ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่195ชนเจ็ดคันติด
บทที่195ชนเจ็ดคันติด
ผู้ชายคนนี้คือใคร?
คงไม่ใช่ติงห้าวนะ
ตอนที่อยู่บนถนน เฉินเกอยังคิด คงไม่ใช่ว่าพอไปแล้ว ไปเจอพวกติงห้าวนะ อีกอย่างแค่มีติงห้าวอยู่ ก็ต้องมีพวกเฉินหลินกับหลี่ชือหานแน่
เฉินเกอไม่อยากจะเจอพวกเธอจริงๆ
แต่คิดไม่ถึง ว่าจะเจอได้
อีกอย่างติงห้าวจู่ๆเป็นเพื่อนมัธยมปลายของหวังเลี่ยง?
“เลี่ยงจื่อ เพิ่งมาเหรอ รอพวกคุณสักพักแล้วเนี่ย!”
ติงห้าวเขาทักทายด้วยใบหน้าภาคภูมิใจ ยังไงตอนนี้เขาก็ถือว่าเป็นเจ้าภาพของสถานที่ใหญ่ๆนี่ เลยมีความหยิ่งยโส และความพอใจอย่างมาก
“อือๆ ระหว่างทางรถติดน่ะ ใช่สิเลี่ยงจื่อ ผมจะแนะนำให้คุณ นี่คือลี่เม่ยแฟนผม นี่คือคุณป้าหวังแม่ของลี่เม่ย ส่วนนี่พวกเขาคือเพื่อนของลี่เม่ย มาเที่ยวด้วยกัน!”
หวังเลี่ยงพูดขึ้นมาในตอนนี้
ยืนอยู่กับติงห้าว มีผู้หญิงสองสามคนและผู้ชายอีกสองสามคน แน่นอนว่ารวมถึงเฉินหลินกับหลี่ชือหาน ส่วนติงห้าวก็แนะนำหวังเลี่ยงให้รู้จักเพื่อนตัวเองเหมือนกัน
“ทุกคน นี่คือติงห้าว ไม่สิ ตอนนี้ต้องเรียกว่าคุณชายติง ทั้งโครงการรื้อถอนเขาหยุนเหมิง อย่างน้อยตระกูลของติงห้าวก็มีบ้านสามหลังในนี้!”
หวังเลี่ยงพูดอย่างอิจฉาเล็กน้อย
แนะนำเสร็จ
ลี่เม่ยตะลึงเล็กน้อย
แม่ของลี่เม่ยกับแม่ของสวีเสียก็ตะลึงหมด
ทางที่มาเมื่อกี้นี้ ก็ดูการแนะนำสั้นๆของเขาหยุนเหมิงไปแล้ว เป็นโครงการท่องเที่ยว สถานบันเทิงและห้องจัดเลี้ยงขนาดใหญ่โครงการหนึ่ง และยังวางแผนที่จะสร้างย่านธุรกิจการท่องเที่ยวอีกหลายแห่ง รวมถึงการก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์รอบนอกอีกด้วย เป็นต้น!
ก็หมายความว่า ในอนาคตอีกไม่นาน ที่นี่จะกลายเป็นโซนยอดนิยม
ส่วนติงห้าว จู่ๆก็มีห้องสามห้องที่นี่
ก็เพียงพอที่จะไร้ความกังวลไปทั้งชีวิตแล้ว
ทำให้แม่ของลี่เม่ยอดไม่ได้ที่จะมองไป
“เหอะๆ จริงๆแล้ว ถ้าจะบอกว่าเจ๋ง อย่างนั้นก็ต้องเป็นคุณชายเฉินที่เจ๋ง พื้นที่ใหม่พวกนี้ ต่างเป็นคุณชายเฉินที่ลงทุนก่อสร้าง!”
ติงห้าวพูดด้วยใบหน้าเลื่อมใส
“อะไรนะ?คุณชายเฉิน?คุณชายเฉินคนนั้นฉันเคยได้ยินในเน็ตพูด ไม่ใช่ว่าทำธุรกิจล้มเหลวไปแล้วเหรอ จนบริษัทการค้าจินหลิง กรุ๊ปยุบลง!บัดซบ แล้วเขาจะสร้างสถานบันเทิงแห่งใหม่อีก?”
