ทายาทเศรษฐีฉบับหนุ่มจน / ที่แท้….ฉันเป็นลูกเศรษฐี - บทที่71 เจ้าของลัมโบร์กีนี
บทที่ 71 เจ้าของลัมโบร์กีนี
“คุณชายหลี่รีบดูนั่นสิ ไอ้คนกระจอกที่คุณบอก เดินตรงไปที่รถลัมโบร์กีนี นู่นแล้ว!”
“เหอะๆ ลัมโบร์กีนี รถหรูโด่งดังขนาดนั้น คนกระจอกอย่างเขาต้องเข้าไปดูอยู่แล้ว ไม่แน่นะ เขาอาจจะถ่ายรูปลงโพสต์ในเฟสบุ๊คก็ได้ บอกคนอื่นว่าตัวเองเท่ห์ขนาดไหน คนแบบนี้มีเยอะแยะไป!”
พวกผู้หญิงต่างพากันดูถูก
“คงงั้นแหละ คนแบบนี้ ทำอะไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง!”
หลี่เจี้ยนฝืนยิ้มอย่างขมขื่น
“จริงสิคุณชายหลี่ คุณทราบรึเปล่าว่ารถคันนี้เป็นของใครกันแน่!”
“ไม่ทราบเหมือนกัน แต่ชิ้นส่วนและการตกแต่งของรถคันนี้ ผมเข้าใจดี ทั้งคันนี้ออกแบบมาระดับพรีเมี่ยม! ขนาดการเจียระไนของอะไหล่ธรรมดา ยังผ่านการคำนวณมาอย่างเคร่งครัด สร้างและควบคุมโดยช่างที่มีประสบการณ์กว่าสิบปีเชียวล่ะ!
หลี่เจี้ยนยิ้มและพูดขึ้น
“ห้ะ? คุณชายหลี่ พอคุณพูดเรื่องนี้ขึ้นมา ฉันชักสนใจเรื่องนี้แล้วสิ พอจะอธิบายให้ฉันฟังได้บ้างไหม ให้พวกเราได้เข้าใจเรื่องนี้กันหน่อย!”
ผู้หญิงคนหนึ่งในกลุ่มทำสีหน้าตกใจขึ้นมาทันที
พวกหล่อนพูดเช่นนี้ นอกจากอยากเข้าใจเรื่องรถหรูคันนี้แล้ว
ยังเป็นการถ่วงเวลาอีกด้วย
ลองคิดดูสิ ตอนนี้เพิ่งจะเก้าโมงสิบโมง ถ้าพวกหล่อนลองพูดสถานที่สักแห่งหนึ่ง และให้คุณชายหลี่ไปส่ง พวกหล่อนก็ต้องบอกลากับคุณชายหลี่แล้วสิ
ถ้าถ่วงเวลาออกไปได้ คงถึงเวลาอาหารกลางวันพอดี ยังไงคุณชายหลี่คงต้องเลี้ยงอยู่แล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ ความรู้สึกระหว่างกันก็จะลึกซึ้งมากขึ้น
อดพูดไม่ได้เลยว่าผู้หญิงพวกนี้ลูกไม้เยอะเหลือเกิน
ยังไงก็ตาม หลี่เจี้ยนไม่ได้คิดอะไรมากมาย เขาจอดรถไว้ด้านข้าง จากนั้นเดินนำกลุ่มเข้าไป
เขาไม่ได้รู้สึกอิจฉารถแลมโบกินีคันนี้แม้แต่น้อย เพราะเขาเข้าใจดีว่า ถึงแม้ว่าเขาจะขยันพยายามไปทั้งชีวิต ก็ไม่มีทางที่จะไปถึงจุดนั้นได้
พูดพลางเฉินเกอเดินเข้ามา
“อะแฮ่ม คุณผู้หญิงครับ รบกวนขยับนิดนึงได้ไหมคะ?”
เฉินเกอจับจมูก มองไปที่หญิงสาวผมยาวตรงหน้าที่บังอาจนั่งถ่ายรูปเซลฟี่อยู่บนกระโปรงรถแลมโบกินี
“มีสิทธิ์อะไรมาบอกให้ฉันขยับ นายเป็นใคร? ออกไปซะ!”
หญิงสาวผมยาวพูดด้วยความโมโห
เสื้อผ้าบนเรือนร่างของคนผู้นี้ดูดีมาก แต่ทว่า ฉันเจอชายหนุ่มรูปหล่อเศรษฐีมาเยอะแยะ แต่นายเป็นใครมาจากไหนกัน
กล้ามาบอกให้ฉันขยับออก?
“นายเป็นใคร! ดูสิดู มีสิทธิ์อะไรมาบอกให้ฉันออกไป?”
“เหอะๆ เข้าใจว่าเราเป็นผู้หญิง อาจจะรักสวยรักงาม ชอบถ่ายรูปเซลฟี่ เห็นรถหรูก็อิจฉา คิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายอย่างนายจะน่าเกลียดขนาดนี้ ยังจะมาถ่ายรูปเซลฟี่ด้วย!”
