ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่ - ตอนที่ 13
เปลี่ยนจากอุปกรณ์นางฟฟ้าหรือเทพ เป็น อุปกรณ์เทวะ
———————————————–
คราวนี้โครงกระดูกก็ยังกลับมารวมตัวกันอีกครั้งแต่ครั้งนี้กลับหลงเหลือเพียงภาพลวงตาจาๆที่ดูเหมือนจะหายไปได้ทุกเมื่อ
“อะไรว่ะ?”
หัวใจของโครงกระดูกบีบตัวเล็กน้อยและเขามองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงง
“นี่มัน … กระดานหมากรุก?”
“ไม่ใช่ นี่มันไม่ใช่กระดานหมากรุกธรรมดาหรือว่าจะเป็นอุปกรณ์ระดับเทวะอีกชิ้น!”
“!”
หัวใจของโครงกระดูกกำลังเต้นอย่างบ้าคลั่งนี่เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาจริงๆหรือ?
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ตราบเท่าที่ข้าสามารถควบคุมมนุษย์คนนี้ได้สิ่งประดิษฐ์เทวะเหล่านี้ก็จะเป็นของข้า
แม้ว่าจะได้รับผลกระทบทางใจสองครั้ง แต่มันก็ยังมีความมั่นใจในการรับมือกับมนุษย์
มันเดินผ่านกระดานหมากรุกอย่างช้าๆ และประตูอยู่ห่างจากมันเพียงเอื้อม
ทีละก้าวๆ ขณะที่มันกำลังจะเดินออกจากประตู
ทันใดนั้นแสงสีทองก็ปรากฏขึ้นราวแสงแห่งความลุ่มหลงที่บังคับให้มันกลับไป!
“ มีอะไรอีกว่ะ?”
มันเดาได้มานานแล้วว่าสิ่งต่างๆจะไม่ง่ายขนาดนี้และเมื่อหันมอง ก็มีชั้นวางหนังสือตั้งอยู่ข้างๆ บนชั้นหนังสือมีหนังสือสีเหลืองที่มีตัวหนาขนาดใหญ่สามตัวพิมพ์อยู่
“ พระสูตร”!
แสงสีทองที่แผ่ออกมาจากพระคัมภีร์เป็นชั้น ๆ พร้อมกับความเจิดจรัสของคุณธรรมที่เรืองรอง
“นี่คือ?”
โครงกระดูกมองไปที่พระสูตรอย่างสงสัยและไม่เห็นความผิดปกติใดๆแม้แต่น้อย
ในขณะนี้แสงสีทองแผ่กระจายบนพระสูตรโดยไม่คาดคิด แสงสีทองรวมตัวเป็นพระรูปหนึ่ง
เมื่อพระเห็นโครงกระดูกและท่านพนมมือประสานกันด้วยความสงสาร: “อามิตตาพุทธ ประสกนั้นทรมาณมามากเกินไปแล้วทำไมไม่วางมีดดาบและหันหน้าเข้าสูทางพุทธ เป็นศิษย์ของพระพุทธองค์”
ตายซะ !”โครงกระดูกยกมือขึ้นขณะที่ออร่าของดาบพุ่งไปที่พระศีรษะล้าน
ใบหน้าของพระสงฆ์จมลงเขาเปลี่ยนสีหน้าทันทีและพูดอย่างเย็นชาว่า: “เดรัจฉานตัวน้อยกล้าปั้นทักษะเล็ก ๆ น้อย ๆ สู้ข้าหรือ เทียนหลง, โลกกษิติกัรบา, ปราจนาพุทธ, ปาณา ปามาคง” (ผู้แปล ไม่ได้เชี่ยวชาญในเรื่องบทสวด จะแปลพออ่านได้นะครับ)
ทันใดนั้นแสงสีทองก็ถูกปล่อยออกมาและข้างหลังของพระรูปนี้มีเงาลางๆของพระสงฆ์จำนวนนับไม่ถ้วนกำลังสวดมนต์และคัมภีร์นับไม่ถ้วนหล่นลงทับดาบปีศาจ
แสงพระสีทองพุ่งเข้าใส่ดาบปีศาจทีละคน
ไม่นานทุกอย่างก็กลับสู่ความสงบ
ร้อง
หลี่เหนี่ยนฟ่านเปิดประตูและเข้ามาข้างในบ้าน
“ เมื่อกี้ข้าดูเหมือนจะได้ยินอะไรบางอย่าง”
เขามองไปรอบ ๆ เห็นดาบปีศาจที่ตกลงมาอยู่ที่ประตูเขาผงะเล็กน้อยและพึมพำ: “ข้าจำได้ว่าวางมันไว้ที่มุมทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ตามที่ คาดที่คิดไว้มันเป็นทารกและมันจะเคลื่อนที่ไปทั่ว?”
