ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 41 จิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง สัตว์ประหลาดบรรพกาล
หลี่เนี่ยนฝานขุดดินอยู่พักหนึ่ง อยู่ๆ ก็นึกบางอย่างขึ้นได้ จึงตะโกนว่า “เสี่ยวไป๋ ต้าเฮย มาช่วยข้าหน่อย!”
“นายท่านที่เคารพ ข้ามาแล้ว” เสี่ยวไป๋วิ่งมาจากในเรือน
“โฮ่งๆๆ” ต้าเฮยก็มาตามเสียงเรียก กระดิกหางตะบึงมา
หลี่เนี่ยนฝานพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
เกือบลืมไปแล้วว่าในบ้านยังมีแรงงานฟรีอีกสองหน่วย ทีนี้ก็ทำงานได้เร็วขึ้นมาก
โอสถวิเศษที่จักรพรรดิลั่วส่งมานั้นมีตั้งเยอะแยะ ทั้งยังเห็นได้ชัดว่าผ่านการเลือกสรรมาอย่างดี โอสถวิเศษแต่ละชนิดล้วนแตกต่างกัน มองจากภายนอกดูไม่เลว เมื่อใดที่ลงปลูกที่นี่แล้วนับว่าเป็นสวนโอสถวิเศษขนาดย่อมแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้
จากนั้น หลี่เนี่ยนฝานก็จัดการกับกระถางทั้งสิบหกใบ เพื่อใช้สำหรับปลูกหญ้าเซียนซึ่งหลินชิงอวิ๋นให้มา จัดแจงพื้นที่วางแล้วเสร็จสรรพ รับรองว่าใครเข้ามาในเรือนก็ต้องถูกดึงดูด
ประเด็นสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือเมล็ดพันธุ์มหัศจรรย์นั่น
หลี่เนี่ยนฝานขบคิดอยู่นาน สุดท้ายก็ตัดสินใจว่าจะปลูกไว้ริมสระน้ำ
ดินที่นี่อุดมสมบูรณ์ โดยรอบไม่ได้ปลูกพืช แหล่งน้ำพรั่งพร้อม นับว่าเป็นทำเลที่ดีที่สุดของหลังเรือน
ต่อไปตนจะประคบประหงมดูแลเป็นอย่างดี ไม่เชื่อว่ามันจะเพาะไม่ขึ้น!
สามวันผ่านไปอย่างเอื่อยเฉื่อย
ชีวิตของหลี่เนี่ยนฝานสุขสำราญขึ้นเรื่อยๆ แต่ละวันใช้เวลาไปกับการปลูกดอกไม้ เดินหมาก ทั้งยังได้สนทนากับสาวสวย ไป๋อู๋เฉินและคนอื่นๆ ยังนำอาหารป่ามามอบให้บ้างเป็นครั้งคราว นี่เป็นชีวิตอันเรียบง่ายที่ผู้คนในโลกเดิมเสาะหากันอย่างยากลำบากสินะ
ทว่า เรื่องของปีศาจแปลงกายในโลกภายนอกยังคงไม่จบไม่สิ้น มิหนำซ้ำยังโหมสะพัดไปไกล
อีกทั้งยังมีข่าวลือแพร่งพรายออกไปว่าปีศาจที่แปลงกายในครานี้คือจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง!
ไม่ทันไร ผู้คนก็หลั่งไหลมาคับคั่งยิ่งกว่าเดิม
จิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง นี่มันสัตว์ประหลาดบรรพกาล เรียกได้ว่าทั้งตัวของมันล้วนล้ำค่า เลือดเนื้อมูลค่าสูงกว่าปีศาจธรรมดามากโข
โดยทั่วไป สุนัขจิ้งจอกกลายเป็นจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางนั้นยากเสียยิ่งกว่าปุถุชนสำเร็จเป็นเซียน!
