ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่258 เรื่องใหญ่แล้ว
บทที่258 เรื่องใหญ่แล้ว
คนพวกนี้บุกเข้ามาที่ร้านโดยตรง
แต่ว่า ที่ทำให้เฉินเกอพวกเขาประหลาดใจก็คือ คนพวกนี้ถึงแม้ว่าจะสวมชุด*อยู่ แต่ความรู้สึกที่ให้มันไม่เหมือนเลยสักนิด
อย่างที่คาดไว้ไม่มีผิด ในระหว่างที่ลี่เสี้ยวพวกเขากำลังตกตะลึงอยู่ กลุ่มคนพวกนี้ก็พุ่งเข้ามาโดยตรง และจับตัวของลี่เสี้ยวก่อน จากนั้นต่อด้วยเฉินเกอกับซูถิง ก็ถูกพวกเขาควบคุมด้วย
ต่อมาก็มีมีดเล่มหนึ่งจ่อไปที่เอวของพวกเขา
เฉินเกอมองไปที่สัญลักษณ์บนเครื่องแบบชุด*ของพวกเขา และเห็นว่าเหมือนกันหมดทุกคน จึงเพิ่งจะมองออกว่า คนพวกนี้ ได้ปลอมตัวเป็นตำรวจเพื่อมาข่มขู่พวกเขา
“พาพวกเขาขึ้นรถ และยึดโทรศัพท์มือถือของพวกเขาทั้งหมด ให้ไว!”
คนที่เป็นหัวหน้าตะโกนพูดขึ้น
ลี่เสี้ยวเห็นว่าพวกเขาได้ควบคุมตัวของซูถิงด้วย จึงไม่กล้าทำอะไรมั่วซั่ว เพียงแต่ดุด่าพวกเขาว่า:“พวกแม่งเอ๊ย พวกมึงจะกล้าเกินไปแล้ว!”
“ไปให้พ้น เดี๋ยวคุณจะได้เห็นดีกัน!”หัวหน้าของพวกเขาตบไปที่หน้าของลี่เสี้ยว
สุดท้าย ลี่เสี้ยวกับซูถิงและเฉินเกอ ถูกพวกเขาคลุมหัวไว้โดยตรง แล้วพวกเขาก็ถูกพาตัวไปกักขังไว้ในอาคารที่ยังสร้างไม่เสร็จ อีกทั้งยังเอาโทรศัพท์มือถือของพวกเขาทั้งหมดไปด้วย!
และคนที่กักขังพวกเขานั้นไม่ใช่คนอื่นใด ฟังจากที่ลี่เสี้ยวบอกมา เป็นพี่ชายลูกพี่ลูกน้องของหยางกั๋วเฉวียนที่ชื่อลี่เสี่ยวกังเป็นคนทำไม่มีผิดแน่นอน
พี่ชายลูกพี่ลูกน้องของเขาลี่เสี่ยวกังทำเกี่ยวกับงานรื้อถอน อย่างเรื่องที่คล้ายกันพวกนี้เขาทำมาไม่น้อยแล้ว เมื่อสองปีก่อน มีคนยั่วยุโดนลี่เสี่ยวกัง ก็ถูกคนอื่นลากตัวจากบ้านไปด้วยวิธีนี้เหมือนกัน
และผลสุดท้ายคือชายคนนั้นถูกลากตัวเข้าไปในป่า และถูกเฆี่ยนตีอย่างรุนแรงเป็นเวลาสามวันสามคืน
แน่นอนว่า เนื่องจากมีการแอบอ้างเป็น** หลังจากเรื่องนี้เกิดขึ้น ลี่เสี่ยวกังก็ได้เข้าไปนั่งในตะรางช่วงหนึ่ง
ดังนั้น ในแวบแรกลี่เสี้ยวจึงนึกถึงหยางกั๋วเฉวียนและลี่เสี่ยวกังขึ้นมาทันที
เหตุการณ์นี้เห็นได้อย่างชัดเจนเลย ว่าเป็นการแก้แค้นของหยางกั๋วเฉวียน เพราะว่าหยางกั๋วเฉวียนจะรู้ดีที่สุดว่า หากคุณพาคนมาหาเรื่องโดยตรง ลี่เสี้ยวเขาไม่ได้มีความเกรงกลัวเลยสักนิด จึงเกิดการต่อสู้กับพวกเขาตั้งแต่แรก!