“ใช่ อย่ามาขายหน้าตรงนี้เลย!”
ผู้หญิงที่อยู่ราบล้อมหญิงสาวผมยาว ต่างพากันไม่พอใจเดินตรงมาที่เฉินเกอ
ด่าเฉินเกอจนไม่เหลือสิ้นดี
ให้ตายเถอะ เขาเพิ่งจะพูดไปประโยคเดียว สุดท้ายกลับถูกคนอื่นมาด่าว่าตัวเองมากขนาดนี้?
“เฉินเกอเกอช่างคิดจริงนะ อยากถ่ายเซลฟี่แบบไหนล่ะ? อยากให้ฉันช่วยไหมล่ะ?”
ทันใดนั้น หลี่เจี้ยนเดินเข้ามา
หลังจากเหลือบมองดูเฉินเกอ เขาก็หันมองไปที่สาวสวยที่อยู่หน้ากระโปรงรถ
“สาวสวย เชิญคุณนั่งตามสบายเลยนะครับ รถลัมโบร์กีนีมีโครงสร้างดีกว่ารถแข่งแบบอื่น แข็งแกร่งมาก ไม่ต้องกังวลน้ำหนักของคุณเลยครับ!”
“ฮ่าๆๆ ขอบคุณนะคะสุดหล่อ พูดเก่งจังเลย ไม่เหมือนผู้ชายบางคน น่ารังเกียจเหลือเกิน! จริงสิ สุดหล่อ ช่วยฉันถ่ายรูปหน่อยได้ไหมคะ ฉันอยากถ่ายรูปคู่กับรถคันนี้!”
สาวผมยาวเริ่มรู้สึกประทับใจในตัวของหลี่เจี้ยนมากขึ้น
หลี่เจี้ยนยินยอมแน่นอน เขาซื้อรถโฟล์กสวาเกนคันนี้มาเพื่ออะไร? ก็เพื่ออวดสาวไงล่ะ
เขารีบพยักหน้าลงทันที
“นี่พี่เฉินเกอ นายอย่าบังกล้องสาวๆได้ไหม?”
“ให้ตายเถอะ รีบออกไปสิ!”
สาวผมยาวพูดด้วยความไม่พอใจ
“เหอะๆ เกรงว่าคนที่ต้องออกไปคือพวกเธอ!” เฉินเกอพูดอย่างเย็นชา
ตอนแรกเขาคิดง่ายๆ แค่ให้สาวสวยขยับนิดหน่อย จากนั้นค่อยขับรถออกมา พอถึงตอนนั้นพวกหล่อนอยากจะถ่ายก็ถ่ายตามใจชอบ
สุดท้ายกลับถูกดูถูกข่มเหง ตอนนี้กลับถูกสาวสวยด่า
โดยเฉพาะหลี่เจี้ยน ตั้งแต่เจอกันเมื่อครู่ก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล อยากจะมาเปรียบเทียบกับคนอย่างฉัน?
เอาความต่ำต้อยของตัวเอง มาพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาเก่งขนาดไหน?
ดูถูกตัวเอง เพื่อเติมเต็มศักดิ์ศรีของตัวเขา?
เฉินเกอรู้สึกว่าถ้าตัวเองยังคงถ่อมตนต่อไป คงแย่แน่ ไม่เหลืออะไรแน่นอน ไม่ว่าใครก็ทำร้ายเขาได้งั้นเหรอ
ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ความถ่อมตัวยังจะมีประโยชน์อะไรต่อไปอีก?
“นายให้ฉันเดินออกไป? นายกล้าว่าฉัน?”
สาวผมยาวตะคอกด่าด้วยความไม่เข้าใจ
เมื่อโมโหขึ้นมาก็อยากลงไม้ลงมือ
biubiu!!
จากนั้น รถลัมโบร์กีนี ที่ทิ้งไว้ไม่ได้ใช้เป็นเวลานานหนึ่งเดือน มีแสงสว่างกระพริบขึ้นมาทันที
หลังจากนั้น เสียงสตาร์ทรถก็ดังขึ้นต่อ
ประตูด้านหน้าถูกเปิดออกอัตโนมัติ
แสงสว่างจากไฟรอบคัน ส่องสว่างขึ้นมาทันที
ราวกับเป็นสัญญานดีใจที่รอเจ้านายกลับมานานแสนนาน
เฉินเกอวางกุญแจในมือลง
จากนั้นค่อยๆเข้าไปนั่งที่คนขับ
บรรยากาศเงียบสงัด แม้ว่าจะอยู่ภายในสวนสาธารณะ แต่ตอนนี้มีผู้หญิงนับสิบคนที่ยืนอยู่บริเวณนั้น
แต่เงียบได้ไม่นาน ราวกับผู้คนทั้งโลกประชุมปรึกษากันเรียบร้อย ผู้คนบริเวณนั้น เงียบสงบ ไร้เสียงผู้ใด
ทุกคนต่างพากันเบิกตาโตกว้าง
ปากและตาของหลี่เจี้ยน เบิกกว้างมากกว่าใคร
เอ่อ…ที่แท้เฉินเกอก็คือเจ้าของรถลัมโบร์กีนี คันนี้?
