ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 129 อร่อยจนน้ำตาไหล
“ฟืด ฟืด ฟืด!”
แม้ฉินม่านอวิ๋นจะพยายามควบคุมสุดกำลัง ก็ยังรู้สึกว่าลมหายใจตนหนักขึ้นทุกที ดวงตาจ้องมองใบชาในหม้อแน่นิ่ง
มิน่ากลิ่นหอมถึงสามารถทำให้คนรู้สึกสดชื่นขึ้น ที่แท้ก็เป็นวัตถุดิบเซียน!
นี่เป็นใบชาที่ทำให้คนตื่นรู้ได้เลยนะ!
แน่นอนว่าเป็นใบชาของเซียนอย่างไม่ต้องสงสัย!
เอาใบชาระดับนี้มาทำไข่ต้มใบชาเนี่ยนะ?
ต้องสิ้นเปลืองใบชาไปมากมายเพียงใดกัน
เสียของ! การกระทำเช่นนี้สร้างความเข้าใจใหม่ต่อคำว่า ‘เสียของ’ แก่ฉินม่านอวิ๋น หัวใจนางกระตุกไหววูบๆ
นางรีบผละสายตาออก เกรงว่าหากยังมองนานกว่านี้จะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่
สิ่งที่ทำให้นางเจ็บปวดใจที่สุดคือไข่ที่ต้มใบชา ที่มิใช่ทั้งไข่มังกรและไข่หงส์ฟ้า หรือแม้กระทั่งไข่ปีศาจก็ตาม หากแต่เป็นไข่ไก่ธรรมดาๆ นี่กำลังจะทำอะไรกันแน่? ขนาดซื้อกล่ องคืนไข่มุก[1]ยังไม่เป็นเช่นนี้ จะทำให้คนกระอักเลือดตายอยู่แล้วรู้บ้างไหม?
ยังดีที่สองพี่น้องกู้จื่อเหยายังไม่รู้ว่าไข่ต้มใบชาที่พวกเขาเผชิญอยู่เป็นเช่นไร ไม่เช่นนั้นคงได้ร้องเสียงหลงด้วยความตื่นตกใจไปแล้ว
กู้จื่อเหยาหยิบกล่องใบหนึ่งส่งให้หลี่เนี่ยนฝาน “คุณชายหลี่ นี่เป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากข้า โปรดรับไว้ด้วย”
“พวกเจ้าเนี่ย…มาก็มาสิ ยังต้องนำสิ่งใดมาด้วยอีก?” หลี่เนี่ยนฝานส่ายหัวอย่างอดไม่ได้ สองพี่น้องคู่นี้เกรงอกเกรงใจเกินไปแล้ว ครั้งก่อนน้องชายให้หินวิญญาณกับตน มาครั้งพี สาวยังนำของขวัญมาให้อีก ชวนให้รู้สึกกระดากอายซะจริง
“คุณชายหลี่ นี่เป็นแค่เพียงเสื้อผ้าธรรมดา ไม่นับว่าสำคัญอะไร ข้าได้ยินน้องม่านอวิ๋นบอกว่าท่านกำลังหาเสื้อผ้าให้แม่นางต๋าจี่ ข้าจึงนำติดไม้ติดมือมาด้วย” กู้จื่อเหยากล่าว ด้วยรอยยิ้ม
หลี่เนี่ยนฝานรับกล่องมา “ช่างใส่ใจยิ่งนัก ขอบคุณมาก”
ครึ่งด้านของกล่องใบนี้โปร่งใส สามารถมองเห็นชุดกระโปรงสีขาวบริสุทธิ์ที่ถูกจัดวางไว้ด้านในอย่างสงบ ส่วนของกระโปรงปักด้วยผ้าชีฟองสีม่วง สายทั้งสองข้างประดับด้วยเครื่องตกแต่ งสไตล์ไข่มุก คล้ายดั่งมีรัศมีเปล่งประกายออกมา ชายกระโปรงยังปักเกล็ดทองลายม่วง เรียกได้ว่ารวมความสง่างาม สูงส่งและเย้ายวนไว้ในหนึ่งเดียว
มองปราดเดียว หลี่เนี่ยนฝานก็คิดว่าชุดกระโปรงนี้ช่างเข้ากับต๋าจี่ยิ่งนัก จึงทำได้เพียงหน้าด้านรับไว้
เมื่อเห็นหลี่เนี่ยนฝานยอมรับของ สองพี่น้องกู้จื่อเหยาก็ผ่อนลมหายใจ สีหน้าพลันสดใส แอบรู้สึกยินดี
แน่นอนว่าต้องทุ่มเทสุดตัว นี่นับเป็นการเริ่มต้นที่ดีทีเดียว
พวกเขานั่งยืดตัวตรง เหลือบมองอาหารบนโต๊ะ ถึงได้เห็นว่านอกจากไข่ต้มใบชาแล้ว อาหารบนโต๊ะยังมีอีกไม่น้อยเลย
ข้าวต้มผักหม้อดินเล็ก เข้าคู่กับหมั่นโถวอวบอ้วนสีขาวจานใหญ่ นอกจากนี้ยังมีเครื่องเคียงสองสามอย่างและผลไม้นานาชนิดอีกถาดหนึ่ง
อาหารเช้าเป็นเรื่องของโภชนาการ แต่ทานมากไปก็ไม่ใช่เรื่องดี การจัดชุดอาหารเช่นนี้นับว่าอุดมสมบูรณ์พอแล้ว
ครั้งนี้หลี่เนี่ยนฝานนำอาหารที่นำมาด้วยทั้งหมดออกมา พวกเขามาเป็นแขก จะทำตัวต๊อกต๋อยเกินไปไม่ได้
ฉินม่านอวิ๋นมองดูอาหารบนโต๊ะด้วยดวงตาเป็นประกาย น้ำลายแทบจะไหลทะลักออกมา
โชคชะตา!
