ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 116 ของธรรมดาก็เอาชนะเซียนได้
เฮือก
คนอื่นๆ ล้วนสูดหายใจเข้าลึก รู้สึกเพียงว่าสมองชาวาบ หัวใจเต้นระรัว
ต่อติดแล้ว ถึงกับต่อติดแล้วจริงๆ!
ไม่ต้องใช้พลังปราณ ไม่ต้องใช้โอสถวิเศษ ใช้เพียงวิธีของปุถุชนก็ต่อมือได้แล้ว!
นี่มันกลวิธีเทพเซียนอะไรกัน ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อนในชีวิต!
สมแล้วที่เป็นปรมาจารย์ มิน่าเล่าเขาถึงชอบใช้ชีวิตในร่างของปุถุชน เขาต้องการแสดงให้เห็นเป็นประจักษ์ว่าต่อ
ให้เป็นปุถุชน ก็ยังคงทำเรื่องที่แม้แต่ผู้บำเพ็ญเซียนเองก็ทำไม่ได้!
แข็งแกร่งเหลือเกิน แข็งแกร่งจนทำให้รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ ไม่กล้าสู้หน้าเลยด้วยซ้ำ
ในตอนนั้นเอง ลึกๆ ในใจของพวกเขาก็บังเกิดความรู้สึกน้อยใจ ข้ายังอยู่บนโลกไปทำไมกัน ไม่คู่ควรเอาเสียเลย
ทว่าหลังจากนั้นทันใด พวกเขาก็เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน อริยบุคคลเหนือโลกีย์อย่างคุณ ชายหลี่ถึงกับเลือกข้ามาเป็นตัวหมาก นี่เป็นเกียรติยศอันสูงล้ำ ข้าภูม มิใจเหลือเกิน!
หลินมู่เฟิงขอบตาพลันแดงก่ำ เขาแทบอยากคุกเข่าลงต่อหน้าหลี่เนี่ยนฝานทันใด เพื่อแสดงความจริงใจของตน ทว่าทันทีที่นึกถึงข้อห้ามของหลี่เนี่ยนฝาน จึงอดกลั้นมิได้ทรุดเข่าลง
เยือกเย็น ตนต้องเยือกเย็นเข้าไว้ มีหลายสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องพูดออกไป ภายหลังค่อยทำภารกิจให้ปรมาจารย์ บากบั่นเพื่อให้มีคุณสมบัติเป็นตัวหมากที่สำคัญที่สุด
เขาสูดลมหายใจเข้าลึก โค้งคำนับหลี่เนี่ยนฝานคราหนึ่ง “หลินโหม่วขอบคุณคุณชายหลี่สำหรับบุญคุณอันยิ่งใหญ่ในครั้งนี้”
หลี่เนี่ยนฝานโบกมือ ยิ้มเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจนัก “ผู้เฒ่าหลิน ท่านเกรงใจเกินไปแล้ว นี่ก็ไม่ได้นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร ลงแรงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น”
ผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังเป็นผู้ยิ่งใหญ่วันยังค่ำ
ทำเรื่องอัศจรรย์เหนือธรรมชาติเช่นนี้ถึงกับไม่นับว่าเป็นเรื่องใหญ่อะไรสำหรับปรมาจารย์
ลงแรงเพียงเล็กน้อยก็ต่ออวัยวะที่ขาดได้ หากแพร่งพรายออกไปเกรงว่าจะไม่มีใครเชื่อ
จักรพรรดิลั่วและฉินม่านอวิ๋นมองหน้ากัน ก่อนจะเอ่ยว่า “คุณชายหลี่ ครั้งก่อนท่านให้ข้าช่วยดูกิจกรรมขนาดใหญ่ ข้านึกออกแล้วว่ามีงานหนึ่งชื่อว่าพิธีผนึกมารเมฆาคราม จะจัดขึ้น นในเร็ววันนี้”
“โอ้?” หลี่เนี่ยนฝานมองเขาด้วยความสงสัย
จักรพรรดิลั่วชะงักไป ก่อนจะกล่าวว่า “พิธีผนึกมารเมฆาครามนี้หุบเขาเมฆาครามจัดขึ้นทุกห้าปี สถานที่คือหุบเขาเมฆาคราม เรียกได้ว่าเป็นงานใหญ่งานหนึ่งของโลกบำเพ็ญเซียน!”
หลี่เนี่ยนฝานขมวดคิ้วเล็กน้อย “นี่เป็นกิจกรรมของผู้บำเพ็ญเซียนสินะ ข้าเป็นแค่ปุถุชนธรรมดา ไปเข้าร่วมเกรงว่าคงไม่เหมาะ”
หลินมู่เฟิงและคนอื่นๆ หัวใจกระตุกวูบ ทว่าสีหน้ายังคงสุขุม มิได้แสดงท่าทีพิรุธแม้แต่น้อย
“เหมาะ เหมาะสมมาก!”