หลี่เหนียนฟานดีใจมากและวางดาบปีศาจกลับมาอีกครั้ง
ดาบปีศาจ: ข้าช่างเป็นอะไรที่เด็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ่งของในห้องของท่าน ข้าเป็นขยะโปรดปล่อยข้าไปเถิดดดดด
ไม่ว่ามันจะโง่แค่ไหนมันก็รู้ว่าหลี่เหนียนฟานไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาแน่นอนและมีความเป็นไปได้สูงที่พลังเหนือธรรมชาติ
“ ว่ากันว่าพวกผู้ยิ่งใหญ่ชอบใช้สวรรค์และโลกเป็นเกมหมากรุกเ ข้าจะเป็น **** ที่เขาเลือกได้ไหม” ดาบปีศาจสั่นสะท้าน“ ข้าไม่อยากเป็นเบี้ยโปรดปล่อยข้าไปและอย่าปล่อยให้พระกลุ่มนั้นอ่านพระคัมภีร์อีกมันก้องเข้ามาในหู ช้าจนแทบจะตาย”
เป็นที่น่าเสียดายที่พระสูตรถูกปิดผนึกไว้และไม่สามารถแม้แต่จะพูดได้
โดยธรรมชาติ หลี่เหนี่ยนฟ่านไม่สามารถได้ยินเสียงพูดคนเดียวภายในของ ดาบปีศาจ เขารู้สึกว่าลานภายในของเขาขาดความมีชีวิตชีวาและกำลังวางแผนที่จะปลูกบอนไซ
น่าเสียดายที่เขาเดินไปรอบ ๆ ในป่าในตอนเช้าและไม่เห็นพืชที่เหมาะสม
หาโอกาสถาม ลั่วซือหยูเธอเป็นผู้ฝึกตนดังนั้นให้เธอช่วยหาดอกไม้บอนไซ.sh
ข้าไม่เพียง แต่ชวนเธอไปทานอาหารค่ำ แต่เขายังช่วยให้คำแนะนำเธอด้วย มันไม่มากเกินไปที่จะขอบอนไซและผู้หญิงคนนั้นเป็นคนช่างพูดและไม่น่าปฏิเสธ
แต่ หลี่เหนียนฟานไม่รู้ว่า ราชวงศ์เฉียนหลงตอนนี้ จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์อยู่ในระหว่างการศึกษเขาขมวดคิ้วที่เต็มไปด้วยความโกรธ
“ ตูม!”
เขาโยนรางานในมือกระแทกโต๊ะและพูดอย่างโกรธเกรี้ยวว่า : “ไม่มีเหตุผลไม่มีเหตุผล! ข้าคือจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์หรือมันคือจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์?”
ขันทีโดยรอบทั้งหมดโค้งคำนับและพวกเขาไม่กล้าหายใจ
ดาดาดา.
cv **** มีเสียงฝีเท้าจากน้องห้อง
องค์จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เจ้าหญิงองค์ที่สองและจักรพรรดินีกำลังขอพบท่านนอกประตู”
“พวกนางมาที่นี่เพื่ออะไร?” จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ถึงกับผงะไปชั่วขณะ “ศโดยเร็ว”
ลั่วซือหยูและ จงซิ่ว ก้าวเข้ามาและพูดเป็นเสียงเดียวกัน: ” (องค์จักรพรรดิ)”
“ชิหยูเจ้ามาที่นี่ทำไม?” จักรพรรดิมองไปที่ทั้งสองและถาม
คิ้วขมวดของเขาเหยียดขึ้นเล็กน้อยมองดูดวงตาของลั่วซือหยู ดวงตาเขาเป็นประกายด้วยความรักและความรู้สึกผิด
ลั่วซือหยูเป็นลูกสาวคนแรกและลูกสาวที่รักที่สุดของเขา เขาต้องการทำให้เธอมีชีวิตที่ไร้กังวล แต่เขาไม่สามารถทำได้ในฐานะจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
“จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เราเพิ่งได้ยินว่าท่านโกรธตอนอยู่ที่ประตูเกิดอะไรขึ้น?” จงซิ่วถาม
ต้วนมู่เจิน กล้าพูดถึงการแต่งงานระหว่างลูกชายของเขากับซือหยู ในวันนี้เขาพยายามบังคับให้ข้าให้คำสัญญาการแต่งงานกับเขา มันไม่มีเหตุผลเลย!” จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์กล่าวด้วยเสียงต่ำ
จงซิ่ว และ ลั่วซือหยูมองหน้ากันและถอนหายใจด้วยความโล่งอก
พวกเขาไม่คาดคิดว่าต้วนมู่เจินจะกล้าขนาดนี้เขากร่างมาก
แต่ตอนนี้โชคดีที่ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญไม่อย่างนั้นข้าไม่รู้จะทำอย่างไร
ทันใดนั้นจงซิ่วยิ้มและกล่าวว่า “จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องกังวลต้วนมู่เจินแสดงให้เห็นว่าเขารอไม่ได้นี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย”
“ เจ้าหมายความว่าอะไร” จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ผงะเล็กน้อย
เพื่อที่จะต่อสู้กับราชวงศ์มังกรอมตะเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหมั้นกับ ลั่วซือหยูกับลูกชายของราชครูด้วยเหตุนี้ ลั่วซือหยูจึงทะเลาะกับเขาบ่อยครั้งและ จงซิ่ว ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ก็ไม่มีทางเลือกอื่น
ทำไมวันนี้พวกนางดูเปลี่ยนไปอกะทันหัน?
