ที่จริงแล้ว ข้าคือเซียนผู้ยิ่งใหญ่ - ตอนที่ 36
แก้จาก ราชาปีศาจ 2 หัว เป็น ราชาปีศาจ 2 ตัว ช่วงแปลตอนที่ 35 เบลอและง่วงมากๆ
———————————————————————————-
ปีศาจหมาป่าเชิดจมูกขึ้นและมันอ้าปากที่มีเขี้ยวยาวก่อนพูดด้วยความประหลาดใจ: “ใช่มันเป็นกลิ่นของจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางจริงๆ”
ราชาปีศาจวัวหัวเราะที่แฝงด้วยความโกรธ: “ฮ่า ๆ ๆ ราชาผู้นี้คือนักคำนวณที่เก่งกาจ วิธีหาจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางได้โดยตรงคือ การตามรอยกลิ่น พวกนั้นมันโง่จริงๆ”
”ข้าไม่เคยคิดเลยว่า จิ้งจอกตัวนี้กล้าแปลงร่างจริงๆ เราเคยไล่ล่ามันมาทั่วโลกและเราก็คุ้นเคยกับกลิ่นของมันอยู่แล้ว!” ประกายแสงที่ดุร้ายฉายในดวงตาของปีศาจหมาป่า
”ถ้ามันไม่แปลงร่าง เราจะกล้ากลับมาจับมันอีกครั้งดเหรอ” ปีศาจวัวพยักหน้า ร่องรอยความกลัวปรากฎในดวงตาของวัว
จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางมีพลังมากมาย แค่คิดถึงนางมันก็ยังเต็มไปด้วยความกลัว
ในตอนนั้นราชาของพวกมันตกหลุมรักปีศาจจิ้งจอกหกหางและต้องการจับมันกลับมาและทำให้เป็นนางสนม สุดท้ายแล้ว แม้ว่านางจะถูกทำร้ายบาดเจ็บหนักแต่ก็หลบหนีไปได้สำเร็จ
แต่พวกมันไม่เคยคิดว่าสุนัขจิ้งจอกจะปรากฏตัวอีกครั้ง ไม่เพียงแต่อาการบาดเจ็บของนางหายจะเป็นปกติ ระดับการฝึกตนก็ก้าวกระโดอย่างรวดเร็ว
จากนั้นนางก็แข็งแกร่งมากขึ้นและในเวลาเพียงไม่กี่ปี นางก็ได้มาถึงระดับจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางและในตอนท้ายแม้แต่ราชาก็ยังต้องหลีกเลี่ยงนาง
ทว่าตอนนี้นางเลือกที่จะแปลงร่าง!
เราต้องจับนางตอนที่นางอ่อนแอที่สุดได้!
ปีศาจวัวถามว่า “เมื่อเราพบแล้วเราต้องการรายงานต่อราชาไหม”
”รายงานอะไรกัน ตอนนี้นางเพิ่งผ่านทัณฑ์จากสวรรค์มาได้นางต้องอ่อนแอมากแน่ๆ เราต้องจับนางไว้ก่อน! “ปีศาจหมาป่าพูดเชิงเยาะเย้ย
ปีศาจวัวรู้สึกพูดอย่างตื่นเต้น: “ใช่เมื่อเราจับจิ้งจอกฟ้าเก้าหางได้แล้วราชาจะยกย่องเราอย่างมาก”
ปีศาจหมาป่ายิ้มอยู่ในใจ
เหตุใดจึงต้องมอบจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางให้กับราชา? รางวัลใหญ่จะมีค่าเท่ากับจิ้งจอกฟ้าเก้าหางเหรอ?
แก่นของสัตว์อสูรแปลงร่างเป็นโอสถชั้นยอดเมื่อกลืนเข้าไปแล้วข้าจะต้องกลัวราชาอีกหรอ?
ทันทีพวกเขาเดินไปที่ลานบ้าน
ในขณะที่พววกมันเดินเข้าไปลานบ้านที่ดูสงบค่อยๆปรากฎขึ้นในระยะสายตาของพวกมัน
ปราณของที่นี่เดีมาก ภูเขาและน้ำทะเลใสสวยงาม จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางรู้ดีว่าควรเลือกที่ไหน” ปีศาจหมาป่าอดไม่ได้ที่จะพูดมันมองไปที่ลานกว้างและมีสีที่น่าหลงใหลในดวงตาของมัน “ข้าสามารถใช้สิ่งนี้เป็นบ้านของข้าในอนาคตได้ “
บ้านของข้า?
