ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่ - ตอนที่ 164
ตอนที่ 164
ตอนก่อนแปลผิดจาก เต้าห เป็น เต้าเจี้ยว ขอโทษด้วยนะครับ
หลี่เหนียนฟานและ ต้าจีนั่งลง
ในไม่ช้จานที่เต็มไปด้วยเสี่ยวหลงเปาและเต้าหูสองชามก็มาถึงโต๊ะ กลิ่นหอมลอยตีหน้าพวกเขา
“ยะ!”
การกินเสี่ยวหลงเปากับเต้าหูหนึ่งคําทําให้ร่างกายอบอุ่นคลายความหนาวได้ดี
ในขณะเดียวกันเจ้าของร้านร้านก็นําจานอีกสองสามจานมาที่โต๊ะ มีไข่ปรุงสุกและอาหารเบา ๆ อื่น ๆ เขายิ้ม และพูดว่า“นายน้อยหลี่ นี่เครื่องเคียง!”
หลี่เหนียนฟานอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “เจ้าของร้านร้าน ท่านใจดีเกินไปแล้ว!”
เจ้าของร้านร้านพูดทันทีว่า “ท่านพูดแบบนั้นได้ยังไง? ธุรกิจของข้ารุ่งเรืองขึ้นเพราะท่าน!ข้าหวังว่าท่านจะ มากินอาหารร้านข้าบ่อยมากขึ้น เพื่อที่ข้าจะได้เรียนหลายๆอย่างจากท่านบางที่ลูกชายของข้าอาจกลายเป็นคนที่มีการศึกษาและนําความรุ่งโรจน์มาสู่ครอบครัว!”
“ฮ่าฮ่าฮ่า! แน่นอน!” หลี่เหนียนฟานหัวเราะ เขาถามด้วยน้ําเสียงสงสัยเจ้าของร้านร้านข้าได้ยินคนพูดถึงสายฟ้ามีอะไรเกิดขึ้นหรือ?”
“นายน้อยหลี่ ท่านไม่รู้เหรอเจ้าของร้านอ้าปากค้าง จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า” เมื่อคืนสายฟ้าฟาดต้นไม้เก่าแก่ข้างประตูเมืองลั่วเซียนจนขาดออกเป็น 2 ส่วน !”
หลี่เหนียนฟานขมวดคิ้ว
เจ้าของร้านร้านถอนหายใจและพูดต่อ”ต้นไม้เก่าแก่ต้านั้นอยู่ที่นี่มาหลายชั่วอายุคนแล้วข้าจําได้ว่าข้าเคยปืนขึ้นไปเล่นต้นไม้เมื่อข้ายังเด็กใครจะไปคิดว่าสายฟ้าจะผ่าไม่ให้เหลือครึ่งเดียว!ผู้คนที่เห็นเล่าว่าสายฟ้านั้นหนาพอ ๆ กับฝาบาตร!”
หลี่เหนียนฟานถามว่า “ต้นไม้เก่าแก่อยู่ทางประตูทิศตะวันออกหรือ?”
เจ้าของร้านร้านกล่าวว่า “ใช่! แต่ข้าพบว่ามันแปลกที่ต้นไม้เก่าแก่ล้มลงแต่ไม่ได้ทับคนหรือสิ่งก่อสร้างใดๆเลย ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่าต้นไม้นั้นมีชีวิต! !”
“เจ้าของร้านร้านท่านมีไวน์ไหม” หลี่เหนียนฟานถาม
“มี นายน้อยหลี่ รอสักครู่”
หลังจากนั้นครู่หนึ่งเจ้าของร้านก็แอบหยิบขวดไวน์ออกมาจากด้านล่างของคอกของเขา“ไวน์ของข้าพิเศษมากนานๆที่จะข้าจิบครั้งหรือสองครั้งและเก็บมันไว้.อย่างไรก็ตามมันไม่ดีต่อสุขภาพที่จะดื่มในตอนเช้า”
หลี่เหนียนฟานยิ้ม “ข้ารู้ ขอบคุณที่บอกข้า”
“ไม่เป็นไร.” เจ้าของร้านยิ้ม.