โดยไม่คาดคิด ลั่วซือหยูยิ้มจริง ๆ และกล่าวว่า: “ท่านพ่ออันที่จริง ท่านสามารถผ่อนคลายสักหน่อยและแสร้งทำเป็นว่าเห็นด้วยกับคำขอของต้วนมู่เจินก่อน”
“เจ้าให้ข้าเห็นด้วย?” จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ตกตะลึงอย่างสิ้นเชิงและกล่าวอย่างไม่เข้าใจว่า: “เจ้าคิดว่าดีลูกชายของต้วนมู่เจินหรือ?”
ลั่วซือหยูตะคอกอย่างเย็นชา: “แม้ว่าข้าจะตาย ข้าก็ไม่แต่งงานกับไอ้ขยะนั่น!”
“ แล้วเจ้าป็นอะไร” จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์สับสน
ดวงตาของ ลั่วซือหยูเต็มไปด้วยความสุขและพูดอย่างตื่นเต้น: “พ่อข้ามีวิธีแก้ปัญหาอยู่แล้ว!”
“จริงๆ?”
เฉิงฮวงดูมีความสุข แต่ก็ขมวดคิ้ว: “ถ้ามีวิธีทำไม เจ้าต้องการให้ข้าสัญญาว่าจะแต่งงานกับลูกชายของต้วนมู่เจิน?”
“ ทานพ่อเราทำอย่างนี้ได้ … ”
ทันที ลั่วซือหยูอธิบายวิธีการที่ หลี่เหนี่ยนฟ่านพูด
“ดีดีดี!”
ทันใดนั้นจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ก็ก็รู้สึกดีขึ้นมาก
ด้วยวิธีนี้ไม่เพียง แต่จะทำให้พลังของอีกสองฝ่ายอ่อนแอลงเท่านั้น แต่ยังใช้โอกาสในการเสริมสร้างพลังด้วยซึ่งเหมาะมาก!
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์มองไปที่ ลั่วซือหยูและพูดอย่างทุกข์ใจ: “มันทำให้เจ้าเจ็บปวด”
แผนนี้ไม่เพียงต้องการให้เขาไปหมั้นกับ ลั่วซือหยูกับลูกชายของต้วนมู่เจินแต่ยังต้องการให้ ลั่วซือหยูติดต่อกับลูกชายของนายกรัฐมนตรีด้วย การเสียสละของ ลั่วซือหยู มันยิ่งใหญ่มาก
“ข้าสบายดี สองคนนี้ไม่ใช่เรื่องดีข้าสามารถสอนพวกเขาเองได้ว่ามันสายเกินไปที่จะมีความสุข” ลั่วซือหยูยิ้มอย่างเย็นชา แต่ก็กระตือรือร้นที่จะลองเล็กน้อย
เธอมีความมั่นใจในตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นลูกชายของราชครูหรือลูกชายของนายกรัฐมนตรีการจ้องกินเธอไม่ใช่เรื่องง่ายและเธอจะทำให้เขาเต้นอยู่บนฝ่ามือของเธอ
ความรู้สึกนี้จะต้องสดชื่นมาก
“ฮ่าฮ่าฮ่าซือหยูข้าไม่ได้ทำร้ายเจ้า แต่ข้าสามารถแบ่งปันความกังวลให้เจ้าได้” จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์หัวเราะด้วยความสุขและยินดีมาก
ลั่วซือหยูยิ้มอย่างเชื่องช้า “เอ่อพระบิดานี่ไม่ใช่สิ่งที่ข้าคิดขึ้นมา แต่ผู้เชี่ยวชาญสอนข้า”
“ใครกันที่มีความสามารถเช่นนี้ความสามารถเช่นนี้ต้องถูกเรียกตัวเข้าสู่ราชวงศ์อมตะโดยเร็วข้าจะอวยยศจิ่วชิงแก่เขา!” เขากังวลเล็กน้อย
ลั่วซือหยูยิ้มอย่างขมขื่น: “พ่อข้ากลัวว่าคนๆนั้นจะดูถูกเรา”
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ขมวดคิ้วและพูดด้วยความโกรธ:อวดดียิ่งนัก! มันคิดว่ามันเป็นเทพเหรอ?”(ใช่ไง)
ลั่วซือหยูอดไม่ได้ที่จะนึกถึงรอยยิ้มเหยียดหยามของ หลี่เหนี่ยนฟ่าน เทพตรงหน้าเขานับเป็นอะไร?
