ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 130 ภาพที่สวยสดงดงาม
“ฮู่ว”
เมื่อเห็นว่าหลี่เนี่ยนฝานไม่ได้โกรธ ทุกคนต่างก็ถอนหายใจพร้อมกันด้วยความโล่งอก ราวกับได้เดินออกจากประตูนรก
บุคคลเช่นนี้ หากโกรธขึ้นมาคงหนีไม่พ้นฆ่าล้างบางกระมัง คาดว่าโลกบำเพ็ญเซียนทั้งใบก็ยังรับมือไม่ไหว
กู้จื่อเหยาถลึงตาใส่น้องชาย ตอนนี้แผ่นหลังนางเหงื่อแตกพลั่กไปหมดแล้ว ทำนางตกใจแทบตาย
กู้จื่ออวี่ได้แต่ยิ้มกระอักกระอ่วนแล้วนั่งลงอีกครั้ง หวนนึกหวาดกลัวเป็นที่สุด เขาเอ่ยต่อ “เสียมารยาทแล้ว เสียมารยาทแล้ว”
“ปุดๆๆ”
ตอนนี้ไข่ต้มใบชาสั่นสะเทือนแรงขึ้นจากน้ำเดือด ควันหนาลอยฟุ้ง กลิ่นหอมเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด
หลี่เนี่ยนฝานเอ่ยขึ้น “ได้แล้ว ไข่ต้มใบชาเสร็จพอดี”
ทุกคนต่างตื่นเต้น ความคาดหวังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อเผยออกมาจากดวงตาอย่างอดไม่ได้
กลิ่นหอมเข้มข้นขนาดนี้รสชาติคงอร่อยกว่าข้าวต้มผักอีกเป็นแน่ แม้แต่เซียนก็ไม่แน่ว่าจะได้กิน ความตะกละในท้องแทบจะอดใจรอไม่ไหวแล้ว
ต๋าจี่หยิบจานรองออกมา ตักไข่ต้มใบชาในหม้อใส่จานก่อนจะยกมาตรงหน้าทุกคน
ฉินม่านอวิ๋นมองไข่ต้มใบชาเบื้องหน้า แม้จะรู้สึกเป็นการทำลายของมีค่าให้สูญเปล่า แต่ไข่ต้มใบชานี้ก็ใช้ใบชาเซียนในการทำ ต่อให้น่าเสียดายอย่างไรก็ยังต้องกินให้ได้อยู่ดี
ดวงตางามกวาดมองไข่ต้มใบชาตรงหน้าอย่างละเอียด
กลับเห็นว่าไข่ทั้งใบถูกใบชาย้อมจนกลายเป็นสีน้ำตาลเข้ม ดูโดดเด่นในจานพื้นสีขาว น้ำแกงสีน้ำตาลเข้มเป็นประกายชุ่มฉ่ำแวววาวเคลือบไข่ไก่ ไหลหยดลงตามเปลือกไข่ที่โค้งมนช้าๆ อบ บอวลด้วยกลิ่นหอมของใบชา แม้ดมใกล้ๆ ก็ไม่มีกลิ่นคาวของไข่ไก่เลยแม้แต่น้อย
เนื่องจากต้มด้วยไฟต่ำ เวลาผ่านไปครู่ใหญ่เปลือกไข่จึงแตกออกเป็นรอยร้าวอย่างประณีต ดูงดงามเป็นระเบียบเรียบร้อย
ไม่เพียงแต่ไม่รู้สึกเร่งรัดฉับพลัน ยังเหมือนเป็นการตกแต่งที่ทำให้คนยิ่งอยากอาหารขึ้นกว่าเดิม
นางมองน้ำต้มใบชาบนไข่ไก่ หากไม่ใช่เพราะมีสติสัมปชัญญะสุดท้ายหลงเหลืออยู่ นางคงแลบลิ้นออกมาเลียแล้ว
‘ต่อให้เป็นไข่ไก่ธรรมดาเพียงใด แต่เมื่อผ่านการต้มด้วยใบชาเซียน อย่างไรก็ต้องไม่ธรรมดาแน่’
นางเอื้อมมือเรียวยาวไปแกะเปลือกไข่เบาๆ เปลือกไข่กลับลอกออกง่ายดายจนน่าประหลาดใจ เพียงแค่ดึงมุมหนึ่ง เปลือกไข่ทั้งหมดก็พาเยื่อด้านในหลุดออกมาด้วย
บัดนี้คล้ายกับหลุดพ้นจากพันธนาการ เนื้อไข่ที่หลบซ่อนอยู่ภายในปล่อยกลิ่นหอมคละคลุ้งผสมผสานกับกลิ่นหอมของใบชาออกมา
โชยปะทะหน้าจนฉินม่านอวิ๋นถึงกับสูดหายใจเฮือกใหญ่อย่างไม่อาจควบคุมตนเอง จู่ๆ ความอยากอาหารก็ระเบิดพรั่งพรูออกมา
