ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 78 คุณชายหลี่สมแล้วที่เป็นเทพเซียน
ผู้อาวุโสทั้งสามและผู้เฒ่าซุนล้วนตะลึงพรึงเพริด สายตาเคร่งขรึมจับจ้องน้ำแกงนกอินทรีชามนั้น
จากนั้นก็ยกชามขึ้นมาอย่างอดรนทนไม่ไหว ค่อยๆ จิบหนึ่งคำ
“เฮือก!”
ทันทีที่กินเข้าไป น้ำแกงไหลรินผ่านริมฝีปากและซี่ฟันพร้อมแรงสั่นสะท้านเป็นระลอก
ชั่วขณะนั้น น้ำลายก็เอ่อล้นเต็มปาก!
ทั้งสี่คนยกมือขึ้นปิดปากทันใด ส่งเสียงออกมาอย่างอิ่มเอม
หลังจากนั้น พวกเขาก็ไม่สนสิ่งอื่นอีกต่อไป ยกชามขึ้นมาตะบี้ตะบันซดน้ำแกงเข้าปาก
อึกๆๆๆ
บริเวณนั้นเหลือเพียงเสียงกินน้ำแกงของพวกเขา
บ้างก็กินอย่างรีบร้อน น้ำแกงไหลลงตามเส้นหนวด ทว่ายังไม่ทันได้หยดลงบนพื้น ก็ถูกเจ้าของหนวดนี้ใช้มือรับไว้ ก่อนจะกอบขึ้นใส่ปาก
อร่อย อร่อยเหลือเกิน!
พวกเขาคล้ายกับหลงลืมทุกสิ่งไปแล้วสิ้น ทั้งสมองมีความคิดเพียงหนึ่งเดียว นั่นก็คือ “กิน กิน!”
ไม่ทันไร น้ำแกงหนึ่งชามก็ลงท้องไปจนหมด พวกเขาจึงพรูลมหายใจยาว
ได้กินน้ำแกงนี้ ชั่วชีวิตนี้…ไม่เสียดายแล้ว!
ผู้อาวุโสใหญ่มองหลินมู่เฟิงอย่างตื่นตระหนก พูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ท่านประมุข น้ำแกงนี่…”
หลินมู่เฟิงคลี่ยิ้มบาง พร้อมกับยกมือขึ้นมาห้าม “อย่าเพิ่งพูด ดื่มด่ำเสียก่อน”
ทั้งสี่คนอึ้งงัน จากนั้นดวงตาก็เบิกกว้างฉับพลัน
พวกเขาสัมผัสได้ว่าพลังปราณทั้งร่างเริ่มคุกรุ่นขึ้นมา อีกทั้งสมองก็พลันแจ่มแจ้ง คล้ายกับว่า…ได้ยินเสียงเพรียก
แห่งธรรมชาติ!
ทำนองมรรคา!
ในน้ำแกงมีทำนองมรรคาระคนอยู่หรือ?!
เหลือเชื่อ!
ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆ!
หัวใจของพวกเขาเต้นระส่ำ โลหิตทั้งสรรพางค์กายพลันโคจรเร็วขึ้นมา
เพียงแต่ว่า หากตื่นตกใจยามนี้ก็เห็นจะไม่ทันการณ์ พวกเขาหลับตาลง รีบร้อนประมวลทำนองมรรคาและพลังปราณ
ชั่วครู่ต่อมา ผู้อาวุโสใหญ่ได้สติกลับมาเป็นคนแรก เขาปรี่เข้าไปหากล่องอาหารด้วยความเร็วที่สุดในชีวิต ตักน้ำแกงให้ตนเองอีกหนึ่งชามอย่างว่องไว
“ผู้อาวุโสใหญ่ ท่านใจดำไปแล้ว! คุยกันแล้วไม่ใช่หรือว่าทุกคนจะกินน้ำแกงด้วยกัน”
ผู้อาวุโสรองรีบตามมา แล้วตักน้ำแกงให้ตนอีกชามเช่นเดียวกัน
ผู้อาวุโสสามและผู้เฒ่าซุนได้สติพร้อมกัน ลืมตาขึ้นทันใด
พวกเขากระจ่างในมรรคาได้ช้ากว่าผู้อาวุโสใหญ่ ปริมาณน้ำแกงที่ได้กินจึงตกเป็นรอง
ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน ในใจเดือดดาล ช่างหัวการกระจ่างในมรรคาปะไร กินน้ำแกงลงท้องไปก่อน กินไม่ลงแล้วค่อยว่ากัน!