เวลานี้ ลี่เม่ยก็ช่วยไม่ได้ที่จะพูด
พอคบกับหวังเลี่ยง เธอก็ถือว่าเข้าสู่สังคมคนรวยไปครึ่งหนึ่งแล้ว ทำให้สนใจพวกคนรวยของจินหลิงอย่างมาก
และหัวข้อนี้ ก็ดึงดูดความสนใจของจ้าวยีฟานกับหลินเจียว
แน่นอนว่าข่าวนี้พวกเขาต่างรู้
มีทุกอย่างที่เดาบนอินเทอร์เน็ต
“เสี่ยวเหม่ย คุณว่าคุณชายเฉินเป็นคนยังไง?เจ๋งไหม?”
แม่ของลี่เม่ยก็สนใจ
“แม่ เจ๋งอยู่แล้ว แต่ก็เหมือนที่ฉันพูดไปเมื่อกี้นี้ ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่แล้ว บริษัทเขายุบลงแล้ว!”
ลี่เม่ยพูด
ติงห้าวได้แต่ส่ายหน้าแล้วยิ้มฝืนๆพูดไปว่า:
“พวกคุณอย่าไปฟังที่อินเทอร์เน็ตเดามั่วเลย พวกคุณไม่คิดเหรอว่า คุณชายเฉินเป็นคนยังไง และโครงการครั้งนี้ ใหญ่กว่าบริษัทการค้าจินหลิง กรุ๊ปตอนนั้นมากๆ เพราะว่าคุณชายเฉินซื้อทั้งภูเขาเลย แผนการรอบๆก็ทำไว้แล้ว แค่การลงทุนเริ่มต้น คุณชายเฉินก็ลงทุนไปแล้วกว่าห้าถึงหกหมื่นล้าน ในอนาคตยังมีเงินเข้ามาอีกมาก!”
ทุกคนฟังจบ ก็ตาโต
“เหอะๆ ดังนั้น ตอนดึกพวกเรามองเห็นบางคนเดาเรื่องคุณชายเฉินเราทุกคนส่ายหัวและยิ้มอย่างฝืนๆ!”
เฉินหลินก็กอดอกพูดอย่างภูมิใจ
“พระเจ้า เก่งมากไปแล้ว นี่มันเก่งมากไปแล้ว!”
ลี่เม่ยพูดอย่างคิดขึ้นได้
ส่วนจ้าวยีฟาน ก็มองไปที่เฉินเกอด้วยความตกตะลึง
มองเฉินเกอด้วยความรู้สึกผิด
โชคดีจัง ตัวเองไม่ได้ทำอะไรให้เฉินเกอไม่พอใจ ถ้าเฉินเกอคือคุณชายเฉินอย่างนั้นตัวเองก็มีโอกาสจริงๆ
จ้าวยีฟานคิดในใจ
“หวังเลี่ยงจ๊ะ คิดไม่ถึงว่าคุณยังจะรู้จักติงห้าวที่เจ๋งขนาดนี้ เครือข่ายคุณเยอะมาก!”
แม่ของลี่เม่ยพูดยิ้มๆ
“โอเค อย่างนั้นพวกเราหารถชมวิวมานั่งกัน มีกี่คน?ผมจะได้หาคันใหญ่ๆ!”
ติงห้าวพูด
พูดจบก็มองไปทางหยางฮุยแล้วนับคน
“บัดซบ เฉินเกอ?”
ติงห้าวตะลึง คิดไม่ถึงว่าเฉินเกอจะอยู่ที่นี่
ส่วนเฉินหลินกับหลี่ชือหานก็มองไปที่เฉินเกออย่างตะลึง คิดไม่ถึงจริงๆ เจอเฉินเกออีกแล้ว
ตั้งแต่ครั้งนั้นที่ติงห้าวทะเลาะกับหม่าเฟยเรื่องนั้น ทุกคนก็ถูกจับเข้าไป ส่วนเฉินเกอสุดท้ายก็ถูกคนพาไป
แล้วก็หักหน้าทุกคน
เฉินเกอคือใครกันแน่?
ในใจหลี่ชือหานกับเฉินหลินต่างคิด
คงไม่ใช่คนที่ยอดเยี่ยมคนหนึ่งหรอกนะ?
ทำให้ในใจเฉินหลินกับหลี่ชือหานต่างอึดอัด
“เฉินเกอ คุณมาแล้วเหรอ!”
ดังนั้น ที่กำลังทักทายเฉินเกอตอนนี้ คือผู้หญิงสองคนที่ธรรมดามาก
“อือ?ติงห้าว คุณรู้จักคนนี้ไหม?”
หวังเลี่ยงพูดอย่างแปลกใจ
“หึ รู้จัก แต่ไว้ค่อยพูดเถอะ พวกเราไปเอารถชมวิวก่อน”
ติงห้าวพูดอย่างไม่พอใจ
เริ่มต้นหยางฮุยก็ขับ
ส่วนหวังเลี่ยง ก็ดูอยู่ข้างๆ
“ว๊าว!ถึงหยางฮุยไม่มีรถ แต่ขับรถชมวิวแบบนี้ได้ดีมาก!”