เมื่อพวกมันหันไปที่ประตูบ้านก็พบว่ามีนักปราชญ์คนหนึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่หน้าลาน
ใบหน้าของนักปราชญ์ดูทรงภูมิ เขานั้นดูเป็นมนุษย์ธรรมดาโดยสิ้นเชิงและความประทับใจแรกของเขาที่ให้มาคือความอ่อนแอ
“ นักปราชญ์ผู้น่าสงสารมาจากไหนกัน ข้าสามารถกินเครื่องเซ้นนี้ได้ก่อน” ราชาปีศาจหมาป่า เลียปากของมันและกล่าวอย่างไม่ใส่ใจ
ตามสายตาของนักปราชญ์พวกเขาพบว่ามีโคลงอยู่ที่ประตู
ทันใดนั้นทั้งร่างของพวกเขาก็สั่น
“ โคลงกลอนนี้มีคำหนทางแห่งวิถีเต๋าอยู่จริงๆ!” ปีศาจหมาป่าอุทาน“ นี่เป็นสมบัติที่ไม่มีอะไรเทียบได้! บางทีมันอาจจะถูกทิ้งไว้โดยผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ก่อนที่เขาจะกลายเป็นเทพเซียน!”
หลังจากนั้นพวกเขาก็เห็นจี้หยกข้างคู่กลอนและความโลภก็ปรากฎในดวงตาของพวกมัน
”สถานที่แห่งนี้เป็นสถานที่สันโดษที่ผู้ยิ่งใหญ่ มูลค่าของมันเทียบได้กับแดนสวรรค์!” ปีศาจหมาป่าส่งเสียงพึมพำและเขาก็ตกตะลึงกับสถานที่แห่งนี้ “ที่นี่ มันจะเป็นที่ของข้านับจากนี้!”
ไม่น่าแปลกใจที่จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว นางได้รับอากาศนี้!
แข็งแกร่ง ข้าจะแข็งแกร่ง!
ปีศาจวัวและปีศาจหมาป่าตัวสั่นด้วยความตื่นเต้นและใบหน้าของทั้งสองตัวเต็มไปด้วยสีแดงแห่งความยินดี
ปีศาจหมาป่าแทบรอไม่ไหวและเดินตรงไปที่โคลงคู่และจี้หยกพยายามหาสมบัติในกระเป๋าของเขา
”หยุด!”
เมิ่งจุนเหลียงตะโกนเสียงดังยืนขึ้นจากหินขมวดคิ้วและมองไปที่ปีศาจทั้งสอง “นี่ไม่ใช่สถานที่ที่เจ้าควรมาและโคลงคู่นั้นไม่ใช่สิ่งที่เจ้ามีคุณสมบัติพอที่จะเห็น ออกไปจากที่นี่! “
ปีศาจหมาป่าและปีศาจวัวมองไปที่นักปราชญ์อย่างว่างเปล่าราวกับว่าพวกเขาไม่เชื่อหูของพวกเขา
ปีศาจวัวจ้องมาที่ตัวเองและถามว่า “เจ้ากำลังคุยกับเราอยู่หรือเปล่า?”
เมิง จุนเหลียง พยักหน้า “ใช่แล้วเจ้า”
ปีศาจหมาป่าและปีศาจวัวมองหน้ากันและในเวลาเดียวกันก็ยกมือขึ้นแตะศีรษะของพวกเขา
ถูกต้องหัวของเขายังคงเป็นหัวสัตว์ประหลาดไม่ใช่มนุษย์
มันไม่ง่ายเลยที่มนุษย์จะไม่เป็นลมโดยไม่กลัว แต่ยังกล้าพูดกับตัวมันแบบนี้อีก?
ปีศาจหมาป่าหัวเราะด้วยความโกรธ “เป็นแค่มนุษย์ที่เทียบได้กับมด กล้ามากที่พูดกับข้าแบบนี้ ช่างกล้า!”