และเหตุการณ์ในตอนนี้ก็เป็นเช่นนี้ หลังจากที่ถูกกักขังเข้ามา ก็ไม่มีใครถามคำถามอะไร ก็เอาพวกเขาทั้งสามคนมาขังไว้ในห้องเล็ก ๆห้องหนึ่ง
“แม่งเอ๊ย รอกูออกไปกูจะฆ่าไอ้บ้านี่ให้ตายเลย!”
ลี่เสี้ยวดุด่าอย่างรุนแรง แต่ว่าในขณะนี้ เขาถูกมัดมือมัดเท้าไว้ ไม่สามารถขยับตัวได้
ส่วนเฉินเกอก็เพียงแค่แนะนำให้เขาอย่าหุนหันพลันแล่นเกินไป
ตอนนี้เฉินเกอเองก็ไม่มีวิธีอะไรเลย เพราะว่าโทรศัพท์มือถือของเขาก็ถูกเอาไปแล้ว ถ้าไม่อย่างนั้นเขาก็โทรศัพท์หาหลี่เจิ้นกั๋วแล้ว
“ฟ้าเริ่มมืดแล้ว นี่ก็หกโมงเย็นแล้ว พวกเราควรจะทำอย่างไรกันดี?” ซูถิงพูดขึ้นอย่างประหม่าในตอนนี้
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้เธอขึ้นเหนือล่องใต้กับลี่เสี้ยวตลอด และก็เคยถูกคนอื่นทำวิธีที่คล้ายกันแบบนี้เช่นกัน ดังนั้นอารมณ์ของซูถิงก็ไม่ได้พังทลายมากเกินไป
อย่างมากที่สุดพวกเขาก็แค่ทุบตีแล้วก็พูดเงื่อนไขและข่มขู่เท่านั้น
หกโมงเย็นกว่า?
เฉินเกอครุ่นคิดในใจ ตอนนี้ทางหลี่เจิ้นกั๋วคงจะกำลังตามหาตัวของเขาอย่างกังวลอยู่แน่ และถ้าโทรศัพท์หาแล้วโทรไม่ติด แน่นอนว่าเขาต้องส่งคนให้มาติดต่อกับตนเองให้ได้โดยเร็วที่สุด
“ลี่เสี้ยวซูถิง รออีกหน่อยเถอะ เชื่อว่าไม่เกินหนึ่งชั่วโมง พวกเราก็คงจะได้ออกไปจากที่นี่แน่!”
เฉินเกอกลัว
“หนึ่งชั่วโมง?เป็นไปได้อย่างไรเฉินเกอ ฉันคิดว่าคนที่จะเล่นงานพวกเรา ยังอยู่ด้านหลัง!”ลี่เสี้ยวกล่าว
เฉินเกอเงียบไม่พูดอะไรอีก
และด้านนอกในขณะนี้เอง
“มา พี่กัง สูบบุหรี่สักม้วน!”
หยางกั๋วเฉวียนส่งบุหรี่ให้ลี่เสี่ยวกังลูกพี่ลูกน้องของเขาด้วยความเคารพ
“เมื่อก่อนก็เคยบอกกันพี่แล้ว ไอ้หนุ่มคนนี้ต่อต้านผมไม่ใช่แค่วันหรือสองวันแล้ว และครั้งนี้ต้องสั่งสอนเขาให้ดี ๆหน่อย!ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะไม่จำ!นอกจากนี้ ที่ตั้งตำแหน่งร้านของเขาก็ค่อนข้างดี และร้านของผมร้านนั้นก็จะรื้อถอนแล้ว พอดีเลย ให้ไอ้หนุ่มคนนี้สักหนึ่งถึงสองหมื่นหยวน ให้เขาขายร้านให้ผมโดยตรงเลย!”
“สบายใจได้ ชิลล์ๆ เดี๋ยวจัดการให้!”
ชายอ้วนวัยกลางคนหนึ่งกล่าว และนั้นก็คือลี่เสี่ยวกังเอง
“แล้วพี่กัง จัดการแบบนี้จะไม่เป็นอะไรใช่ไหม?อย่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่นะ!”
