ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 104 จะต้องมีความหมายอันลึกซึ้งอยู่เป็นแน่
จักรพรรดิลั่วและลั่วซืออวี่แทบบีบคั้นตนเองถึงขีดสุด ท้ายที่สุดก็กินไอศกรีมจนหมดภายในช่วงเวลาเพียงชั่วลัดนิ้วมือเดียว
ยามนั้น พวกเขารู้สึกเพียงว่าตนเองได้สิ้นใจไปนับสิบรอบ ยิ่งไปกว่านั้น ทุกรอบยังต้องแสดงสีหน้านิ่งสงบ ห้ามมีพิรุธ
เฮ้อ ลำบากเหลือเกิน
จักรพรรดิลั่วกล่าวอย่างนบนอบ “คุณชายหลี่ ขอบคุณสำหรับการต้อนรับในวันนี้ พวกข้าขอตัวก่อน”
วันนี้อาการปางตายไปหลายครั้งเหลือเกิน สมองแจ่มแจ้งมากเกินไป เขาต้องรีบกลับไปประมวลผล
“ไม่ต้องเกรงใจ” หลี่เนี่ยนฝานยิ้มละไม พูดไปตามตรงว่า “จริงสิ พวกท่านพอจะรู้บ้างไหมว่ามีกิจกรรมขนาดใหญ่จัดขึ้นที่ไหน”
“กิจกรรมขนาดใหญ่?” จักรพรรดิลั่วชะงักงันไป เผยสีหน้าใคร่ครวญอย่างหนัก
กิจกรรมที่คุณชายหลี่พูดถึงต้องมีความหมายลึกซึ้งอย่างแน่นอน
ความคิดของเขาแล่นปราด สมองใคร่ครวญความนัยในคำพูดของหลี่เนี่ยนฝานอย่างเอาเป็นเอาตาย เพียงแต่เท่าไรก็คิดไม่ออก พานเอาเร่งร้อนอยู่ไม่สุข
ผ่านไปชั่วขณะ เขาก็กัดฟันพูดออกไปว่า “ไม่รู้ว่าคุณชายหลี่หมายถึงกิจกรรมใดหรือ”
หลี่เนี่ยนฝานเอ่ยตอบ “กิจกรรมที่เหมือนกับเทศกาลเซิ่งหยวนก็ได้ ข้าจะพาต๋าจี่ไปเดินเล่นดูความคึกคักสักหน่อย”
อุดอู้อยู่ในบ้านทั้งวันอึดอัดเสียจริง ในเมื่อมาแล้ว ก็ย่อมต้องออกไปดูโลกบำเพ็ญเซียนบ้าง แถมยังมีต๋าจี่อยู่ด้วย ต้องออกไปเที่ยวให้มากสักหน่อย
“เรื่องนั้น…”
หน้าผากของจักรพรรดิลั่วผุดเม็ดเหงื่อออกมา เขาโง่เขลาเกินกว่าจะกระจ่างในความหมายอันลึกล้ำในคำพูดของคุณชายหลี่ กิจกรรมที่คุณชายหลี่พูดถึงคืออะไรกันแน่นะ
น่าปวดหัวเหลือเกิน!
เมื่อเห็นว่าจักรพรรดิลั่วเงียบงันไปเนิ่นนาน หลี่เนี่ยนฝานก็ยิ้มเอ่ย “หากตอนนี้ไม่มีก็ไม่เป็นไร มีเมื่อไหร่รบกวนท่านบอกข้าก็พอ”
กิจกรรมทำนองนี้เกรงว่าปีหนึ่งคงมีเพียงไม่กี่ครั้ง ถ้าหากตอนนี้ไม่มีก็ธรรมดา
จักรพรรดิลั่วกระวนกระวายใจ รีบร้อนพยักหน้าตอบไป “ย่อมได้!”
หลี่เนี่ยนฝานกำลังจะเดินไปส่งจักรพรรดิลั่วและลั่วซืออวี่ที่ประตู จู่ๆ ก็พูดว่า “จริงสิ ยังมีเรื่องจะรบกวนพวกท่านอีกเรื่อง”
เขาหันหลังไป หยิบกล่องใบเล็กออกมาจากในห้อง ก่อนจะยื่นให้ลั่วซืออวี่ “ครั้งก่อนฉินม่านอวิ๋นมา ข้ารับปากนางว่าจะมอบโน้ตเพลงให้ เพียงแต่หลายวันมานี้นางก็ยังไม่มารับไป ไ ไม่รู้ว่าพวกท่านสะดวกช่วยข้านำไปให้นางไหม”
โน้ตเพลง?
มอบให้ฉินม่านอวิ๋น?
