ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่261 ตบหน้าเจียงเว่ยตง
บทที่261 ตบหน้าเจียงเว่ยตง
พวกหมาหรือพวกแมวที่เจียงเว่ยตงพูดออกมานั้น เฉินเกอไม่ต้องคิดก็รู้ว่าเขากำลังเยาะเย้ยตัวเอง
และในเวลาเดียวกัน เขาก็แสดงความคิดเห็นต่อหลินตงและครอบครัวของเขา
เฉินเกอรู้สึกโกรธจนหน้าซีดไปหมด
“พ่อ พ่อพูดอะไรน่ะ เฉินเกอรีบมานั่งในบ้านสิ!”
เจียงหรานหรานโต้กลับด้วยความโกรธ
“หรานหราน ยังจะให้คนคนนี้เข้ามาอีกทำไม หมาที่มันกินบนเรือนขี้บนหลังคา ให้เขาไปช่วยหลินเสี่ยวเฟิงคนนั้นเถอะ ความโปรดปรานอันยิ่งใหญ่ขนาดนี้ส่งให้แต่ทางของหลินเสี่ยวเฟิงไม่ให้บ้านของเรา ตอนนี้ก็ดีแล้วไง หลินเสี่ยวเฟิงได้เลื่อนขั้นเป็นรองประธานแล้ว และยังทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการด้วย ครอบครัวตระกูลเจียงของเราไม่ได้รับความโปรดปรานจากเขาเลยสักนิด!”
ถังหรานกล่าวด้วยสีหน้าที่เกลียดชัง
สาเหตุที่พูดเช่นนี้ เพราะถังหรานรู้ว่า ความโปรดปรานครั้งนี้ใหญ่มาก ต่อให้เฉินเกอจะมีความสามารถมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถส่งธุรกิจของบริษัทมากมายขนาดนี้ให้ตนเอง
และตนเองตามไม่ทันเขาเลยสักนิด แล้วยังจะให้หน้าเขาอีกทำไม?
ก็ต้องด่าเขาอย่างรุนแรงสักครั้งหนึ่ง
“ฮึ คุณคิดดูว่าตระกูลเจียงของเราช่วยคุณขนาดไหน ลุงเจียงยังคำนึงเรื่องงานให้คุณโดยเฉพาะเลย แต่ผลสุดท้าย คุณแค่บริจาคให้ลุงเจียงของคุณแค่500,000หยวนเท่านั้น และตัวคุณเองก็ยังมีอีก600,000หยวน คุณมีความสามารถใหญ่ขนาดไหน คุณอยากไปไหนหรือชอบไปไหนก็รีบไปให้พ้นเลย!”
ถังหรานโบกมืออย่างไม่อดทน และสั่งให้ไล่เขาออกไปโดยตรง
และแขกทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นต่างก็มองเฉินเกอด้วยสีหน้าหยอกล้อ
ส่วนหลินตงก็กอดไหล่และพูดขึ้นว่า:“นั่นแหละคุณลุงเจียง เขายังมีอีก600,000หยวน แต่ผลสุดท้ายเขาแค่บริจาคให้คุณเพียงแค่500,000หยวนเท่านั้น เรื่องนี้จะว่าไปมันไม่สมเหตุสมผลเลย!”
สีหน้าของเจียงเว่ยตงขาวซีด และเขาก็ชี้ไปที่เฉินเกอ:“แกออกไปให้พ้นจากตระกูลเจียงของเรา!”
ปัง!
พูดจบ แก้วของชาร้อนที่วางอยู่บนโต๊ะ ก็ถูกโยนไปที่เท้าของเฉินเกออย่างรุนแรงโดยตรง
น้ำร้อนสาดใส่ที่ขากางเกงของเฉินเกอ
ร้อนมากจนเฉินเกออึดอัด
“พ่อ นี่คุณพ่อทำอะไรคะ เฉินเกอเขาส่งหนูกลับมานะคะ!”