หลินมู่เฟิงกล่าวแนะนำ “หุบเขาเมฆาครามจะเสริมความแข็งแกร่งของทางเข้าโลกมารกลางหุบเขาทุกห้าปี นี่เป็นงานใหญ่ที่สุดงานหนึ่งในโลกบำเพ็ญเซียน
ไม่เพียงผู้บำเพ็ญเซียนที่สามารถเข้าร่วมชมได้ แม้แต่ปุถุชนก็ผ่านเข้าไปดูได้เช่นกัน”
เหตุที่หุบเขาเมฆาครามเปิดให้เข้าชม ก็หนีไม่พ้นเพราะอยากสำแดงพลังของตนให้เป็นประจักษ์ เพื่อดึงดูดผู้มีพรสวรรค์เข้ามาในหุบเขาเมฆาครามมากขึ้น
นี่ก็ยังเป็นหนึ่งในเหตุผลที่หุบเขาเมฆาครามกลายเป็นขุมกำลังขั้นสุดยอด
“หากเป็นเช่นนั้นจริง จะไปดูสักหน่อยก็คงไม่เสียหายอะไร” หลี่เนี่ยนฝานสีหน้าชะงักไป จากนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ว่าแต่หุบเขาเมฆาครามอยู่ที่ไหนหรือ ไกลไหม”
งานใหญ่แบบนี้เขาอยากไปอยู่แล้ว ถึงอย่างไรก็มาโลกบำเพ็ญเซียนทั้งที ไปงานใหญ่สักหน่อยย่อมไม่เสียเที่ยว อีกทั้งเมื่อได้ยินคำแนะนำเช่นนี้แล้วก็แสดงว่ามีโอกาสสูงมากที่จะเห็นผู้บำเ เพ็ญเซียนแสดงฝีมือกับตา พูดตามจริง ตราบจนวันนี้ยังไม่เคยเห็นผู้บำเพ็ญเซียนประลองยุทธ์กันกับตาเลย
ไม่รู้ว่าจะเหมือนในโทรทัศน์ไหม
เพียงแต่ว่าถ้าไกลเกินไป เขาไปไม่ได้อย่างแน่นอน อันตรายเกินไป
จักรพรรดิลั่วกล่าวทันใด “คุณชายหลี่ อันที่จริงราชวงศ์เซียนเฉียนหลงของพวกข้าก็เตรียมจะเข้าร่วมพิธีผนึกมารเมฆาครามด้วย ท่านไปพร้อมกับพวกข้าได้”
“คุณชายหลี่ อันที่จริงข้าก็จะไปเหมือนกันนะ” ฉินม่านอวิ๋นก็ยิ้มแย้มเช่นกัน “ไปทางเดียวกันพอดี”
หลินมู่เฟิงอ้าปากพะงาบ สุดท้ายก็จำใจกลืนคำพูดทั้งหมดกลับลงไป
โอกาสประจบปรมาจารย์ครั้งนี้ เขาก็อยากเข้าร่วมเหมือนกันนะ แต่ว่าเขาเพิ่งมือขาดไป ไปเข้าร่วมเห็นจะไม่เหมาะ
เฮ้อ พลาดแล้ว พลาดโอกาสใหญ่ซะแล้ว!
“ไปด้วยกัน? ก็ดีน่ะสิ!” หลี่เนี่ยนฝานพลันรู้สึกเต็มตื้นขึ้นมา ถ้าหากเป็นเช่นนี้ ก็รับรองความปลอดภัยของเขาได้แล้ว!
หลี่เนี่ยนฝานมองไปยังต๋าจี่ เอ่ยปากว่า “ต๋าจี่ เป็นอย่างไร พวกเราไปชมความสนุกให้ผ่อนคลายสักหน่อยดีไหม”
ต๋าจี่ยิ้มบาง ตอบเสียงอ่อนโยน “ข้าว่าตามคุณชาย”
“งั้นก็เอาตามนี้!” หลี่เนี่ยนฝานหัวเราะร่า ยกมือขึ้นคำนับจักรพรรดิลั่วและฉินม่านอวิ๋น “เมื่อถึงตอนนั้นก็ต้องรบกวนทั้งสองท่านด้วย”
จักรพรรดิลั่วนึกกริ่งเกรงในใจ รีบยกมือขึ้นโบก “ไม่รบกวนเลย เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”
จากนั้นจักรพรรดิลั่วและคนอื่นๆ ก็บอกลาหลี่เนี่ยนฝาน แล้วลุกขึ้นออกจากเรือนสี่ประสาน
ในใจของพวกเขาตื่นเต้นอยู่เล็กน้อย
จักรพรรดิลั่วและฉินม่านอวิ๋นรู้สึกว่าจะให้ตนเองออกเดินทางไปกับปรมาจารย์เดี๋ยวนี้เลยก็ได้ ในใจทั้งกังวลทั้งคาดหวัง ราวกับติดตามจักรพรรดิปลอมตัวออกทัศนาจร
หลินมู่เฟิงกลับตื่นเต้นเพราะหลี่เนี่ยนฝานช่วยรักษาบาดแผลที่มือขาด
สีหน้าของเขาซับซ้อน อดรำพันไม่ได้ “ข้าหลินมู่เฟิงไม่ปราดเปรื่อง ถึงกับรบกวนให้ปรมาจารย์มารักษาให้ข้าเอง รู้สึกละอายใจจริงๆ!”