แม่ของลี่เม่ยพูดชมครึ่งถากถางครึ่ง
“ก็เหมือนกับนิสัย ท่าทางดูมั่นคง!”
มีผู้หญิงคนหนึ่งก็ชมออกไป
และคำนี้ ทำให้หวังเลี่ยงฟังแล้วอึดอัด
ก็เหมือนกับตัวเองถูกแย่งซีน
“บัดซบ คุณรู้จักทางไหม ควรเลี้ยวซ้าย!ด้านซ้ายมีที่เที่ยว คุณโง่ใช่ไหม!”
ตอนนี้หวังเลี่ยงเยาะเย้ยหยางฮุย
หยางฮุยเหลือบมองไม่พูดอะไร
“บัดซบ ขับเร็วหน่อย ได้ไหม ไม่ได้ก็ให้ผมขับ นี่คุณขับชนลมชัดๆ!”
หวังเลี่ยงพูดเยาะเย้ยอย่างเยือกเย็นอีกครั้ง
ส่วนหยางฮุย วันนี้ทุกข์ทรมานทั้งวัน ก็ทนไม่ไหว และอดไม่ได้ที่จะอารมณ์เสียขึ้นมา
ตอนนี้เลยเหยียบคันเร่งไป แล้วความเร็วของรถก็เพิ่มขึ้นมา
ความใจร้อนคือปีศาจ คำๆนี้ไม่ใช่เรื่องตลกจริงๆ
ก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง ข้ามถนนมาโดยถือลูกโป่งพร้อมกับกระโดดโลดเต้นไปมา วิ่งตามลูกหมาของตัวเอง!
“อ๊า!หยางฮุยระวัง!”
สวีเสียกรีดร้องออกมาอย่างกังวล
ส่วนหยางฮุยตอนนี้อยากจะเบรกก็ไม่ทันแล้ว
และตื่นตระหนกอย่างมาก จนหักพวงมาลัยไปทางขวา
ปัง!ปัง!ปัง!
จากนั้นก็มีเสียงดังออกมา
แล้วก็มองเห็นรถชมวิวผ่านรถยนต์คันหนึ่งไปที่จอดอยู่ข้างถนน
ส่วนรถชมวิวใกล้จะชนจนรูปร่างเปลี่ยนไปเช่นกัน
จนชนไปที่ก้อนหิน แล้วรถชมวิวจึงหยุดลง
“อ๊า!”คนเดินผ่านต่างกรีดร้อง
พวกผู้หญิงบนรถก็ร้องออกมา
บัดซบ!จบแล้ว!
เหงื่อเย็นๆของหยางฮุยก็ค่อยไหล
“พวกคุณรีบดูสิ พวกหนุ่มๆนี่โหดมาก จนเฟอร์รารีไปเจ็ดคัน!”
คนที่เดินผ่านมากรีดร้องออกมาอย่างเสียงดัง
ส่วนหยางฮุยตอนนี้ก็ตกใจจนรีบลงมา พอมองเห็นกลุ่มรถที่ถูกตัวเองชนเข้า ก็ตะลึง
เฟอร์รารี เป็นเฟอร์รารีทั้งนั้น
โดยเฉลี่ยแล้วทุกๆคัน ต่างน่าจะราคาหลายล้านอยู่ และเป็นรถหรูนำเข้าอย่างแน่นอน!
ที่สำคัญคือ ทุกคันเสียหายอย่างรุนแรง มีบางคันก็ชนจนไฟพัง!
“ชิบ บ้าไปแล้ว วัยรุ่นคนนี้บ้าไปแล้ว เจ็ดคันนะ จากสถานการณ์แล้วยังไงก็ต้องชดใช้มากกว่าล้าน!”
คนจำนวนมากเรื่อยๆเข้ามาล้อมรอบ
อย่าว่าแต่แม่ของสวีเสียกับสวีเสียจะตะลึงนิ่งไป แม้แต่แม่ของลี่เม่ยต่างกลืนน้ำลายด้วยความตกใจ
เปรียบเทียบกันแล้ว รถของลี่เยว่ที่เพิ่งชนไป เดิมทีก็ไม่ใช่รถแล้ว แค่พริบตาเดียว หยางฮุยก็ชนไปเจ็ดเท่าของเขา!
“ขอทางหน่อย ขอทางให้ผมหน่อย!”