ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 60 เจ้ายอมสละตันปีศาจด้วยตนเองเถิด
ตอนที่ 60 เจ้ายอมสละตันปีศาจด้วยตนเองเถิด
เวลาผ่านไปอย่างเนิบช้า
ฟ้าค่อยๆ สว่างขึ้นเรื่อยๆ
จักรพรรดิปีศาจจันทราเงินสีหน้าย่ำแย่ลงเรื่อยๆ ระดับพลังของมันและเหยาเมิ่งจีไม่ต่างกันมากนัก ทว่าเหยาเมิ่งจีมีอาวุธเซียนอย่างฉินจิตสวรรค์เทียมในมือ การขยายร่างนี้เห็นได้ชัดว่ามันกำลังจะทนไม่ไหวแล้ว
มันมองเหยาเมิ่งจี เอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์ “เหยาเมิ่งจี ข้าไปล่วงเกินผู้ยิ่งใหญ่ท่านใดกัน”
เหยาเมิ่งจีแค่นหัวเราะเย็นเยียบ “เหอๆ นามของปรมาจารย์ เจ้าไม่มีสิทธิ์จะรู้!”
“เจ้า…”
จักรพรรดิปีศาจจันทราเงินสีหน้าลึกล้ำดุจสายน้ำ เดือดดาลจนปอดแทบระเบิด
แต่มันกลับไม่กล้าบุกเข้าโจมตี ทำได้เพียงกล้ำกลืนโทสะ “เหยาเมิ่งจี ขอเพียงเจ้าปล่อยข้าไป ข้าจะบอกเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่งกับเจ้า!”
“โอ้?” เหยาเมิ่งจีมองมัน
จักรพรรดิปีศาจจันทราเงินเอ่ยว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าจับจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางไป แต่ว่า เจ้าคงรู้ว่าเมื่อสามปีก่อนจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางนั้นยังเป็นเพียงจิ้งจอกหกหาง ในระยะเวลาสั้นๆ เพียงสามปี จากหกหางกลายเป็นเก้าหาง ทั้งยังข้ามผ่านด่านเคราะห์สวรรค์ได้สำเร็จ ต้องเป็นเพราะได้พบโชคชะตาอันยิ่งใหญ่เป็นแน่!”
สีหน้าของเหยาเมิ่งจีและฉินม่านอวิ๋นพลันเปลี่ยนไป
พวกเขามองหน้ากัน ล้วนแต่เห็นความตื่นตระหนกในสายตาของกันและกัน
ไม่ต้องขบคิดก็รู้ว่าโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ที่จักรพรรดิปีศาจจันทราเงินพูดถึงก็คือคุณชายหลี่
เดิมทีพวกเขาคิดแค่ว่าคุณชายหลี่เพียงแต่ช่วยจิ้งจอกเก้าหางจากด่านเคราะห์สวรรค์ นึกไม่ถึงว่าที่แท้คุณชายหลี่จะเป็นผู้สร้างจิ้งจอกสวรรค์เก้าหางขึ้นมา
ฝีมือร้ายกาจน่ากลัวเหลือเกิน สมแล้วที่เป็นผู้ยิ่งใหญ่!
