ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่187คำเชิญของฉินหยา
บทที่187คำเชิญของฉินหยา
“กำไลหยกนี่……เป็นของที่คุณย่าผมเคยใส่ไว้เมื่อก่อน ผมก็ไม่มีอะไรจะใช้คืนได้ ก็เลยเอามันมา ……”
เฉินเกอพูดโกหก
“ให้ตายสิ เฉินเกอ คุณไม่รู้ราคากำไลหยกนี่ใช่ไหม?คุณเอามันมาให้ฉินหยา แน่ใจเหรอว่าคุณจะไม่เสียใจภายหลังน่ะ ฉันจะบอกให้นะ ถ้าตอนนี้คุณเสียใจก็ยังทัน!”
หัวใจที่แขวนอยู่ของจ้าวถงถงก็ร่วงลงมา
บัดซบ เมื่อกี้นี้ตกใจแทบตาย เฉินเกอจู่ๆจะซื้อกำไลหยกหลงหยุนที่ราคาสองแสนได้ หรือนี่เฉินเกอจะเป็นลูกคนรวยที่ทำตัวธรรมดาๆล่ะ
จ้าวถงถงกลับไม่มีความดูถูกแบบนั้นต่อเฉินเกอ
แต่ก็รู้สึกว่าเฉินเกอคือเด็กผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง จู่ๆมาเป็นลูกคนรวย นี่มันน่าอึดอัดมาก
โชคดี ที่ไม่ใช่แบบนั้น
“เมื่อก่อนไม่รู้ ตอนนี้รู้แล้ว เสียใจอะไรล่ะ ฉินหยา คุณเอาไปเถอะ!”
เฉินเกอพูดแล้วก็ดันกำไลหยกไปให้ฉินหยา
ในเมื่อเรื่องที่น่าละอายแบบนี้เกิดขึ้นแล้ว เฉินเกอได้แต่ทำการโกหกต่อไป จะเอาของที่บอกว่าจะให้ คืนมาอีกไม่ได้แล้ว
ส่วนฉินหยา ก็ได้แต่มอง เฉินเกอตาโต
กำไลหยกนี้ราคาแพงมาก เกือบจะเป็นสิ่งของที่มีค่าในตระกูลพวกเขาเลย ตอนนี้มาบอกว่าจะให้ตัวเองก็ให้เลยเหรอ?
ในใจฉินหยารู้สึกประทับใจเล็กน้อยแปลกๆ
ส่วนลี่เยว่ ก็อยู่ข้างๆด้วยความโกรธสุดๆ
หน้าแตกไปแล้ว อย่างไม่ทันตั้งตัว!
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าสาวสวยของตัวเอง ถ้ายังอยู่ต่อไป คนที่จะขายขี้หน้าต้องเป็นเขาแน่นอน
ตอนนี้ หลังจากที่จ้องเฉินเกอเขม็ง ความโกรธก็หายไปแล้ว
เฉินเกอก็ไม่อยากอยู่ต่ออีกแล้วแน่ๆ
เดิมทีเขาก็อยากเอาเรื่องนี้ให้จบลง และก็ไม่ต้องกินแล้วข้าวเช้า
ไม่อย่างนั้นบรรยากาศจะยิ่งน่าอายขึ้นอีก
ก็เลยหาข้ออ้างปลีกตัวออกไป
“เฉินเกอ คุณยืนอยู่ตรงนั้นเลย!”
ฉินหยาหยิบกำไลหยกหลงหยุนที่เฉินเกอให้แต่ตามลงไป
และหลังจากเหลือบมองเฉินเกออย่างเขินๆ ก็เอาหยกหลงหยุนยัดใส่เฉินเกอ:“คุณหมายความว่าไง?เอากำไลหยกที่คุณย่าคุณทิ้งไว้ให้คุณมาให้ฉันทำไม?อีกอย่างกำไลหยกนั่นของฉันก็ไม่ราคาสูงขนาดนี้!”
“อ๋า?ผมก็ไม่ได้หมายความว่าไงนี่?คุณก็ถือว่านี่คือของที่ผมชดใช้ให้คุณละกัน!”
