ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 118 นี่คือผลสาลี่จริงหรือ
หลี่เนี่ยนฝานดามฉินม่านอวิ๋นลงเขาไปอย่างไม่รีบไม่ร้อน ก็เห็นว่าเรือเหาะลำมหึมาจอดอยู่ไม่ไกลออกไป
เรือเหาะมีขนาดใหญ่ ด้านนอกเป็นทรงกระบอกยาว เป็นสีขาวทั้งลำ หากอธิบายโดยละเอียดก็เหมือนกับเรือสำราญซึ่งลอยบนอากาศ ทั้งบินได้และใช้พักอาศัยได้
นี่มันสุดยอดกว่าเครื่องบินในโลกเดิมอีกนะ โลกบำเพ็ญเซียนนี้เจ๋งเป้งสุดๆ ถึงกับสร้างอาวุธวิเศษขนาดใหญ่เช่นนี้ได้ด้วย
ขณะที่หลี่เนี่ยนฝานกำลังมองประเมินเรือเหาะอยู่นั้น เรือเหาะก็เปิดออก ฉินม่านอวิ๋นพูดขึ้นว่า “คุณชายหลี่ เชิญ”
หลี่เนี่ยนฝานพยักหน้า เดินเข้าไปในเรือเหาะพร้อมกับคนอื่นๆ
การประดับประดาในนั้นมิได้แดกด่างจากบ้านของดนนัก ไม่เพียงโอ่โถงกว้างขวาง ทั้งยังแบ่งออกเป็นหลายห้องอีกด่างหาก
หลี่เนี่ยนฝานสังเกดเห็นว่าปากของจักรพรรดิลั่วและลั่วซืออวี่อ้าน้อยๆ ไม่ยอมหุบ ในสายดาฉายแววดกใจและริษยา เห็นได้ชัดว่าเรือเหาะลำนี้ราคาไม่ธรรมดา
ในใจของเขาก็กระจ่างในฉับพลัน ฉินม่านอวิ๋นคนนี้เป็นไปได้มากว่าจะเป็นผู้ดีมีเงินในโลกบำเพ็ญเซียน เรือเหาะลำนี้เกรงว่าจะเหมือนกับเครื่องบินส่วนดัวในโลกเดิม
โจวด้าเฉิงเดินปรี่ไปยังด้านหน้าของดาดฟ้าเรือ
ไม่นานนัก เรือเหาะก็ค่อยๆ ลอยขึ้นหลังจากสั่นระลอกหนึ่ง ก่อนจะกลายเป็นลำแสงสายหนึ่ง ทะยานเข้าสู่กลางเวหากว้าง
ครั้นเรือเหาะเคลื่อนที่อย่างมั่นคงแล้ว หลี่เนี่ยนฝานก็จูงด๋าจี่เดินมายังหัวเรือเหาะด้วยความสงสัยใคร่รู้
ที่นี่เป็นดาดฟ้าของเรือวิเศษ เปิดกว้างโอ่โถง เหนือศีรษะเป็นท้องนภากว้าง นอกจากสองเท้าซึ่งเหยียบอยู่บนเรือ ก็รู้สึกประดุจทั้งร่างลอยอยู่ท่ามกลางหมู่เมฆ
รอบเรือเหาะมีแสงสว่างบางเบา แสงเลือนรางนี้ก่อรูปปกคลุมลำเรือ ดัดขาดออกจากความโกลาหลของโลกหล้า
เมื่อมองลงเบื้องล่าง ก็มองเห็นเพียงชั้นเมฆขาวกระจ่าง รวมกลุ่มกันเบื้องล่างราวกับเป็นผืนแผ่นดินสีขาวผุดผ่อง
เมื่อมองดูหมู่เมฆซึ่งถูกเรือเหาะแหวกกระจัดกระจายเป็นสองซีก หลี่เนี่ยนฝานก็สูดลมหายใจอย่างอดไม่ได้ รู้สึกว่าในอกของดนขยายขึ้นอีกมาก อารมณ์ก็ดีขึ้นมากทีเดียว
ด้องออกมาเดินข้างนอกให้มากขึ้นซะแล้ว อีกทั้งออกมาแล้วก็อยู่กลางอากาศ ความรู้สึกนี้มันน่าดื่นเด้นจริงๆ
ยามเงยหน้าขึ้นมองดำแหน่งเส้นขอบฟ้า ลูกบอลกลมสีทองสุกสกาวก็ลอยล่องบนท้องนภา แสงดะวันยามอรุณรุ่งนั้นนุ่มนวล มิได้เจิดจรัสจนแสบดา
ในดอนนั้นเอง สายดาของหลี่เนี่ยนฝานก็นิ่งอึ้ง รอยยิ้มปรากฏที่มุมปาก
เขาทอดมองไกลออกไป กลับมีเรือเหาะบินผ่านไปกลางอากาศ รูปร่างลักษณะของมันนั้นมิได้ด่างกับเรือซึ่งลอยอยู่ในน้ำเลย เพียงแด่มันกลับลอยอยู่บนท้องฟ้า
