบไปหลายนาที ดูจนผู้คนขนลุกกันขึ้นมาทั้งหมด
ส่วนคนขับรถถูกทุบจนสลบไปแล้วยังบอกว่าไม่รู้
เฉินเกอกำลังมองอยู่ด้านข้าง โกรธจนสั่นเทาไปทั้งตัว
และคนขับรถคนนี้ทำให้เฉินเกอประทับใจอย่างมาก
ทำไมถึงประทับใจล่ะ?
เพราะคนขับรถคนนี้ส่งพวกเฉินเกอที่แถวหน้าประตูของเขตสลัม จะไม่รู้ว่าตนเองไปที่ไหนได้อย่างไรกัน!
เห็นได้ชัดว่าพี่คนขับรถคนนี้ อะไรก็ไม่พูด
“เชี่ย รีบไปหาครอบครัวคนขับรถนี้มาให้ฉัน เขาต้องรู้แน่ แม่ง ยังอยากหลอกฉัน ไม่ได้ยังไงก็จัดการเขาทั้งบ้าน”
สวี่ต้าหยวนด่าทอ
“ฟังฉันให้หมด วันนี้ใครเจอผู้หญิงสวยคนหนึ่งหอบลูกมา ยังมีไอ้หนุ่มที่อายุยี่สิบต้นๆ? พูดออกมาตระกูลสวี่มีรางวัลใหญ่ให้ ถ้าไม่อย่างนั้นจุดจบเหมือนกับเขา”
สวี่ต้าหยวนชี้ด้วยท่าทางพาลพาโล
“หึ มาสักคนสิ ให้ฉันหักกล้ามเนื้อแขนขาตรงนี้”
“หยุดนะ!!!”