ถ้าเฉินเกอพูดไปอีกว่าที่ตัวเองยังมีอันห้าหมื่นอยู่ จะเอามาเปลี่ยนไหมล่ะ?ก็คงน่าอายที่จะพูดแบบนี้ออกมา
“อะไรคือก็เป็นของที่คุณชดใช้ให้ฉัน นี่คือของล้ำค่าของตระกูลคุณ และยังเป็นของที่คุณย่าทิ้งไว้ให้คุณอีกด้วย จะต้องอยากให้สะใภ้ของตระกูลเฉินพวกคุณในอนาคตแน่นอน ตอนนี้คุณจะเอามาให้ฉันทำไม คุณไม่รู้เหรอว่าตอนที่คุณไปเมื่อกี้นี้ พวกถงถงเธอคุยอะไรกัน ……”
ใบหน้าฉินหยาหน้าแดงเล็กน้อย
สาวสวยเหมือนเทพธิดาอย่างฉินหยานี้ แน่นอนว่าถูกผู้ชายรุมจีบมานับไม่ถ้วน แต่ว่า คนที่ทำให้ฉินหยาใจเต้นอย่างแท้จริงน้อยมาก
แน่นอน หลังจากที่เฉินเกอให้หยกหลงหยุนอันนี้ไป ฉินหยาก็ใจเต้นกับเฉินเกอแล้ว
ก็แค่ในขณะที่ประทับใจเล็กน้อยน้อย ข้างในใจ กลับมีความรู้สึกต่อเฉินเกอที่เคยช่วยตัวเองคนนี้อย่างบรรยายไม่ได้
รู้สึกว่าเฉินเกอซื่อสัตย์ตรงไปตรงมา และยังทุ่มเทอย่างสุดใจกับคนอื่น ผู้ชายแบบนี้ตอนนี้น้อยมากที่จะเห็น
การเรียนก็ขยัน
เป็นความรู้สึกที่น่าชื่นชมแบบนั้น
เฉินเกอกลับถาม:“พวกถงถงคุยอะไรกัน?”
“ฉันไม่รู้……”พอฉินหยากลอกตาใส่เฉินเกอ จากนั้นจึงพูด:“สรุปคือ ของที่มีค่ามากขนาดนี้คุณเอาไปเถอะ ฉันไม่ต้องการ!”
“คุณรับไว้เถอะ เดี๋ยวก็ต้องเรียนจบแล้ว พอเปิดเรียนอีก อยู่ที่โรงเรียนก็น้อยลงแล้ว ผมกลัวว่าจะไม่มีโอกาสชดใช้คุณ!”
เฉินเกอยิ้มฝืนๆ
“ฮ่าฮ่า!”
ประโยคนี้กลับทำให้ฉินหยาตลก:“เฉินเกอ คุณเป็นคนที่ไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณคนอื่นมากๆอะไรแบบนั้นใช่ไหม?”
“อืออือ!”เฉินเกอพยักหน้า
“อย่างนั้นก็โอเค อย่างนั้นฉันเก็บไว้แทนคุณก่อนละกัน พอคุณจะแต่งงาน ฉันค่อยเอากำไลหยกคืนคุณอีกครั้ง!”
มุมปากฉินหยาก็มีรอยยิ้มกว้างๆออกมา
“โอเค!”
เฉินเกอเห็นเธอเก็บไป ในใจก็คิดว่าเรื่องนี้สรุปว่าจบลงซะที แล้วหันออกไป
“เฮ้เฮ้เฮ้ เฉินเกอ!”
ฉินหยากลับวิ่งเหยาะตามไป“คุณไม่ถามหน่อยเหรอ รอคุณแต่งงาน แล้วคุณจะแจ้งฉันยังไง?แม้แต่ช่องทางการติดต่อฉันก็ไม่เอาหน่อยเหรอ?”
“เอ่อ……โอเค ผมแอดวีแชทคุณเอง รอวันข้างหน้าแต่งงาน ผมจะบอกคุณ!”
เฉินเกอก็ไม่รู้จะพูดอะไร
ปฏิเสธแล้วหันออกไป เฉินเกอไม่ใช่คนแบบนี้ ถึงอย่างไรทำให้คนอื่นขายขี้หน้าแบบนี้ในใจก็รู้สึกผิด
ก็เลยทำตามความหมายของที่ฉินหยาพูดไว้ เฉินเกอแอดวีแชทของฉินหยา
และแน่นอนว่าเฉินเกอก็ไม่หลงตัวเองว่าฉินหยาเทพธิดาที่สวยมากขนาดนี้จะชอบตัวเองได้
ยังไงหลังจากครั้งนี้ แอดวีแชทไปก็ไม่เห็นความเป็นไปได้ที่จะคุยกัน
ก็เลยไม่ได้คิดอะไรมาก
ส่วนฉินหยา ก็หยิบกำไลหยกที่เฉินเกอให้ขึ้นไปข้างบน เพราะว่านี่ก็แค่กล่องใบหนึ่ง ที่ห่อไว้เฉินเกอเอาไว้อยู่ที่หอพัก ไม่ได้เอามาด้วย พวกผู้หญิงสองสามคนนั้นก็เชื่อคำพูดของเฉินเกออย่างไม่สงสัย
“เสี่ยวหยาเสี่ยวหยา ให้เขา เขาไม่เอาใช่ไหม?”
เห็นฉินหยาขึ้นมา พวกสาวๆก็ถามด้วยรอยยิ้ม
“ฮ่าฮ่าฮ่า จริงๆด้วย ที่ฉันเดาไม่ผิดเลย เฉินเกอเจ้าเด็กนี่ชอบคุณแน่เสี่ยวหยา และยังไม่ชอบทั่วไปนะ เอาของที่มีค่าที่สุดของตระกูลเขามาให้คุณ ฉลาดจริงๆเลย!”
