ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 146 ลูกพี่ ใครต้องอิจฉาใคร?
ไม่นานกู้จื่ออวี่ก็ลากหมีดำตัวใหญ่เดินกลับมาอีกครั้ง
สภาพไม่เปลี่ยนแปลงไปจากตอนแรกที่เดินไป หมีดำตัวใหญ่ยังคงนอนหลับอย่างสงบ
เมื่อเห็นท่าทางของกู้จื่ออวี่ กู้จื่อเหยาก็แอบส่ายหัวอย่างอดไม่ได้ น้องชายของนางไม่เอาไหนจริงๆ เที่ยวเล่นไปวันๆ ไยจึงรู้สึกว่าเขาไม่โตสักที?
แค่เก็บหมีดำสายเลือดธรรมดากลับมาจากป่า ยังคิดอยากเลี้ยงให้มันกลายเป็นปีศาจ ง่ายดายเช่นนั้นเสียที่ไหน?
แล้วปีศาจเช่นนี้มิใช่ว่ามีกันทั่วบ้านทั่วเมืองหรือ? เขาคิดว่าตนเป็นเซียนที่สามารถสร้างปีศาจได้ตามใจหรือไง?
หากสัตว์ธรรมดาจะบำเพ็ญตบะเป็นปีศาจ ไม่เพียงแต่ต้องใช้ทรัพยากรในการฝึกฝน ยังต้องใช้เวลาอีกนาน ในเวลาปกติเขาเอะอะก่อกวนยังพอว่า บัดนี้ผู้ยิ่งใหญ่อยากกินหมี โอกาสดีที่ฟ้าประ ะทานเช่นนี้ เขายังลังเลอีกหรือ สมองกลวงแล้วกระมัง!
กู้จื่อเหยาอดนึกถึงตระกูลหลิ่วขึ้นมาไม่ได้ ลำคอขาวพลันหดลงเล็กน้อย ตระกูลหลิ่วล่มสลายมิใช่เพียงเพราะลูกผู้ดีมีเงินไม่เอาไหนหรอกหรือ?
เห็นทีต้องสั่งสอนน้องชายของตนให้ดีเสียแล้ว!
หมีตัวนี้ตายเสียก็ดี จะได้ตัดความคิดของเขาเสีย!
หลี่เนี่ยนฝานไม่รู้เลยว่าตอนนี้กู้จื่อเหยาคิดไปไกลเพียงใด เขาหยิบหม้อและกระทะมากมายออกมาจากระบบ โยนทิ้งลงบนพื้น
เครื่องใช้ในครัวนานาชนิดละลานตา ชวนให้ทุกคนรู้สึกตะลึง
ปรมาจารย์คือปรมาจารย์ ยามออกเดินทางยังพกอุปกรณ์ทำครัวมามากมายขนาดนี้ พฤติกรรมช่างเหนือจินตนาการ ยากจะหยั่งถึงจริงๆ!
“คุณชายหลี่ ต้องการให้พวกเราทำอะไรหรือไม่?” กู้จื่อเหยาถาม
หลี่เนี่ยนฝานยิ้มและพูดว่า “ข้าจะทำไข่มุกบนฝ่ามือให้พวกเจ้า สิ่งที่เรียกว่าฝ่ามือก็คืออุ้งเท้าหมี ส่วนไข่มุก เดิมทีต้องใช้ลูกชิ้นปลา ทว่ายังหาไม่ได้เร็วๆ นี้ ก็คงต้อ องใช้ปลาแทนกระมัง? ไม่อย่างนั้นก็เรียกว่า…หมีกับปลามาพร้อมกันได้[1]แล้วกัน!”
กู้จื่อเหยาเข้าใจความหมายของผู้ยิ่งใหญ่ในทันที นางพูดกับกู้จื่ออวี่ว่า “จื่ออวี่ ข้าจำได้ว่าเจ้าเลี้ยงปลาหลี่สีแดงไว้ตัวหนึ่ง เติบใหญ่อ้วนพี รีบไปจับมา!”
กู้จื่ออวี่ศีรษะชา พูดอย่างอดไม่ได้ “ท่านพี่ ปลาของพวกเราล้วนสมบูรณ์อวบอ้วน จับมาสักตัวก็คงได้แล้ว เหตุใดต้องเอาตัวนั้นของข้า?”
“ให้เจ้าไป เจ้าก็ไปสิ พูดจาไร้สาระอะไรมากมาย? เจ้าคงไม่ได้คิดจริงๆ หรอกนะว่าจะเลี้ยงปลาหลี่ตัวนั้นให้สามารถกระโดดผ่านประตูมังกร และกลายร่างเป็นมังกร? ฝันกลางวันได้ทุกวัน!” ” กู้จื่อเหยาสีหน้าอึมครึม พูดน้ำเสียงเคร่งขรึม
“อึก” กู้จื่ออวี่สีหน้าขมขื่นทุกข์ระทม แทบจะร้องไห้
“อ้อ ข้าจำได้ว่าเจ้าเลี้ยงนกแก้วไว้ตัวหนึ่งด้วย” กู้จื่อเหยานึกขึ้นได้ มองหลี่เนี่ยนฝานอย่างกระตือรือร้นและพูดว่า “คุณชายหลี่ มื้อนี้อยากทานนกแก้วหรือไม่?”
