ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 148 น้ำแห่งความสุข ข้าจะบินแล้ว
กู้จื่อเหยาปราดมองฉินม่านอวิ๋นกับลั่วซืออวี่อย่างระมัดระวัง พบว่าแววตาของพวกนางล่องลอย ทว่ายังคงใบหน้าที่สงบราบเรียบ ทันใดนั้นในใจก็คิดขึ้นได้
เกรงว่านี่คงไม่ใช่ครั้งแรก
ดูเหมือนว่าจิตใจของตนยังต้องขัดเกลาอีกมาก หากเอาแต่เป็นเช่นนี้ จะอยู่เคียงข้างปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างไร
ประสิทธิภาพเครื่องอัดอากาศสูงอย่างน่าประหลาดใจ เพียงครู่เดียวขั้นตอนสำคัญที่สุดของน้ำแห่งความสุขก็เสร็จสิ้น น้ำแห่งความสุขหลายถ้วยถูกวางอยู่ต่อหน้าทุกคน
ทุกคนต่างพินิจเพ่งมอง
การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนที่สุดคือสีของน้ำในถ้วย จากเดิมที่ใสบริสุทธิ์กลายเป็นสีส้มสดใส แต่ก็ยังชวนให้รู้สึกถึงความบริสุทธิ์ สายตาสามารถมองทะลุผ่านสีส้มจนเห็นด้านหลังถ้วย
แสงอาทิตย์ส่องลงในถ้วย น้ำสีส้มคลอนแคลนเล็กน้อย สะท้อนเป็นประกาย คล้ายกับจะทำให้ดวงตาคนส่องประกายระยิบระยับ
เมื่อเทียบกับสีเดิมแล้ว สีสันพิเศษคล้ายกับมีเสน่ห์ดึงดูดใจคน โดยเฉพาะในชั้นสีส้มนี้ มีฟองอากาศผุดขึ้นทีละน้อยไม่ขาดสาย ขับให้น้ำบางส่วนกระโดดโลดเต้นไปมาบนผิวน้ำ
“อึก”
ลำคอของทุกคนพร้อมใจขยับเคลื่อนไหว แลบลิ้นเลียริมฝีปาก อดรู้สึกคอแห้งขึ้นมาไม่ได้
เดิมทีก็ไม่ได้รู้สึกกระหายน้ำ แต่ไม่รู้ทำไมหลังจากที่ได้เห็นน้ำสีส้มนี้ ความกระหายก็แทรกเข้ามาในหัว เห็นได้ชัดว่าร่างกายกระหายน้ำถ้วยนี้ด้วยสัญชาตญาณ หวังว่าจะได้ดื่มด่ำรั บการบำรุง
หลี่เนี่ยนฝานดูออกว่าพวกเขาอดใจไม่ไหว แล้วไหนเลยตนเองจะไม่เป็น?
เขายิ้มบางๆ “ทุกท่าน เชิญดื่ม”
คำพูดนี้แหละที่เฝ้ารอ
ทันทีที่สิ้นเสียง ทุกคนก็รีบยื่นมือออกไปด้วยความเร็วราวสายฟ้า ราวกับว่าไม่ต้องอธิบายอะไรมากก็เข้าใจกันโดยปริยาย จับเป้าหมายที่หมายตาไว้ อับอายต่อการแย่งชิง
ยามจับไว้ในมือ ความเย็นที่อบอุ่นชวนให้คนโหยหาต้องการ ทำให้มือที่อุ่นร้อนรู้สึกโล่งสบาย
“น่าเสียดาย ไม่ได้เอาตู้เย็นมาด้วย ไม่งั้นนะ จิ๊ๆๆ…” หลี่เนี่ยนฝานส่ายหัว ไม่อาจคิด น้ำลายจะไหลออกมาแล้ว
คนอื่นไม่มีเวลาคิดเรื่องใด แม้แต่แม่นางทั้งสามก็ยังทิ้งภาพลักษณ์กุลสตรีไว้เบื้องหลัง ในใจมีอยู่แค่คำเดียวว่า ‘ปรารถนาจะดื่มมัน!’
