ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่191แม่ของสวีเสียจะมา
บทที่191แม่ของสวีเสียจะมา
ฉินหยาก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร บางครั้งก็น่าประหลาดเสียจริง
เมื่อครู่ เขามองเฉินเกอคนนี้ปฏิบัติต่อตัวเองแบบนั้น
ในใจอึดอัดมาก
และก็ไม่รู้ว่าตัวเองอยากจะแข่งขันหรือไม่ ใช่สิ ฉันฉินหยาปฏิบัติต่อผู้ชายอย่างคุณคนนี้ ไม่มีความน่าดึงดูดสักนิดเลยเหรอ?
ดังนั้นตอนที่คุยกับอยู่เฉินเกอ ก็ส่งวีแชทหาลี่เยว่
ให้เขามารับตัวเอง
ความหมายคือจะบอกเฉินเกอ คุณไม่สนตัวเองนัก ฉันก็จะทำให้คุณรู้ว่าคุณไม่คู่ควรกับฉัน
เด็กผู้หญิงไหมล่ะ ไม่ใช่แค่นี้ ถ้าเธอสนใจคุณ คุณตอบโต้อย่างเย็นชา ถ้าหากผลของการควบคุมยิ่งดี นี่ก็คือกลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับ
แน่นอนว่าเฉินเกอไม่ทันกลยุทธ์พวกนี้
ดีที่ฉินหยาสนใจเฉินเกอ ถ้าหากไม่สนใจ จะมีกลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับทำอะไรห้ะ!
และยังคืนกำไลหยกเฉินเกอ ก็แสดงออกว่าฉินหยาจะรู้สึกเป็นเพื่อนกับเฉินเกอ
แต่ที่ทำให้ฉินหยาใกล้โกรธจะตายก็คือ
จู่ๆเฉินเกอเอากำไลหยกนั่นกลับไปจริงๆ และตัวเองยังถูกทิ้ง เขาก็ไม่พูดอะไร
ตอนนี้ฉินหยายังจะมีอารมณ์ไปกินข้าวกับลี่เยว่ที่ไหนล่ะ
ดังนั้นก็เลยอยากลงจากรถ
ลี่เยว่ที่กลับงุนงง พอฉินหยาลงจากรถ ก็เรียกรถแท็กซี่ออกไป
ในใจก็ประหลาดใจมาก:“หรือตัวเองพูดผิด?ก็ไม่นี่!”
ส่วนเฉินเกอ
เขาถอนหายใจแล้วก็กลับหอพัก
หลังจากกลับหอพัก กลับเห็นหยางฮุยกำลังสูบบุหรี่ที่ระเบียง
และยังขยุ้มผมตัวเอง ด้วยท่าทางหดหู่
หลี่ปินก็อยู่ที่ระเบียงกับเขา
“เหล่าหยาง เป็นไงบ้าง?”
เฉินเกอก็เดินเข้าไป
“เห้อ เหล่าเฉินคุณกลับมาพอดี คุณช่วยผมพูดหน่อย นี่มันอะไร เดี๋ยวจะสอบอยู่แล้ว บ้าจริง แม่ของสวีเสียบอกว่าจะมาเที่ยวจินหลิงสองสามวัน แล้วจึงกลับไปบ้านเกิดกับสวีเสียด้วยกัน!”
“อีกอย่าง สวีเสียก็เอาเรื่องของเราสองคนบอกแม่เธอแล้ว แม่เธออยากเจอผมมาก!”
“เห้ย จะเจอผู้ใหญ่แล้ว นี่มันเรื่องดีนี่ คุณต้องฉลองหน่อยแล้ว!”
เฉินเกอพูดขำๆ
“เรื่องดีตรงไหนล่ะ ความหมายของสวีเสียผมเข้าใจดี เธอบอกว่าแม่เธอจะมาอยู่ ให้ผมหาสถานที่พักให้หน่อย พูดตรงๆ ว่านี่จะให้ผมรับแขก ถ้าต้อนรับดี แม่ของเธอก็จะชม ถ้าอยู่ต้อนรับไม่ดี เรียนจบก็น่าจะต้องเลิกกัน!”
