ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 103 ไอศกรีมหนึ่งคำ ชำระล้างหนึ่งครา
ได้อานิสงส์แล้ว ได้อานิสงส์แล้ว!
จักรพรรดิลั่วและลั่วซืออวี่ลอบปลื้มปริ่มอยู่ลึกๆ
ข้าคิดถูกแล้วที่มาส่งจดหมาย ทันทีที่ปรมาจารย์ดีอกดีใจขึ้นมา ก็จะมอบของให้เล็กน้อย และของเหล่านั้นก็ล้วนมีค่าทั้งสิ้น!
ก้อนน้ำแข็งถึงกับกินได้ หนำซ้ำยังเป็นก้อนน้ำแข็งสีเหลืองด้วย
ที่สำคัญก็คือนี่เป็นถึงน้ำแข็งที่ก่อตัวขึ้นจากผลึกธาตุน้ำแข็งเชียวนะ!
หลี่เนี่ยนฝานไม่ได้ใส่ใจปฏิกิริยาตอบสนองของเขา ทว่ากำลังถือไอศกรีมขึ้นมาลิ้มลองอย่างตื่นเต้นโดยมิได้
แยแสสิ่งรอบตัว
ชั่วขณะนั้น ความรู้สึกเย็นยะเยือกก็แผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่าง พานให้สมองของเขาโปร่งโล่งแจ่มแจ้ง บอกได้คำเดียวว่า สดชื่น!
ส่วนประกอบซึ่งเลือกใช้ทำไอศกรีมในครั้งนี้ก็คือส้ม เปรี้ยวๆ หวานๆ กระตุ้นต่อมรับรสได้ดีทีเดียวเชียวละ ทำให้หลี่เนี่ยนฝานหลับตาพริ้มอย่างสบายอารมณ์ ร่างกายผ่อนคลายยิ่งนัก ก
ความรู้สึกมัน…ไม่ได้สัมผัสมานาน!
เมื่อเห็นว่าหลี่เนี่ยนฝานกินอย่างเอร็ดอร่อยยั่วยวนชวนหิวปานนั้น จักรพรรดิลั่วก็ไม่รอช้า รีบหยิบไอศกรีมมาตรงหน้าทันที
ทันใดนั้น ไอเย็นระลอกหนึ่งก็ถั่งโถมเข้ามา ความเย็นเปลี่ยนรูปเป็นสสารกวัดแกว่งอยู่ต่อหน้าเขา ต่อให้มีพลังบำเพ็ญระดับเขาก็ต้องสั่นสะท้านอย่างห้ามไม่อยู่
สมแล้วที่เป็นไอเย็นจากผลึกธาตุน้ำแข็ง น่ากลัวยิ่งนัก!
จักรพรรดิลั่วสูดลมหายใจเข้าลึก โคจรพลังปราณในร่างจนถึงขีดสุด สีหน้าขึงขังประหนึ่งกำลังเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ
นี่เป็นถึงผลึกธาตุน้ำแข็งเชียวนะ พลังทำลายล้างน่าสะพรึงกลัว จะประมาทไม่ได้
หลังจากเตรียมใจอย่างเต็มที่แล้ว เขาจึงแลบลิ้นออกมาอย่างระแวดระวัง ก่อนจะเลียบนยอดของไอศกรีมแท่งนั้น
แพล็บ!
ทันทีที่แตะโดนไอศกรีม จักรพรรดิลั่วก็สัมผัสได้ว่าไอเย็นแผ่เข้าโอบล้อมเรียวลิ้นอย่างอหังการ ในชั่วพริบตาเดียว บนลิ้นของตนก็มีน้ำค้างขาวจับตัวแน่น
เขากำลังจะใช้พลังปราณละลายออก ทว่าไอเย็นบนไอศกรีมกลับพอกหนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พลังปราณในร่างพลอยถูกแช่แข็ง จนโคจรพลังปราณได้ช้าลงอีกหลายเท่า!