มีเพียงแต่ต๋าจี่ที่ดีขึ้นมาหน่อย นางส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับหลี่เนี่ยนฝานแล้วจึงหยิบถ้วยขึ้นมา
ฉินม่านอวิ๋นยกถ้วยมาตรงหน้าตน ริมฝีปากสีแดงเผยอออกอย่างรวดเร็ว แล้วงับบนปากถ้วยช้าๆ ถ้วยถูกยกเอียงลาด ของเหลวเย็นหลั่งไหลเข้าสู่ปาก
เพียงครู่เดียวนางก็รู้สึกเหมือนปากกำลังจะระเบิด
จะระเบิดจริงๆ!
เมื่อเทียบกับดื่มธาราปลุกจิตแล้ว น้ำถ้วยนี้มีก๊าซมากเกินไป แทบจะเรียกได้ว่าอิ่มตัว ทันทีที่น้ำเข้าปาก ก็คล้ายกับมีเด็กๆ ที่ซุกซนมากมายกระโดดโลดเต้นอยู่ในปาก ความรู้สึกเ เช่นนี้ทำให้รสสัมผัสของน้ำไปถึงจุดสูงสุด หยอกล้อต่อมรับรสทั้งหมดที่มี
อร่อย!
อร่อยจังเลย!
นอกจากก๊าซที่อิ่มตัวแล้ว ในน้ำยังมีรสชาติความหวานของส้มอีกด้วย ทั้งสองส่งเสริมกัน สมบูรณ์แบบจนไม่อาจหาคำใดมาอธิบาย
ฉินม่านอวิ๋นหลับตาลงอย่างอดไม่ไหว แก้มสองข้างแดงระเรื่อ ร่างบางเริ่มสั่นเล็กน้อย
“อึก”
ลำคอขาวของนางขยับเล็กน้อย น้ำแห่งความสุขก็ไหลลงไปทันที ความรู้สึกซ่าเคลื่อนจากปากแผ่ไปทั่วสรรพางค์กาย
ร่างกายที่สั่นเทาก็แข็งทื่อทันที รูขุมขนทั่วร่างกายคล้ายจะเปิดออก เซลล์ในร่างกายถึงจุดสุดยอดแห่งความสุข
“อื๊ออ”
ยากจะอดกลั้นไหวจริงๆ ริมฝีปากแดงเผยอออกเล็กน้อย เสียงครางที่ผ่อนคลายเล็ดลอดออกจากปากของนาง
ไม่เพียงแค่นาง กู้จื่อเหยาและลั่วซืออวี่ก็เช่นกัน ดูเหมือนพวกนางจะสูญเสียพลังไปโดยสมบูรณ์ หลังจากจิบน้ำ พวกนางนั่งลงบนพื้น พวงแก้มเป็นสีแดง สมองเปี่ยมด้วยความสุขแห่งการ เพลิดเพลินที่เกียจคร้าน
น้ำแห่งความสุข มิน่าถึงถูกเรียกว่าน้ำแห่งความสุข
อร่อยจริงๆ!
มีความสุขยิ่งนัก!
ความรู้สึกอิ่มเอมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนท่วมท้นไปทั่วร่าง หากได้ดื่มน้ำแห่งความสุข ชีวิตก็ถือว่าสมบูรณ์แล้ว!
ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขายังพบอีกว่า แม้จะถูกแปรรูปจากไข่มุกปลุกจิตเหมือนกัน และดีกว่าการแปรรูปครั้งก่อนๆ อย่างมาก ทว่าพลังทำลายล้างของน้ำถ้วยนี้แทบจะไม่มีอยู่เลย คล้ายกับว่า …ถูกบางอย่างทำให้เป็นกลาง
ทำนองมรรคา ทำนองมรรคา!
พวกเขามองหน้ากัน ในใจเกิดคลื่นลมพัดโหม ต้องเป็นทำนองมรรคาในส้มนั้นแน่ๆ!