ช่วงเวลาหลายพันปีมานี้ ข้อมูลเกี่ยวกับจิ้งจอกสวรรค์นับวันยิ่งน้อยลง ผู้คนมากมายล้วนคิดว่าจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางได้สาบสูญไปจากโลกนี้แล้ว นึกไม่ถึงว่าครั้งนี้จะถึงกับมีข่าวคราวเกี่ยวกับจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง
ว่ากันว่า ขอเพียงได้ดื่มเลือดของจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางเพียงหยดเดียว ก็จะชำระล้างมลทิน หลุดพ้นจากโลกโลกีย์ ขอเพียงบำเพ็ญเพียรข้างกายจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง ก็จะได้ยินเสียงเพรียกจากธรรมชาติ
ใครให้จิ้งจอกเก้าหางเป็นที่โปรดปรานของสวรรค์กันเล่า
ถ้าหากเป็นจิ้งจอกจอกสวรรค์เก้าหาง ผู้คนจำนวนมากย่อมเกิดความคิดเสาะหาข้อมูลและตามล่า เพราะอันที่จริงจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางก็มิได้ด้อยไปกว่าผู้ผ่านด่านเคราะห์เลย จะเป็นรองก็เพียงแต่เซียนเท่านั้น
แต่ทว่า…จิ้งจอกเก้าหางตัวนี้ได้กลายเป็นมนุษย์ไปแล้ว!
นั่นเท่ากับว่าเป็นสมบัติอันประเมินค่าไม่ได้ชิ้นหนึ่ง ทั้งยังไร้ซึ่งผู้เป็นนาย ใครมาก่อนย่อมได้ครอบครอง
โอกาสทองมากองตรงหน้า
ผู้บำเพ็ญเซียนที่ไหนจะไม่บ้าคลั่งเล่า
ท้องฟ้าเหนือราชสำนักเซียนเฉียนหลง ลำแสงทะยานลิ่วผ่านไปเป็นครั้งคราว ผู้ฝึกตนซึ่งมีตบะน้อยนิดลาดตระเวนวนเวียนอยู่รอบภูเขา
ถ้าหากไม่ใช่เพราะพวกไป๋อู่เฉินจงใจปิดเรื่องนี้ ชีวิตอันสงบสุขของหลี่เนี่ยนฝานคงถูกเปิดโปงในเร็ววัน
ผู้ที่ได้รับแรงกดดันมากที่สุดเห็นจะเป็นจักรพรรดิลั่ว เขาวิตกกังวลเพราะเรื่องนี้จนนอนหลับไม่สนิท
‘หากมีพวกไม่รู้ความบุกไปรบกวนปรมาจารย์ ทำให้ปรมาจารย์เดือดดาลจนย้ายออกไป เช่นนั้นราชวงศ์เฉียนหลงก็จะเสียหายหนัก!’ จักรพรรดิลั่วกระวนกระวายใจ
ในตอนนั้นเอง บนท้องนภาไร้เมฆซึ่งไกลออกไปนับหมื่นลี้ อยู่ๆ ก็มีเรือเหาะลำมหึมาปรากฏขึ้น
เรือเหาะบนฟ้าบดบังดวงตะวัน ห้อมล้อมไปด้วยหมู่เมฆ แสงแดดสาดส่องรัศมี สั่นสะท้านไปทั่วแผ่นดิน
ผู้บำเพ็ญเซียนซึ่งเดิมทีเหาะอยู่ใกล้ๆ ถูกแสงจ้าสะท้อนใส่จนตาพร่า รีบยกมือขึ้นกำบังทางแสง ก้มหน้าลง ไม่กล้าประชันกับเรือเหาะ
“นั่นคือเรือเหาะที่คนของอารามเต๋าหลินเซียนเรียกมา พวกเขามาแล้ว คนอื่นคงหมดหวังกันพอดี”
“ดูตรงหัวเรือเหาะสิ เทพธิดาลงมาจุติใช่ไหมนั่น”
“โอ้ ผู้ฝึกตนขั้นหยวนอิง?!”