“แค่นี้หรือ”
สายตาที่เหยาเมิ่งจีมองจักรพรรดิปีศาจจันทราเงินเปี่ยมไปด้วยความเห็นอกเห็นใจ จวบจนทุกวันนี้มันก็ยังไม่รู้ว่ามันล่วงเกินปรมาจารย์ก็เพราะจิ้งจอกสวรรค์เก้าหาง อีกทั้งโชคชะตาที่ว่า ก็คือสิ่งที่ปรมาจารย์ส่งมอบให้ไปอย่างนั้น
น่ากลัวว่าจะเป็นความชอกช้ำของพวกมดปลวกกระมัง
จักรพรรดิปีศาจจันทราเงินหัวใจพลันหนักอึ้ง “โชคชะตาเช่นนี้ย่อมข้องเกี่ยวกับการสำเร็จเป็นเซียน นี่ยังไม่พออีกหรือ”
“อย่าได้ขัดขืน ชีวิตของเจ้าจักต้องถูกปรมาจารย์เก็บ เรื่องบางเรื่องข้าจะไม่บอกเจ้า กลัวว่าพูดออกไปเจ้าจะตกใจตายคาที่” เหยาเมิ่งจีเอ่ยเสียงเรียบ
ใบหน้าจักรพรรดิปีศาจจันทราเงินเปี่ยมไปด้วยความอัปยศ แผดเสียงด้วยความโกรธขึ้ง “เหยาเมิ่งจี ข้ากับเจ้าไร้ซึ่งความแค้นต่อกัน ไฉนเจ้าจึงได้ทำเช่นนี้กับข้า?!”
ปีศาจอินทรีเยี่ยงข้าอยู่มาสี่พันกว่าปี อย่ามาขู่ข้าเสียให้ยาก
หัวใจของจักรพรรดิปีศาจจันทราเงินร่วงหล่นลงไปยังหุบเหว เขามั่นใจแล้วว่าเจ้าแก่นี่วิปลาสไปแล้ว หากสังหารตนไม่ได้ก็จะไม่ยอมเลิกรา
เป็นไปได้มากว่าปรมาจารย์อะไรนี่ เขาปั้นน้ำเป็นตัวขึ้นมาใช้เป็นข้ออ้าง บนโลกนี้ไหนเลยจะมีผู้ยิ่งใหญ่ได้ถึงเพียงนั้น
มันขบกรามแน่น ทันใดโลหิตสดเต็มปากก็พุ่งออกมา
พลังปีศาจพลุ่งพล่านขึ้นในชั่วพริบตา มันกลืนตันปีศาจกลับลงท้อง สองปีกสยายออก แปรเปลี่ยนเป็นลำแสงยิงออกไปไกล
“เจ้าปีศาจหนีไปไหนแล้ว ตามไป!”
เหยาเมิ่งจีรีบร้อนเก็บฉินจิตสวรรค์ ควบทะยานลำแสงไล่ตามไป
เพียงแต่ว่าจักรพรรดิปีศาจจันทราเงินมีความเร็วเป็นต่อ เพียงชั่วลัดนิ้วมือเดียวเหยาเมิ่งจีก็ยากจะไล่ตามได้ทัน
ในขณะเดียวกันนั้นเอง
หลี่เนี่ยนฝานพาต๋าจี่เดินออกมาจากเรือนสี่ประสานอยู่ก่อนแล้ว กำลังเดินเที่ยวเล่นอยู่บนเขา
“ในที่สุดผู้บำเพ็ญเซียนกลุ่มนั้นก็ไปสักที วนไปวนมาอยู่ที่นี่ทั้งวันไม่รู้จักเหนื่อย ทำเอาข้าต้องนั่งเบื่ออยู่บ้านทั้งวัน ทรมานจะแย่” หลี่เนี่ยนฝานถอนหายใจออกมายาวๆ สัมผัสได้ว่าสมองปลอดโปร่ง
เขาอุตส่าห์เฝ้าสังเกตอยู่ตั้งสามวัน จึงพบว่าผู้บำเพ็ญเซียนเหล่านั้นจากไปแล้วจริงๆ ถึงได้กล้าออกจากบ้าน
บนไหล่ของเขาแบกคันธนูซึ่งเพิ่งประดิษฐ์เสร็จ ด้านหลังสะพายศรธนูซึ่งทำขึ้นเป็นพิเศษ เตรียมทดลองใช้เล็กๆ
น้อยๆ จึงวิ่งแจ้นออกมาล่าสัตว์
เพียงแต่ว่าไม่นานเขาก็ค้นพบปัญหาอย่างหนึ่ง
