ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่189ทีมแพทย์ที่แข็งแกร่งที่สุด
บทที่189ทีมแพทย์ที่แข็งแกร่งที่สุด
“คุณชายเฉินผมอยู่ที่ฐานทัพ ท่านมีคำสั่งอะไรครับ?”
บอดิการด์เทียนหลงตี้หูตอนนี้คือบอดี้การ์ดที่ติดตัวของเฉินเกอ ให้พวกเขาอยู่ตามติดตัวเองทุกวัน 24ชั่วโมงก็ไม่จำเป็น ดังนั้นเฉินเกอเลยให้ทั้งสองไปรับผิดชอบที่ฐานทัพฉุกเฉิน
“ทีมแพทย์ที่ฐานทัพ สามารถรักษาโรคที่หายากได้ไหม?”เฉินเกอถาม
“แน่นอนว่าได้ครับ ในทีมแพทย์ รวมถึงหมอทางแพทย์แผนจีนและตะวันตก แค่ให้พวกเขาจัดการ ถึงจะมีเป็นสิบๆโรคก็รักษาหายไปกว่าเก้าโรค!คุณชายเฉินท่านมีคำสั่งอะไรครับ?”
“ที่โรงพยาบาลเฉิงลี่เหรินหมิง มีลูกสาวคนไข้คนหนึ่งชื่อฉินหยา เรียนที่มหาวิทยาลัยจินหลิง พวกคุณไปช่วยผมสืบหน่อย ถ้าได้ ก็ส่งทีมหมอของกองทัพพวกเราไปเลย!”
“เข้าใจแล้วครับคุณชายเฉิน!”
วางสาย เฉินเกอก็พูดในใจ ตัวเองช่วยเธอได้ก็มีแค่นี้แหละ
และก็ไม่ได้อยากให้ฉินหยามาซาบซึ้งใจอะไรตัวเอง อีกอย่าง เฉินเกอก็ไม่สะดวกเปิดเผยตัวตนของตัวเอง
ก็หมุนตัวกลับหอไปอ่านหนังสือ
ขณะเดียวกัน ภายในห้องคนไข้ระดับสูงของโรงพยาบาลเฉิงลี่เหรินหมิง
“ผู้อำนวยการ พวกคุณต้องหาทางช่วยคุณนายผมนะ ไม่ว่าจะจ่ายแค่ไหน ตระกูลฉินของผมยอมหมด!”
วัยกลางคนคนหนึ่งกำลังขอร้องผู้อำนวยการโรงพยาบาลเฉิงลี่เหรินหมิง สีหน้าขาวซีดมาก
และข้างๆคนวัยกลางคน ก็คือเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยคนหนึ่งยืนอยู่
น้ำตาไหลจากเบ้าตา
นั่นก็คือฉินหยา ส่วนวัยกลางคนคนนั้นก็คือฉินเสี้ยงหนานพ่อของฉินหยา
“คุณฉินพวกเราติดต่อหมอที่มีชื่อเสียงทั้งประเทศมาวินิจฉัยแล้ว เห้อ พูดตรงๆนะ ไม่เคยพบเจออาการป่วยของคุณนายฉินมาก่อนในทางการแพทย์เลย ตอนนี้ ยังไม่ได้วินิจฉัย แต่คุณวางใจได้ โรงพยาบาลพวกเราจะต้องพยายามอย่างดีที่สุด!”
ผู้อำนวยการพูดอย่างละอายใจ
ฉินเสี้ยงหนานก้าวถอยหลังอย่างไร้เรี่ยวแรง ถูกฉินหยาประคองไว้ แล้วจึงนั่งลงพักที่เก้าอี้สักพัก
“พ่อ ติดต่อทางเยี่ยนจิงหน่อยไหม ถ้าเป็นทางนั้น ฉันว่าจะต้องมีวิธีทางแน่!”
ฉินหยามองท่าทางของพ่อ ก็ปวดใจมากจริงๆ
เลยอดลองถามไปไม่ได้
ฉินเสี้ยงหนานส่ายหน้าอย่างทำอะไรไม่ได้:“ไม่ได้ ในเมื่อพวกเรากับปู่และย่าของลูกตัดขาดความสัมพันธ์กันแล้ว ไม่เกี่ยวข้องอะไรสักนิดกับตระกูลแล้ว มีเหตุผลอะไรต้องไปขอร้องพวกเขาล่ะ!หรือว่า……นี่คือชีวิตของแม่ลูกนะ?เธอติดตามพ่อมา ก็แทบจะทำงานหนักมาตลอด!”
ฉินเสี้ยงหนานก็รักแม่ของฉินหยาจริงๆ ทันใดนั้นผู้ชายก็ร้องไห้ออกมาทันที
ฉินหยาก็ร้องไห้อย่างปวดใจ
“คุณลุงฉิน เสี่ยวหยา พวกเรามาดูคุณป้าค่ะ!”