จ้าวถงถงพูดด้วยความมั่นใจ
“ใช่ เมื่อกี้นี้พวกคุณอาจจะไม่ได้สนใจอะไรกัน แต่ฉันสังเกตเห็น สายตาที่เฉินเกอมองไปที่เสี่ยวหยา เหมือนกลัวเสี่ยวหยาจะปฏิเสธกำไลหยกเขาเลย!”
“เห้อ ต้องรู้ว่า หยกแบบนี้ต่างเอาไว้ให้แค่สะใภ้ในอนาคต ฮ่าฮ่า เฉินเกอเจ้าเด็กนี่ฉลาดมาก!”
พวกผู้หญิงก็พูด
“พอแล้ว พวกคุณไม่ต้องพูดแล้ว เฉินเกอไม่ได้พูดแบบพวกคุณ มีแผนการในใจอันแยบยลขนาดนี้ ต่อไปพวกคุณก็แกล้งหยอกเขาน้อยๆหน่อยสิ!”
ฉินหยาพูดด้วยรอยยิ้มแหยๆ
“ฮิ้วฮิ้วฮิ้ว เสี่ยวหยาจู่ๆคุณก็มาปกป้องเฉินเกอ อ๊า!!!หรือว่าเสี่ยวหยาคุณ……”
จ้าวถงถงแกล้งทำเป็นตกใจตาโต
“คุณพูดอะไรซี้ซั้วน่ะ ถงถง เดี๋ยวฉันจะซื้อซาลาเปาสามอันมาให้คุณ แล้วจะป้อนให้คุณกินไปทั้งหมด ยัดเข้าอุดปากเสียๆของคุณเนี่ยแหละ!”
พวกผู้หญิงขำออกมาอย่างเจี๊ยวจ๊าว
ตอนนี้เฉินเกอก็ไม่ได้ไปห้องสมุด เพราะตอนที่ไป ห้องสมุดก็เต็มหมดแล้ว
เลยเอาหนังสือกลับไปอ่านที่หออีกครั้ง
แต่คิดไม่ถึง เมื่อเที่ยงตอนที่เพิ่งเตรียมจะไปกินข้าวกับพวกหยางฮุย
จู่ๆฉินหยาก็ส่งวีแชทมา
“เฉินเกอ ตอนเที่ยงคุณกินข้าวที่โรงอาหารไหนเหรอ?”
ฉินหยาถาม
“ลงไปดูกับรูมเมทพวกผมแล้วค่อยว่าอีกที ทำไมเหรอ?”
เฉินเกอแปลกใจเล็กน้อย
“อ้ออ้อ คุณไปกับพวกรูมเมทเถอะ ที่จริงอยากให้คุณออกมากินข้าวด้วยกันอีกครั้ง เพราะยังไงคุณก็ช่วยฉันถึงสองครั้งแหนะ!”
“สองครั้ง?”
“ใช่ คุณแบกฉันไปห้องพยาบาลหนึ่งครั้ง และก็ คุณยังช่วยฉันหนีลี่เยว่ที่เหมือนแมลงวันนั่นด้วย ฮ่าฮ่า วันนี้เขาไม่กล้ามาหาฉันแล้ว ในที่สุดก็สงบลงซะที!”
“แค่กแค่ก ลี่เยว่ก็ดีมากนะ เขาชอบคุณมากเลย!”
“???คุณหมายถึงอะไร ฉันต้องเป็นแฟนกับลี่เยว่เหรอ คุณอวยพรให้พวกเราเหรอ?”
“ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น!”
“ถึงคุณจะหมายความอย่างนั้นก็ไม่มีประโยชน์ ฉันไม่ยอมคบกับคนที่ฉันไม่รู้สึกอะไรด้วยแน่ อ้อใช่ ตอนบ่าย ฉันต้องไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุด ฉันเหลือที่ไว้ให้คุณที่หนึ่ง มาอ่านด้วยกันเถอะ ดีแน่ๆมีเพื่อนมาอ่านด้วยกัน!”
เฉินเกอมองโทรศัพท์ ไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร
ฉินหยาจะต้องไม่คิดอะไรกับตัวเองแน่นอน
แต่ตัวเองล่ะ อยู่ด้วยกันกับฉินหยาผู้หญิงแบบนี้ ในใจตัวเองก็จะรู้สึกอึดอัด อีกอย่างเฉินเกอกลัวตัวเองจะชอบผู้หญิงคนนี้
คิดๆดู เรื่องแบบนี้เลี่ยงๆไว้ดีกว่า
ก็เลยไม่ได้ตอบไป
แล้วจึงลงไปกินข้าวกับพวกหยางฮุย
กินข้าวเสร็จ เฉินเกอก็ไม่ไปห้องสมุด อยู่ทบทวนที่หอพัก
แป๊บเดียวตอนช่วงบ่ายก็ผ่านไป
และในตอนนี้ ฉินหยาก็ส่งข้อความมาอีก:
“ทำไมคุณไม่มาล่ะ?ฉันจองที่ดีๆให้คุณแล้วนะ ตั้งแต่บ่ายครึ่งยันตอนนี้ หรือว่าคุณมีเรื่องอื่นยุ่งอยู่?”