หลี่เหนียนฟานเช็ดปาก “ต้าจี เจ้าอิ่มแล้วเหรอ”
ต้าจีพยักหน้า หลี่เหนียนฟานวางเงินลงบนโต๊ะและลุกขึ้นยืน “ไปกันเถอะ”
หลังจากนั้นไม่นานเจ้าของร้านก็ส่งเสียงเรียกตามพวกเขา “นายน้อยหลี่ เงินของท่าน”
“ไม่ มันคือเงินของท่าน!” หลี่เหนียนฟานตอบอย่างหน้าด้าน เขาอารมณ์ดี เขาถือขวดไวน์ไว้ในมือขณะที่เดินไปทางประตูทิศตะวันออก
ต้าจีถามว่า“นายน้อยหลี่ ท่านจะไปดูต้นไม้เก่าใช่ไหม”
“ใช่.” หลี่เหนียนฟานพยักหน้า
“ต้นไม้ค่อนข้างเก่า ข้ารู้สึกประทับใจเมื่อได้เห็นครั้งแรก ใครจะคิดว่ามันจะถูกฟ้าผ่า”
พวกเขาเดินผ่านถนนสายยาวและข้ามสะพานตรงข้ามตลาด
ในไม่ช้าทั้งสองก็มาถึงทางด้านตะวันออกของเมือง
แม้ว่าจะเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้ แต่ก็ยังมีคนจํานวนมากมารวมตัวกันที่ต้นไม่ในวันนี้ ทุกคนเต็มไปด้วยอารมณ์เศร้าและความเสียใจขณะที่พวกเขาพูดคุยและถอนหายใจอยู่รอบ ๆ ต้นไม้
ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุและเด็ก
“ต้นไม้ต้นนี้มีอายุมากกว่าพันปี อยู่ที่นี่มาตั้งแต่ยุคทวดของข้า”
“เฮ้อช่างน่าเสียดาย สายฟ้าฟาดลงบนต้นไม้เก่าแก่นี้”
“เจ้ารู้ไหมว่าช่วงนี้มีฟ้าร้องและฟ้าแลบมาก? ลูกชายของข้าเดินทางเพื่อไปค้าขายและเขาบอกว่าเมื่อเร็ว ๆนี้มีเหตุการณ์ฟ้าผ่าในที่ต่าง ๆ มากมายโดยเฉพาะในพื้นที่ภูเขาแม้ว่าจะไม่มีเมฆบนท้องฟ้าแต่เจ้าก็จะยังได้ยิน เสียงฟ้าร้อง!”
