ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 105 คำใบ้ของปรมาจารย์อยู่ตรงนี้
ฉินม่านอวิ๋นความคิดแล่นปราด
นางจำได้อย่างแจ่มชัดว่าตนกับอาจารย์ไม่อาจทำตามคำใบ้ของปรมาจารย์ได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ฉะนั้นจึงไม่อาจรับโน้ตเพลงนี้มาได้
แต่ทว่า…คุณชายหลี่ถึงกับให้คนส่งโน้ตเพลงมาให้!
เรื่องนี้ไม่มีทางง่ายดายเพียงนั้นแน่!
ก่อนอาจารย์จะปิดด่านกักตนก็กำชับไว้เป็นพิเศษ ว่าตนจะต้องกระจ่างในคำใบ้ทุกคำของปรมาจารย์ จำต้องทำสิ่งที่ปรมาจารย์มอบหมายให้สำเร็จ ตนจะ ะประมาทไม่ได้!
สายตาของนางมองไปยังลั่วซืออวี่ เอ่ยอย่างหนักแน่นว่า “ลั่วซืออวี่ คุณชายหลี่มีสิ่งใดฝากเจ้ามาบอกข้าหรือไม่”
ลั่วซืออวี่ขมวดคิ้วครุ่นคิดครู่หนึ่ง ส่ายหน้าตอบ “ไม่มี”
“ไม่กระมัง คุณชายหลี่ต้องมีคำใบ้สิถึงจะถูก!” ฉินม่านอวิ๋นหัวคิ้วขมวดมุ่นขึ้นมา
จักรพรรดิลั่วกล่าวว่า “คุณชายหลี่ให้พวกข้าดูว่ามีกิจกรรมขนาดใหญ่ใดในช่วงนี้ไหม เจ้าพอจะรู้หรือไม่ว่าหมายความว่าอย่างไร”
“กิจกรรมขนาดใหญ่?” ฉินม่านอวิ๋นส่ายหน้า อดเค้นสมองขบคิดไม่ได้
ถ้าหากอาจารย์ของตนไม่ได้ปิดด่านกักตนก็ดีน่ะสิ ด้วยสติปัญญาอันหลักแหลมของเขา จะต้องกระจ่างในคำพูด
ของคุณชายหลี่เป็นแน่
ตนยังอ่อนหัดเกินไปจริงๆ ด้วย
ฉินม่านอวิ๋นทำได้เพียงเอ่ยว่า “ไม่ใช่คำใบ้แต่เป็นคำบอกอย่างชัดแจ้งแล้ว คิดๆ ดูต้องเป็นเรื่องใหญ่! ข้าจะให้คนไปสืบความสักหน่อย ไม่ว่าจะ ะเป็นกิจกรรมของปุถุชนหรือของผู้บำเพ็ญเซียน ต้องสังเกตทุกงานกิจกรรมที่จัดขึ้นในช่วงนี้”
จักรพรรดิลั่วก็เอ่ยว่า “ข้าก็จะให้คนไปสืบความเช่นกัน ในเมื่อเป็นกิจกรรมที่คุณชายหลี่ต้องการเข้าร่วม ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน”
ฉินม่านอวิ๋นรีบพูดขึ้น “คุณชายหลี่ยังบอกอะไรอีกหรือไม่”
“น่าจะไม่มีแล้ว” จักรพรรดิลั่วตอบอย่างไม่แน่ใจ
“จะไม่ชัดเจนเช่นนี้ไม่ได้ พวกเราจำต้องมั่นใจว่าจะไม่มีสิ่งใดตกหล่น!” ฉินม่านอวิ๋นส่ายหน้า ก่อนจะเอ่ยว่า “หากสะดวกละก็ จักรพรรดิลั่วได้โปรด เล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นวันนี้ให้ข้าฟังสักหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งทุกอย่างที่คุณชายหลี่พูด! ได้โปรด!”
จักรพรรดิลั่วยิ้มบาง “เรื่องนั้นสมควรทำอยู่แล้ว อันที่จริงข้าก็อยากรู้ว่าในคำพูดของคุณชายหลี่มีความนัยแฝงอยู่หรือไม่ ทุกคนช่วยกันทำความเข ข้าใจย่อมเป็นการดี จะได้ช่วยคุณชายหลี่บรรเทาความทุกข์ร้อน!”
ทันใดนั้นเอง เขาและลั่วซืออวี่ก็เริ่มบรรยายสิ่งที่ประสบพบเจอ
ฉินม่านอวิ๋นจิตใจจดจ่อตั้งใจฟัง บ้างก็ครุ่นคิดทบทวน นึกถึงคำชี้แนะของอาจารย์จนนางถึงขั้นหยิบพู่กันออกมา ขีดเขียนจุดสำคัญลงไป
ชั่วขณะนั้น นัยน์ตาของฉินม่านอวิ๋นก็พราวประกายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ก่อนจะพูดอย่างตื่นเต้น “เล่าสิ่งที่คุณชายหลี่พูดให้ข้าฟังอีกรอบ บสิ!”