ลั่วซืออวี่และจักรพรรดิลั่วใจกระตุกวูบพร้อมกัน มองไปยังกล่องใบเล็กอย่างอิจฉาตาร้อน
หน็อยแน่อารามเต๋าหลินเซียน หน็อยแน่ฉินม่านอวิ๋น ฝีมือร้ายกาจไม่เบา ถึงกับได้รับความโปรดปรานจากปรมาจารย์ถึงเพียงนี้
อารามเต๋าหลินเซียนบำเพ็ญวิถีเพลงฉิน โน้ตเพลงที่คุณชายหลี่มอบให้มีหรือจะธรรมดา คงจะล้ำค่าเสียยิ่งกว่าเคล็ดวิชาเซียนกระมัง!
ในใจของเขารู้สึกซับซ้อน แต่กลับไม่กล้าบังเกิดความคิดอื่นใด เพียงแต่กล่าวอย่างเคารพว่า “คุณชายหลี่วางใจเถิด ข้าจะต้องนำไปส่งให้ถึงมือ”
“เช่นนั้นก็ขอขอบคุณ” หลี่เนี่ยนฝานเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม ในที่สุดก็แก้เรื่องคิดไม่ตกไปได้เรื่องหนึ่งแล้ว
ลั่วซืออวี่และจักรพรรดิลั่วเดินออกมาจากเรือนสี่ประสาน
พวกเขามองกล่องไม้ใบเล็กในมือ นัยน์ตาเปี่ยมแววริษยา
วาสนาครั้งใหญ่
ต้องเป็นวาสนาครั้งใหญ่อย่างแน่นอน!
มูลค่าของโน้ตเพลงนี้เกรงว่าจะไม่ได้ด้อยไปกว่ากระดาษเขียนคำอวยพรเลย!
“เฮ้อ แม้แต่น้ำแข็งทมิฬพันปีอารามเต๋าหลินเซียนก็ยังยกมาให้คุณชายหลี่ เห็นทีมาตรฐานการประจบประแจงก็มิได้ต่ำเตี้ยเรี่ยดินเลย!” จักรพรรดิลั่วพรูลมหายใจยาว เอ่ยอย่างเศร ร้าหมอง “ผู้เฒ่าเหยาเมิ่งจีนั่นยามปกติเย่อหยิ่งจะตายไป ลับหลังไม่รู้ว่าไปประจบประแจงปรมาจารย์อย่างไร”
ในใจของเขารู้สึกชอกช้ำ อดคิดไม่ได้ว่า ‘เรื่องคำใบ้ของปรมาจารย์ น่ากลัวว่าเหยาเมิ่งจีคงจะกระจ่างในความหมายอันลึกล้ำ แต่ตนกลับคิดไม่ออกสักที มิน่าเล่าเขาถึงได้รับความโป ปรดปรานจากปรมาจารย์’
“ซืออวี่ เจ้าว่ากิจกรรมที่ปรมาจารย์พูดถึงนั้นหมายความว่าอย่างไรกันแน่” จักรพรรดิลั่วเอ่ยถาม
ลั่วซืออวี่ขมวดคิ้วส่ายหน้า “ข้าไม่รู้ แต่มาคิดดูแล้วต้องไม่ใช่กิจกรรมธรรมดาเป็นแน่”
จักรพรรดิลั่วถอนหายใจยาว “ข้าก็คิดเช่นนั้น เฮ้อ ถ้าหากพวกเรากระจ่างในความนัยของปรมาจารย์ได้เร็ว ไหน
เลยจะต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับความโปรดปรานจากปรมาจารย์”
ลั่วซืออวี่เอ่ยว่า “ท่านพ่อ เรื่องเร่งด่วนในตอนนี้คือจัดการสิ่งที่ปรมาจารย์มอบหมายให้สำเร็จ”
“เจ้าพูดได้ถูกต้อง เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่เกิดความผิดพลาด ข้าจะไปอารามเต๋าหลินเซียนกับเจ้าด้วย!” จักรพรรดิลั่วพยักหน้า ทั้งสองแปลงเป็นลำแสง มุ่งหน้าสู่อารามเต๋าหลินเซียน
ถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่าโน้ตเพลงนี้เป็นของดี แต่ก็ไม่กล้าเล่นไม่ซื่อแม้แต่น้อย ถึงขั้นว่าไม่กล้านึกสงสัยด้วยซ้ำไป
ผ่านไปสี่ชั่วยาม
ลั่วซืออวี่และจักรพรรดิลั่วลงมาหยุดยังหน้าประตูอารามเต๋าหลินเซียน
หลังจากรายงานไปแล้ว ไม่นานก็มีคนมานำทางเข้าไปยังโถงใหญ่ของอารามเต๋าหลินเซียนด้วยตนเอง โดยมีฉิน
ม่านอวิ๋นรออยู่ด้านใน
ฉินม่านอวิ๋นยิ้มเอ่ย “ม่านอวิ๋นคำนับจักรพรรดิลั่ว ซืออวี่ ไม่พบกันนาน”
ลั่วซืออวี่กล่าวว่า “ท่านพี่ม่านอวิ๋น คุณชายหลี่ไหว้วานให้พวกเรานำของมามอบให้ท่าน”
คุณชายหลี่?
