ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 51 กลเม็ดของคุณชายหลี่
ตอนที่ 51 กลเม็ดของคุณชายหลี่
ฉินม่านอวิ๋นเคารพยำเกรงหลี่เนี่ยนฝานจนถึงขีดสุด นางยืนอยู่กับที่อย่างรู้มารยาทหาผู้ใดเปรียบ แม้แต่ลมหายใจก็เริ่มควบคุมให้อยู่ในระดับที่สม่ำเสมอ
แม่นางผู้นี้ สุภาพมากจนออกจะมากไปสักหน่อย เป็นไปได้ว่าจะมาจากสำนักใหญ่ การอบรมเลี้ยงดูดีจริงๆ
“ไม่ต้องยืนหรอก มานั่งเถิด” หลี่เนี่ยนฝานพูดอย่างยิ้มแย้ม “เสี่ยวไป๋ ไปรินน้ำมาให้แม่นางทั้งสอง”
ฉินม่านอวิ๋นปรับสภาพจิตใจให้คงที่อย่างยากลำบาก เอ่ยปากว่า “คุณชายหลี่ ข้ามาโดยมิได้รับคำเชิญ รบกวนแล้ว”
“รบกวนอะไรกัน ที่จริงข้าเองก็คาดหวังว่าพวกเจ้าจะมา” หลี่เนี่ยนฝานบอกด้วยรอยยิ้ม
หืม?
สีหน้าของลั่วซืออวี่และฉินม่านอวิ๋นเคร่งขรึมในทันใด แน่นอนว่าพวกนางเข้าใจนัยยะในคำพูดของหลี่เนี่ยนฝาน
เพิ่งจะนั่งลง แต่กลับลุกพรวดขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่
ลั่วซืออวี่เอ่ยด้วยความปลื้มปีติ “คุณชายหลี่ ท่านมีเรื่องใดสั่งมาได้เลย!”
ในใจของพวกนางทั้งวิตกทั้งคาดหวัง ไม่รู้ว่าสรุปแล้วคุณชายหลี่มีเรื่องอะไร ตนสามารถช่วยเหลือได้ไหม ถ้า
หากช่วยได้ ก็นับว่าได้ผูกมิตรกับคุณชายหลี่แล้วไม่ใช่หรือ
โอกาสเช่นนี้หาได้ยากเหลือเกิน!
“ข้าไม่ได้สั่งอะไรหรอก พวกเจ้าไม่ต้องกังวลถึงเพียงนั้น” ปฏิกิริยาตอบสนองของทั้งสองทำให้หลี่เนี่ยนฝานเกรงใจอยู่บ้าง กระตือรือร้น กระตือรือร้นเกินไปแล้ว
“ช่วงนี้มีลำแสงของผู้บำเพ็ญเซียนบินผ่านไปผ่านมา ทำเอาข้าออกไปข้างนอกไม่ได้ ขึ้นเขาไปล่าสัตว์ยิ่งไม่ต้อง
พูดถึง พวกเจ้าช่วยไปสืบให้หน่อยได้ไหมว่าเป็นเพราะเหตุใด” หลี่เนี่ยนฝานเอ่ยถาม
แม้ว่าผู้บำเพ็ญเซียนเหล่านั้นจะไม่ได้มาที่เรือนสี่ประสาน แต่ก็ทำให้หลี่เนี่ยนฝานไม่ได้ออกไปข้างนอกเหมือนกันนี่นา
เขาเป็นแค่ปุถุชนคนหนึ่ง สภาพแวดล้อมโดยรอบยังว่างเปล่าจับใจ ถ้าหากไม่ใช่เพราะสถานการณ์นี้ เขาคงพาต๋าจี่ไปเดินเล่นข้างนอกตั้งนานแล้ว คงไม่มาอุดอู้อยู่ในบ้านแบบนี้หรอก
ความนัย ความนัยของปรมาจารย์มาแล้ว!
ลั่วซืออวี่และฉินม่านอวิ๋นสบตากัน
หว่างคิ้วฉายแววตื่นเต้น
พวกเขาไม่คิดว่าหลี่เนี่ยนฝานจะไม่รู้เหตุผลในเรื่องนี้ เพียงแต่ว่ายามที่ปรมาจารย์เผชิญหน้ากับมดไรฝูงหนึ่ง เขาจะลงมือเองไม่ได้ จึงเอ่ยเตือนพวกนางทางอ้อม
นี่เป็นโอกาสให้พวกข้าแสดงฝีมือละ!
ในขณะเดียวกัน ลั่วซืออวี่ก็รู้สึกผิดอยู่บ้าง ตนเมินเฉยต่อปัญหานี้ในอาณาเขตของราชวงศ์เซียนเฉียนหลงได้อย่างไรกัน มิหนำซ้ำยังต้องให้คุณชายหลี่ออกปากเตือนด้วยตนเอง ไม่ควรเป็นเช่นนี้เอาเสียเลย!
“คุณชายหลี่ ก่อนหน้านี้พวกข้าคิดไม่รอบคอบ เรื่องนี้ข้าจะกลับไปจัดการ!”
