ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 115 เป็นการกลับสู่สามัญที่สมจริงเหลือเกิน
“ฉับ!”
หลี่เนี่ยนฝานยกกระบี่จุ้ยหมัวขึ้นมาผ่าลงอย่างง่ายดายจนไม้แบ่งเป็นสองท่อน แล้วจึงหันไปยิ้มให้ทั้งสาม “พวกท่านทั้งสามมาพร้อมกันเลยหรือ หาได้ยากยิ่ง”
ทั้งสามคนคำนับทักทายพร้อมกัน “คำนับคุณชายหลี่”
ในตอนนั้น สายตาของหลี่เนี่ยนฝานก็ชะงักค้างไป มองไปยังมือข้างที่ขาดของหลินมู่เฟิง “ผู้เฒ่าหลิน มือของท่าน…”
หลินมู่เฟิงยิ้มตอบ “ต่อสู้มา จึงได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย มิใช่เรื่องใหญ่”
นี่ยังเรียกว่าบาดเจ็บเล็กน้อยอีก?
มือหายไปแล้วเนี่ย
หัวคิ้วของหลี่เนี่ยนฝานขมวดมุ่น ในตอนนั้นเขาจึงรับรู้ได้ว่าตนเองมาถึงโลกบำเพ็ญเซียนแล้ว
ก่อนหน้านี้นานนานถูกปีศาจจับไป ทำให้เขาตระหนักได้ถึงความอันตรายของโลกบำเพ็ญเซียน ครั้งนี้หลินมู่เฟิงมือขาด เขาจึงยิ่งเข้าใจว่าโลกเซียนนั้นไม่ได้สงบสุขเฉกเช่นที่เขาจินตนาการไว้
นานนานเป็นปุถุชน แต่ผู้เฒ่าหลินเป็นผู้บำเพ็ญเซียน อีกทั้งหลี่เนี่ยนฝานยังเดาว่าเขาน่าจะไม่ใช่ผู้บำเพ็ญเซียนขั้นเริ่มต้น ถึงกับมือขาดเนี่ยนะ
โลกบำเพ็ญเซียนมีภยันตรายรอบด้านจริงๆ!
โชคดีที่ตนได้พบกับกลุ่มผู้บำเพ็ญเซียนซึ่งใจดี ทั้งยังกลายเป็นมิตรสหายที่ดีต่อกัน หาได้ยากจริงๆ
หลี่เนี่ยนฝานอดทอดถอนใจไม่ได้ “ลำบากท่านแล้ว”
ผู้เฒ่าหลินอายุอานามก็มากแล้ว มือกลับขาดไปข้างหนึ่ง น่าเวทนาเหลือเกิน
ถึงกระนั้น ประโยคอันเรียบง่ายนี้ก็ทำให้หลินมู่เฟิงหัวใจอุ่นวาบ น้ำตาร้อนเอ่อท้นที่ขอบตา แทบสะอึกสะอื้นออกมา
นี่คุณชายหลี่…กำลังเป็นห่วงข้าหรือ
ในตอนนั้น เขาก็รู้สึกว่าความพยายามของเขาได้รับการยอมรับแล้ว เฉกเช่นเด็กคนหนึ่งซึ่งทุ่มเทสุดกำลังเพื่อให้ได้รับคำชื่นชมจากพ่อแม่
ในฐานะที่ข้าเป็นตัวหมากของปรมาจารย์ เดิมทีก็ควรบุกน้ำลุยไฟเพื่อเขา ยามนี้ถึงกับทำให้เขาเอ่ยปากแสดงความห่วงใยได้ ฮือๆๆ ซาบซึ้งใจเหลือเกิน นี่เป็นช่วงเวลาอันรุ่งโรจน์โชติช่วงที่สุดในชีวิตข้าแล้ว!
