ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่264 เจอเพื่อนเก่า
บทที่264 เจอเพื่อนเก่า
อย่างที่คาดไว้ไม่ผิด ทันทีที่ประตูเปิดออก และตอนที่หญิงสาวกับผู้ช่วยสาวเดินเข้ามาพร้อมกัน
ในที่สุดเฉินเกอก็เห็นใบหน้าของเธออย่างชัดเจน
“หลิวย่าหนาน?ใช่คุณจริง ๆด้วย!”
หลิวย่าหนาน เพื่อนสมัยเรียนมัธยมตอนต้นของเฉินเกอ และก็เป็นลูกสาวของผู้อำนวยการโรงเรียนสมัยเรียนมัธยมตอนต้นของเฉินเกอ และตอนนั้นที่เรียนกับเฉินเกอและลี่เสี้ยวผลการเรียนของพวกเขาดีมาก
และยังเคยเข้าร่วมการแข่งขันบางอย่างภายนอกโรงเรียนด้วยกัน
ความสัมพันธ์ในตอนนั้น ถือว่าค่อนข้างดี
แต่หลังจากนั้น หลังจากที่ทั้งสองคนสอบเข้าโรงเรียนมัธยมปลายเสี้ยนอีจง ก็ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันอีก
ในตอนแรก เพื่อนร่วมชั้นใหม่หลายคนที่ยังไม่รู้จักกัน หลิวย่าหนานยังชวนเฉินเกอไปทานข้าวที่โรงอาหารพร้อมกันอยู่เลย และหลังจากเลิกเรียนก็ยังมาหาเฉินเกอ และพูดคุย เกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเขา
แต่หลังจากผ่านไปไม่กี่วัน หลิวย่าหนานก็ไปทานข้าวกับเพื่อนร่วมห้องของเธอ และความถี่ที่มาหาเฉินเกอพูดคุยกันก็น้อยลงไปเรื่อย ๆ
และต่อมาก็กลายเป็นหนึ่งสัปดาห์เจอกันหนึ่งครั้ง และยังทักทายกันในตอนต้นเทอมอยู่
แต่หลังจากนั้น เมื่อเขาเห็นเฉินเกอก็ราวกับเป็นเพียงแค่อากาศเท่านั้น ไม่สนใจเขาโดยตรงเลย
จนมาถึงช่วงมัธยมตอนปลาย หลิวย่าหนานกับเฉินเกอก็กลายเป็นเหมือนคนแปลกหน้าที่ไม่รู้จักกัน
ต่อมาพวกเขาก็สอบเข้ามหาวิทยาลัย หลิวย่าหนานไปต่อที่มหาวิทยาลัยที่เยี่ยนจิง ส่วนเฉินเกอก็อยู่ต่อที่จินหลิง
จะว่าไป ก็ไม่ได้เจอกันประมาณสามปีแล้ว
ไม่คิดว่าหลิวย่าหนานจะพัฒนาได้ดีมาก และกลายเป็นหัวหน้าแล้ว
“เฉินเกอ?เป็นคุณเองหรอ?”
เมื่อหลิวย่าหนานเห็นเฉินเกอ ก็ตกตะลึงเช่นกัน
นั่นสิ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีแล้ว แต่ช่วงสมัยเรียนมัธยมตอนปลาย การเปลี่ยนแปลงที่ลึกซึ้งของเขากับเฉินเกอจากเพื่อนที่ดีมากกลายมาเป็นคนแปลกหน้าแบบนี้ ในใจของหลิวย่าหนานเข้าใจดีที่สุด
ดังนั้นจู่ ๆมาเจอกันกะทันหันแบบนี้ ก็รู้สึกอับอายและตกตะลึง
“ฉันเพิ่งสำเร็จการเข้างานเมื่อกี้นี้ และเตรียมตัวจะมาทำงานที่นี่!”
เฉินเกอยิ้ม
“ออออ ก็ว่าอยู่!” หลิวย่าหนานยิ้มเบาๆ และมองดูสำเนาเอกสารของเฉินเกอกับหยางหมินเฉว่
“ย่าหนานคุณสุดยอดจริง ๆเลย กลายเป็นหัวหน้าแล้ว!”เฉินเกอกล่าวอย่างชื่นชม หลังจากที่มองตำแหน่งป้ายที่อยู่ตรงหน้าอกของหลิวย่าหนาน
“อืมๆ ขอบคุณ แต่ว่าต่อไปคุณมาทำงานที่นี่ อย่าเรียกฉันว่าย่าหนาน หรือคุณสามารถเรียกฉันว่าหัวหน้าหลิวก็ได้!”
หลิวย่าหนานกล่าวราวกับว่าหลีกเลี่ยงอันตราย
“อืม!”