ฉินม่านอวิ๋นก็รับรองในทันใด “ข้าก็ยินดีแบ่งเบาความกังวลของคุณชายหลี่!”
ลั่วซืออวี่นัยน์ตาเป็นประกาย รีบพูดว่า “จริงสิ มีท่านพี่ม่านอวิ๋นเข้ามาช่วย คนกลุ่มนั้นต้องรีบไปโดยเร็วอย่างแน่นอน!”
ฉินม่านอวิ๋นแย้มยิ้ม ในใจกลับประหนึ่งมีคลื่นโหมซัด
ไม่ผิดแน่!
คุณชายหลี่เดาได้แต่แรกจริงๆ ด้วยว่านางจะมา
ผลกระทบจากจิ้งจอกสวรรค์นั้นมีมหาศาล ละแวกนี้มีผู้บำเพ็ญเซียนและขุมกำลังมากมายถึงเพียงนั้น ลำพังราชวงศ์เซียนเฉียนหลงไม่มีทางขับไล่ผู้คนไปได้ทั้งหมด มีเพียงอารามเต๋าหลินเซียนของพวกนางที่ทำได้!
ที่ปรมาจารย์กล่าวว่า ‘คาดหวังว่าพวกเจ้าจะมา’ ที่แท้ก็เฝ้ารอให้พวกข้ามา!
ฉินม่านอวิ๋นสัมผัสได้ว่าสมองของตนชาวาบ ขนลุกซู่ไปทั่วทั้งร่าง นึกในใจอย่างขื่นขม ‘เป็นไปได้มากว่าข้าจะอยู่บนกระดานหมากของปรมาจารย์แต่แรกแล้ว!’
เมื่อเห็นว่าพวกนางรับปากแล้ว หลี่เนี่ยนฝานก็พลันคลี่ยิ้ม “อย่างนั้นก็ขอขอบคุณ รีบนั่งลงเถิด”
ในตอนนั้นเอง ฉินม่านอวิ๋นจึงกล้าปรายตามองหลี่เนี่ยนฝาน
สมแล้วที่เป็นปรมาจารย์ เร้นกายได้แนบเนียน มองจากภายนอกเป็นปุถุชนโดยสมบูรณ์ ไม่มีพิรุธแม้แต่น้อย!
จากนั้นจึงลอบมองต๋าจี่
นี่คือจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางซึ่งแปลงกายมาท่านนั้นน่ะหรือ
เดิมทีนางก็เพียงสงสัยใคร่รู้ ทว่าทันทีที่ได้เห็น ก็ทำให้นางสั่นเทาไปทั้งสรรพางค์กาย
‘นี่ นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน’
ในสายตาของนาง รอบกายของต๋าจี่คล้ายกับมีม่านหมอกบางเบาโอบล้อมอยู่ชั้นหนึ่ง หมอกเหล่านี้ต่างจากหมอกที่เห็นยามปกติ มีเพียงผู้ที่มีพลังบำเพ็ญสูงส่งเท่านั้นจึงจะมองออก
เป็นเพราะม่านหมอกนี้แสดงถึงความชัดแจ้งของทำนองมรรคา
โดยทั่วไป มีเพียงการสัมผัสกับทำนองมรรคามากเกินจำเป็นในระยะเวลาอันสั้น จนร่างกายดูดซับไว้ไม่ทัน จึงเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น เพียงแต่ว่าจะหลงเหลือเพียงน้อยแสนน้อย ผู้คนมากมายคิดว่าคำพูดนี้น่าขัน ทำนองมรรคาหาได้ยากยิ่ง จะดูดซับไม่ทันไปได้อย่างไร เจ้าเห็นมันเป็นอะไรกัน
แต่ว่า…วันนี้นางได้เห็นแล้ว!
ฉินม่านอวิ๋นรู้สึกเพียงว่าปากแห้งผาก จนน้ำลายต้องหลั่งออกมา ริษยาจนไร้หนทางไตร่ตรอง
ต้องมีวาสนามากเพียงใดถึงจะสะสมทำนองมรรคาได้มากเช่นนี้นะ!
เฉกเช่นยาจกคนหนึ่งมาพานพบมหาเศรษฐี หากไม่เปรียบเทียบ ก็ย่อมไม่เจ็บปวด
นอกจากนั้นแล้ว ฉินม่านอวิ๋นยังสังเกตเห็นอีกว่าพลังบำเพ็ญของต๋าจี่นั้นแตะถึงขั้นจินตันแล้ว!