อาหารบนโต๊ะนี้คือโชคชะตาที่สวรรค์ประทาน!
ดูเหมือนวันนี้ผู้ยิ่งใหญ่จะอารมณ์ดี ก้าวหน้า ต้องก้าวหน้าไปอีกขั้นแน่ๆ!
ต๋าจี่หยิบช้อนตักข้าวต้มให้กับทุกคนด้วยท่วงท่าสง่างาม
“ขะ ขอบคุณ” กู้จื่อเหยารับชามมาอย่างระมัดระวัง กระทั่งน้ำเสียงยังสั่นเครืออย่างไม่อาจควบคุม
คนผู้นี้เป็นถึงเซียน!
ท่านพ่อ อนาคตลูกสดใสแล้ว แม้แต่เซียนยังตักอาหารให้ข้า
แต่…ข้าก็กลัวอยู่บ้าง หวาดหวั่นลนลานยิ่งนัก
กู้จื่อเหยาทำอะไรไม่ถูก สายตาทอดตกกระทบชามข้าวต้มในมือ ประกายความประหลาดใจวาบผ่านดวงตางาม
เห็นว่าข้าวต้มในชามล้วนเป็นข้าวเต็มเมล็ด น้ำข้าวต้มเข้มข้นชุ่มฉ่ำ คล้ายกำลังส่องแสงระยิบระยับราวกับดวงดาราแห่งท้องทะเลอันกว้างใหญ่
ขณะเดียวกันก็มีผักประดับประดาให้ข้าวต้มไม่ซ้ำซากจำเจ ผักเหล่านั้นส่องประกายสีเขียวมรกต ขนาดเล็กใหญ่เท่าๆ กัน รวมถึงรูปร่างก็ยังไปในทางเดียวกัน
ข้าวต้มผักชามนี้ให้ความรู้สึกสวยสดงดงามเป็นที่สุด กู้จื่อเหยาสาบานได้ว่าอาหารเลิศรสใดๆ ที่นางเคยกินมาก่อน ล้วนไม่อาจเทียบความงามกับข้าวต้มผักชามนี้ได้เลยแม้แต่น้อย
กลิ่นหอมของข้าวต้มค่อยๆ กลบกลิ่นเข้มข้นของไข่ต้มใบชา ทันที่โชยเข้าจมูก ต่อมรับรสของนางก็ถูกกระตุ้นให้ทำงาน ร่างกายสั่นระริก ขนทั่วทั้งตัวลุกชัน
“ช่างเย้ายวนเหลือเกิน! ไม่ไหวแล้ว น่ากินซะจริง อดใจไม่ไหวแล้ว!”