เฉินเกอพยักหน้า
“ผู้ช่วยหลี่!”หลิวย่าหนานปิดข้อมูลแล้วพูดว่า“อันที่จริง กลุ่มของเราเป็นกลุ่มใหม่ที่เพิ่งตั้งขึ้นมา และขาดพนักงานสองคนจริง ๆ แต่ตอนนี้ กลุ่มของเราเตรียมเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ ดังนั้นในพวกเขาสองคน ฉันเอาแค่คนเดียวเท่านั้น!”
หลิวย่าหนานกล่าว
ในขณะนี้ สีหน้าของหยางหมินเฉว่เต็มไปด้วยความกังวล
ในเมื่อเฉินเกอกับหลิวย่าหนานพวกเขาสองคนรู้จักกัน แน่นอนว่าหลิวย่าหนานต้องเลือกเฉินเกอไม่เลือกตัวเธออย่างแน่นอน
เฮ้อ ทำไมถึงได้โชคร้ายขนาดนี้!
แต่ว่า หลังจากที่หลิวย่าหนานมองไปที่เฉินเกอจางๆ แล้วเขาก็กวาดสายตากลับมาและมองมาที่หยางหมินเฉว่
“หยางหมินเฉว่ กลุ่มของเราตอนนี้ขาดพนักงานหญิงคนหนึ่งพอดี ดังนั้นก็คุณละกัน!”
“ส่วนคุณเฉินเกอ……”
หลิวย่าหนานมองไปที่เฉินเกอและกล่าว“ฉันรู้ว่าแผนกบริการหลังของเราขาดคนคนหนึ่ง คุณไปที่นั่นเถอะ และรับผิดชอบรวบรวมเอกสารต่าง ๆให้กับแต่ละกลุ่ม!”
เฉินเกอยังไม่ได้พูดอะไร
ผู้ช่วยสาวก็พูดขึ้น:“แต่ว่าหัวหน้าหลิว เฉินเกอเขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจินหลิง……”
“ฉันรู้ แต่ฉันก็ไม่มีวิธี ตอนนี้ก็แบบนี้ก่อน แล้วเฉินเกอคุณเห็นด้วยหรือเปล่า ถ้าคุณตกลง ฉันจะย้ายคุณไปที่นั่นก่อน รอให้การทำงานของคุณมีผลงานที่โดดเด่น ฉันสามารถยื่นคำร้องขอต่อฝ่ายบริหาร แล้วค่อยย้ายคุณกลับมาที่แผนกของเราเป็นอย่างไร?”
หลิวย่าหนานยิ้มอย่างไม่ตั้งใจและกล่าว
เพราะอะไรนั้นหรอ
ก็คือไม่ให้ความสนใจไง เพราะว่าตอนที่เรียนมัธยมตอนปลาย จากที่หลิวย่าหนานค่อยๆเติบโตขึ้นทีละก้าว เขาก็รู้สึกว่าอยู่กับเฉินเกอทำให้เขาอับอายขายหน้ามาก
เพราะว่าเขาเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นคนที่ยากจนมากที่สุด
ความอับอาย ผู้หญิงส่วนใหญ่ต่างก็พัฒนาจากตอนนั้นไปถึงขั้นหนึ่ง
และรอจนถึงมหาวิทยาลัย ก็ถึงจุดสูงสุด
“ได้!”
เฉินเกอพยักหน้า มันไม่สำคัญว่าเขาจะได้ไปที่ไหน เพียงแต่ความเฉยชาที่หลิวย่าหนานมีต่อเพื่อนร่วมชั้นเก่าในตอนนี้ ทำให้เฉินเกอรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย
ก็เป็นไปตามเช่นนี้ และหลังจากที่เสร็จสิ้นขั้นตอนการเข้างาน
เฉินเกอกับหยางหมินเฉว่ต่างก็แยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่
พื้นที่สำนักงานของเฉินเกออยู่ที่มุมหนึ่งของล็อบบี้ เขาจัดการแฟ้ม และเอกสารแจกจ่ายวัสดุของสิ่งของบางอย่าง
แบบนี้กำลังดีและถูกแล้ว ที่ข้อมูลบางอย่างถูกส่งผ่านมือของตัวเอง และแบบนี้ก็สะดวกต่อการตรวจสอบอีกด้วย
จากนั้น ตอนที่เฉินเกอกำลังล้างมือในช่วงที่เข้าห้องน้ำอยู่ จู่ ๆก็ได้ยินเสียงคุยโทรศัพท์ดังมาจากทางห้องน้ำหญิงอย่างคลุมเครือ
“สองสามวันนี้คุณก็รีบหาเวลามาสัมภาษณ์เถอะ ให้ไว้เลย ตำแหน่งงานฉันได้เก็บไว้ให้คุณแล้ว คุณฝันหวานอย่างมีความสุขได้เลย!”