เขาหน้าพลันถอดสี กระนั้นยังไม่ทันได้ไตร่ตรองให้ถ้วนถี่ ก็รู้สึกว่าเลือดลมในร่างถึงกับหยุดไหลเวียนทันใด หยาดน้ำค้างแข็งเข้าปกคลุมหลอดเลือด ทำให้ลมหายใจเริ่มติดขัด
ยามนั้น แม้ภายนอกเขาจะดูปกติไม่มีสิ่งใดเปลี่ยนแปลง ทว่าภายในกลับกลายเป็นมนุษย์น้ำแข็งเย็นเยือกไปแล้ว
นี่ นี่มัน…
ผลึกธาตุน้ำแข็งมีไอเย็นที่แข็งแกร่งถึงขนาดนี้ได้อย่างไรกัน
นัยน์ตาของเขาหดวูบ ความตื่นตระหนกใจทบทวีขึ้น สัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวมหาศาล ราวกับว่าชีวิตจะหาไม่ได้ตลอดเวลา
นอกจากการขบคิด เขาไม่อาจทำสิ่งอื่นใดได้แล้ว
ครั้นตระหนักได้ว่าตนกำลังจะถูกแช่แข็งนั้นเอง รสเปรี้ยวหวานก็พลันแผ่ซ่านมาจากลิ้น
เขาจึงพบว่าแท่งน้ำแข็งซึ่งตนเลียนั้นได้หลอมละลายไปส่วนหนึ่ง เย็นวูบวาบราวกับตนลงไปลอยอยู่ในน้ำเย็น ครานี้หาได้เป็นการโจมตีดุดัน หากแต่เหมือนสายลมแผ่วเบาพัดมาทำให้รู สึกเย็นสบายเสียมากว่า
จากนั้นน้ำเย็นเหล่านี้ก็ไหลรินลงในลำคอ ทุกหนทุกแห่งที่ไหลไปก็ล้วนทำให้สั่นสะท้านไปทุกอณูทั้งสรรพางค์กาย ชำระล้างทุกรูขุมขน
ซู่!
จักรพรรดิลั่วตัวสั่นเทิ้ม รู้สึกประดุจเพิ่งผลัดเนื้อเปลี่ยนกระดูก จุดต่างๆ ในร่างกายซึ่งถูกน้ำแข็งผนึกไว้เริ่มหลอมละลายราวกับเกล็ดหิมะในวสันตฤดู พลังชีวิตในร่างก็เริ่ม มฟื้นฟูกลับมา
“อู้ว”
เขาส่งเสียงร้องอย่างห้ามไม่อยู่ ความอ่อนล้าทั้งร่างพลันมลายสูญ
รสชาติเลิศล้ำ!
สดชื่นเหลือเกิน!
เขาสาบานว่าน้ำเย็นนี้เป็นสิ่งล้ำค่าที่สุดที่เขาเคยกินมา ถึงขั้นว่าทำให้เขาสัมผัสได้ถึงความเลอค่าเสียยิ่งกว่าชาประจักษ์มรรคา!
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก ยังคงสัมผัสได้ถึงความเย็นเบาบางซึ่งยังหลงเหลืออยู่
พลังปราณกลับมาโคจรดังเดิม ทั้งยังบริสุทธิ์และควบคุมได้คล่องตัวขึ้นอย่างถนัดตา
นี่มัน…การชุบหลอม?
เขาอ้าปากพะงาบ ไม่รู้ว่าควรบรรยายความรู้สึกของตนในตอนนี้ว่าอย่างไร
ไอเย็นในไอศกรีมถึงกับควบแน่นพลังปราณในร่างกายได้!
ชั่วขณะนั้น เขาพลันรู้สึกว่าตนโชคดีไปถึงจิตวิญญาณ
ที่แท้…ไอศกรีมแท่งนี้ก็เป็นการฝึกฝนอย่างหนึ่ง!
แรกเริ่มมันจะแช่แข็งทุกสิ่งในร่างกาย ทำให้ตนสัมผัสความสิ้นหวังรุนแรงทิ่มแทงกระดูก ทว่าหลังจากนั้นเมื่อไอศ กรีมละลายก็จะกลายเป็นน้ำหวาน ไม่เพียงอร่อยล้ำ แต่ยังเสริมสร้างร ร่างกาย ทำให้ตนฟื้นฟูสภาพกลับมาในชั่วพริบตา!
ไอศกรีมนี้ ยามลิ้มลองคำแรกจะนำพาความรู้สึกประดุจย่างเข้าใกล้ความตาย ทว่าขอเพียงอดทนข้ามผ่านไป ก็จะทำให้พลังชีวิตเพิ่มพูนขึ้น และได้รับสิ่งดีล้นฟ้าอีกมากโข!
ใช่แล้วละ ไม่ผ่านพายุฝนไหนเลยจะได้เห็นสายรุ้ง ขอเพียงผ่านพ้นความทรมาน จึงจะเข้าใจว่าความสุขหลังจากนั้นมีค่าเพียงใด!
ใต้หล้าไม่มีสิ่งใดได้เปล่า ตราบใดที่มีความกล้าหาญไม่หวั่นเกรงสิ่งใด จึงจะมีคุณสมบัติได้รับโอกาสนี้!
คุณชายกำลังเคี่ยวกรำจิตใจของพวกข้าอยู่ชัดๆ!
มีเจตนาดีพยายามช่วยพวกข้า!
ในยามนั้น เขารู้สึกว่าไม่ได้มีเพียงพลังปราณของตน แม้แต่ห้วงความคิดของตนก็ถูกชำระล้าง
จักรพรรดิลั่วมองไอศกรีมในมืออย่างทึ่มทื่อ แต่ใครเล่าจะคาดคิดว่าอาหารแสนธรรมดาเช่นนี้จะระคนไปด้วยโชคล้นฟ้า!
