ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 76 เสียวสันหลังวาบ
เมื่อเอ่ยถึงตู้เย็น หลี่เนี่ยนฝานก็ทอดถอนใจอย่างอดไม่ได้
สายตาของเขาทอดมองออกไปคล้ายกับกำลังหวนระลึกความหลัง
เขาไม่ได้อยากนำอาหารเข้าไปแช่ในตู้เย็นเพื่อคงความสดใหม่ อันที่จริงเขาไม่ได้ชอบกินอาหารที่เคยแช่เย็นมาแล้วด้วยซ้ำไป สิ่งที่เขาคิดถึงก็คือเครื่องดื่มเย็นๆ ต่างหาก!
เครื่องดื่มเย็นๆ หรือว่าจะเป็นแตงโมเย็นๆ กินแล้วถึงสดชื่น!
เพิ่งจะกินน้ำแกงนกอินทรีไป ถ้าหากในตอนนี้มีน้ำอัดลมเย็นเฉียบสักกระป๋องมาให้ จะต้องรู้สึกยอดเยี่ยมมากอย่างแน่นอน
หลินมู่เฟิงบังเอิญเห็นภาพเหตุการณ์เข้าเสียพอดิบพอดี
หัวใจของเขาเต้นโครม ดูแล้วตู้เย็นนี้คงจะสำคัญกับคุณชายหลี่มาก อย่างนั้นตนก็ยิ่งต้องทำสิ่งที่คุณชายหลี่ไหว้วานให้สำเร็จ!
ทว่าชั่วขณะต่อมา เขาก็ต้องตะลึงงันไป
เมื่อสายตาเหลือบไปเห็นหลี่เนี่ยนฝานยกหม้อดินเดินไปยังหลังเรือน
หากเขาเดาไม่ผิด ท่าทางเช่นนี้คงคิดจะนำน้ำแกงไปเททิ้ง…
นัยน์ตาของหลินมู่เฟิงเบิกกว้าง หัวใจกระตุกวูบ!
ถ้าหากต้องมองดูน้ำแกงเซียนเช่นนี้ถูกเททิ้งไปต่อหน้าต่อตา สำหรับเขาแล้วนับเป็นการทรมานอย่างหนึ่ง
ครั้นเห็นหลี่เนี่ยนฝานกำลังจะเดินไปถึงประตูหลังเรือน เลือดลมของเขาก็ตีกลับขึ้นมา สมองแล่นปราด พลันโพล่งออกไปว่า “คุณชายหลี่ ช้าก่อน”
“หืม?” หลี่เนี่ยนฝานมองไปทางหลินมู่เฟิง
หลินมู่เฟิงรู้สึกเพียงว่าสมองชาหนึบ หวาดผวาจนโลหิตในร่างกายแทบแข็งเป็นก้อน ฝืนกล่าวว่า “คุณชายหลี่ ท่านกำลังจะนำน้ำแกงหม้อนี้ไปเททิ้งหรือ”
หลี่เนี่ยนฝานพยักหน้า “อื้ม ถึงอย่างไรก็เก็บไว้ไม่ได้อยู่แล้ว”
“เอ่อ…น้ำแกงรสเลิศเช่นนี้หากเททิ้งไปน่าเสียดายแย่ ไม่รู้ว่าจะให้ข้า…นำกลับไปได้ไหม” หลินมู่เฟิงรู้สึกว่าตนลำคอแห้งเฝื่อน กว่าจะเอ่ยคำพูดนี้ออกมาได้ต้องสิ้นเปลืองพลังไปทั้งตัว ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าหลี่เนี่ยนฝาน
เขาพยายามทำให้ตนแลดูปกติที่สุด ทั้งที่แท้จริงแล้วเขากลัวจนแทบจะฉี่รดกางเกงอยู่รอมร่อ
“ท่านจะห่อกลับหรือ”
หลี่เนี่ยนฝานชะงักไปเล็กน้อย ความประทับใจที่มีต่อหลินมู่เฟิงนั้นเพิ่มขึ้นมากโข
เป็นคนที่พิถีพิถันจริงๆ ด้วย!
ไม่อยากเทอาหารทิ้งไปโดยไร้ประโยชน์สินะ!
ขณะเดียวกันเขาก็นึกอารมณ์ดีขึ้นมา เห็นหรือยังล่ะว่าแม้แต่ผู้บำเพ็ญเซียนก็ต้องห่ออาหารของฉันกลับบ้าน
เห็นได้ชัดว่ากระเพาะของเขาถูกครอบงำไปแล้ว!