ในตอนนี้เอง ร่างคนสองสามคนก็เดินเข้ามา
เป็นรูมเมทของฉินหยา และก็ผู้ชายอีกคนลี่เยว่
ต่างถือของมาเยอะแยะ
จ้าวถงถงกลับไปหยิบกระเป๋าเงินที่หอพัก ก็เรียกรถกับพวกรูมเมทมา
“เป็นเพื่อนที่โรงเรียนเสี่ยวหยาเหรอ ขอบคุณพวกคุณมากนะ!”
ฉินเสี้ยงหนานก็ฝืนยิ้มพูดไป
“ขอบคุณพวกคุณที่มาเยี่ยมแม่ฉันนะ!”
ฉินหยาก็ประทับใจเล็กน้อย
“เสี่ยวหยา ไม่ต้องพูดขอบคุณแล้ว อาการป่วยของคุณป้า ตอนนี้ยังไม่วินิจฉัยอีกเหรอ?”จ้าวถงถงถามอย่างเป็นห่วง
“ยังเลย วันนี้ตอนเช้า ผู้อำนวยการเรียกผู้เชี่ยวชาญทั่วประเทศในแต่ละพื้นที่ส่วนหนึ่งมาทำการวินิจฉัยรอบหนึ่งแล้ว ก็ยังไม่ได้!”
ฉินหยาส่ายหน้าร้องไห้
“อย่างนั้นเอางี้ไหม ตอนนี้พ่อผมอยู่ที่ต่างประเทศ และในประเทศพ่อผมก็ก็รู้จักหมอดังๆในด้านการแพทย์ไม่น้อย ให้พ่อผมเชิญหมอพวกนี้มาดูหน่อยไหม?”
เวลานี้ลี่เยว่ก็พูดออกมา
ฉินเสี้ยงหนานกับฉินหยาเลิกคิ้วขึ้น
ฉินเสี้ยงหนานพูดขอบคุณ:“อย่างนั้นลี่เยว่ ถ้าได้ล่ะก็ อย่างนั้นก็ขอบคุณคุณมากจริงๆ!”
“ไม่เป็นไรครับคุณลุง ผมกับเสี่ยวหยาเป็นเพื่อนกัน!”
ลี่เยว่ก็ยิ้มให้
ตอนนี้ ก็เลยรีบโทรหาพ่อที่อยู่ต่างประเทศ
ที่จริงตอนที่ได้ยินผู้อำนวยการพูดว่าเรียกผู้เชี่ยวชาญแต่ละพื้นที่ในประเทศมาแล้ว ในใจลี่เยว่ก็รู้สึกละอาย
เครือข่ายพวกนั้นของพ่อตัวเอง ไม่ได้ดีไปกว่าฉินเสี้ยงหนานเท่าไหร่นัก
จะเรียกหมออะไรมาได้บ้างล่ะ
แต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร ก็เหมือนกับเมื่อกี้นี้ ตัวเองเสนอตัวช่วยไป ก็ไม่ขาดทุนใดๆ
และทางพ่อของลี่เยว่ได้ยิน ก็ตอบรับ
ก็ลูกชายคนเดียวแบบนี้ ได้รับการเอาใจตั้งแต่เด็กยันโต
ก็เริ่มติดต่อเพื่อนๆที่อยู่ในทางการแพทย์ที่ต่างประเทศ และก็แพทย์แผนจีนจำนวนหนึ่งที่รู้จักในประเทศ
ลี่เยว่ตอบกลับไปอย่างร่าเริง
“ลุงฉิน พ่อผมจัดการแล้ว น่าจะพรุ่งนี้นะครับ พวกเขาก็จะถึง!”
ลี่เยว่พูด
“โอเคๆๆ ลี่เยว่ ครั้งนี้ไม่ว่าต้องจ่ายแค่ไหน ก็มาคิดที่ตระกูลฉินเราเลย พวกเราตระกูลฉินติดหนี้บุญคุณคุณครั้งใหญ่ เสี่ยวหยายังไม่รีบขอบคุณลี่เยว่อีก!”
ฉินเสี้ยงหนานรีบพูด
“ลี่เยว่ ขอบคุณนะ!”
ฉินหยาพูดไปเบาๆ
ลี่เยว่พยักหน้า:“ไม่ต้องเกรงใจเลย เหอเหอ!”
ต่างประเทศ
“ฮัลโหลๆ ผมเอง ผมคือเหล่าลี่ฮ่าฮ่า ถามหน่อยครับผู้เชี่ยวชาญตู้หล่างของโรงพยาบาลเชิ่งหมู่อยู่ไหม?พรุ่งนี้เขา……อ้อๆ ไม่มีเวลา อย่างนั้นรบกวนคุณแล้ว ขอโทษด้วยนะครับ!”