อาหารเทพเซียน สมแล้วที่เป็นอาหารของเทพเซียน!
หัวใจของเขาโครมคราม บังเกิดความรู้สึกครั่นคร้ามต่อไอศกรีมขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
ถึงกับรู้สึกไม่กล้ากินต่ออยู่บ้าง
ไอศกรีมแท่งนี้ถึงแม้จะเป็นของดี แต่ถึงอย่างไรทุกครั้งที่เลีย ทั้งสรรพางค์กายก็จะแข็งทื่อประหนึ่งย่างเข้าใกล้ความตาย จำต้องใช้ความอาจหาญเป็นอย่างมาก
อาหารก็ดีอยู่หรอก แต่กินแล้วออกจะเสี่ยงชีวิตไปสักหน่อย
อาหารของปรมาจารย์ไม่ได้กินง่ายจริงๆ!
จักรพรรดิลั่วลอบมองหลี่เนี่ยนฝาน กลับเป็นว่าสีหน้าของเขานิ่งสงบ ไอศกรีมในมือถูกกินไปจนเกือบหมดแล้ว
ในปากของเขายังคงเคี้ยวดังกร้วมๆ เขาก็อดใจเต้นระส่ำ เผยสีหน้าเลื่อมใสขึ้นมาไม่ได้
ไอศกรีมพรรค์นี้ ข้าเลียไปเพียงคำเดียวก็สิ้นเปลืองพลังตบะทั้งร่าง แต่ปรมาจารย์ไม่เพียงไม่รู้สึกอะไรเลย ถึงขั้นที่เคี้ยวได้ด้วย
น่ากลัว น่ากลัวเหลือเกิน
ด้านข้าง ลั่วซืออวี่ตัวสั่นเทิ้ม สีหน้าออกจะขาวซีดอยู่บ้าง แทบยืนได้ไม่มั่นคง
พลังบำเพ็ญของนางอ่อนแอที่สุด จึงสัมผัสรุนแรงที่สุด นางรู้สึกว่าสัมปชัญญะของตนถูกแช่แข็งในชั่วพริบตา หากไม่ใช่เพราะรสหวานอมเปรี้ยวหอมอร่อยซึ่งพลุ่งพล่านขึ้นมาในช่วงเวลาห หัวเลี้ยวหัวต่อ เกรงว่านางคงกลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งไปแล้ว
ลั่วซืออวี่มองไอศกรีมในมืออย่างอกสั่นขวัญแขวน แววตาซับซ้อนเหลือแสน ทั้งชมชอบทั้งหวั่นกลัว
ส่วนต๋าจี่นั้น สีหน้าของนางเป็นธรรมชาติกว่ามาก ผ่านไปสักพักก็จะแลบเรียวลิ้นเล็กออกมาเลียไอศกรีมได้อีก ก่อนจะหลับตาลงราวกับดื่มด่ำในรสชาติอย่างละเอียดลออ
หลี่เนี่ยนฝานเห็นจักรพรรดิลั่วและลั่วซืออวี่ตะลึงงันจ้องมองไอศกรีมอยู่ ก็อดพูดขึ้นไม่ได้ “พวกท่านกินช้าเหลือเกิน ระวังไอศกรีมละลายเอานะ”
คุณชายหลี่กำลังรังเกียจที่พวกเรามีพลังต่ำต้อย!
“แพล็บ”
จักรพรรดิลั่วตัดสินใจแน่วแน่ รีบแลบลิ้นเลียคำใหญ่ ทันใดนั้นร่างกายก็แข็งทื่อ ถูกโอบล้อมไปด้วยความหนาวเหน็บทันใด ทั้งร่างสั่นระรัว ฝืนยิ้มออกมา “อร่อย อร่อยเหลือเกิน”
ลั่วซืออวี่เองก็รีบกินเข้าไปอีกหนึ่งคำ
นางไม่กล้ากินมากเฉกเช่นจักรพรรดิลั่วด้วยเกรงว่าจะรับไม่ไหว กินเข้าไปแล้วตายคาที่
หลี่เนี่ยนฝานยิ้มพลางส่ายหน้าอย่างอดไม่ได้
คนเหล่านี้เป็นไปได้มากว่าจะเพิ่งเคยกินไอศกรีมเป็นครั้งแรก จึงหักใจกัดเข้าไปไม่ลง
เมื่อคิดถึงตอนนั้น ตอนเองกินครั้งแรกก็เป็นเช่นนี้ ในใจนึกอยากลิ้มลองอย่างสำราญใจ ผลคือกินไปได้เพียงครึ่งเดียว อีกครึ่งหนึ่งก็ละลายแล้ว ทั้งยังหยดเปรอะเปื้อนไปทั้งตัว