“อึกๆๆๆ!”
ทั้งสี่คนก้มหน้าก้มตากินน้ำแกงจนปากมันเลื่อม
“พวกเจ้าช้าหน่อย เหลือไว้ให้ข้าสักคำสิ!”
ผู้เฒ่าซุนดวงตาแดงก่ำ รีบร้อนกล่าวว่า “พวกเจ้าทำอะไร ข้าเป็นแขกนะ! พวกเจ้าจะมาแย่งกับข้าได้ยังไงกัน วางลงเดี๋ยวนี้!”
ผู้อาวุโสรองกินน้ำแกงพลางว่า “ท่านก็รู้ไม่ใช่หรือว่าท่านเป็นแขก รีบกลับไปซะ พวกข้าไม่ต้อนรับท่าน!”
“ใช่ รีบวางน้ำแกงนกอินทรีลงด้วย ที่นี่ไม่ต้อนรับท่าน!” ผู้อาวุโสสามรีบร้อนพยักหน้า
ผู้เฒ่าซุนเดือดดาลหัวฟัดหัวเหวี่ยง “พวกเจ้าหาว่าข้าแย่งกินรึ!”
……
นำแกงนกอินทรีหนึ่งกล่องถูกผู้เฒ่าทั้งสี่กวาดเรียบไปอย่างรวดเร็ว แม้แต่เศษกระดูกก็ยังไม่เหลือซาก ถึงขั้นเปิด
ฉากต่อสู้กันเพื่อช่วงชิงน้ำแกงคำสุดท้าย
“ฮู้ว สบาย ไม่ได้รู้สึกสบายเช่นนี้มานานแล้ว”
ทั้งสี่คนเผยรอยยิ้มอิ่มเอมใจ น้ำแกงหม้อนี้ต่อให้ใช้การสำเร็จเป็นเซียนมาแลกก็ไม่ยอม
ยามนั้น ผู้อาวุโสใหญ่ก็มองไปยังกล่องอาหารซึ่งบรรจุน้ำแกงมา หัวคิ้วพลันขมวดเล็กน้อย “กล่องนี้…ไม่ธรรมดา!”
คนอื่นๆ ก็ล้วนเบนสายตาตามไปยังกล่องอาหาร สีหน้าฉายแววขบคิด
ผู้อาวุโสรองสูดหายใจเข้าลึก กล่าวอย่างเคร่งขรึม “เก็บความร้อนได้ก็ช่างเถิด แต่เก็บรักษาได้แม้แต่พลังปราณและทำนองมรรคา ของวิเศษที่มีคุณสมบัตินี้ทั้งโลกบำเพ็ญเซียนพบอยู่เพียงไม่กี่ชิ้น”
“ท่านประมุข ปรมาจารย์ก็มอบกล่องนี้ให้ท่านมาหรือ” ผู้อาวุโสสามเอ่ยถามอย่างตื่นอกตกใจ
ยามนี้หลินมู่เฟิงก็สัมผัสได้เช่นกันว่ากล่องอาหารนี้น่าอัศจรรย์กว่าที่ตนคาดคิด จึงยิ้มขื่นอย่างอดไม่ได้ “อืม
ปรมาจารย์หยิบให้ข้ามาอย่างไม่ได้ใส่ใจ ดูเหมือนว่าออกจะ…ไม่ชอบใจ”
ไม่ชอบใจ?
ใช่แล้วละ ปรมาจารย์เป็นบุคคลระดับใด สำหรับพวกเราแล้วกล่องนี้นับเป็นสมบัติล้ำค่า แต่สำหรับเขาก็คงเป็นเพียงของกระจอกงอกง่อยชิ้นหนึ่ง
ผู้ยิ่งใหญ่!
ผู้ยิ่งใหญ่อย่างแน่แท้!