เป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง
“คุณพูดอะไรนะ?ไม่ใช่ว่าไม่มีตำแหน่งแล้วหรอ?เฮ้อ ตอนแรกไม่มีแล้วจริง ๆ น้องภรรยาคนหนึ่งของผู้นำเราจะมา แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ครั้งนี้น้องภรรยาของเขาไม่ได้มา แต่กลับมีเพื่อนร่วมชั้นสมัยมัธยมตอนต้นของฉันคนหนึ่งมา เหอะๆ เขาหรอ ฐานะครอบครัวเป็นอย่างไรฉันรู้ดี หาตำแหน่งอะไรก็ได้ให้เขาก็พอแล้ว ดังนั้นฉันจึงคิดวิธีนี้ขึ้นมาทันที และย้ายเขาไปที่แผนกการบริการหลังแล้ว และเขาก็ตอบตกลงอย่างมีความสุข ดังนั้นคณต้องรีบแล้วนะ ชักช้าไม่รอนะ!”
เฉินเกอที่กำลังฟังอยู่
ตอนนี้สีหน้าของเขาซีดเล็กน้อย
เสียงนี้ ไม่ใช่หลิวย่าหนานยังจะเป็นเสียงใคร
ที่แท้ เมื่อกี้เธอกำลังใช้กลอุบายกับเขาจริง ๆ
เฉินเกอยังครุ่นคิดอยู่ในใจ เมื่อกี้ผู้ช่วยสาวคนนั้นทำไมถึงตกตะลึงขนาดนั้นและเป็นเพราะอะไร
ที่แท้ก็เพราะหลิวย่าหนานกำลังจัดเตรียมรับคนของเขาเข้ามา
และก็เป็นน้องภรรยาของผู้นำอะไรสักอย่างอีกด้วย
ดูเหมือนว่าบริษัทการลงทุนที่ก่อตั้งขึ้นใหม่นี้จะยุ่งเหยิงมาก
เฉินเกอยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเข้ามาเป็นสายลับในครั้งนี้ เขาได้รับรู้อะไรมากมาย
ในเมื่อหลิวย่าหนานไม่ได้ให้ความสำคัญกับมิตรภาพ และถ้าถึงเวลา เฉินเกอก็ไม่จำเป็นต้องไว้หน้าเธอเลยสักนิด
ในขณะนี้ เฉินเกอได้จดจำเรื่องนี้ไว้ในใจ แล้วเขาก็กลับไปทำงานต่อ
งานทั้งวันของเขาค่อนข้างที่จะว่างและน่าเบื่อ
ไม่นาน ก็ถึงเวลาตอนเย็นที่เลิกงาน
เดิมที ในระหว่างวันของวันนี้หยางหมินเฉว่ได้นัดกับเขาไว้ว่า หลังเลิกงานไปทานอาหารมื้อเย็นด้วยกัน
อาจเป็นเพราะหยางหมินเฉว่รู้สึกว่าตนเองได้เข้าแผนก และเฉินเกอไม่ได้เข้า เธอเลยมีความรู้สึกผิดเล็กน้อยมั้ง
เพราะเฉินเกอรู้ ว่าผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างดูแลอารมณ์และความรู้สึกของผู้อื่นเป็น
เฉินเกอคิดในใจ ทานข้าวด้วยกันนิ ก็ไม่ได้มีอะไรจึงตอบตกลงไป
ดูเหมือนแผนกของพวกเธอกำลังประชุมอะไรกันอยู่
เฉินเกอจึงลงมารออยู่ที่ชั้นล่าง
หลังจากผ่านไปประมาณสิบนาที หยางหมินเฉว่ก็ออกมา
แต่เธอไม่ได้ออกมาคนเดียว และเธอออกมาพร้อมกับหลิวย่าหนาน
“เฉินเกอ ฉันลืมบอกคุณ คืนนี้ ฉันไม่สามารถเชิญคุณทานอาหารได้แล้ว หัวหน้าหลิวบอกว่าจะแนะนำเพื่อนคนหนึ่งให้ฉันรู้จัก และให้ฉันไปทานอาหารเย็นด้วยกัน!”
หยางหมินเฉว่ยิ้มและพูดด้วยท่าทีที่ขอโทษ
“แน่นอนไม่มีปัญหา คุณไปเถอะ!”เฉินเกอยิ้มอย่างขมขื่น
ส่วนหลิวย่าหนานก็เพียงแค่มองไปที่เฉินเกอ ก็ถือว่าได้กล่าวทักทายเฉินเกอแล้ว จากนั้นก็ไปขับรถแล้วพาหยางหมินเฉว่จากไป
ส่วนเฉินเกอ ก็เลยเลือกที่จะกลับโรงแรม
ทันใดนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นกะทันหัน
และคนที่โทรเข้ามาก็คือหลี่เจิ้นกั๋ว……