“อืม” หลินมู่เฟิงพยักหน้า จากนั้นก็รีบกล่าวเสริมว่า “ถ้าไม่ได้ก็ช่างเถิด”
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ เรื่องเล็กน้อยแค่นี้” หลี่เนี่ยนฝานยิ้มระรื่น หันหลังเดินกลับมา
หารู้ไม่ว่าในเรือน รากไม้นับไม่ถ้วนงอกขึ้นมาจากใต้ดิน โบกสะบัดโหยหาน้ำแกงนั้นอย่างบ้าคลั่ง
ในขณะเดียวกันนั้นเอง หลินมู่เฟิงก็ตัวสั่นเทิ้มอย่างห้ามไม่อยู่ มักรู้สึกว่ากำลังถูกบางสิ่งที่แข็งแกร่งหมายหัว พริบ
ตาเดียวอาจสิ้นชีพก็เป็นได้
เขามองไปรอบๆ สีหน้าอึดอัดและสับสน เกินอะไรขึ้นกัน
ตนบำเพ็ญเพียรมาพันปี แต่ไหนแต่ไรมาจะทำเรื่องใดล้วนไม่กระโตกกระตาก รู้ขีดจำกัด ระวังรอบคอบ ไม่น่า
จะมีศัตรูที่ไหนไปได้
หรือว่าจะคิดไปเอง
เขาตั้งสติ มองไปยังหลี่เนี่ยนฝาน
แต่กลับพบว่าหลี่เนี่ยนฝานหยิบกล่องสี่เหลี่ยมใสออกมา ก่อนจะเทน้ำแกงครึ่งหม้อเต็มๆ ลงไปในกล่อง
“แกร็ก”
หลี่เนี่ยนฝานปิดฝาเรียบร้อย แล้วส่งให้หลินมู่เฟิงพลางยิ้มเอ่ย “ไม่ต้องตกใจ นี่คือกล่องอาหาร ใช้สำหรับบรรจุอาหารไว้พกติดตัวน่ะ”
นึกไม่ถึงว่าตนจะมีวันที่ได้ใช้กล่องใส่อาหารกับเขาด้วย ของเล่นนี้ในมิติเก็บของของระบบยังมีอีกเพียบ หลี่เนี่ยนฝานคิดมาตลอดว่ามันเป็นของที่ไร้ประโยชน์ที่สุด
“เช่นนั้นข้าขอรับไว้ ขอบคุณคุณชายหลี่” หลินมู่เฟิงรับกล่องอาหารมาด้วยสองมือ ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเลื่อมใส “คุณชายหลี่ พวกข้ามารบกวนท่านที่นี่นานแล้ว ต้องขอตัวก่อน”
หลินชิงอวิ๋นก็หยัดกายลุกขึ้นคำนับ “คุณชายหลี่ วันนี้ขอบคุณที่ต้อนรับเป็นอย่างดี”
หลี่เนี่ยนฝานโบกมือไหวๆ “ไม่ต้องเกรงใจ แล้วเจอกัน”
……
ครั้นเดินออกมาจากเรือนสี่ประสาน หลินมู่เฟิงก็มีสีหน้าเคร่งขรึม เอ่ยถามว่า “ชิงอวิ๋น เจ้าพอจะเดาได้หรือไม่ว่าตู้เย็นที่ปรมาจารย์กล่าวถึงคือสิ่งใด”
“ท่านพ่อ แม้แต่ท่านยังไม่รู้ แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไร” หลินชิงอวิ๋นยิ้มขื่นพลางส่ายหน้า นางเงียบงันไปสักพักแล้วจึงพูด “แต่ว่าจะต้องไม่ใช่ของธรรมดา อย่างน้อยก็ต้องเป็นสมบัติค่าควรเมือง!”
“เจ้าคิดเหมือนข้า เป็นไปได้มากว่ามูลค่าของมันนั้นไม่ด้อยไปกว่าพระธาตุแผ่ธรรม!” หลินมู่เฟิงพูดอย่างหนักแน่น “ถึงแม้ปรมาจารย์จะไม่ได้บอกไว้ชัด แต่คำใบ้ก็ชัดเจนมากแล้ว ต้องพยายามเต็มที่เพื่อตามหาให้พบ วันนี้พวกเราได้รับน้ำใจครั้งใหญ่จากคุณชายหลี่ จะทำให้เขาผิดหวังไม่ได้!”
ท่ามกลางความเงียบสงัด แสงสีดำค่อยๆ ลอยขึ้นมาจากมือขวาของเขา จากนั้นก็อันตรธานหายไปอย่างไร้ร่อง
รอย
ขณะเดียวกันนั้นเอง ในมุมมืดแห่งหนึ่งซึ่งไกลออกไปนับล้านลี้
เงาดำสั่นสะท้านรุนแรง ดวงตาลืมโพลงทันใด!
พรึบ!