เป็นเพราะเหล่าผู้บำเพ็ญเซียนมากวาดล้างไป ทำให้สัตว์ป่าบนเขาลดลงอย่างเห็นได้ชัด เดินมาครึ่งค่อนวัน แม้แต่กระต่ายป่าสักตัวก็ยังไม่เห็น
“พวกผู้บำเพ็ญเซียนน่ารังเกียจ กินเรียบอย่างกับตั๊กแตนปาทังก้า!” หลี่เนี่ยนฝานจนปัญญา ทำได้เพียงมุ่งหน้าสู่ภูเขาลูกที่อยู่ไกลออกไป ต๋าจี่เดินตามอยู่ข้างกาย ต้าเฮยคอยเดินนำอยู่ด้านหน้าเพื่อเบิกทาง
ท่าทีของต๋าจี่ทำให้หลี่เนี่ยนฝานต้องตาเป็นประกาย
หญิงสาวอรชรอ้อนแอ้นเช่นนางไม่เพียงไม่ขลาดกลัว แต่ยังแน่วแน่ติดตามเขาอยู่ข้างกาย ไม่เหมือนกับเด็กสาวบอบบางทั่วไปซึ่งมักเหนื่อยล้าได้ง่าย
จริงสิ ตนพบนางอยู่กลางเขา เป็นไปได้มากว่านางจะใช้ชีวิตอยู่ในป่ามาตั้งแต่เด็กละมั้ง
ไม่เพียงหน้าตาสะสวย ยังหนักเอาเบาสู้ เป็นหญิงสาวที่หาได้ยากยิ่ง
“โฮ่งๆๆ!”
ในตอนนั้นเอง อยู่ๆ ต้าเฮยซึ่งเดินนำหน้าอยู่ก็หันมาทันใด เห่าเรียกหลี่เนี่ยนฝานสองสามครั้ง จากนั้นก็ห้อตะบึงเข้ามาอย่างเร็วรี่
หลี่เนี่ยนฝานดวงตาสว่างวาบ รีบสาวเท้าติดตามไปอย่างเสียไม่ได้ “ข้างหน้ามีเหยื่อ! ต้าเฮย ช้าหน่อย อย่าแหวกหญ้าให้งูตื่น!”
กระนั้น ต้าเฮยกลับควบฝีเท้าเร็วยิ่งกว่าเดิม
“เจ้าหมาเบื๊อกนี่!”
……
จักรพรรดิปีศาจจันทราเงินวิ่งหนีสุดชีวิต สายตาของมันมองไปเบื้องหน้า แต่แล้วก็ต้องชะงักค้างไปทันใด
หืม?
บนหน้าผาข้างหน้า ถึงกับมีจุดสีดำๆ จุดหนึ่งยืนอยู่ เมื่อมองไปอีกที ก็เห็นสุนัขพันธุ์พื้นเมืองสีดำแสนธรรมดาตัวหนึ่งกำลังใช้สายตาหยามเหยียดมองมายังตน
“หมาหน้าโง่ที่ไหนกัน ถึงได้กล้ามาขวางทางข้าเช่นนี้” จักรพรรดิปีศาจจันทราเงินหัวคิ้วขมวดมุ่น เอ่ยเสียงเย็น “ไสหัวไป แล้วข้าจะไว้ชีวิตสุนัขเช่นเจ้า!” ต้าเฮยไม่ขยับเขยื้อน ขนสีดำขลับของมันปลิวไหวตามแรงลม ปากค่อยๆ อ้ากว้าง “เจ้ายอมสละตันปีศาจด้วยตนเองเถิด อย่าให้ข้าต้องลงมือ”
จักรพรรดิปีศาจจันทราเงินโมโหจนหัวเราะลั่น ในใจรู้สึกหดหู่ขึ้นมาชั่วขณะอย่างห้ามไม่อยู่ “อินทรีผู้แข็งแกร่งยามจนตรอกถูกสุนัขรังแก นึกไม่ถึงว่าจักรพรรดิปีศาจจันทราเงินอย่างข้ายิ่งใหญ่มาสี่พันกว่าปี บัดนี้ถึงกับถูกสุนัขอสูรตัวหนึ่งท้าทาย”
หากเป็นยามปกติ มันคงทำให้สุนัขอสูรตัวนี้กลัวจนหัวหดได้ง่ายๆ ทว่าในยามนี้กำลังหนีเอาชีวิตรอด ย่อมไม่มีเวลามาใส่ใจ
รอให้ข้ารอดพ้นจากเรื่องทั้งหมดนี้ไปก่อนเถอะ ข้าจะต้องจัดงานเลี้ยงฉลองเนื้อสุนัขอย่างแน่นอน!