เจียงหรานหรานกังวลจนร้องไห้ออกมา
“หรานหราน ฉันบอกหนูไว้ก่อนนะ ต่อจากนี้ห้ามคบหากับคนบ้านนอกคนนี้อีก!”
เจียงเว่ยตงดุด้วยความโกรธ
ส่วนเฉินเกอ เขามองไปที่เจียงเว่ยตงและถังหรานอย่างเย็นชาในขณะนี้ และถ้าพวกเขาเป็นคนอื่นล่ะก็ ตอนนี้เฉินเกอคงไม่สนใจอะไรทั้งนั้น และพุ่งเข้าไปเหยียบย่ำพวกเขาให้ตายแล้ว
แต่ในขณะนี้ เฉินเกอทำได้เพียงกลืนความโกรธแค้นนี้ลง แล้วหันหลังเดินออกไป
เขาครุ่นคิดในใจ ตระกูลเจียง ถ้าหากว่าวันหลังตัวตนของเขาสามารถเปิดเผยได้ และตัวตนของพ่อเขาก็สามารถเปิดเผยได้ ไม่รู้ว่าพวกคุณยังจะมีกิริยาท่าทางและสีหน้าแบบนี้อีกหรือเปล่า?
เฉินเกอจากไปด้วยความโกรธ
และหลังจากที่เฉินเกอออกมาได้ไม่นาน
สวี่ซินก็นั่งรถแท็กซี่ พร้อมกับของขวัญถุงใหญ่มาที่บ้านของตระกูลเจียง
เรื่องของแม่เธอเรื่องนี้เธอก็ได้ยินมาบ้างแล้ว แม้ว่าเมื่อก่อน น้าถางกับแม่ของเธอจะต่อสู้กันทั้งต่อหน้าและลับหลังมาโดยตลอด
แต่ว่าไม่เกี่ยวข้องกับลูกของทั้งสองฝ่าย
ตัวอย่างเช่นหรานหรานมาที่บ้านของตนเอง แม่ของเธอก็จะปฏิบัติกับหรานหรานเป็นอย่างดี
และถ้าตัวเธอเองไปบ้านของหรานหราน คุณน้าถางก็ปฏิบัติต่อเธอค่อนข้างดีเช่นกัน
ดังนั้นหลังจากที่ได้ยินว่าน้าถางได้รับผลกระตุ้น สวี่ซินเลยมาเยี่ยมชม
“เสี่ยวซิน หนูมาแล้วหรอ!”
ถังหรานกล่าว
ส่วนสวี่ซิน แค่เดินเข้ามาก็เห็นเศษแก้วชาที่แตกเป็นเสี่ยงๆอยู่บนพื้น และเห็นเจียงหรานหรานที่กำลังร้องไห้อยู่ ก็ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น จากนั้นไม่นาน
ก็ไปปลอบเจียงหรานหรานที่อยู่ด้านข้าง
“เอาเถอะเหล่าเจียง อย่าโกรธรุนแรงมากขนาดนี้เลย เรื่องครั้งนี้ของคุณ แม้ว่าจะไม่เหมือนเรื่องที่ล้มละลายครั้งก่อน แต่ผลลัพธ์ก็เหมือนกัน มันไม่ได้มีความรับผิดชอบอะไรของคุณเยอะเลย เพียงแต่คุณโดนเชื่อมโยงส่วนเกี่ยวข้องเท่านั้น!”
“มีทางเดียวเท่านั้นที่จะแก้ไขมันได้!”