รู้สึกว่าหยางฮุยกังวลเพราะเรื่องนี้
เห้อ เฉินเกอก็คิด ตอนนี้คบกันก็ไม่ใช่แบบนี้เหรอ
ดั่งที่ว่าไว้ แม้ของภรรยาก็คือตัวปัญหา นี่ไม่ใช่ประโยคน่าตลกเลย
ถึงแม้พื้นเพตระกูลของหยางฮุยจะไม่เลว แต่ตอนนี้อยู่ที่จินหลิง ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะกังวลเล็กน้อยแหละ
ยังไงสถานที่ที่ดีเกินไปก็ไปไม่ได้
ส่วนเฉินเกอ ก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ยังไงตอนนี้ถนนการค้าจินหลิงก็ประมูลแล้ว วิลล่าสปาก็ไม่ใช่ของตัวเองแล้ว!
ไม่อย่างนั้นก็เหมือนกับครั้งที่แล้วตอนที่แฟนสาวของหลี่ปินมา ตัวเองก็แค่จัดการก็ได้แล้ว
“คุณคิดจะทำยังไงเหล่าหยาง?”เฉินเกอก็ถาม
“แค่กๆ เมื่อกี้นี้ผมกับปินจื่อคุยกันแล้ว ครั้งนี้แม่ของสวีเสียมา ก็พวกเราสามคน คุณสองคนต้องช่วยผมต้อนรับด้วยกัน เรื่องโรงแรมผมจัดการเอง ส่วนสถานที่เที่ยว ผมเจอที่อินเทอร์เน็ตพอดี เหมือนว่าคืนพรุ่งนี้ที่หมู่บ้านเขาหยุนเหมิงจะมีกิจกรรมใหญ่ ดูเหมือนว่าคนที่นั่นจะได้ค่ารื้อถอนแล้ว เลยจัดงานเลี้ยงใหญ่ ที่นั่นวิวทิวทัศน์ดีมาก พวกเราไปเที่ยวที่นั่น ใช้เงินไม่มากเท่าไหร่หรอก ไปลองดูก็ไม่เลว!”
หยางฮุยพูด
เฉินเกอพยักหน้า
หมู่บ้านเขาหยุนเหมิงจัดกิจกรรม เรื่องนี้เฉินเกอไม่รู้ อีกอย่าง นี่คือกิจกรรมรื้อถอนที่หมู่บ้านพวกเขาจัดขึ้นมาเองสำเร็จ ไม่เกี่ยวอะไรมากนักกับรายการนี้ เรื่องหยุมหยิมแบบนี้หลี่เจิ้นกั๋วก็คงไม่รายงานตัวเอง
เฉินเกอก็พูด:“อย่างนั้นก็ได้ อย่างนั้นก็เอาตามนี้ ส่วนจะต้องการอะไรอีก ผมจะช่วยคุณ!”
หยางฮุยพูดจบ จึงเอาตบไหล่ของเฉินเกอไปอย่างสบายใจ
เช้าวันถัดมาแม่ของสวีเสียก็มา
เฉินเกอ หยางฮุย หลี่ปินทั้งสามคน ตอนเช้าก็อยู่ที่หน้าโรงเรียนรวมตัวกับพวกสวีเสีย
สวีเสียและก็พวกรูมเมทเธอ ไม่ได้มีแค่ตัวเธอเอง
จะว่ายังไงล่ะ จากวิธีการพูดเมื่อคืนของหยางฮุย นั่นคือแม่ภรรยาในอนาคตมาหา ก็ถ้าตัวเองกับสวีเสียมาต้อนรับ ก็จะดูเย็นชา และก็จะไม่ค่อยใส่ใจ
คนเยอะครึกครื้นจะดูอบอุ่นกว่า!
ดังนั้นสวีเสียก็เลยเรียกสองสาวมา
มองเห็นผู้หญิงสองคน เฉินเกอก็ตะลึงเล็กน้อย
คนหนึ่งคือจ้าวยีฟาน ส่วนอีกคน กลับเป็นหลินเจียวที่มองเฉินเกออย่างรักใคร่
นอกจากนี้ ยังมีอีกคน ผู้หญิงที่เฉินเกอไม่เคยเจอ ก็อยู่
“หยางฮุย เฉินเกอ พวกคุณมาแล้ว ใช่สิ ฉันจะแนะนำให้พวกคุณ เธอชื่อลี่เม่ย เป็นเพื่อนในห้องตอนมัธยมของฉัน และโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก วันนี้แม่ของลี่เม่ยกับแม่ฉันมาด้วยกัน ก็เลยอยู่ด้วยกัน!”