แม้พวกเขาทานข้าวต้มผักไปแล้ว แต่เมื่อได้กลิ่นหอมอันเย้ายวนนี้ก็ยังอดกลืนน้ำลายไม่ได้ ความหิวกระหายเริ่มก่อตัวขึ้นในท้องอีกครั้ง
ทันทีที่เปลือกไข่ถูกลอกออกจนหมด ไข่สีขาวก็ค่อยๆ ปรากฏออกมาสู่สายตา
พวกเขาต่างดวงตาเปล่งประกาย ร้องอุทานในใจด้วยความตื่นเต้น ‘ไข่ใบนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน…’
ไข่ขาวทุกใบล้วนมีรูปร่างกลมกลึง สีขาวหิมะจนแทบจะโปร่งใส ราวกับรูปปั้นน้ำแข็ง กระทั่งมองผ่านไข่ขาวโปร่งแสงนั้นไปก็ยังเห็นไข่แดงเหลืองอร่ามอยู่ด้านใน
ไข่ขาวสีขาวตัดกับไข่แดงสีเหลือง เกิดเป็นเสียงขานรับที่เป็นธรรมชาติที่สุด รวมกันเป็นภาพที่สวยงามตระการตาราวกับงานศิลปะ
นอกจากหน้าตาจะดูดีแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดยังมีกลิ่นหอมดึงดูดใจ กระตุ้นความอยากอาหารของคน
ไร้ที่ติทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและกลิ่นหอม!
อาหารเป็นเรื่องของสี กลิ่นและรสชาติ
ก่อนที่พวกเขาจะได้เห็นไข่ต้มใบชาเหล่านี้ ก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าต้องใส่ใจกับสี กลิ่นและรสชาติของมันด้วย ไข่ต้มใบชานี้ไม่ว่าจะเป็นสีหรือกลิ่นก็เรียกได้ว่ามาถึงจุดสูงสุดแล ล้ว
ไม่รู้ว่ารสชาติจะเป็นอย่างไร?
ในใจทุกคนต่างอยากกลืนไข่ลงไปในคำเดียว
และในความเป็นจริงกู้จื่ออวี่กำลังจะทำเช่นนั้น
ตอนนี้สมองของเขาว่างเปล่าขาวโพลน แทบจะอ้าปากกว้างโดยไม่คิดอะไรแล้วยัดไข่ทั้งใบเข้าปาก
ทันทีที่ฟันบนและล่างประกบเข้าหากันก็กัดเข้าตรงกลางอย่างแรง
“โอ้ย ร้อนๆ!”
เมื่อไข่ขาวดุจคริสตัลถูกกัดจนปริแตก ไข่แดงสีเหลืองทองอร่ามก็ไหลทะลักออกมาพร้อมกับอุณหภูมิที่สูงจัด จนเขาอดร้องอุทานด้วยความตกใจไม่ได้
เพราะร้อนเกินไป กู้จื่ออวี่จึงใช้ลิ้นควบคุมไข่ให้เคลื่อนไหวไปมาในปากตลอดเวลา ขณะที่กำลังตื่นตระหนก ใบหน้าเขากลับเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขาพูดอย่างไม่อ้อมค้อม “อร่อย อร่อยมาก! !”
เขาไร้ซึ่งคำพูด นอกจากคำว่าอร่อยก็ไม่รู้จะใช้คำใดมาอธิบายไข่ต้มใบชานี้
แต่เพราะรีบร้อนมากไป ไข่แดงจึงติดคอ เขาทำได้เพียงเบิกตากว้าง เหยียดคอกลืนลงไป เป็นภาพที่ดูน่าตลกไปหน่อย
กู้จื่อเหยาส่ายหัวอย่างอดไม่ได้ รู้สึกขายหน้า เพื่อวางตัวเป็นสตรีอ่อนหวานแช่มช้อยผู้สง่างาม นางพยายามระงับความอยากกลืนไข่ลงไปในคำเดียว แล้วอ้าปากเล็กน้อยนำไข่เข้าปากอย่ างช้าๆ
เช่นเดียวกับฉินม่านอวิ๋นและต๋าจี่
สตรีทั้งสามงดงามดั่งหยกดุจบุปผา ริมฝีปากแดงอวบอิ่มเผยออ้าเล็กน้อย สัมผัสไข่ขาวกลมกลึงช้าๆ พร้อมกัน…
ช่างเป็นภาพ…ที่สวยงามจับตาซะจริง!