ช่วงเวลาซึ่งจิ้งจอกเก้าหางกลายร่างเพิ่งผ่านมาเพียงไม่กี่วันกระมัง อีกทั้งลั่วซืออวี่ก็บอกแล้วแท้ๆ ว่าจิ้งจอก
สวรรค์เก้าหางบาดเจ็บจากด่านเคราะห์สวรรค์ หากปราศจากความช่วยเหลือของปรมาจารย์ก็คงตายไปแล้ว นี่มีพลังถึงขั้นจินตันได้อย่างไรกัน
นี่มัน…เปิดสูตรโกงหรือ
ฉินม่านอวิ๋นคิดอย่างไรก็คิดไม่ออก ด้วยโลกทัศน์ที่มีในตอนนี้ นางไม่อาจเค้นสมองหาเหตุผลออกมาได้จริงๆ
ทว่า สิ่งหนึ่งที่นางยืนยันได้ก็คือ เรื่องทั้งหมดนี้เกี่ยวข้องกับคุณชายหลี่!
คุณชายหลี่เป็นบุคคลระดับใด ขอเพียงติดตามเขา ที่ใดๆ ก็นับเป็นวาสนา
ดวงตาของฉินม่านอวิ๋นฉายแววอิจฉา หากตนได้อยู่ข้างกายคุณชายก็คงดี ต่อให้ต้องยกชารินน้ำ ก็ยอดเยี่ยมกว่า
การเป็นเทพธิดาของสำนักใด!
ในตอนนั้นเอง กลิ่นหอมแปลกประหลาดก็พัดผ่านจมูก ทำให้สติของนางตื่นขึ้นมา
เมื่อเงยหน้ามองไป ก็อดหายใจเข้าเฮือกหนึ่งด้วยความตะลึงงันไม่ได้
ทั้งเรือนเต็มไปด้วยโอสถวิเศษและหญ้าเซียน! ทั้งยังถึงกับเป็นของชั้นดีด้วย!
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าต่อให้สุ่มเลือกมาต้นหนึ่ง ก็มากพอให้ผู้คนข้างนอกฟาดฟันกันจนนองเลือด!
ต่อให้ฉินม่านอวิ๋นเป็นถึงเทพธิดาแห่งอารามเต๋าหลินเซียน ก็ยังตกใจกับความมั่งคั่งอู้ฟู่ประเภทนี้
งดงาม น่าตื่นตะลึง หรูหราเหลือเกิน!
‘อย่าส่งเสียงร้อง ตั้งสติ สุขุมเข้าไว้! ปรมาจารย์ไม่ชอบผู้ที่ตื่นตูมง่าย’ ฉินม่านอวิ๋นลอบบอกตนเองในใจอย่างเสียไม่ได้ ใช้การหายใจลึกข่มความตกตะลึงในใจไว้
นางกวาดสายตาไปยังลั่วซืออวี่ซึ่งอยู่ด้านข้าง ก็พบว่าดวงตาของนางว่างเปล่า อึ้งงันไปเรียบร้อยแล้ว
ยังจะมาบอกข้าอีกว่าอย่าตื่นตูม เจ้าเองยังทนไม่ไหวเลย
ฉินม่านอวิ๋นรีบเขย่าลั่วซืออวี่คราหนึ่ง เพื่อให้นางได้สติขึ้นมา
ลั่วซืออวี่สัมผัสได้ว่าลำคอของตนแห้งผาก ไม่อาจเปล่งเสียงได้
นางเห็นกับตาว่าคุณชายหลี่ได้รับโอสถวิเศษ แต่ว่าไฉนจึงนึกไม่ถึงเลยว่าหลี่เนี่ยนฝานจะปลูกโอสถวิเศษเหล่านี้
ได้!
สิ่งสำคัญก็คือเขาไม่เพียงปลูกโอสถวิเศษเหล่านี้ได้สำเร็จ แต่ยังเจริญเติบโตเป็นอย่างดี คุณภาพถึงกับเหนือกว่ายามที่มอบให้ในตอนแรกด้วยซ้ำ
เรื่องน่าตกใจนี้ เป็นเหมือนความฝันไม่มีผิดเพี้ยน
“นี่ นี่…” ลั่วซืออวี่ละล่ำละลักอยู่นานก็ยังพูดไม่ออก “คุณชายหลี่ ท่านนำโอสถวิเศษมาปลูกหรือ”
“อื้ม ใช้กลเม็ดเล็กน้อย นับว่าโตใช้ได้เลย” หลี่เนี่ยนฝานยิ้มบาง
เขาสังเกตเห็นสีหน้าของลั่วซืออวี่และฉินม่านอวิ๋น อดรู้สึกลำพองใจไม่ได้
คิดไม่ผิดจริงๆ ที่ตนเลือกปลูกโอสถวิเศษเพื่อประดับบารมีเพิ่มความเท่ ดูสิ แม้แต่ผู้บำเพ็ญเซียนก็ยัง
ตกใจ
ถึงแม้จะเป็นปุถุชน แต่ก็จะไม่ยอมให้ใครมาดูแคลน ความรู้สึกที่สามารถทำให้ผู้บำเพ็ญเซียนยกย่อง
ได้นั้นดีเสียจริง
ใช้กลเม็ดเล็กน้อย?
นับว่าโตใช้ได้เลย?
ฉินม่านอวิ๋นและลั่วซืออวี่ถูกคำคุยโวของหลี่เนี่ยนฝานทำเอาสมองชาหนึบ นิ่งงันไปทันที
…………………………………………