เสียงของมันต่ำมากและทันทีที่มันพูดจบลมกระโชกที่มีกลิ่นเหม็นก็พัดออกมาจากปากของมันโดยต้องการที่จะทำให้นักปราชญ์กลัวว่าจนฉี่ikf
เสื้อผ้าของนักปราชญ์กำลังโบกสะบัดตามแรงลม แต่เขายังคงมองไปที่ปีศาจทั้งสองด้วยสีหน้าไร้ซึงความกลัว
”มีโอกาส 80% ที่มนุษย์คนนี้จะโง่ไม่ก็สมองมีปัญหา” ปีศาจวัวได้ข้อสรุปดังกล่าว
ปีศาจหมาป่าพยักหน้าและพูดว่า “ลืมไปเถอะ ถ้าข้ากินมันสมองข้าคงมีปัญหาด้วยแน่ๆ”
พวกเขาเพิกเฉยต่อนักปราชญ์และยังคงเดินไปที่โคลงคู่
ใบหน้าของเมิ่งจุนเหลียงมืดลงเล็กน้อยเขายกขาขึ้นและเดินลงจากก้อนหินขวางหน้าปีศาจทั้งสอง“ ดื้อรั้นดื้อรั้น ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของปรมาจารย์หลี่จะถูกทำให้สกปรกโดยพวกเจ้าได้อย่างไร!”
ความอดทนของปีศาจหมาป่าหมดลงอย่างสมบูรณ์และความตั้งใจในการฆ่าที่รุนแรงของเขาก็พุ่งทะยานและมันก็คำราม: “นักปราชญ์ตัวเหม็นข้าอยากจะฆ่าเจ้าหลังจากได้สมบัติมา แต่เจ้าก็ยังพูดมาก ตาย!”
มุมปากของปีศาจวัวแสดงให้เห็นส่วนโค้งที่กระหายเลือด “ข้าต้องแสดงให้เจ้าเห็นว่าความโหดร้ายเป็นเช่นไร!”
วู้ว!
ลมปีศาจสีดำถูกปลดปล่อยออกมาลมปีศาจนี้นั้นคมกว่าใบมีดและมันพุ่งเข้าหาเมิ่งจุนเหลียงด้วยพลังเช่นนี้เมิงจุนเหลียงต้องถูกตัดเป็นชิ้นๆแน่
เมิ่งจุนเหลียงยังคงยืนอยู่บนที่นั้น ผมยาวปลิวไสว เสื้อคลุมนักปราชญ์โบกสะบัดอย่างรุนแรง แต่ร่างกายของเขายังมั่นคงเหมือนภูเขาไท่ซาน
แต่ลมจากไหนไม่รู้ซํดใส่พวกมันจนเซวนเซ!
ลมแปลก ๆ พัดมาจากร่างของนักปราชญ์ เมื่อมองดูราวกับว่าเขาอยู่เพียงคนเดียวบนโลก
”เป็นไปได้ยังไงกันร”
ปีศาจหมาป่าและปีศาจวัวอุทานด้วยความไม่อยากเชื่อ
เมิ่งจุนเหลียงส่ายหัวยกมือขึ้นมองปีศาจทั้งสองและถอนหายใจเบา ๆ : “จากเถ้าสู่ธุลี จากดินสู่ปฐพี”
ตูม!
แรงกดดันขนาดมหึมาร่วงหล่นลงมาจากท้องนภา
ท้องนภาเริ่มปั่นป่วน กฎเกณฑ์มหาศาลไหลย้อนกลับ
”ไม่ ไม่……”
”อี๊ก!”
ปีศาจวัวและปีศาจหมาป่าไม่สามารถขยับได้ ร่างกายที่สันเท่าของมันมีเพียงความหวาดกลัวที่หลงเหลือยู่
พลังทำลายกฎเกณฑ์ทำให้พวกมันมีแต่ความสิ้นหวัง
ในช่วงเวลาต่อมาร่างกายของพวกเขาก็ค่อยๆเปลี่ยนไปและเปลี่ยนเป็นร่างเดิม
”แอ่ว-“
”หมู่ -“
ไม่มีการต่อสู้ที่งดงามและไม่มีพลังวิญญาณที่ทำให้โลกแตกสลายเพียงครู่เดียวราชาปีศาจทั้งสองก็กลับสู่สภาพเดิม
ในที่เกิดเหตุเหลือเพียงวัวและหมาป่านอนอยู่บนพื้นอย่างอ่อนแรงแม้แต่วิญญาณชั่วร้ายก็หายไปดูเหมือนว่าพวกเขาจะกลายเป็นวัวธรรมดาและหมาป่าไปแล้วจริงๆ
เมิง จุนเหลียง มองไปที่พวกเขาส่ายหัวและถอนหายใจเล็กน้อย: “มันไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสัตว์ที่จะฝึกตนให้แข่งแกร่ง แต่น่าเสียดายที่เจ้าคิดผิดไป”
หลังจากพูดแล้วเขาก็มองไปที่โคลงอีกครั้งยกมือขึ้นโค้งคำนับลึกไปที่ลานแล้วเดินออกไปอย่างช้าๆ