ตอนแรกกู้จื่อเหยายังคิดจะรักษาความสง่างามของตนไว้ ทว่าบัดนี้ควบคุมตนเองได้ยาก รีบยกชามมาที่ปากของตนอย่างอดรนทนไม่ไหว แต่แทนที่จะจิบเบาๆ กลับกลืนเข้าปากเสียอึกใหญ่
“ฮ้า~”
ทันทีที่น้ำข้าวต้มฉ่ำข้นไหลเข้าปาก ก็ทำให้นางส่งเสียงออกมาด้วยความพึงพอใจอย่างห้ามไม่อยู่ ดั่งคนอดอยากหิวกระหายมาเนิ่นนาน ได้รับหยาดน้ำชุ่มชื้นหล่อเลี้ยง ไหลไปทั่วสรรพางค์ก กาย แม้แต่จิตวิญญาณก็เริ่มสั่นสะท้านด้วยความอิ่มเอม ความรู้สึกเช่นนี้…ช่างสดชื่นเสียจริง
น้ำข้าวต้มดูเหมือนเหนียวข้นแต่กลับให้ความรู้สึกสดชื่นสบายปาก โดยเฉพาะเมื่อมีกลิ่นหอมของผัก ยิ่งชูให้รสชาติของข้าวต้มอร่อยล้ำถึงขีดสุด หากไม่ได้ลองด้วยตัวเอง กู้จื่อเหยาคง ไม่มีทางจินตนาการได้ว่าข้าวต้มผักชามหนึ่งจะอร่อยได้ถึงเพียงนี้
นี่เป็นแค่ข้าวต้มผักชามหนึ่งจริงๆ หรือ?
“อึก!”
หลังจากกลืนข้าวต้มหนึ่งคำนี้ลงไป ท้องของนางก็ส่งสัญญาณความพึงพอใจออกมา
ขณะที่นางกำลังจะชิมคำต่อไป จู่ๆ การเคลื่อนไหวก็หยุดชะงัก ม่านตาเบิกโพลง ดวงตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
นี่…นี่มันทำนองมรรคา?
ในข้าวต้มนี้แฝงด้วยทำนองมรรคาหรือ?!
นี่คือข้าวต้มเซียนอย่างนั้นหรือ?
นางยังไม่ทันร้องอุทานก็ได้ยินเสียงสูดหายใจเฮือกดังมาจากข้างๆ น้องชายที่น่าสงสารของตนได้ส่งเสียงร้อง “ว้าว” ลุกพรวดขึ้นมาเสียแล้ว
“ฟืด——”
“ขะ ขะ ข้าวต้มนี่…” กู้จื่ออวี่ชี้ชามข้าวต้มบนโต๊ะด้วยมือที่สั่นระริก น้ำเสียงตระหนกตกใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้นประหลาดใจ
บรรยากาศทั่วทั้งห้องลดต่ำจนถึงจุดเยือกแข็ง สีหน้าฉินม่านอวิ๋นซีดขาวราวกระดาษ หัวใจของกู้จื่อเหยาเคลื่อนมาถึงคอ แววตาเจือความโศกเศร้าเสียใจ กำลังคิดว่าจะฆ่าน้องชายตนให้ต ตายดีหรือไม่ ทางด้านต๋าจี่กลับสีหน้าเรียบเฉยไม่เปลี่ยนแปลง แต่ความจริงพร้อมสังหารกู้จื่ออวี่ให้ตายได้ทุกเมื่อ
สายตาทุกคู่จับจ้องกู้จื่ออวี่ด้วยแววตาคมกริบราวกับนักดาบ ทำให้กู้จื่ออวี่สั่นสะท้านขึ้นมาอย่างไม่อาจควบคุม แผ่นหลังเย็นวาบ สติกลับคืนมาในชั่วพริบตา
กู้จื่ออวี่เกือบจะฉี่ราด สมองว่างเปล่า พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ช่าง ช่าง ช่าง…อร่อยยิ่งนัก!”
เขาศีรษะชา ดวงตาเปียกชื้น พูดติดๆ ขัดๆ “เอ่อ คุณชายหลี่ ขอโทษที ข้า…ข้าไม่เคยกินอะไรที่อร่อยเช่นนี้มาก่อน ก็เลยตื่นเต้นไปหน่อย จริงๆ นะ อร่อยเกินไปแล้ว อร่อยจนเกือบทำใ ให้ข้าซาบซึ้ง น้ำตาไหลเลยทีเดียว”
หลี่เนี่ยนฝานหัวเราะร่า “ไม่เป็นไร ถ้าอร่อยเจ้าก็กินให้เยอะหน่อย”
เขายังเข้าใจว่ากู้จื่ออวี่ปลื้มปริ่มอิ่มเอมกับความอร่อยในรสชาติอาหารของเขา
สถานการณ์เช่นนี้ทำให้เห็นว่าเขาทำอาหารได้อร่อยเลิศรส แม้แต่ผู้บำเพ็ญรุ่นที่สองอย่างกู้จื่ออวี่ยังเอ่ยปากชม มีหรือหลี่เนี่ยนฝานจะไม่ดีใจ
………………………………………
[1] ซื้อกล่องคืนไข่มุก เป็นสำนวนจีนใช้เปรียบเปรยถึงคนที่ไม่สามารถแยกแยะว่า สิ่งใดที่มีค่า สิ่งใดที่เป็นเพียงสิ่งภายนอกหรือเป็นแค่ของตกแต่ง