เขากลั้นน้ำตาไว้ ข่มให้ตนเองแลดูสุขุมเยือกเย็น เอ่ยเสียงแผ่วเบา “ไม่เป็นไร ไม่ลำบากแม้แต่น้อย”
หลี่เนี่ยนฝานอดรนทนไม่ไหว จึงเอ่ยไปว่า “มือขาดมานานเท่าใดแล้ว”
หลินมู่เฟิงตอบว่า “เมื่อคืนวานนี้เอง”
หลี่เนี่ยนฝานเลิกคิ้ว พูดอย่างไม่ลังเลว่า “งั้นก็ยังไม่เกินยี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่รู้ว่าข้าจะรักษาได้หรือไม่”
เมื่อได้ฟังคำพูดของหลี่เนี่ยนฝาน หัวใจของทุกคนก็เต้นระรัวโหมคลั่ง ต่างคนต่างตาลุกวาวด้วยความตกใจ
คำพูดของคุณชายหลี่หมายความว่าอย่างไรกัน
เขารักษาได้หรือ
น้ำเสียงของหลินมู่เฟิงสั่นเครือ เอ่ยอย่างกังวลใจ “คุณ…คุณชายหลี่ รักษาได้หรือ”
หลี่เนี่ยนฝานเงียบงันไปชั่วขณะ กล่าวว่า “ไม่แน่ใจ ต้องลองดู”
ตนและผู้เฒ่าหลินรู้จักมักคุ้นกัน เดือดร้อนย่อมไม่อาจนิ่งนอนใจ สถานการณ์นี้จำเป็นต้องใช้การผ่าตัดต่ออวัยวะเพื่อนำมือที่ขาดต่อกลับไป ยามที่ระบบเคี่ยวกรำ เขาเคยต่ออวัยวะสัตว์มาไม่น้อย ทว่าไม่เคยต่อร่างกายของมนุษย์
“มือข้างที่ขาดไปเก็บไว้ไหนหรือ” หลี่เนี่ยนฝานเอ่ยถาม
“อยู่ที่นี่” หลินมู่เฟิงรีบควักมือของตนขึ้นมา
เมื่อหลี่เนี่ยนฝานรับมือข้างนั้นมาก็พลิกดูคราหนึ่ง ลอบตกใจอยู่ลึกๆ สมแล้วที่เป็นโลกบำเพ็ญเซียน บาดแผลประณีตเสียจริง ราวกับถูกตัดฉับเดียวขาดในชั่วพริบตา แต่ว่านี่ก็ลดความยากของการผ่าตัดไปได้มาก
ด้วยเวลาที่ขาดนั้นไม่นานนัก มือจึงยังอุ่นๆ อยู่
หลี่เนี่ยนฝานยิ้มเอ่ย “ให้ข้าลองสักหน่อยเถิด”
เขานำมีดผ่าตัดออกมาวางเรียงกันบนโต๊ะหินอ่อนแล้ว
หลินมู่เฟิงยังรู้สึกเหลือเชื่ออยู่บ้าง ทั้งรู้สึกคาดหวังระคนกระวนกระวาย “ลองตอนนี้เลยหรือ”
“ถูกต้อง ระยะเวลาที่ขาดยิ่งน้อยเท่าไหร่ยิ่งดี” หลี่เนี่ยนฝานพยักหน้า “ถอดเสื้อออกเถิด”
“ได้!” หลินมู่เฟิงพยักหน้ารัว รีบนั่งลงข้างหลี่เนี่ยนฝาน
จากนั้นเขาจึงนำกระดิ่งจิตสวรรค์ออกมาวางลงเบื้องหน้าหลี่เนี่ยนฝาน “จริงสิ คุณชายหลี่ นี่เป็นของเล่นเล็กๆ น้อยๆ ที่พวกข้าบังเอิญได้มา”
“กระดิ่งลม?” หลี่เนี่ยนฝานดวงตาเป็นประกายขึ้นน้อยๆ “ดูเข้าสิ เกรงใจกันไปทำไม ทุกครั้งที่มาจะต้องนำของขวัญมาให้ด้วย ครั้งหน้าไม่ต้องแล้วนะ”
หลินมู่เฟิงตอบว่า “พวกข้ามาเยี่ยมเยือนไหนเลยจะมามือเปล่า อีกอย่างนี่ก็ไม่ใช่ของมีค่ามากมายอะไร”
“อย่างนั้นข้าจะรับไว้ก็แล้วกัน” หลี่เนี่ยนฝานไม่ได้เหนียมอายเกรงใจ นำของชิ้นนี้ไปแขวนไว้บนเสาของศาลาทันใด เอ่ยอย่างพึงพอใจ “เป็นของประดับที่ไม่เลวจริงๆ ด้วยแฮะ”
“กริ้งๆ”
กระดิ่งลมไกวตามแรงลม เกิดเป็นเสียงดังเสนาะหู ประหนึ่งกำลังตอบรับคำพูดของหลี่เนี่ยนฝาน
หลี่เนี่ยนฝานสูดลมหายใจเข้าลึก สีหน้าแปรเปลี่ยนเป็นขึงขัง “ผู้เฒ่าหลิน ข้ากำลังจะเริ่ม ระหว่างการรักษาอาจเจ็บบ้าง ขอให้อดทนไว้”
หลินมู่เฟิงเอ่ยอย่างหนักแน่น “คุณชายหลี่ลงมือได้เต็มที่ ข้าทนไหว”