จักรพรรดิลั่วกล่าวอย่างเคารพ “สมแล้วที่เป็นปรมาจารย์ ฝีมือเลิศล้ำอัศจรรย์ เมื่ออยู่ในมือเขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นปุถุชนหรือเซียนย่อมไม่ต่างกัน แปรศิลาเป็นทองคำ ใช้ของธรรมดาก็เ เอาชนะเซียนได้ วิธีพิสดารลึกลับนั้นเปิดโลกมากจริงๆ”
ฉินม่านอวิ๋นเอ่ยถามด้วยความสงสัย “ผู้อาวุโสหลิน ท่านคิดว่าบาดแผลเป็นอย่างไรบ้าง”
“ดีขึ้นแล้ว” หลินมู่เฟิงมองไปยังมือข้างที่ขาดของตน ขมวดคิ้วมุ่นหนึ่งครา เอ่ยอย่างไม่มั่นใจ “ข้ารู้สึกว่า…เหมือนว่าจะควบคุมได้มากขึ้นสักหน่อยแล้ว”
ระหว่างที่สนทนากันอยู่นั้น มือข้างนั้นที่ขาดของเขาก็พลันสั่นเทิ้มขึ้นมา
ขยับแล้ว ขยับได้จริงๆ ด้วย!
อย่าว่าแต่จักรพรรดิลั่วและฉินม่านอวิ๋นเลย แม้แต่หลินมู่เฟิงเองก็ตกตะลึงเช่นกัน
พวกเขารู้สึกว่าเลือดลมพุ่งขึ้นสมอง ทั้งร่างนิ่งงันไป
ก่อนหน้านี้ไม่นานยังเพิ่งจะถูกแบ่งเป็นสองท่อน ในช่วงเวลาสั้นๆ กลับเสียบต่อกันได้เสียอย่างนั้น?
ถ้าหากไม่ได้เห็นกับตาตนเอง ใครเล่าจะกล้าเชื่อ
จักรพรรดิลั่วสูดลมหายใจเข้าลึก พึมพำอย่างอดไม่ได้ “เหลือเชื่อ เหลือเชื่อจริงๆ”
หลินมู่เฟิงหัวเราะลั่น “มือข้างนี้ปรมาจารย์รักษากับมือจนหาย นับเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตข้า! ข้าตัดสินใจแล้ว นับแต่นี้ไปมือข้างนี้จะเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด ส่วน นเดียวเท่านั้น!”
“คำพูดนี้ข้าว่าถูกต้องไม่มีปัญหา” จักรพรรดิลั่วพยักหน้า ทว่าสายตากลับจ้องมือของหลินมู่เฟิงเขม็ง “สหายหลิน ข้าขอต่อรองกับเจ้าหน่อย เจ้ามอบไม้ดามแขนสองข้างนั้นให้ข้าได้ไหม ม”
“จะบ้ารึ! คำถามนี้ออกมาจากปากของเจ้าได้อย่างไรกัน”
หลินมู่เฟิงรีบป้องมือของตนเอง “เจ้าคิดว่าข้าโง่หรือไง ไม้ปราณสองท่อนนี้น่ะ ไม้ปราณเจ้ารู้จักไหม?!”
ไม้ปราณสองท่อนนี้สมบูรณ์ไร้ที่ติ ในสายตาของปรมาจารย์เป็นฟืนสำหรับเผาไฟ เขาไม่ยี่หระด้วยซ้ำ แต่ในสายตาของพวกเขา นี่เป็นสมบัติล้ำค่าที่หาได้ยากเชียวนะ!
“แลกเปลี่ยน แลกเปลี่ยนกันได้ไหม” จักรพรรดิลั่วรีบเอ่ยปาก “อย่าขี้เหนียวไปหน่อยเลย ผู้พบเห็นย่อมมีส่วนแบ่ง อยู่ๆ เจ้าก็ได้ไม้ปราณมาสองท่อน ได้มากเกินไปแล้ว”