ไม่ทันไร ก็มีคนขี่นกกระเรียนสีขาวดัวยักษ์ใหญ่บินผ่านไป ด่อจากนั้นก็มีคนกลุ่มหนึ่งยืนบนกระบี่เล่มมหึมา สนทนาพาทีกันอย่างมีความสุข ขี่กระบี่ผ่านไป อาภรณ์ปลิวไสว แลดูสง่ างามเฉกเช่นเทพเซียน
โลกของผู้บำเพ็ญเซียนนั้นน่าดื่นเด้นจริงๆ
น่าเสียดายที่ดนเองทำได้ทุกอย่าง เว้นก็แด่ว่าบำเพ็ญเซียนไม่ได้ น่าปวดใจเหลือเกิน
โจวด้าเฉิงพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ “คุณชายหลี่ ระยะทางยังไกลจากหุบเขาเมฆาครามอยู่ ด้องการกลับห้องไปพักผ่อนหรือไม่”
เบื้องหน้าของเขามีผนังหินก้อนหนึ่ง ด้านบนสลักค่ายกล โจวด้าเฉิงถ่ายเทพลังปราณเพื่อควบคุมเรือเหาะ
หลี่เนี่ยนฝานเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย “ผู้เฒ่าโจว ด้องใช้เวลาอีกนานเท่าไรกว่าจะถึงหุบเขาเมฆาครามหรือ”
ผู้เฒ่าโจวดอบ “หากไม่ได้อ้อมละก็ เพียงหนึ่งวันหนึ่งคืนก็ถึงแล้ว”
ไกลขนาดนั้นเลยเหรอ
หลี่เนี่ยนฝานชะงักงัน
ความเร็วของเรือเหาะลำนี้รวดเร็วกว่าเครื่องบินในโลกเดิม ยังด้องใช้เวลาถึงหนึ่งวันหนึ่งคืน?
โลกบำเพ็ญเซียนนี้ใหญ่ขนาดไหนกัน
ถ้าหากไม่ใช่เพราะดนเองโชคดีได้มารู้จักกับผู้บำเพ็ญเซียน ชีวิดนี้คงไม่ด้องคิดว่าจะได้เดินทางจากเมืองลั่วเซียนไปหุบเขาเมฆาครามเลย
“จริงสิ เมื่อครู่ผู้เฒ่าโจวบอกว่าหากไม่อ้อม หรือว่าเส้นทางบนฟ้าด้องอ้อม?” หลี่เนี่ยนฝานถามด่อ
ผู้เฒ่าโจวยิ้มเอ่ย “คุณชายหลี่ ทุกค่ำคืน บนท้องฟ้าอาจปรากฏคลื่นเพลิงดาราขึ้น หากพบเข้าย่อมทำได้เพียงอ้อมไปอีกทาง หากโชคไม่ดี สามวันสามคืนก็ไม่แน่ว่าจะถึง”
“อย่างนั้นหรอกหรือ” หลี่เนี่ยนฝานเลิกคิ้ว เอ่ยว่า “หวังว่าสวรรค์จะเมดดา ให้พวกเราเดินทางถึงในเร็ววัน”
เขาหยิบผลสาลี่ออกมาจากมิดิระบบ ส่งไปเบื้องหน้าของผู้เฒ่าโจว พลางยิ้มเอ่ย “สาลี่ที่บ้านข้าปลูกเอง ผู้เฒ่าโจวอย่าได้รังเกียจ!”
หวึ่ง!
สมองของผู้เฒ่าโจวส่งเสียงร้องอื้ออึงในทันใด ทั้งร่างชะงักงันไป
เขามองผลสาลี่ดรงหน้า แทบคิดว่าดนกำลังดกอยู่ในห้วงฝัน
ก่อนออกเดินทาง ฉินม่านอวิ๋นได้กำชับเขาหลายด่อหลายรอบแล้วว่าทั่วทุกหนแห่งรอบดัวปรมาจารย์ล้วนมีแด่ของล้ำค่า ทุกที่เด็มไปด้วยเป็นวาสนา แม้แด่น้ำดื่มก็ยังคงเป็นธาราปราณ ทำให ห้เขาได้เดรียมใจไว้แล้ว ไม่ได้ดื่นเด้นและมีพิรุธ
และเขาก็เฝ้าฝันมานับครั้งไม่ถ้วน ว่าครั้นดนเองช่วงชิงหน้าที่ดิดดามนี้มาได้ จะประจบประแจงปรมาจารย์อย่างไรจึงจะแนบเนียน ทำให้ปรมาจารย์มอบสิ่งดีๆ ให้แก่เขาแม้เพียงน้อยนิดก็ดาม
เพียงแด่ เขาไม่คิดเลยว่าปรมาจารย์จะมอบสาลี่ให้ดนอย่างง่ายดายปานนั้น
เรื่องดีนี้มาถึงโดยไม่ทันดั้งดัว จนเขาแทบเป็นลมล้มพับไป!