คู่แม่ลูกคู่นั้นที่นัดดูตัวกับเฉินเกอที่โรงแรมก็อยู่ที่นี่ด้วย
และก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยในขณะนี้
“จะมีเรื่องอะไรได้ รายละเอียดของ ลี่เสี้ยวกับภรรยาเขาฉันรู้ดี ไม่มีพื้นฐานอะไร ส่วนไอ้เด็กหนุ่มคนนั้นที่ชื่อว่าเฉินเกอ ยิ่งเป็นแค่คนยากจนคนหนึ่ง พวกเขาทั้งสามคนมาจากที่เดียวกันหมด!ครั้งนี้อย่าว่าแต่สั่งสอนพวกเขาเลย ฆ่าให้ตายก็ไม่มีใครสน!”
หยางกั๋วเฉวียนแสยะยิ้มและพูด
“แต่ว่าลี่เสี้ยวคนนี้ก็คนโง่คนหนึ่งจริง ๆเลย ถ้าไม่ใช่เพราะปลอมตัวเป็น** เขาก็คงจะไม่ซื่อสัตย์อย่างนี้หรอก!ไม่งั้นนะ ผมก็คงไม่ต้องรบกวนพี่กังของผมหรอก ผมจัดการมันด้วยตัวเองละ !”
“เอาล่ะ อย่าพูดเรื่องอื่น ถ้าให้ลี่เสี้ยวขายร้านให้ ต้องแบ่งเงินปันผลให้พี่ครึ่งหนึ่ง!”
ลี่เสี่ยวกังสูบบุหรี่อยู่
“พี่กัง โทรศัพท์มือถือของไอ้หนุ่มคนหนึ่งมีคนโทรเข้ามาตลอดเวลาเลย”
ในเวลานี้ มีลูกน้องคนหนึ่งเดินเข้ามาพูด
และในมือของเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือของเฉินเกอมาด้วย
จนถึงตอนนี้ มีคนโทรเข้ามาไม่ต่ำกว่าห้าสิบสายแล้ว
“โอ้พระเจ้า ดูไม่ออกเลย ไอ้หนุ่มคนนี้ใช้โทรศัพท์มือถือค่อนข้างดีนิ โทรศัพท์เครื่องนี้น่าจะหนึ่งถึงสองหมื่นได้มั้ง?”
แน่นอนว่าแม่ลูกคู่นั้นก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย และในขณะนี้หญิงปากร้ายคนนั้นก็จ้องไปที่โทรศัพท์มือถือของเฉินเกอด้วยความอิจฉา
“อืมๆ โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้สองหมื่นกว่า เขาใช้โทรศัพท์มือถือดีขนาดนี้เชียวหรอ!”
หญิงสาวก็เริ่มรู้สึกสงสัย
และคิดในใจว่าหรือเขาคนนั้นจะเป็นลูกมหาเศรษฐี?
เหอะๆ!
เป็นไปได้อย่างไร
มากสุดก็แค่ไอ้โง่คนหนึ่งที่แสร้งทำเป็นรวย บางคนนะยิ่งไม่มีเงิน ก็ยิ่งใช้โทรศัพท์มือถือดี ๆ และเสื้อผ้าที่สวมใส่ก็มีแต่ของแบรนด์เนมทั้งนั้น ราวกับว่ากลัวคนอื่นรู้ว่าเขาไม่มีเงินยังไงอย่างนั้นแหละ ชอบโอ้อวด
“ลูก ถ้าหนึ่งถึงสองหมื่นจริง ๆ ถ้าอย่างงั้นลูกก็เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือกับเขาสิ โดนตบตีครั้งนี้ เราสองแม่ลูกต้องไม่โดนฟรีๆนะ!”
หญิงวัยกลางปากร้ายกล่าว
“พูดอะไรของพวกคุณ ค่าใช้จ่ายยาไม่ชดให้พวกคุณน้อยหรอก!” ลี่เสี่ยวกังพูดขึ้นอย่างเย็นชาในขณะนี้
โทรศัพท์มือถือดี ๆเครื่องนี้ ให้เปลี่ยนให้พวกคุณหรอ คิดอะไรอยู่!
ถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องเก็บไว้ที่ตัวฉันเอง
“พี่กัง แล้วโทรศัพท์เครื่องนี้จะทำอย่างไรดี?จะรับหรือไม่รับ?ดูๆแล้วเหมือนกับว่าจะเร่งด่วนมาก!”
ลูกน้องถามขึ้นในขณะนี้
“รับบ้าไรล่ะ ปิดเครื่องเลยแล้วก็โยนไปด้านข้างไป!”
ลี่เสี่ยวกังตะโกนด่าไปคำหนึ่ง
เมื่อมองไปที่พี่ชายที่ดุดัน หยางกั๋วเฉวียนก็พูดขึ้นอย่างประจบ:“พี่กัง พี่ยิ่งอยู่ยิ่งสุดยอดแล้ว!!”
“แน่นอนสิ พี่จะบอกให้นะกั๋วเฉวียน สิ่งที่สำคัญที่สุดในสังคมปัจจุบันคือทรัพยากรเส้นสาย ไม่มีเรื่องใดจะสามารถยืนหยัดกว่าที่พี่มีคนรู้จักเยอะ! พี่แกอย่างฉันเนี่ย ไม่ว่าจะอยู่ไหนก็มีอำนาจคำพูด นี่แหละ คือเส้นสาย”
ลี่เสี่ยวกังและหยางกั๋วเฉวียนพวกเขานั่งคุยด้วยกันอยู่อย่างคนละคำสองคำ
“เหล่าหลี่ เป็นยังไงมั้ง?ยังโทรไม่ติดอีกหรอ?”
ขณะนี้ในงานเลี้ยง แขกวีไอพีผู้มีเกียรติสูงส่งหลายท่านก็มาถึงแล้ว แต่ว่าตัวเอกของงานกลับยังไม่มา และตอนนี้ก็ไม่สามารถติดต่อได้ด้วย ทำให้ทุกคนต่างกังวลกันมาก
“เมื่อกี้โทรติดแล้วแต่ไม่มีคนรับ ส่วนตอนนี้สายถูกตัดแล้ว พอฉันโทรไปอีกครั้งก็ปิดเครื่องแล้ว!”
หลี่เจิ้นกั๋วขมวดคิ้วแล้วพูด
“คงไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่ไหม?”จ้าวจื่อซิ่งเริ่มตื่นตัวขึ้น
“พูดตามหลักปกติแล้ว ถ้าคุณชายเฉินมีเรื่องไม่สะดวก ก็ตัดสายของฉันโดยตรง แต่ว่า เมื่อกี้โทรไปแล้วหลายสายมาก แต่ไม่ได้ตัดสาย และก็ไม่รับสายของฉัน พวกเรารวมกันหลายคนต่างก็โทรไปหลายสิบกว่าสายแล้ว ต่อให้มีธุระ คุณชายเฉินก็จะแสดงปฏิกิริยาให้พวกเรารับรู้!”
“นั่นน่ะสิ อีกอย่าง ถ้าโทรศัพท์มือถือไม่ได้อยู่ข้างๆคุณชายเฉิน แล้วทำไมเมื่อกี้ถึงมีคนตัดสาย และยังปิดเครื่องอีกด้วย?”
จ้าวจื่อซิ่งและหลี่เจิ้นกั๋วเริ่มอ่อนไหวในเวลาเดียวกัน
ทันใดนั้นเอง ลูกน้องของจ้าวจื่อซิ่ง ไป๋หลางเดินเข้ามาพร้อมกับพวกกลุ่มหนึ่ง
เมื่อมาถึงข้างๆเขาทั้งสอง:“ประธานจ้าวประธานหลี่ เมื่อกี้ผมไปที่โรงแรมของคุณชายเฉินมาก ผู้จัดการของโรงแรมบอกว่าคุณชายเฉินออกมาตั้งแต่ตอนเย็นแล้ว!”
“ออกมาแล้ว?”
จ้าวจื่อซิ่งและหลี่เจิ้นกั๋วหันมาสบตาซึ่งกันและกัน
จากนั้น ก็เห็นแขกวีไอพีหลายคนในงานกำลังมุ่งหน้าเดินเข้ามาในทิศทางของหลี่เจิ้นกั๋วและจ้าวจื่อซิ่ง
“ประธานจ้าวประธานหลี่ เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?คุณชายเฉินถึงยังไม่มา?”