ลี่อานหนานถูกปฏิเสธตรงๆ ทำให้ไม่สบายใจอย่างมาก
แต่ลูกชายตอนนี้รับปากพวกเขาไปแล้ว จึงไม่ใช่ตัวเองที่เสียหน้า
จากนั้นก็ติดต่อผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆอีกสองสามคนที่ต่างประเทศ
มีเวลาน่ะมีเวลา แต่พอต้องการให้วันสองวันนี้ออกเดินทาง ก็ถูกปฏิเสธหมด
และคุณก็ไม่ใช่คนใหญ่คนโตอะไร ใครจะรีบบินมาจีนอย่างร้อนรนเพื่อคุณล่ะ
ยังไงก็ต้องเตรียมตัวหนึ่งสัปดาห์
ดูเหมือนที่ต่างประเทศจะไม่ได้ มีแต่ในประเทศ
แต่ติดต่อหมอแพทย์แผนจีนเก่าแก่สองสามคนแล้ว บอกให้พวกเขารีบเดินทางก็ทำไม่ได้
เร็วที่สุดก็อีกสามวันจากนี้
ลี่อานหนานคิดในใจ อีกสามวันก็อีกสามวัน
ในใจคิดอยากจะโทรบอกลูกชายสักหน่อย สุดท้ายลี่เยว่ก็โทรมาพอดี
เรื่องนี้จึงเป็นแบบนี้ ลี่อานหนานก็พอแค่นี้
แป๊บเดียว ก็ถึงเช้าวันถัดมา
ผู้เชี่ยวชาญกลุ่มที่สองวินิจฉัยเสร็จแล้ว รวมถึงผู้อำนวยการและผู้เชี่ยวชาญทุกสาขา ต่างไม่สามารถทำอะไรได้
ฉินเสี้ยงหนานร้อนใจจนศีรษะเต็มไปด้วยเหงื่อ
ส่วนตอนนี้ ก็เห็นหมอสองท่านวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน ใบหน้าดีใจ
“ผู้อำนวยการ ข่าวดีๆ!ข่าวดี!”
หมอเรียกอย่างตื่นเต้น
ผู้อำนวยการขมวดคิ้ว จ้องหมอทั้งสองท่าน ด้วยสายตาว่าคุณฉินยังอยู่ที่นี่
ส่วนฉินเสี้ยงหนานตอนนี้ก็ขมวดคิ้วด้วย
“ผู้อำนวยการ ก็เนี่ยมีข่าวดีมาให้คุณฉิน ด้านนอกมีทีมผู้เชี่ยวชาญกลุ่มหนึ่งมา บอกว่าจะดูอาการป่วยให้คุณนายฉิน พวกเขามาสิบกว่าคน มีทั้งในประเทศ และต่างประเทศ!”
“และผู้อำนวยการ หนึ่งในนั้นสิบกว่าปีก่อนต่างเป็นคนที่มีประวัติยอดเยี่ยม เช่นคนนั้นคุณหมออีดี๋คุณหมอแห่งประเทศM ที่เคยได้รางวัลทางการแพทย์ระหว่างประเทศ และยังมีคุณหมอจ้าวชิงผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แผนจีนที่มีชื่อเสียงของประเทศเราอีกด้วย พวกเขา……มากันแล้ว!”
“อะไรนะ?”
ผู้อำนวยการและผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆต่างมองหน้ากัน
ฉินเสี้ยงหนานและฉินหยาก็ดีใจสุดๆ
พวกจ้าวถงถงและลี่เยว่ต่างอยู่หมด
เวลานี้จ้าวถงถงกับพวกรูมเมทต่างมองไปที่ลี่เยว่ที่ตะลึงไปด้วยความช็อก อย่าว่าแต่เลื่อมใสแค่ไหนเลย
เดิมที ทุกคนต่างไม่เชื่อว่าลี่เยว่จะเรียกพวกหมอแพทย์แผนจีนและหมอตะวันตกมาได้จริงๆ เพราะว่าความเป็นจริงของครอบครัวพวกเขา จริงๆแล้วจ้าวถงถงก็เข้าใจดี
ไม่ถือว่าแย่ และก็ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนั้น
พูดถึงแล้วก็ยังเทียบตระกูลฉินหยาไม่ได้
คุณลุงฉินเสี้ยงหนานยังทำอะไรไม่ได้ แล้วเขามีหนทางได้อย่างไร!
แต่คิดไม่ถึง บัดซบ ถูกเขาเรียกมาจริงๆเหรอ?
ส่วนลี่เยว่ล่ะ?กลับงุนงง
นี่มันสถานการณ์อะไร?