แต่เดิมธาราปลุกจิตสามารถชุบหลอมจิตของผู้คน ทว่าหากทานมากไปก็อาจทำให้จิตเจ็บปวดราวกับถูกเข็มทิ่มแทง แต่เมื่อเติมทำนองมรรคาลงไปจึงไม่เป็นเช่นนั้น ทำนองมรรคาทำให้ผู้คนตื่ นรู้ฟ้าดิน ช่วยเติมเต็มการชุบหลอมจิตของธาราปลุกจิต!
ไม่เพียงแต่จะไม่เป็นอันตราย กลับกัน…ยังทำให้ผู้คนรู้สึกสบายใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
แม้แต่จิตวิญญาณยังสั่นสะท้านเพราะความสดชื่น ราวกับจิตออกจากร่างล่องลอยไปในหมอกเมฆ ผลที่ได้ยิ่งกว่าหนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสอง
ใครจะจินตนาการว่า เมื่อการชุบหลอมจิตซ้อนทับกับทำนองมรรคาจะสามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่ามหัศจรรย์ได้ แต่น่าเสียดายทั้งสองสิ่งหายากยิ่งนัก คิดจะได้มาสักอย่างยังมีโอกาสที่ฟ้าประทาน น ทั้งสองสิ่งมารวมกันยิ่งไม่ต้องพูดถึงกระมัง?
คุณชายหลี่คงรู้ถึงสรรพคุณการซ้อนทับของสองสิ่งนี้มานานแล้ว จึงทำน้ำแห่งความสุขให้พวกเราดื่ม พวกเราได้ประโยชน์จากคุณชายหลี่!
สำหรับพวกเราแล้วช่างดีมากเหลือเกิน จนแทบไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร
“ไม่ได้แล้ว ข้าจะบิน ข้าจะบินแล้ว…”
ทันใดนั้นเสียงที่แปลกแยกหนึ่งก็ดังขึ้น กลับเห็บใบหน้ากู้จื่ออวี่เคลิบเคลิ้ม ดวงตาปิดลง มือสองข้างกระพือขึ้นลงดั่งปีกนก
จากนั้นเขาก็ค่อยๆ บินขึ้นไปราวกับเป็นนกจริงๆ ไม่สูงนัก ร่างกายตะแคงราบเหมือนปลาที่แหวกว่ายไปมาในอากาศ วนเป็นวงล้อมรอบทุกคน
กู้จื่อเหยายกมือขึ้นปิดหน้า น้องชายนางผู้นี้…ขายหน้ายิ่งนัก…
…..
ในเวลาเดียวกัน ด้านนอกเรือนสี่ประสาน
จิ้งจอกน้อยเจ็ดหางยืนอยู่บนหัวปีศาจงูใหญ่สีเขียว เบิกตามองอย่างตั้งใจเข้าไปในลานบ้านไม่หยุด
ข้างกายพวกเขายังมีปีศาจหมูป่าเขี้ยวยาวและภูติหมีดำที่ขนดำทั่วร่างกายคอยเป็นผู้คุ้มกัน
จิ้งจอกน้อยกล่าวว่า “เสี่ยวชิง มิใช่ว่าหัวเจ้ายกสูงขึ้นได้หรือ? ยกขึ้นอีกหน่อยสิ ข้ายังมองไม่เห็นเลย”
ปีศาจงูใหญ่สีเขียวตัวนี้ก็คือปีศาจตัวเดียวกันกับที่ถามจิ้งจอกน้อยว่า ‘มองอะไร’ ในครั้งก่อน จิ้งจอกน้อยไม่เพียงแต่ไม่คิดแค้น ยังเก็บมาเลี้ยงทันทีที่ตนกลายเป็นจักรพรรดิปีศาจ
ปีศาจอสรพิษเขียวสีหน้าขมขื่น “ท่าน ท่านจักรพรรดิปีศาจ ข้าไม่ไหวแล้วจริงๆ ให้ข้ายกขึ้นอีกนิดคงกลายเป็นเส้นตรงตั้งฉากกับฟ้าแล้ว….”