ดวงตาของฉินม่านอวิ๋นเป็นประกายทันใด รีบเอ่ยขึ้นอย่างเร่งร้อน “คุณชายหลี่ให้เจ้านำของมามอบให้ข้า? แล้วได้บอกอะไรไหม”
“คุณชายหลี่บอกว่าเป็นโน้ตเพลง” ลั่วซืออวี่ตอบ
“หรือว่าจะเป็นเพลงลอบโจมตีสิบด้าน” ลมหายใจของฉินม่านอวิ๋นพลันถี่กระชั้นขึ้นมา ดวงตางามสะคราญจ้องมองลั่วซืออวี่ “รีบนำมาให้ข้าดูเร็ว!”
ช่วงนี้นางอยู่ที่อารามเต๋าหลินเซียนมาโดยตลอด สิ่งที่คิดในห้วงสำนึกมากที่สุดคือเพลงลอบโจมตีสิบด้าน ทว่ากลับไม่กล้าไปรับจากหลี่เนี่ยนฝาน
คำชี้แนะก่อนอาจารย์ปิดด่านกักตนยังคงดังก้องอยู่ข้างหู อยู่ๆ จะให้เดินดุ่มเข้าไปขอโน้ตเพลงก็ไม่เข้าท่าเท่าไร
นัก นางรอคอยคำใบ้มาโดยตลอด จำต้องรอโอกาสเหมาะสมถึงจะไปพบหน้าคุณชายหลี่ได้
นึกไม่ถึงว่าคุณชายหลี่จะถึงกับออกตัวนำโน้ตเพลงฉินมาให้เอง น่าปลื้มปีติเหลือเกิน
ลั่วซืออวี่หยิบกล่องออกมาพลางเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ท่านพี่ม่านอวิ๋น ท่านถึงกับทำให้คุณชายหลี่มอบของให้
สรุปแล้วท่านทำอะไรหรือ”
“เรื่องนี้ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ข้าจะทำได้ แต่เป็นเพราะอาจารย์!”
ฉินม่านอวิ๋นยิ้มบาง พูดต่อว่า “ในเมื่อคุณชายหลี่เป็นปรมาจารย์ ในคำพูดของปรมาจารย์ย่อมแฝงความหมายอันลึกซึ้ง อาจารย์ล้วนขบคิดทุกประโยคที่เขาพูดจนกระจ่างอย่างถ่องแท้ เ เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งที่ปรมาจารย์บอกนั้นปราศจากความผิดพลาดจึงจะหยุด และด้วยเหตุนี้จึงทำให้คุณชายหลี่พึงพอใจกระมัง”
“ข้าว่าแล้วเชียว!” จักรพรรดิลั่วผ่อนลมหายใจยาว สมองนี่มันเป็นของดีจริงๆ มีความรู้ก็เปลี่ยนแปลงโชคชะตาได้
ลั่วซืออวี่พยักหน้า ส่งกล่องใบเล็กให้ฉินม่านอวิ๋น
ฉินม่านอวิ๋นสีหน้าพลันอิ่มเอิบ ปรางแก้มแดงระเรื่อ รีบเปิดออกอย่างตื่นเต้น
“แกร็ก!”
กล่องเปิดออก ด้านในมีผ้าฝ้ายผืนหนึ่งวางนิ่งอยู่
เมื่อเปิดผืนผ้าออก บนนั้นประทับเนื้อเพลงโจมตีสิบด้าน!
“เฮือก”
ฉินม่านอวิ๋นพรูลมหายใจยาว ดวงตางามพริ้งเพรามองกวาดไปบนโน้ตเพลง ลมหายใจถี่กระชั้นขึ้นเรื่อยๆ เก็บงำรอยยิ้มมุมปากไม่ไหว
โน้ตเพลงเซียน ต้องเป็นโน้ตเพลงเซียนแน่!
ในฐานะเทพธิดาของอารามเต๋าหลินเซียน นางร่ำเรียนดนตรีมาแต่เยาว์วัย กวาดตามองไปปราดเดียวก็มองออกว่าโน้ตเพลงนี้เหนือกว่าเพลงใดๆ ของอารามเต๋าหลินเซียน ทันทีที่กระจ่างอย่าง งถ่องแท้ จะต้องเป็นดนตรีเซียนแน่นอน!
ผ่านไปเนิ่นนานกว่าจะข่มความตื่นเต้นในใจได้
ชั่วขณะนั้น ในห้วงสำนึกของนางก็เกิดความคิดขึ้นมา
ไม่สิ!
ปรมาจารย์ไหนเลยจะส่งมอบโน้ตเพลงให้โดยไร้เหตุผล ในนั้น…จะต้องมีความหมายอันลึกล้ำอยู่เป็นแน่!