จงซิ่วอดไม่ได้ที่จะพูดจากด้านข้าง: “จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์คนผู้นี้เป็นผู้เชี่ยวชาญข้าเกรงว่า … จะเป็นอมตะจริงๆ!”
“อะไร?!”
เฉิงฮวง ยืนขึ้นใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
เขารู้ว่าราชินีจะไม่พูดมั่วๆตามใจตนเองและเมื่อนางพู เขาจึงมั่นใจแล้วกว่าครึ่ง
“ พ่อผู้เชี่ยวชาญคนนี้น่าทึ่งจริงๆ” ดวงตาของ ลั่วซือหยูเต็มไปด้วยความชื่นชมและความรักและเธอเล่าให้ฟังถึงประสบการณ์ที่ได้เห็น หลี่เหนี่ยนฟ่านเป็นครั้งแรกและได้เห็น หลี่เหนี่ยนฟ่านเป็นครั้งที่สอง
“นี่นี่นี่ … “
หลังจากฟังคำอธิบายของ ลั่วซือหยูอารมณ์ขององค์จักรพรรดิก็อดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและหัวใจของเขาก็ปั่นป่วน
แตงโมเปรียบได้กับผลไม้วิญญาณ อาหารแสนอร่อยควบคู่ไปกับภูมิปัญญาที่สามารถขจัดวิกฤติของราชวงศ์เฉียนหลงเซี่ยนได้อย่างง่ายดาย
นี่คือวิธีการของผู้อมตะมีแน่นอน!
80% ของตัวละครเหล่านี้เป็นอมตะจริงๆ!
“ผู้ยิ่งใหญ่ที่ซ่อนอยู่ในเมือง! คาดไม่ถึงว่าบุคคลระดับสูงนี้จะอยู่ในราชวงศ์มังกรอมตะและข้าไม่เคยพบเลย” เฉิงฮวง อุทานด้วยตกใจ
เขามีความคิดในใจมากกว่าที่ ลั่วซือหยูคิด
บุคคลที่มีตำแหน่งสูงเหล่านี้มีเลย์เอาต์ที่ดีที่สุดและมักจะกวนโลกได้
เขาสามารถแก้วิกฤตของราชวงศ์เฉียนหลงอมตะได้ตามต้องการนั่นหมายความว่าเขาสามารถผลักราชวงศ์เฉียนหลงลงสู่ก้นบึ้งได้อย่างง่ายดาย!
ถึงแม้เขาจะไม่จำเป็นต้องแสดงเป็นการส่วนตัวเขาแค่ต้องจัดฉากเบื้องหลังเท่านั้นและเขาสามารถเล่นกับผู้คนในโลกได้!
“อย่ารุกราน!” ใบหน้าของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยความสยดสยองและเขาอดไม่ได้ที่จะเน้นว่า “เป็นโอกาสที่ดีที่จะได้พบกับตัวละครเช่นนี้และเราต้องทำทุกอย่างเพื่อให้พอใจ”
ลั่วซือหยูกล่าวด้วยความเห็นชอบอย่างยิ่ง: “พ่อแม่ของข้าและข้ารู้เรื่องนี้โดยธรรมชาติเมื่อข้าพบผู้เชี่ยวชาญครั้งแรกข้าให้จี้หยกทั้ที่ท่านข้ากับเขา”
“เจ้าทำถูกแล้ว!” เฉิงฮวง พยักหน้าอย่างชื่นชม“ คงเป็นเพราะความจริงใจของการพบกันครั้งแรกของเจ้าที่ทำให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยเหลือเรา
“ อย่างไรก็ตามจี้หยกก็เล็กเกินไปแล้วช่างเป็นการดูถูกผู้เชี่ยวชาญ!”
การตัดสินใจบางอย่างได้เกิดขึ้นแล้วในหัวใจของจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์
เพียงแค่เขาต้องจัดวางแผนบางอย่างก่อนที่จะไปพบผู้เชี่ยวชาญ
ราชครูและนายกรัฐมนตรีคราวนี้ข้ามีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยข้า มีนไม่ง่ายที่จะจัดการกับพวกเจ้า?