ผู้ฝึกตนนับไม่ถ้วนล้วนแต่มองดรุณีน้อยผู้นั้นด้วยสีหน้าเกรงขามระคนตื่นตกใจ
จักรพรรดิลั่วใจเต้นโครม แม้แต่อารามเต๋าหลินเซียนก็มาด้วยหรือ
เขาไม่กล้าหมางเมิน รุดรีบพาลั่วซืออวี่เดินออกจากราชสำนักเฉียนหลง ไปรอหน้าประตูด้วยใบหน้าเปี่ยมความ
เคารพนบนอบ
เรือเหาะหยุดลง ดรุณีน้อยผู้นั้นปกคลุมด้วยม่านหมอกบาง ประดุจเทพธิดาจากเก้าสวรรค์ชั้นฟ้า สีหน้าเย็นเยียบเย่อหยิ่ง นัยน์ตาคู่งามเรียบง่ายไร้เดียงสาราวกับธารน้ำใส
จักรพรรดิลั่วก้าวขึ้นหน้าไปต้อนรับ เอ่ยว่า “ราชวงศ์เฉียนหลงยินดีต้อนรับการมาถึงของแม่นางฉิน”
หัวใจของเขาหดหู่เล็กน้อย สมแล้วที่เป็นเทพธิดาแห่งอารามเต๋าหลินเซียน อายุยังน้อยก็บำเพ็ญเพียรถึงขั้นหยวนอิง มากเพียงพอที่จะเปิดสำนักตั้งพรรคในดินแดนของราชวงศ์เซียนเฉียนหลงแล้ว
ที่อารามเต๋าหลินเซียนกล้าเรียกตนเองว่าหลินเซียน[1] มิใช่เพราะหลงตัวเอง หากแค่เป็นเพราะพวกเขาอยู่ห่างจากการสำเร็จเป็นเซียนเพียงก้าวเดียว เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในขุมกำลังชั้นยอดของโลกบำเพ็ญเซียน
ลั่วซืออวี่คอยอยู่ข้างกายเขา ค้อมกายคำนับพร้อมเอ่ย “ซืออวี่คำนับท่านพี่ม่านอวิ๋น”
ฉินม่านอวิ๋นยิ้มให้ลั่วซืออวี่ พูดด้วยความตกใจเล็กๆ “ไม่พบกันพักเดียว น้องซืออวี่สำเร็จถึงระยะท้ายของขั้นจู้จี เป็นพรสวรรค์โดยแท้”
นางตกใจจริงๆ ราชสำนักเฉียนหลงตั้งอยู่ในพื้นที่อันแร้นแค้นของโลกบำเพ็ญเซียน ลั่วซืออวี่อายุยังน้อยนัก สามารถทะลวงถึงระยะท้ายของขั้นจู้จีได้ อนาคตย่อมไร้ขีดจำกัด นางนึกอยากให้ลั่วซืออวี่เข้าอารามเต๋าหลินเซียนอยู่บ้าง
ลั่วซืออวี่ยิ้มทว่ามิได้พูดจา
ขอเพียงนางรู้ตัวเอง ว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นเพราะหลี่เนี่ยนฝาน
หากได้คลุกคลีกับปรมาจารย์ระดับนี้เป็นเวลานาน ต่อให้เป็นหมูตัวหนึ่งก็คงสำเร็จเป็นเซียนได้
แต่ว่า เคล็ดลับอันยิ่งใหญ่พรรค์นี้ไม่อาจพูดออกไป
จักรพรรดิลั่วพาฉินม่านอวิ๋นเข้าไปในราชสำนักเซียนเฉียนหลง ต้อนรับอย่างสมเกียรติที่สุด ทั้งยังให้จงซิ่วชงชาอีกด้วย
ครั้นนั่งลงในโถงใหญ่แล้ว จักรพรรดิลั่วจึงเอ่ยว่า “ไม่ทราบว่าครั้งนี้แม่นางฉินมามาเยือนด้วยเรื่องอันใดหรือ”
ฉินม่านอวิ๋นกล่าวกลั้วหัวเราะ “คิดว่าจักรพรรดิลั่วคงเดาได้กระมัง ข้าก็มาเพื่อตามหาจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางน่ะสิ!”