ลั่วซืออวี่ชะงักงันไป เลียนเสียงของหลี่เนี่ยนฝาน “ข้าวน่ะไม่มีหรอก ท่านก็รู้ว่าช่วงนี้ไม่สงบสุขนัก ข้าไม่ได้ออกไปข้างนอก อาหารการกินหลาย วันมานี้ออกจะแร้นแค้นอยู่บ้าง”
“เข้าใจแล้ว ข้าเข้าใจแล้ว!” ฉินม่านอวิ๋นตื่นเต้นสุดขีด
ลั่วซืออวี่และจักรพรรดิลั่วรีบชะโงกเข้าไป เอ่ยถามอย่างคาดหวัง “เจ้าเข้าใจอะไรหรือ”
ฉินม่านอวิ๋นขีดแบ่งคำพูดออกเป็นสองส่วน “พวกท่านดูสิ ประโยคนี้ที่จริงแล้วมีคำใบ้แฝงอยู่สองคำ คำแรก
คุณชายหลี่บอกว่าช่วงนี้ไม่สงบสุขนัก ทำให้เขาไม่ได้ออกไปข้างนอก ส่วนประโยคที่สองก็คืออาหารการกินของเขาออกจะแร้นแค้นอยู่บ้าง!”
“เป็นอย่างนี้เอง เป็นอย่างนี้เอง!”
จักรพรรดิลั่วและลั่วซืออวี่เผยสีหน้าเข้าใจถ่องแท้ รู้สึกเลื่อมใสฉินม่านอวิ๋นยิ่งนัก
สมแล้วที่เป็นเทพธิดาแห่งอารามเต๋าหลินเซียน ความคิดนี้ช่างละเอียดลออ มิน่าเล่าถึงได้รับความโปรดปราน
จากคุณชายหลี่ หากไม่ใช่นาง พวกเขาอาจพลาดคำใบ้สำคัญของปรมาจารย์ไปได้ เกือบได้เจอหายนะครั้งใหญ่แล้ว
คำใบ้ง่ายๆ เช่นนี้ไฉนพวกข้าถึงคิดไม่ออกกันนะ ไม่สมควรเอาเสียเลย!
“เพียงแต่ว่า ช่วงนี้ไยจึงไม่สงบสุขแล้วเล่า” ฉินม่านอวิ๋นเอ่ยอย่างฉงนใจ
ระยะนี้นางอยู่ที่อารามเต๋าหลินเซียนมาโดยตลอด ไม่ได้สนใจเรื่องภายนอก
“ถ้าหากข้าเดาไม่ผิด คงจะหมายถึงมารเหล่านั้น” ลั่วซืออวี่เอ่ยปาก “ไม่รู้ว่าทำไมช่วงนี้พวกเขาก็เคลื่อนไหวขึ้นมา
มิหนำซ้ำเป้าหมายก็อยู่ในทิศทางของราชวงศ์เซียนเฉียนหลงด้วย”
“หรือว่ามารเหล่านั้นบุกมาหาคุณชายหลี่?” ฉินม่านอวิ๋นพึมพำ ก่อนจะกล่าวอย่างเด็ดขาด “ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องลงมือได้แล้ว! ข้าจะให้คนไปสืบข่าว วของมารกลุ่มนั้น หากเป็นไปได้ก็จัดการให้ราบคาบ!”
ในเมื่อเป็นเรื่องของปรมาจารย์ ตนย่อมไม่อาจรีรอ
พูดแล้วจำต้องลงมือทำ ฉินม่านอวิ๋นสั่งคนไปเตรียมการทันใด
หลังจากนั้นพวกเขาก็ยังเหลือคำใบ้ที่สอง
ฉินม่านอวิ๋นเอ่ยปากอย่างอ้อยอิ่ง “หากข้าคาดเดาไม่ผิด คุณชายหลี่อยากอาหารป่า และอาหารป่านั้นก็หมาย
ถึงปีศาจ”
เรื่องนี้นางมีประสบการณ์มากโข คราก่อนล่าสัตว์ให้คุณชายหลี่ ถึงกับได้นกอินทรีจักรพรรดิปีศาจจันทราเงินมาเชียวนะ!