พ่อหลินกล่าว
“หัวหน้า*หลิน ถ้าอย่างนั้นคุณรีบพูดมาดูสิ!”เจียงเว่ยตงรู้สึกมีพลังขึ้นอีกครั้ง
“เรายังคงต้องพึ่งพาความสัมพันธ์ของบริษัทดรีมเมอร์กรุ้ป และเรื่องนี้ ดีที่สุดคือต้องหาคนดังที่อยู่รอบข้างของคุณชายเฉินถึงจะแก้ไขปัญหาได้!เพราะว่าเพียงแค่พวกเขาคุยดี ๆกับคุณชายเฉินสักหน่อย คุณก็จะไม่เป็นอะไรแล้ว”
พ่อหลินกล่าว
เจียงเว่ยตงกล่าว:“แต่ว่า ประธานหลี่กับประธานจ้าว ที่อยู่รอบข้างของคุณชายเฉิน ฉันสามารถติดต่อเขาได้ที่ไหนล่ะ?”
พ่อหลินกล่าว:“อย่าว่าแต่คุณเลย ฉันก็ไม่สามารถติดต่อได้ ดังนั้น เราหาได้เพียงแค่คนขับรถของประธานหลี่จินเปียวจินเย๋ไม่แน่เขาอาจจะสามารถส่งมอบคำพูดขึ้นไปได้!เพราะว่าจินเปียวเป็นคนสนิทของหลี่เจิ้นกั๋ว คำพูดของเขา ค่อนข้างมีประโยชน์มากที่หลี่เจิ้นกั๋ว ดังนั้น มีเขาช่วยเหลือ เรื่องแค่นี้ของคุณก็ไม่ใช่เรื่องอะไรแล้ว!”
“อีกอย่างฉันก็เคยได้ยืนมาว่า จินเย๋คนนี้ เป็นคนที่กระตือรือร้นมาก คุณเป็นหน่วยงานส่งเสริมการลงทุน ขอร้องให้เขาช่วยจะง่ายมากแน่นอน!”
“แล้วข้อมูลการติดต่อของจินเย๋ คุณมีหรือเปล่า?” เจียงเว่ยตงกล่าว
“อันนี้ฉันก็ไม่มี ฉันก็กำลังหาวิธีติดต่อกับเขาอยู่เหมือนกัน!”
พ่อหลินส่ายหัวอย่างหมดหนทาง
ต่อมาเจียงเว่ยตงก็เริ่มสอบถามข้อมูลติดต่อของจินเปียวอย่างใจจดใจจ่อ
“เออลุงเจียงคะ จินเปียวที่ลุงพูดถึง หนูรู้ว่าใครมีข้อมูลการติดต่อของเขา!”
และสวี่ซินก็ฟังเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องราวครั้งนี้แล้ว จึงแทรกคำพูดพูดขึ้นมา
“ห๊ะ?เสี่ยวซิน ที่หนูพูดเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า?” เจียงเว่ยตงและพ่อหลินต่างก็ตื่นเต้นอย่างไม่คาดคิด
“ค่ะ อีกอย่างครั้งนี้ที่คุณแม่ของหนูสามารถดึงเป้าหมายมาได้เยอะขนาดนี้ ก็เป็นเพราะความช่วยเหลือจากจินเปียวจินเย๋ทั้งนั้น และก็เป็นเพื่อนคนหนึ่งของหนูเป็นคนให้เขาช่วยแม่ของฉัน!”
สวี่ซินกล่าว
และยังมองไปที่การตอบสนองอารมณ์ของถังหรานอย่างระมัดระวัง
“ถ้าอย่างนั้นหนูรีบพูดมา ว่าเพื่อนคนนี้ของหนูคือใคร?แล้วสามารถนัดเขาออกมาทานข้าวได้ไหม เพื่อให้เขาช่วยเราหน่อย!”
เจียงเว่ยตงเดินมาพูดพร้อมกับยิ้มให้สวี่ซิน
“หืม?คุณลุงเจียง ทำไมคุณไม่รู้หรอคะ?พูดตามหลักแล้ว เพียงแค่คุณพูดคำหนึ่ง ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ตามเขาจะช่วยเหลือคุณแน่นอน!”
สวี่ซินกล่าวอย่างสงสัย
“ใคร?”
เจียงเว่ยตงถามด้วยความตกใจ เขายังมีพลังเส้นสายแบบนี้ด้วยหรอ?