มุมปากหลี่เนี่ยนฝานกระตุกเล็กน้อย “ข้าว่า…คงไม่ต้องกระมัง”
เขามองออกว่า กู้จื่อเหยาต้องการใช้โอกาสนี้เอาชนะน้องชายของนาง
แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เป็นเด็กไม่เอาไหนแน่นอนว่าไม่ถูกต้อง อย่างไรชีวิตคนก็ควรจะเติบโต
“เช่นนั้นหมายความว่าอาจจะกินก็ได้!” ดวงตาของกู้จื่อเหยาเป็นประกาย แล้วพูดกับกู้จื่ออวี่ว่า “ได้ยินไหม จัดการนกแก้วตัวนั้นมาด้วยเลย”
กู้จื่ออวี่เดินจากไปราวกับซากศพ พูดอย่างเศร้าสร้อยว่า “น้องๆ เป็นพี่ใหญ่เองที่ไม่ได้ปกป้องพวกเจ้า ขอโทษพวกเจ้าจริงๆ!”
หลี่เนี่ยนฝานพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก็หยิบมีดทำครัวข้างๆ ขึ้นมาเล่น แล้วเดินไปหาหมีดำตัวใหญ่อย่างใจเย็น
ดวงตาของเขาไม่ได้มองไปทางอื่น นอกจากอุ้งเท้าหมี
ร่างกายหมีมีเพียงสองแห่งที่เรียกว่าสมบัติ หนึ่งคืออุ้งเท้าหมี ซึ่งไม่เพียงอร่อยแต่ยังช่วยบำรุงร่างกายได้เป็นอย่างดี สามารถใช้เป็นยาได้ ส่วนอีกที่หนึ่งก็คือองคชาติของม มัน รสชาติยังไม่ถึงขั้นอร่อย แต่เป็นยาชูกำลังชั้นเลิศ!!
ดวงตาของหลี่เนี่ยนฝานแน่วแน่ ในมือถือมีดทำครัวพร้อม
มีดทำครัวที่ดูธรรมดา คล้ายว่าทำจากเหล็กทั่วไป ไม่มีแสงสะท้อนวาววับ ไม่มีเสียงมังกรร้องเสือคำราม และไม่มีแม้แต่ลวดลาย ทว่าไม่รู้เหตุใดยามที่มองมีดทำครัวเล่มนั้น หัวใจทุกคน นกลับรู้สึกสั่นระรัว
คล้ายกับว่าทุกสิ่งที่อยู่ต่อหน้ามีดเล่มนี้ จะกลายเป็นเพียงอาหารจานหนึ่ง!
ฟึ่บ...
เพียงเฉือนมีดเบาๆ
ทันทีที่ได้ยินเสียงหั่น อุ้งเท้าหมีก็ถูกตัดขาดราวกับเต้าหู้ คล้ายกับว่าไม่มีสิ่งใดกีดขวาง
หมีตัวนี้เป็นเพียงหมีป่า แรงป้องกันจึงไม่ดีเท่าปีศาจ บวกกับทักษะการทำอาหารของหลี่เนี่ยนฝานที่เชี่ยวชาญ ร่างกายใหญ่โตก็ไม่ต่างจากกระดาษแผ่นหนึ่ง
สิ่งที่หลี่เนี่ยนฝานตัดคืออุ้งเท้าหน้าข้างขวาของหมี หมีตัวนี้อ้วนมาก รวมกับปลาหลี่ตัวใหญ่อีกตัว ก็พอกินแล้ว
ในเมื่อหุบเขาเมฆาครามเห็นตนเป็นแขก เขาย่อมต้องตอบแทนอย่างดี วิธีที่ดีที่สุดไม่มีอะไรนอกจากทำอาหารให้พวกเขาสักมื้อ
เพื่อกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น หลี่เนี่ยนฝานเตรียมวัตถุดิบไปพลาง ปากก็อธิบายว่า “หมีชอบเลียอุ้งเท้า ของเหลวจากร่างกายจึงมักจะแทรกซึมเข้าไปในอุ้งเท้า ทำใ ให้อุ้งเท้าหมีมีคุณค่าทางโภชนาการสูง รสชาติยังยอดเยี่ยมอีกด้วย และเพราะอุ้งเท้าด้านหน้าข้างขวาถูกเลียบ่อยที่สุด จึงอวบอิ่มสมบูรณ์เป็นพิเศษ รู้จักโดยทั่วกันว่า ‘ขวาเหนือซ้าย ’
จากนั้นหลี่เนี่ยนฝานก็วางอุ้งเท้าหมีลงในหม้อ แล้วเริ่มเทธาราปราณตามลงไป “จ๊อกๆๆ” ธาราปราณหลั่งไหลออกจากขวด ดึงดูดให้สายตาของทุกคนจับจ้อง
ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่ธาราปราณมากมายเช่นนี้ มื้อนี้ก็ถือว่าคุ้มแล้ว!