จักรพรรดิลั่วยิ้มขื่น เป็นเช่นนั้นจริงๆ ด้วย
แรงดึงดูดของจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางนั้นมากมายเสียจริง
ตอนที่รู้ว่าปีศาจที่แปลงกายนั้นคือจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง เขาก็ตื่นตะลึงไปเช่นกัน จากนั้นเขาก็พลันโล่งใจ ปีศาจที่เข้าตาคุณชายหลี่นั้นย่อมเป็นสิ่งพิเศษ ถ้าหากเป็นปีศาจธรรมดา คุณชายหลี่ไม่มีทางยื่นมือเข้าช่วยชีวิต
เพียงแต่ว่า…อารามเต๋าหลินเซียนก็หมายปองจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางเช่นกัน ท่าทีเช่นนี้ทำให้จักรพรรดิลั่วแทบอยากบ้าตายให้รู้แล้วรู้รอดไป
ในใจของเขานึกอยากเอ่ยปากเตือน แต่ก็ไม่อาจเปิดเผยการมีตัวตนของคุณชายหลี่ เฮ้อ เจองานยากเข้าแล้ว
จักรพรรดิลั่วทำได้เพียงกล่าวโน้มน้าวอ้อมๆ “จิ้งจอกสวรรค์เก้าหางไม่ปรากฏตัวมานับพันปีแล้ว ครานี้เรื่องแพร่สะพัดไปฉับพลัน ไม่แน่อาจเป็นเพียงข่าวลือ ไม่อาจเชื่อถือได้”
“ข้าสืบข่าวมาแล้ว ผู้ที่ปล่อยข้อมูลนี้ออกไปคือจักรพรรดิปีศาจจันทราเงิน คงไม่ใช่เรื่องโกหก” ฉินม่านอวิ๋นส่าย
หน้า จากนั้นจึงมองจักรพรรดิลั่วอยางคลางแคลง “หรือว่าจักรพรรดิลั่วไม่คิดจะตามหาจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง”
“เอ่อ…คิดสิ ข้าส่งคนออกปูพรมตามหาทั่วภูเขา เผื่อว่าจะมีโชค” จักรพรรดิลั่วรีบบอก
ขณะเดียวกัน เขาก็ลอบก่นด่าอยู่ในใจ ที่แท้ก็เป็นจักรพรรดิปีศาจจันทราเงินสร้างเรื่อง เจ้านี่น่ากลัวจะยังไม่รู้ว่ามันได้ล่วงเกินผู้ยิ่งใหญ่ระดับใดเข้า ชะตาใกล้ขาดซะแล้วสิ!
เขาอดนึกถึงราชาปีศาจสองตนซึ่งปรากฏตัวหน้าประตูเรือนของหลี่เนี่ยนฝานไม่ได้ เจ้าสองตัวนั้นคงเป็นสมุนที่จักรพรรดิปีศาจจันทราเงินส่งมากระมัง ถูกบัณฑิตคนนั้นจัดการจนกลับกลายเป็นร่างเดิมอย่างง่ายดาย บัดนี้เห็นทีคงจะกลายเป็นกองอาจมไปแล้ว
แต่ได้กลายเป็นอาจมของปรมาจารย์ ก็นับว่าเป็นวาสนาของพวกมันแล้ว
………………………………………..
[1] หลินเซียน (临仙) หมายถึงใกล้เซียน ใกล้สำเร็จเป็นเซียน