ไอดำแผ่ซ่านจากร่างของเขา กระเพื่อมเป็นชั้นๆ สื่อให้เห็นว่าจิตใจของเขากำลังปั่นป่วนขั้นสุด
“เป็นกลิ่นอายของกระบี่จุ้ยหมัว!” น้ำเสียงของเขาแหบพร่า ประกายหม่นฉายวาบในดวงตาซึ่งมองไปยังทิศทาง
ของเส้นขอบฟ้า
ตั้งแต่มารกระบี่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย กระบี่จุ้ยหมัวสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอยเช่นเดียวกัน ในที่สุดบัดนี้ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งแล้ว!
“ติดตามกลิ่นอายนี้ ส่งคนไปนำกลับมา!”
……
หลินมู่เฟิงซึ่งกำลังถกเถียงกับหลินชิงอวิ๋นเรื่องตู้เย็นก็สั่นสะท้านขึ้นอีกครา เกิดความรู้สึกเสียวสันหลังวาบจนต้องขมวดคิ้ว
เกิดอะไรขึ้น
ตนคงไม่ได้กำลังถูกบางอย่างเพ่งเล็งอยู่กระมัง?
หรือว่าตนกำลังอับโชคครั้งใหญ่?
เขากระชับน้ำแกงนกอินทรีในมือแน่น กล่าวอย่างระแวง “ชิงอวิ๋น พวกเรามีน้ำแกงอินทรีล้ำค่าอยู่กับตัว เพื่อไม่ให้เกิดเหตุไม่คาดฝันระหว่างทาง รีบเดินทางกลับโดยเร็วที่สุด!”
หลินชิงอวิ๋นพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
ทั้งสองคนรีบควบลำแสงมุ่งหน้ากลับไปยังหอเซียนหลิงอวิ๋นทันใด
ในเรือนสี่ประสาน หลี่เนี่ยนฝานให้เสี่ยวไป๋จัดการกับส่วนที่เหลือ ส่วนตนก็กลับไปเดินหมากกับต๋าจี่ต่อ
“เอ๊ะ”
หลี่เนี่ยนฝานมองกระดานหมาก ตกตะลึงไปเล็กน้อย แล้วจึงคลี่ยิ้มเอ่ย “เจ้าแก้โจทย์การเดินหมากนี้ได้แล้วหรือ”
“อื้ม ความคิดบังเกิดก็แก้โจทย์ได้พอดี” ต๋าจี่พยักหน้า ดวงตาคู่สวยมองหลี่เนี่ยนฝาน แววตากระตือรือร้น อีกนิดหนึ่งก็แทบบอกไปตามตรงแล้วว่าชมข้าหน่อย
“ฮ่าๆๆ ไม่เลว มีการพัฒนา เจ้าเก่งไม่ใช่ย่อยนะเนี่ย แต่ว่าโจทย์นี้เป็นเพียงขั้นพื้นฐาน ต้องพยายามให้มากถึงจะได้”
หลี่เนี่ยนฝานหัวเราะร่า เขี่ยจมูกสวยของต๋าจี่ ก่อนจะบอกไปตามตรงว่า “ข้าพูดจริงทำจริง ขอเพียงเจ้าแก้โจทย์การเดินหมากได้ ข้าก็จะมอบของขวัญให้เจ้าเป็นรางวัล”
เขาเงียบไปชั่วขณะ เดินเข้าไปด้านข้าง หยิบป้ายหยกกลมละมุนชิ้นนั้นออกมาส่งให้ต๋าจี่ “ของของข้าที่นี่ล้วนแต่เป็นของบุรุษฉกรรจ์ ป้ายหยกเช่นนี้เหมาะกับเจ้าแล้ว”
ป้ายหยกนี้ก็คือป้ายหยกซึ่งลั่วซืออวี่มอบให้ครั้งแรกพบ ทำจากวัสดุชั้นดี ทั้งยังผ่านการเจียระไนของหลี่เนี่ยนฝาน ฝีมือแกะสลักถึงขั้นสมบูรณ์แบบ หากอยู่ในโลกก่อนหน้าจะต้องเป็นหยกน้ำงามราคาสูงลิบอย่างแน่นอน
แต่นี่เป็นเครื่องประดับผู้หญิง เขาคิดจะยกให้ต๋าจี่ตั้งนานแล้ว
“ขอบคุณคุณชายหลี่!” ต๋าจี่สีหน้าเต็มตื้นพลางรับป้ายหยกมาลูบไล้ไม่ยอมวางมือ “คุณชายดีต่อข้ามาก ต่อไปหากมีเรื่องใด โปรดสั่งต๋าจี่มาได้”
หลี่เนี่ยนฝานหัวใจเต้นระรัว “เหอะๆ ข้าบอกแล้วไงว่าไม่ต้องเกรงใจข้าถึงขนาดนั้น”
……………………………………..