“ข้าว่าข้าเข้าใจแล้ว”
ลั่วซืออวี่คลับคล้ายคลับคลาว่ากำลังขบคิด “ข้าเคยสังเกตว่าคุณชายหลี่มักจะชอบลงไปซื้อปลาจากแผงขายปลาในเมืองลั่วเซียน แต่ว่าช่วงนี้เป็นเพร ราะทะเลสาบจิ้งเยวี่ยมีพรายน้ำปรากฏตัว ทำให้ชาวประมงจับปลาได้น้อยลง ด้วยเหตุนี้คุณชายหลี่จึงบ่นว่าอยากกินปลาแต่ไม่ได้กิน”
“ข้อมูลสำคัญเช่นนี้ไฉนเจ้าถึงเพิ่งนึกได้” ฉินม่านอวิ๋นดวงตาเป็นประกายจรัส รีบร้อนเอ่ยถาม “พรายน้ำนั่นคือปีศาจมัจฉาหรือ”
ลั่วซืออวี๋พยักหน้าตอบ “ว่ากันว่าเป็นภูตเป๋าฮื้อ[1]”
“เป๋าฮื้อก็เป็นปลา! คุณชายหลี่จะกินปลา ย่อมต้องหมายถึงเป๋าฮื้อนี่ไม่ผิดแน่!” ฉินม่านอวิ๋นเผยสีหน้าตื่นเต้นกระตือรือร้น “เรื่องนี้จะรอช้า าไม่ได้ พวกเรารีบไปทะเลสาบจิ้งเยวี่ย ช่วยกันจับเป๋าฮื้อตัวนี้มาให้ได้!”
จักรพรรดิลั่วและลั่วซืออวี่ก็ตื่นเต้นเหลือแสน ในที่สุดก็ได้ทำคุณูปการต่อคุณชายหลี่แล้ว
พวกเขาลุกขึ้นเตรียมกล่าวลา กลับเห็นว่าผู้อาวุโสของอารามเต๋าหลินเซียนห้าคนได้แปลงเป็นลำแสงทะยานเข้ามาโถงใหญ่แล้ว
ผู้อาวุโสทั้งห้าคนสวมชุดยาวสีเทา หนวดเคราเฟื้อมผมยาว ทรงพลังสง่างาม
เพียงแต่ว่าสีหน้าของพวกเขาล้วนไม่สู้ดีนัก ผู้อาวุโสซึ่งเป็นหัวหน้าขมวดคิ้วพลางกล่าวกับฉินม่านอวิ๋นด้วยน้ำเสียงขึงขัง “ม่านอวิ๋น ได้ยินว่าเ เจ้าเพิ่งออกคำสั่งลงไป ทั้งยังเตรียมจัดการมารกลุ่มหนึ่งใช่หรือไม่”
ฉินม่านอวิ๋นพยักหน้า ตอบน้ำเสียงหนักแน่น “เป็นเช่นนั้น เรื่องนี้เร่งด่วนมาก จำต้องทำให้สำเร็จโดยเร็วที่สุด!”
“เป็นเพราะคนที่เจ้าเรียกว่าปรมาจารย์?” ผู้อาวุโสรองเอ่ยถาม
ฉินม่านอวิ๋นพยักหน้า
ผู้อาวุโสทั้งห้าขมวดคิ้ว
ผู้อาวุโสสูงสุดถอนหายใจแผ่วเบา กล่าวว่า “สรุปแล้วปรมาจารย์ท่านนั้นเป็นเทพเซียนจากไหนกัน ไม่เพียงทำให้ประมุขนำของล้ำค่าสูงสุดของพวกเราอย่าง งน้ำแข็งทมิฬพันปีไปมอบให้ได้แล้ว บัดนี้เจ้ายังจะส่งกองกำลังทั้งหมดของอารามเต๋าหลินเซียนออกไปทำเรื่องนี้เพื่อเขา ทำไมหรือ”
ฉินม่านอวิ๋นสูดลมหายใจเข้าลึก ตอบอย่างเนิบช้า “เรื่องของปรมาจารย์นั้น ยิ่งรู้น้อยเท่าไรยิ่งดี ได้โปรดให้อภัยม่านอวิ๋นที่ไม่อาจแถลงไข สิ่งที่พวกท่านจำเป็นต้องรู้คือปรมาจารย์ท่านนี้ระดับพลังเหนือกว่าเซียนเสียอีก เรียกได้ว่าเป็นวาสนาอันยิ่งใหญ่ที่สุดของอารามเต๋าหลินเซียน นของพวกเรานับแต่เคยมีมา”
เหนือกว่าเซียน?
สีหน้าของผู้อาวุโสทั้งห้าแปรปรวนไม่หยุด “เจ้ารู้ไหมว่ากำลังพูดอะไรอยู่”
คำพูดเหล่านี้โอ้อวดเกินจริงเสียเต็มประดา แม้แต่เด็กสามขวบก็ยังรู้ว่าเชื่อไม่ได้!!!!
แต่ว่า คำพูดนี้กลับออกมาจากปากของประมุขอารามและเทพธิดา พานให้พวกเขาจำต้องเชื่อ
…………………………………………
[1] เป๋าฮื้อ ในที่นี้หมายถึงหอยเป๋าฮื้อ แตคำว่า ‘เป๋าฮื้อ’ หรือ ‘เป้าอวี๋’ ในภาษาจีนกลางนั้นมีส่วนประกอบของคำว่า ‘อวี๋ (鱼)’ ซึ่งหมายถึงปลา