“ก็คือเฉินเกอไงคะ จินเปียวกับเฉินเกอมีความสัมพันธ์ที่ดีมาก และเรื่องที่ช่วยแม่ของหนู เฉินเกอแค่พูดกับเขาเพียงคำเดียว จินเปียวก็รีบไปจัดการให้ทันทีเลย!”
สวี่ซินกล่าว
“อะไรนะ?หนูบอกว่าใครนะ?เฉินเกอหรอ?”
เจียงเว่ยตงและถังหรานต่างก็ตกใจกันหมด
เจียงเว่ยตงตกใจ เพราะไม่คิดว่าเฉินจะมีเส้นสายที่แข็งแกร่งขนาดนี้
ส่วนถังหราน ไม่คิดว่าที่เฉินเกอช่วยหลินเสี่ยวเฟิงนั้น เป็นเพราะเดินสายความสัมพันธ์ทางด้านของจินเปียวและหลี่เจิ้นกั๋วโดยตรง
พ่อลูกของตระกูลหลินต่างก็ตกตะลึงเช่นกัน
“เสี่ยวซิน หนูมั่นใจหรอ?ว่าเฉินเกอกับจินเปียวรู้จักกัน?”
เจียงหรานหรานถามขึ้นอย่างผงะ
“อืมๆ อีกอย่างมันไม่ได้ง่ายแค่รู้จักกันเท่านั้น เพราะฉันเห็นจินเปียวแสดงความเคารพต่อเฉินเกอมากเกินไป!”
สวี่ซินกล่าว
สีหน้าของเจียงเว่ยตงซีดขาวไปหมด และรู้สึกว่าบนใบหน้าของเขานั้นร้อนมาก
“เหล่าเจียง ทีนี้เราควรทำอย่างไรกันดี เฉินเกอโดนคุณไล่ให้กลับไปแล้ว!”
แก้มของถังหรานก็รู้สึกเจ็บเช่นกัน
“ฮึ!ถ้าไม่ได้ ก็โทรศัพท์หาเขาให้เขากลับมา!”
เจียงเว่ยตงกล่าวอย่างหายใจติดขัด
“แล้วใครเป็นคนไปโทรล่ะ?เมื่อกี้ฉันใช้คำพูดที่ไม่น่าฟังขนาดนั้น!”
ถังหรานกล่าวด้วยความอับอาย
“หรานหราน ลูกโทรศัพท์หาเฉินเกอหน่อย……”
ถังหรานกล่าว
เจียงหรานหรานพยักหน้า
โทรไปสักพักเธอก็วางโทรศัพท์มือถือลง:“เขาไม่รับ!”
“เฮ้ออ เหล่าเจียง จินเปียวเป็นคนดังที่อยู่ข้างของหลี่เจิ้นกั๋วนะ และตอนนี้ความสัมพันธ์ของเฉินเกอกับจินเปียวดีมากขนาดนี้ ถ้าคุณเดินสายความสัมพันธ์นี้ล้มเหลว คุณสิ้นหวังแน่!”
คนอื่น ๆพูดขึ้นในขณะนี้
เจียงเว่ยตงก็คาดไม่ถึง ว่าตนเองจะมีวันที่ต้องร้องขอให้เฉินเกอช่วย และก็เป็นวันที่หลังจากตัวเองขับไล่เขาไปอีกด้วย
คนที่น่าอับอายที่สุดก็คือเขาเอง
“คุณพ่อคะ หนูรู้ว่าเฉินเกอพักอยู่ที่ไหน ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเราไปหาเขาเถอะ และคุณพ่อก็กล่าวขอโทษกับเขา ไม่แน่เฉินเกอเขาก็อภัยให้ท่านแล้ว?”
เจียงหรานหรานกล่าว
“อะไรนะ?หนูให้พ่อกล่าวขอโทษกับคนอย่างนั้นหรอ?”ดวงตาของ เจียงเว่ยตงจ้องไปที่เธอ