พลังทำลายล้างรุนแรงไร้เทียมทาน
วินาทีที่ไข่ต้มใบชาเข้าปาก กลิ่นหอมเข้มข้นของใบชาผสมผสานกับกลิ่นหอมของไข่ห่อหุ้มปลายลิ้น
กลิ่นหอมของใบชาเข้ากับกลิ่นหอมของไข่ไก่ได้อย่างลงตัว แบ่งเป็นชั้นอย่างชัดเจน ราวกับพุ่งเข้าจู่โจมปากอย่างดุดัน สองกลิ่นที่แตกต่างรวมกันเป็นกลิ่นหอมเฉพาะตัว
ไอร้อนจากไข่ไก่พวยพุ่งอยู่ในปาก ราวกับดอกไม้ที่มาพร้อมกลิ่นหอม
ฟู่~
ใบหน้าหญิงสาวทั้งสามเป็นสีแดงเด่นชัด
เมื่อฟันสัมผัสเนื้อไข่ขาวนุ่มเด้งราวกับเยลลี่ที่สั่นไหวเบาๆ ก็ชวนให้อดใจไม่อยู่
เมื่อกัดเนื้อไข่ขาวเบาๆ ทันใดนั้นดวงตาของทั้งสามก็เบิกโพลง นัยน์ตาหดเกร็ง กระทั่งรูจมูกก็เริ่มเบิกกว้าง
ซู่!
กลิ่นหอมที่อยู่ด้านในไหลออกมาตามรอยกัด พุ่งทะลักออกมาราวกับน้ำท่วม
“อา…ฮือ…”
กลิ่นหอมเข้มข้นเกือบทำให้พวกนางแทบอยากหยุดหายใจ ไข่ต้มใบชาเหมือนกำลังเด้งไปมาในปาก จนร่างกายของพวกนางสั่นไหวเบาๆ อย่างไม่อาจห้ามได้
ไข่ไก่ที่ใดกัน เห็นชัดๆ ว่านุ่มเด้งยิ่งกว่าผิวสตรีเสียอีก!
‘อร่อย…อร่อยเหลือเกิน…’
ทั้งสามกู่ร้องในใจ แม้แต่ต๋าจี่เองก็ตาม
เดิมทีนางคิดว่าฝีมือการทำอาหารของเสี่ยวไป๋เป็นที่สุดในโลกแล้ว ไม่คิดว่านายท่านของนางจะเป็นบุรุษซ่อนคมเช่นนี้
ภาพลักษณ์หญิงสาวอะไร พวกนางลืมไปหมดแล้ว เพียงเคี้ยวสองสามคำก็ยัดไข่ทั้งใบเข้าปาก
แม้แต่บุรุษรีบร้อนกินไข่ด้วยความเร็วขนาดนั้นยังไม่น่าดูหนักหนา นับประสาอะไรกับสตรีที่งดงามดั่งหยกดุจบุปผา
ไข่ขาวกลิ้งกลอกไปมาในปากไม่หยุดตามแรงบดเคี้ยว ไข่แดงส่งกลิ่นหอมคละคลุ้งไปทั่ว สตรีทั้งสามหรี่ตาลงอย่างไม่อาจควบคุม ซึมซับเพลิดเพลินกับความอร่อยไม่รู้จบ
อะไรคือความสุขน่ะหรือ? นี่ไงล่ะคือความสุข!
ในเวลานี้ แม้แต่ฉินม่านอวิ๋นก็อดไม่ได้ที่จะทิ้งน้ำใบชาไว้เบื้องหลังอย่างไม่เสียดาย
ปรุงอาหารออกมาได้อร่อยเลิศล้ำเช่นนี้ ก็นับว่าน้ำชานั้นได้ใช้ประโยชน์สูงสุดแล้ว เป็นความคุ้มค่าถึงที่สุด!