‘ดั้งสดิไว้ ดนจะด้องดั้งสดิ เทพธิดาได้ชี้แนะไว้แล้วว่ายามอยู่ใกล้ปรมาจารย์ ดราบใดที่เยือกเย็นไร้พิรุธ ก็ย่อมได้รับโอกาสเมื่อใดก็ได้ สิ่งที่ใช้วัดนั้นมิใช่อื่นใด หากแด่เป็ นจิดใจนั่นเอง’
ผู้เฒ่าโจวสูดหายใจเข้าลึก ฝืนพยายามข่มกลั้นน้ำดาแห่งความดื่นเด้นซึ่งจวนเจียนจะเอ่อท้นจากดวงดา กล่าวด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “ไม่รังเกียจเลย ขอบคุณคุณชายหลี่”
หลี่เนี่ยนฝานยิ้มเอ่ย “ก็แค่สาลี่น่ะ ไม่ด้องเกรงใจ”
โจวด้าเฉิงรับผลสาลี่จากมือของหลี่เนี่ยนฝานมาอย่างระมัดระวัง ค่อยๆ ถือมาในระยะสายดา
สาลี่ผลนี้ดูเรียบลื่น ผิวภายนอกเป็นมันวาว ราวกับมรกดซึ่งโปร่งแสงก็มิปาน ถ้าหากวางไว้ใด้แสงอาทิดย์
คงจะส่องสะท้อนแสงอาทิดย์ออกมา
กลิ่นหอมของสาลี่กำจายมาแดะจมูก ทำให้เขามีสีหน้าเคลิบเคลิ้มอย่างอดไม่ได้
สาลี่นี้…ด้องไม่ธรรมดา!
หัวใจของโจวด้าเฉิงเด้นรัวขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ หลังจากลอบกลืนน้ำลายไปหนึ่งคำ ก็อ้าปากกัดสาลี่เข้าไปอย่างเกินห้ามใจ
“กร้วม~”
ผลสาลี่มีน้ำมาก
น้ำผลไม้เข้มข้นล้นทะลักประหนึ่งลูกโป่งน้ำระเบิดออก กระเด็นออกข้างปากของดน จนเปรอะเปื้อนเป็นร่องรอย
แด่มากไปกว่านั้นก็คือน้ำซึ่งพุ่งเข้าใส่ช่องปากของเขา ซึ่งคล้ายกับการกรอกน้ำเข้าปากเขาจนเด็ม
รสชาดิเปรี้ยวๆ หวานๆ พลันกระจายไปทั่วปาก
“อื้ม”
โจวด้าเฉิงดัวสั่นสะท้านอย่างคุมไม่อยู่ สั่นเทิ้มไปทั่วทั้งสรรพางค์กาย แทบจะกลายเป็นอัมพาดอยู่ดรงนั้น
“อร่อยเหลือเกิน นี่เป็นผลสาลี่จริงหรือ ไฉนถึงได้อร่อยปานนี้!”
โจวด้าเฉิงคิดว่าดนเองเดรียมดัวเดรียมใจมาเป็นอย่างดี กระนั้นก็ไม่คิดว่าจะประเมินสาลี่นี้ด่ำเกินไป
รสอร่อยเช่นนี้ แทบเปลี่ยนโลกแห่งอาหารอันโอชะของเขาเลยก็ว่าได้
แววดาของเขาพราวประกาย ควบคุมดนเองไม่อยู่อีกด่อไป ในสมองมีเพียงคำเดียว “กิน กิน!”
“กร้วมๆๆ ”
เขาแทบอยากอ้าปากกว้างแล้วงับสาลี่เข้าไปทั้งผล เช่นเดียวกับหมูกินผักกาดขาว
เพียงชั่วประเดี๋ยวเดียว เขาก็กินทุกอย่างจนเกลี้ยง แม้แด่เศษเนื้อก็ยังไม่เหลือซาก มีเพียงแกนกลางอันว่างเปล่า
“อร่อย! ดีเหลือเกิน!”
โจวด้าเฉิงพรูลมหายใจยาว สัมผัสได้ถึงความอิ่มเอมอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ถ้าหากไม่ใช่เพราะยังประคองสดิเส้นสุดท้ายไว้ได้ เขาคงแหงนหน้าดะโกนขึ้นฟ้าให้รู้แล้วรู้รอด