หลี่เนี่ยนฝานพยักหน้า ไม่ได้พูดให้มากความ ทว่ายื่นมีดออกไปยังตำแหน่งบาดแผลของหลินมู่เฟิงซึ่งเพิ่งถูกตัดขาดได้ไม่นาน
สำหรับการผ่าตัดต่ออวัยวะนั้น การต่อมือกลับเข้าไปไม่ใช่เรื่องยาก เรื่องยากที่สุดก็คือการต่อเส้นประสาทและเส้นเลือดกลับเข้าไป ฉะนั้นแล้วการผ่าตัดภายในยี่สิบสี่ชั่วโมงจึงดีที่สุด เซลล์จะยังคงมีชีวิตอยู่
นี่นับว่าเป็นการผ่าตัดใหญ่ครั้งแรกหลังจากหลี่เนี่ยนฝานสำเร็จวิชาแพทย์ มิหนำซ้ำคนไข้ยังไม่ใช่ปุถุชน หากแต่เป็นผู้บำเพ็ญเซียน
เป็นความรู้สึกที่พิเศษจริงๆ เลย
จักรพรรรดิลั่วและฉินม่านอวิ๋นอยู่ด้านข้างแทบหยุดหายใจ มองหลี่เนี่ยนฝานผ่าตัดด้วยสายตาตื่นตะลึง
พวกเขาเคยได้ยินจากลั่วซืออวี่ว่าคุณชายหลี่ช่วยชีวิตหญิงตั้งครรภ์คนหนึ่งโดยไม่ต้องใช้พลังปราณ ตอนนั้นถึงแม้จะตกใจ แต่ก็ไม่ตกใจเท่ากับยามที่ได้เห็นกับตาตนเอง
พวกเขามิได้คลางแคลงในความสามารถของหลี่เนี่ยนฝานซึ่งจะทำให้มือของหลินมู่เฟิงงอกขึ้นมาอีก ถึงอย่างไรคุณชายหลี่ก็เป็นเซียน รอบตัวย่อมมีโอสถวิเศษหญ้าเซียนสำหรับรักษามือที่ขาดอยู่เต็มไปหมด
แต่ว่า คุณชายหลี่ไม่ใช้ ถึงขั้นที่ไม่ใช้พลังปราณแม้แต่นิดเดียว ใช้เพียงการรักษาของคนทั่วไป!
นี่มันเกินกว่าที่พวกเขาจินตนาการไว้เสียอีก
นี่คือโลกของผู้ยิ่งใหญ่สินะ
เป็นการกลับสู่สามัญที่สมจริงเหลือเกิน
น่ากลัว น่ากลัวเกินไปแล้ว!
ในตอนนั้น หลี่เนี่ยนฝานก็ต่อมือไปได้ค่อนหนึ่งแล้ว สีหน้าของเขาเคร่งขรึม จ้องเขม็งไม่กะพริบตา เย็บปิดเส้นประสาท ต่อเส้นเลือด และเย็บปิดเนื้อ ทุกขั้นตอนนั้นสำคัญยิ่งยวด สิ่งที่น่าดีใจก็คือหลินมู่เฟิงเป็นผู้บำเพ็ญเซียน ต่อให้มือขาดไปแล้ว บาดแผลก็จะไม่อักเสบมากนัก ไม่จำเป็นต้องตัดทิ้ง อีกทั้งยังลดขั้นตอนการฆ่าเชื้อไปได้อีก อย่างไรเสียด้วยพลังต้านทานของผู้บำเพ็ญเซียนก็ไม่ต้องกลัวเรื่องแผลติดเชื้อแล้ว
เรื่องนี้ลดภาระของหลี่เนี่ยนฝานไปได้มาก
ในเรือนมีเพียงเสียงของกระดิ่งลมไกวไปตามสายลม หน้าผากของหลี่เนี่ยนฝานค่อยๆ มีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมา ทว่ามุมปากของเขาเผยรอยยิ้มได้ใจ ก่อนจะลงเข็มเย็บครั้งสุดท้าย เป็นอันสำเร็จ!
เขาใช้ผ้าพันแผลพันในตำแหน่งมือซึ่งถูกต่อ แล้วใช้ท่อนไม้สองท่อนยึดมือไว้ ก่อนจะผ่อนลมหายใจยาวออกมา “เสร็จแล้ว! หลังจากนี้ก็ขยับมือข้างนี้น้อยๆ ระวังอย่าให้โดนน้ำ นานวันแล้วมือจะค่อยๆ ดีขึ้นมา”
แค่นี้…เสร็จแล้ว?
ใบหน้าของทุกคนล้วนฉายแววเหลือเชื่อ มองหลี่เนี่ยนฝาน จากนั้นจึงมองมือซึ่งถูกต่อกลับเข้าไป รู้สึกราวกับกำลังฝันไป
หลินมู่เฟิงนึกอยากขยับมือสักหน่อย กระนั้นก็รู้สึกเจ็บแปลบจนส่งเสียงร้องต่ำออกมา
เพียงแต่ว่า ความตื่นตกใจพลันแปรเปลี่ยนเป็นความปลื้มปีติ เอ่ยเสียงสั่นเทิ้ม “มีความรู้สึกแล้ว ต่อ…ต่อได้จริงๆ?!”
………………………………………………