หวงเหวยหมินถาม
งานเลี้ยงถูกแบ่งออกเป็นห้องโถงใหญ่หลายห้อง มีทั้งภายในและภายนอก สถานที่ค่อนข้างใหญ่มาก
และภายในของสถานที่ เป็นแขกวีไอพีระดับไหนคงไม่ต้องพูดถึง
ดังนั้นเมื่อฟังถึงตรงนี้ ทุกคนต่างก็เดินเข้ามาถามไถ่
“อืมๆ ติดต่อคุณชายเฉินไม่ได้เลย พวกเรากำลังคิดหาวิธีติดต่อคุณชายเฉินอยู่!”
“ประธานหลี่ ฉันเจอแล้ว!”
และในขณะนี้จินเปียววิ่งเข้ามาอย่างหอบหืด
และขยับเข้ามากระซิบที่ข้างหูของหลี่เจิ้นกั๋ว
“อะไรนะ?”
ดวงตาของหลี่เจิ้นกั๋วเบิกกว้าง
งานเลี้ยงทั้งหมดเงียบลงในพริบตา
“อธิบดีหวง หัวหน้า*จาง หัวหน้าเขตหลี่ เมื่อกี้นี้ คุณชายเฉินของพวกเราถูกกลุ่มคนที่ปลอมตัวเป็น**ลักพาตัวไป!”
หลี่เจิ้นกั๋วกล่าว
“ไม่ใช่มั้ง?”
หัวหน้า*หลี่ผงะ
“จินเปียว พยานที่คุณพามาอยู่ไหน ให้เธอเข้ามา!”
หลี่เจิ้นกั๋วกล่าว
จากนั้นก็เห็นจินเปียวสั่งให้คนพาหญิงวัยกลางคนหนึ่งเข้ามา
จากนั้นเลยเล่าเรื่องที่ร้านของลี่เสี้ยวโดนทุบ จนถึงเฉินเกอพวกเขาถูกคนอื่นเอาตัวไป รวมทั้งหยางกั๋วเฉวียน และระหว่างหยางกั๋วเฉวียนกับลี่เสี่ยวกังมีความสัมพันธ์กันอย่างไรก็เล่าออกมาจนหมด
แน่นอนว่านี่คือตอนที่จินเปียวสืบอยู่ และให้เงินหญิงวัยกลางไปไม่น้อย จนให้เธอกล้าที่จะพูดความจริงทั้งหมดออกมา
เพราะว่าหยางกั๋วเฉวียนและลี่เสี่ยวกัง ทั้งสองคนนี้ต่างก็เป็นบุคคลที่ไม่ค่อยน่าแตะต้องมากเท่าไหร่
บนใบหน้าของแขกวีไอพีหลายคนต่างก็มืดมนมาในขณะนี้
จนในที่สุด คนที่เป็นผู้นำก็ตบไปที่โต๊ะโดยตรง
“สั่งให้คนรีบตามไปเดี๋ยวนี้ ฉันอยากจะรู้เหลือเกินว่าใครมันจะบังอาจและมีความกล้ามากขนาดนี้?”
“ครับ ครับ ครับ!”
ทุกคนต่างตอบรับ
ผู้คนทั้งหลายรีบวิ่งจากสถานที่ภายในไปด้านนอกอย่างเร่งรีบ
ส่วนผู้คนที่อยู่ภานนอกของงานที่กำลังคุยกันอยู่ในขณะนี้ เมื่อเห็นสถานการณ์ใหญ่โตขนาดนี้เกิดขึ้น ทุกคนต่างก็ตกตะลึงกันอย่างมาก
“นี่……มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
คนวัยกลางคนหนึ่งดึงแขนของพนักงานขับรถคนหนึ่งแล้วถามขึ้น
“ผมก็ไม่ค่อยจะชัดเจนเท่าไหร่หัวหน้าเจียง เห็นว่าคุณชายเฉินของงานเลี้ยงคืนนี้ ถูกคนอื่นลักพาตัวไป!”