“ว๊าย! ! !” ทันใดนั้นมีเสียงกรีดร้องดังขึ้น ทำลายความสงบของทุกคน
“เขา เขาเป็นเจ้าของรถ ว๊าย! ! !”
“คุณชาย หล่อจังเลยค่ะ คุณชายชื่ออะไรเหรอคะ?”
“คุณชายแอดวีแชทกันได้ไหมคะ?”
มีผู้หญิงที่มีความกล้าทำท่าทางราวกับเจอเน็ตไอดอลที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เดินโผเข้าหารถของเขา
รถลัมโบร์กีนี ราคาสิบแปดล้าน เป็นรถหรูแน่นอน!
รถคันนี้ช่างบาดตาบาดใจสาวๆเหลือเกิน
เฝ้ารอวันที่ดวงดาวส่องประกาย รอแล้วรอเล่า สุดท้ายคุณชายที่เฝ้ารอก็ปรากฏตวขึ้น!
เฉินเกอนั่งอยู่ภายในรถ แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพกันเสียงที่ดี แต่เขายังคงได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดของเหล่าผู้หญิงดังเข้ามา
พูดตามจริง ตอนนี้เฉินเกอรู้สึกมีความสุขมาก
สิ่งหนึ่งคือในที่สุดเขาก็ได้ขับรถของตัวเอง
อีกอย่างก็คือ ในที่สุดเขาได้อวดความเท่ห์ของตัวเอง
“ปิ๊น! ปิ๊นๆ!”
เฉินเกอลดกระจกหน้าต่างลงมา
ยิ้มและคุยกับหลี่เจี้ยนที่ยืนหน้าเจื่อนอยู่ด้านข้าง “คุณชายหลี่ลองขึ้นมาขับดูไหมล่ะ?”
คำพูดเช่นเดียวกัน แต่กลับถูกเฉินเกอพูดโต้กลับ
หลี่เจี้ยนกลืนน้ำลาย รถคันนี้ ให้ตายยังไงเขาก็ไม่มีทางกล้าขับ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น ตอนนี้สีหน้าของเขาเขียวหมดแล้ว
ตัวเองดูถูกคนอื่น แต่ความเป็นจริงเขากลับรวยมากขนาดนี้
อีกอย่างเมื่อครู่ตัวเขาเองยังไปพูดหยอกล้อเขาอีก
ที่เขาไม่ได้ตอบโต้ไม่ใช่เพราะอ่อนแอ แต่เป็นเพราะหลี่เจี้ยนเป็นเพียงแค่ตัวตลกในสายตาของคนตรงหน้า
รถโฟล์คสวาเกนของตัวเองสามแสน รถคันนี้สิบแปดล้าน ให้ตายเถอะ ซื้อรถของเขาได้ถึงหกคัน?
นี่ยังไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวที่สุด สิ่งที่น่ากลัวคือ ตัวเองไปทำเรื่องทุเรศใส่เศรษฐีใหญ่ท่านนี้มากมายเท่าไหร่กัน?
สาวสามคนที่นั่งอยู่บนรถหลี่เจี้ยน ต่างพากันหัวเราะเยาะ
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหญิงสาวผมยาวเมื่อครู่ที่นั่งอยู่หน้ากระโปรงรถของเฉินเกอ ทั้งยังด่าวาเขาเสียๆหายๆ
โดยสรุปแล้ว เมื่อทุกคนเห็นเรื่องราวตรงหน้า ต่างพากันตกตะลึงไปทันที!
ท่ามกลางเสียงกรีดร้องอื้ออึง เฉินเกอขับรถออกไปจากตรงนั้น
เฉินเกอแสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่สนต่อหน้าทุกคน อันที่จริงเป็นเพราะเขาทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว
ทันใดนั้น มือถือของเฉินเกอดังขึ้น
แน่นอนว่าเป็นสายเรียกเขาจากซูมู่หาน
เขากดปุ่มรับสาย
“เฉินเกอนายอยู่ที่ไหน? ทำไมยังไม่ถึงอีกล่ะ รีบมาเร็วๆสิ ถ้าไม่ไหวก็เรียกรถแท็กซี่ ฉันรอนายอยู่ที่หน้าประตูวิลล่ายู่หลง”
“โอเค ผมใกล้ถึงแล้ว”
เฉินเกอตอบ
เพียงแต่ ขณะที่กำลังจะวางสาย เหมือนเฉินเกอได้ยินซูมู่หานพูดขึ้นด้วยความตื่นตกใจ “แย่แล้ว หลุดปากพูดออกไปแล้ว!”
อีกทั้งเสมือนมีผู้หญิงคนหนึ่งยืนอยู่ข้างหล่อน ถามขึ้น “มู่หาน เฉินเกอเป็นแฟนเธอไม่ใช่เหรอ เขารวยไม่ใช่เหรอ ทำไมต้องเรียกรถแท็กซี่ด้วยล่ะ?”