สองปีกแผ่สยาย เตรียมจะโฉบเลาะด้านข้างไป
แต่กลับพบว่าสุนัขอสูรค่อยๆ ยกอุ้งเท้าขึ้นมา
ครืน!
บนท้องนภาอันกว้างใหญ่ เงาจางก่อตัวเป็นรูปร่างเงามืดของอุ้งเท้าสุนัขขนาดมหึมาปกฟ้าคลุมตะวัน กดทับลงมายังจักรพรรดิปีศาจจันทราเงินอย่างทรงพลัง
“แว้ก?”
จักรพรรดิปีศาจจันทราเงินตะลึงลานจนส่งเสียงนกออกมา ขนทั้งร่างลุกชันราวกับเม่น มองอุ้งเท้าสุนัขนั้นด้วยความหวาดผวา นัยน์ตาเปี่ยมความสิ้นหวัง
มันขยับเขยื้อนไปไหนไม่ได้เลย ทำได้เพียงตัวสั่นงก “นายท่านสุนัข ไว้ชีวิตข้าด้วย!”
ตู้ม!
อุ้งเท้าตบเข้าบนร่างของมันอย่างไร้ปรานี ไม่ได้ตบมันจนหัวแบะตาย หากแต่ทำให้มันอ้าปาก ตันปีศาจสีทองสุกสกาวอันหนึ่งลอยออกมาจากด้านใน
ปากของต้าเฮยสูดเบาๆ ตันปีศาจก็ถูกมันสูบเข้าปากไป เคี้ยวกร้วมๆ แล้วกลืนลงท้องไปราวกับเป็นขนมขบเคี้ยว
เหยาเมิ่งจีและฉินม่านอวิ๋นอยู่ไม่ไกลออกไป ทั้งสองทำตาโต อ้าปากค้างเป็นรูป ‘O’ พร้อมกัน
พวกเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับตาตนเอง ตกใจกลัวจนขวัญหนีดีฝ่อสมองขาวโพลน
พวกเขาอยากหันหลังเผ่นหนีเหลือเกิน แต่เป็นเพราะหวาดผวาจนตัวแข็งทื่อ ขยับเขยื้อนไม่ไหว
เดิมทีพวกเขากัดฟันกระวีกระวาดตามล่าจักรพรรดิปีศาจจันทราเงินมา ต่อให้ฝันไปก็นึกไม่ถึงว่าจะมีสุนัขอสูรแข็งแกร่งผิดธรรมชาติโผล่ออกมา
จักรพรรดิปีศาจจันทราเงินกลายเป็นเพียงเด็กแบเบาะเมื่ออยู่ต่อหน้ามัน
น่ากลัวเหลือเกิน น่าตกใจเหลือเกิน
สุนัขอสูรเช่นนี้ต่างทำให้ผู้คนต้องตะลึงพรึงเพริด หรือว่าจะเป็นสุนัขเซียน?
และในตอนนั้นเอง สุนัขสีดำตัวนั้นก็หันหน้ามา นัยน์ตานิ่งสงบจับจ้องมายังพวกเขาทั้งสอง…
……………………………………..