ทว่าสิ่งที่หลี่เนี่ยนฝานพูดต่อจากนั้น ทำให้พวกเขาทั้งรู้สึกละอายใจและตกใจสุดขีด
“นี่เป็นขั้นตอนแรก นำมาต้มกับน้ำนี้ก่อน แช่ไว้สักครู่หนึ่งค่อยเทออก ทำซ้ำสามครั้งถึงจะเสร็จสมบูรณ์”
“ทำ…ทำซ้ำสามครั้ง?” กู้จื่อเหยาน้ำเสียงสั่นเครือ ธาราปราณต้องสูญเปล่าไปขนาดไหน?
ท่าทีของลั่วซืออวี่กับฉินม่านอวิ๋นยังดีกว่าเล็กน้อย ถึงอย่างไรพวกนางก็เห็นเสี่ยวไป๋ล้างหอยเป๋าฮื้อด้วยธาราปราณมาแล้ว นับว่าเคยเห็นโลกมาก่อน
เวลานี้กู้จื่ออวี่กลับมาพร้อมกับนกแก้วและปลาหลี่ที่อยู่ในอารมณ์สงบ
เมื่อเห็นฉากนี้ ดวงตาก็อดมีน้ำเอ่อคลอไม่ได้ พูดในใจว่า ‘หมีน้อย เจ้าได้ยินไหม? เจ้าได้แช่ธาราปราณถึงสามครั้งสามครา ในโลกบำเพ็ญเซียนจะมีผู้ใดมีเกียรติเช่นนี้? ท้ายที่สุดพี่ ใหญ่อย่างข้าก็ไม่ได้ใจร้ายกับเจ้านะ!’
“อุ้งเท้าหมีแม้จะโดดเด่นสวยงาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันอร่อยโดยเนื้อแท้ หากปรุงไม่ถูกวิธีก็อาจทำให้ยากจะกลืนลงคอ หากต้องการระเบิดรสชาติแสนอร่อยของมันออกมาให้เต็มที่ จำเป ป็นต้องใช้ความพยายามอย่างมาก”
หลี่เนี่ยนฝานยิ้มให้กู้จื่อเหยาและกล่าวต่อ “หลังจากต้มน้ำเดือดสามครั้ง เคี่ยวในน้ำแกงสามครั้ง ไม่เพียงแต่สามารถขจัดกลิ่นคาว ยังทำให้อุ้งเท้าหมีนุ่มละมุนและเพิ่มรสชาติอ อีกด้วย”
จากนั้นเขาก็มองเครื่องครัวรอบตัว เรียวคิ้วพลันขมวดเข้าหากันเล็กน้อย “มีไฟไหม?”
“พรึบ”
ทันทีที่สิ้นเสียง ลั่วซืออวี่ ฉินม่านอวิ๋นและกู้จื่อเหยาต่างโบกสองมือปลุกเปลวไฟสีแดงขึ้นกลางฝ่ามือ
“เฮ้อ ผู้บำเพ็ญเซียนอย่างพวกเจ้านี่สะดวกสบายเสียจริง ไม่เพียงแต่บินได้ ยังจุดไฟได้อีกด้วย น่าอิจฉาจริงๆ” หลี่เนี่ยนฝานพูดอย่างอดไม่ได้
หัวใจสตรีทั้งสามกระตุกพร้อมกัน
ลูกพี่ ใครต้องอิจฉาใคร?
หากท่านยังพูดแบบนี้อีก วันนี้คงไม่มีอะไรจะพูดกันแล้ว
เปลวไฟส่องแสงลุกไหม้อยู่ใต้หม้อ
เวลานี้หลี่เนี่ยนฝานก็ไม่ได้หยุดพัก เริ่มจัดการวัตถุดิบอื่นๆ
ฟู่
ไม่ได้ทำอาหารที่ยุ่งยากซับซ้อนขนาดนี้ด้วยตัวเองมานานแล้ว เสี่ยวไป๋ ฉันคิดถึงนายจริงๆ
………………………………………………
[1] ล้อเลียนกับสำนวน 鱼与熊掌不可兼得 ปลากับอุ้งตีนหมีได้มาพร้อมกันไม่ได้ ซึ่งหมายความว่าจะได้สองสิ่งมาพร้อมกันไม่ได้