หลี่เหนียนฟานยืนอยู่ข้างๆฟังการพูดคุยของพวกเขา ขณะที่เขาสังเกตเห็นต้นไม้เก่าแก่ขนาดมหึมา
รากของต้นไม้เก่าแก่งอกขึ้นมาจากพื้นดินเติบโตไปตามพื้นดินและก่อตัวเป็นเส้นทางคล้ายเครือข่ายใต้เท้าของผู้คนล่าต้นของต้นไม้นั้นหนามากดูเหมือนว่าจะต้องใช้ผู้ใหญ่เป็นสิบคนถึงจะโอบมันได้
ส่วนที่น่าทึ่งที่สุดคือการที่ลําต้นหนาแยกออกในแนวตั้ง ลําต้นทั้งสองข้างล้มไปคนละทางขวางทางเดินนอกจากนี้ยังมีรอยไหม้ที่กลางลําต้น
เขาสามารถบอกได้ว่าก่อนที่มันจะตายในยิ่งใหญ่เพียงใด
หลี่เหนียนฟานอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นเพื่อสัมผัสลําต้นของต้นไม้เก่าแก่ เปลือกนั้นหยาบหนาและเต็มไปด้วยรอยขรุขระ ราวกับเป็นบันทึกของชีวิตของมัน
เขามองไปรอบ ๆ และสายตาของเขาก็เห็นบางสิ่ง ในใจกลางของสีดําที่ไหม้เกรียมนั้นมีหน่อใหม่ที่อ่อนโยนยื่นออกมาหน่อสีเขียวนี้เด่นชัดท่ามกลางสีดําที่ไหม้เกรียมและราวกับมันเป็นสัญญาลักษณ์ของความตายและการเกิดใหม่ หลี่เหนียนฟานยิ้มด้วยความยินดี
“ต้นไม้เก่าแก่ถ้าท่านมีจิตวิญญาณในตัวของท่าน! ข้าหวังว่าท่านจะกลับมายืนหยัดและได้รับชีวิตใหม่!”หลี่ หนียนฟานจิบไวน์แล้วเอียงขวดเทไวน์ลงบนรากของมัน
เมื่อเขาอยู่ในโลกผู้ฝึกตน หลี่ เหนียนฟานก็ไม่พบว่าเป็นเรื่องแปลกที่ต้นไม้จะมีวิญญาณและฝึกตนได้ไม่ว่ามันจะมีวิญญาณอยู่ภายในหรือไม่ก็ตาม มันควรได้รับความเคารพที่มันปกป้องเมืองจากลมและฝนพายุมาเป็นเวลาหลายปีและการตายของมันก็ไม่ได้ทําร้ายใครเลย!
เมื่อหลี่เหนียนฟานพร้อมที่จะจากไปก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคย “นายน้อยหลี่?”
หลี่เหนียนฟานชะงัก “เจ้าของร้านขายปลา?”
ชายคนนี้เป็นชาวประมงจากร้านขายปลา!
หลี่เหนียนฟานยิ้ม “วันนี้ไม่ขายปลาที่แผงของท่านเหรอ? ข้าคิดจะซื้อปลาสองตัวจากท่าน!”
“ข้ามาที่นี่เพื่อดูต้นไม้ ถ้านายน้อยหลี่ต้องการซื้อปลาตามข้ามาเลย” วันนี้ชาวประมงอารมณ์ดีเขายิ้มและพูดว่า “ตอนนอสูรในทะเลสาบจิงเยว่ถูกฆ่าไปแล้วตอนนี้ข้ามีปลาทุกชนิดข้ามั่นใจว่าท่านจะพอใจ”
“ฮะ?” หลี่เหนียนฟานรู้สึกประหลาดใจ “อสูรถูกฆ่า?”
“ใช่! ให้ข้าบอกท่าน ข้าเกือบถูกอสูรกิน!“คนขายปลาพูดหน้าแดงด้วยความตื่นเต้น” อสูรนั้นน่ากลัวมากเกินกว่าจะจินตนาการ! มันเป็นหอยเป๋าฮือตัวใหญ่กว่าผู้ชายวะอีก! มันอ้าปากและดูดข้าเข้าไป มันน่ากลัวมาก!โชคดีที่ข้าได้พบกับผู้ฝึกตนบางคนที่ลงมาจากท้องฟ้าพวกเขาช่วยชีวิตข้าตอนที่ข้าห่างจากความตายเพียงเสี้ยววินาที! ท่านไม่รู้หรอกว่ามันน่ากลัวแค่ไหนข้าอยู่ห่างจากอสูรหอยเป๋าฮือเป็นหนึ่งเซนติเมตร!”
คนขายปลาแสดงท่าทางด้วยมือของเขาอย่างหลากหลาย ในขณะที่เขาอธิบายประสบการณ์ของเขา
หลี่เหนียนฟานยิ้มโดยไม่พูด
อสูรเป๋าฮือ?
ไม่ใช่หอยเป๋าฮือที่ฉันม่านหยุนกับถั่วซื่อหยูเอามาให้ครั้งก่อนเหรอ?