สวีเสียพูด
ลี่เม่ย เหมือนกับชื่อ หน้าตาสวยมาก และก็แต่งตัวเป็น ถึงจะสู้จ้าวยีฟานที่สวยแบบธรรมชาติไม่ได้ แต่อยู่ข้างๆหลินเจียวที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ กลับแตกต่างกันไม่มากเท่าไหร่ แค่มีสไตล์ที่ต่างกัน
เพียงพอที่จะเป็นสาวงาม
“ลี่เม่ยสวัสดี เมื่อก่อนเคยเจอครั้งหนึ่งแล้ว!”
หยางฮุยทักทายอย่างเป็นมิตรด้วยความกระตือรือร้น
ลี่เม่ยพยักหน้าเรียบๆ แต่จู่ๆกลับถาม:“ใช่สิ เดี๋ยวต้องไปรับแม่ฉันกับแม่ของเสี่ยวเซียที่สถานีรถไฟความเร็วสูง พวกคุณจะไปยังไง?”
“อ้อๆ เรียกรถเถอะ!”
หยางฮุยพูดไป
“อะไรนะ?เรียกรถ?ที่แท้คุณไม่มีรถเหรอ!แค่กๆ ฉันนึกว่าแฟนที่เสี่ยวเซียหา จะต้องเหมือนกับของฉัน ที่มีรถขับกัน!”
ลี่เม่ยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยาะ ดูชัดเจนว่าเธอจงใจพูด
ถึงแม้จะโตมาด้วยกันตั้งแต่เล็กกับสวีเสีย แต่จากที่หยางฮุยพูดเมื่อกี้นี้ว่าเมื่อก่อนเคยเจอก็รู้ เธอไม่ได้ไปมาหาสู่อะไรกับสวีเสียที่โรงเรียนมากนัก
แต่ตอนนี้ไม่มีหนทาง แม่ของสวีเสียกับแม่ของเธอจะมาเที่ยวที่จินหลิงดัวยกัน ดังนั้นก็เลยมาด้วยกัน
ส่วนเด็กผู้หญิง โดยเฉพาะที่เหมือนกับสวีเสีย ต่างเป็นเด็กผู้หญิงที่มาจากเขตเศรษฐกิจที่สามเพื่อมาเรียนหนังสือที่จินหลิง ก็ไม่ชอบเปรียบเทียบว่าใครเจ๋งกว่าใคร
บวกกับตอนนี้ พวกรูมเมทสองคนนั้นที่อยู่กับสวีเสีย ดูสวยมาก
ยิ่งทำให้ลี่เม่ยอิจฉา
ดังนั้นก็เลยพูดแรงไปหน่อย
“หยางฮุยยังไม่ซื้อน่ะ!แฟนเธอคนนั้นซื้อแล้วเหรอ?”
สีหน้าสวีเสียก็ดูแย่เล็กน้อย แต่ก็ถามไป
เหมือนกับลี่เม่ย ครอบครัวของทั้งสองต่างเป็นประเภทที่ต้องเหนือกว่ากัน ตั้งแต่มัธยม แทบจะเทียบเรื่องฐานะกันไม่ได้ คุณซื้อเสื้อสวยๆ ฉันก็จะซื้อ
ดังนั้นก็เปรียบเรื่องการเรียน สวีเสียมักจะกดหัวลี่เม่ยแล้วนำหน้าเสมอ
ตอนนี้ที่มหาวิทยาลัยก็ไม่เหมือนกันแล้ว
ของที่เทียบได้ก็เยอะแล้ว
“ซื้อตั้งนานแล้ว แต่ก็แค่รถออดี้A4Lหนึ่งคัน เดิมทีเขาเห็นพวกเพื่อนๆของพวกเขาขับBMWซีรีส์7 ตัวเองก็อยากไปซื้อด้วยความโกรธ ฉันก็เลยโน้มน้าวเขา A4Lก็ไม่เลวนี่!ยังไงเขาก็รักฉันมาก และก็ฟังฉันสุดๆ!”
ลี่เม่ยกอดอก เหลือบมองพวกจ้าวยีฟานด้วยความยโสโอหัง
ส่วนพวกหลินเจียวก็เมินใส่
สวีเสียก็พยักหน้าเห็นด้วย:“อย่างนั้นพวกเพื่อนของแฟนคุณพวกนั้นก็เจ๋งจริงๆเลย!”
“แน่นอน เพื่อนๆของหยางฮุยพวกนี้สามารถ ……แค่กๆ ไม่พูดและ ก็ตามนั้นแหละ!”
ลี่เม่ยพูด
พอพูดจบ จู่ๆเธอก็มองไปด้านในโรงเรียน ด้วยใบหน้าตกใจ
“แฟนฉันมากันแล้ว!”