นึกไม่ถึงว่าประมุขสำนักตนไปเยี่ยมเยือนปรมาจารย์เป็นครั้งแรกก็ถึงกับได้ของวิเศษเช่นนี้มา เดิมทีพวกเขาก็รู้สึกเสียดายที่มอบพระธาตุแผ่ธรรมให้ปรมาจารย์ ทว่าบัดนี้ก็อดชื่นชมในความปราดเปรื่องของประมุขไม่ได้
ความจริงใจเยี่ยงนี้จึงจะแลกมาซึ่งไมตรีจิตจากปรมาจารย์ได้กระมัง วิถีทางของตนไม่กว้างขวางเท่าวิถีที่ประมุขเดินจริงๆ ด้วย!
“ผู้เฒ่าหลิน น้ำแกงนกอินทรีแสนล้ำค่าเช่นนี้ได้มาจากที่ใดหรือ” ผู้เฒ่าซุนสายตาจับต้องหลินมู่เฟิง เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ “เจ้ารู้จักปรมาจารย์คนไหน”
หลินมู่เฟิงยิ้มบาง ส่ายหน้าน้อยๆ “บอกไม่ได้ บอกไม่ได้”
ตราบใดที่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากปรมาจารย์ เขาย่อมไม่กล้าเปิดเผยตัวตนของปรมาจารย์สุ่มสี่สุ่มห้า
ผู้เฒ่าซุนก็รู้ขอบเขตของเรื่องนี้ดี ไม่พูดให้มากความ ถอนหายใจแผ่วเบาพลางกล่าวด้วยความอิจฉา “ได้พบ
ปรมาจารย์ระดับนี้จึงนับว่าเป็นโชคอันยิ่งใหญ่โดยแท้ โชคที่ข้าบอกนั้นสำหรับเจ้าแล้วย่อมไม่ควรค่าแก่การเอ่ยถึง”
หลินมู่เฟิงจึงถามขึ้นด้วยความสงสัย “เจ้านำมาให้ข้าจริงหรือ สรุปแล้วคือสิ่งใดกัน”
“สถานที่คือเทือกเขาชูอวิ๋น ไม่นานก่อนหน้านี้ที่นั่นมีแดนเร้นลับเกิดขึ้น เดิมทีข้าคิดจะมาเชิญท่านไปแสวงโชคสักหน่อย ดูว่าจะพบของล้ำค่าอะไรบ้างไหม” ผู้เฒ่าซุนกล่าวไปตามตรง
แรกเริ่มเดิมทีเขาก็มิได้คิดจะปิดบังอยู่แล้ว มิหน้ำซ้ำยังกินน้ำแกงนกอินทรีอันล้ำค่าของคนเขาไปตั้งมาก ประสบพบเจอโชคครั้งใหญ่อย่างแท้จริง!
“เทือกเขาชูอวิ๋น? แดนเร้นลับ?” หลินมู่เฟิงยิ้มเอ่ย “มีข่าวดีเพียงนี้ยังนึกถึงข้า นับว่าเจ้ามีน้ำจิตน้ำใจอยู่บ้าง”
แดนเร้นลับเกิดขึ้นใหม่มักมีความเคลื่อนไหวไม่มากนัก มีเพียงผู้บำเพ็ญเซียนไม่มากในละแวกนั้นที่สัมผัสได้ จะหาพบหรือไม่นั้นย่อมต้องพึ่งพาโชควาสนา กอปรกับแดนเร้นลับย่อมหมายถึงโอกาส อีกทั้งของล้ำค่ายังมีจำกัด ฉะนั้นผู้คนส่วนมากจึงมักเก็บเป็นความลับไว้อย่างดี
ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ว่าแดนเร้นลับเกิดขึ้นได้อย่างไรและเกิดขึ้นมาด้วยเหตุใด กระนั้นแล้วก็ล้วนคาดเดาได้ว่าส่วนมากคงจะเป็นสถานที่ซึ่งผู้ยิ่งใหญ่ครั้นบรรพกาลใช้สำหรับกักตนหรือปลีกวิเวก
ผู้เฒ่าซุนเอ่ยปากว่า “ยามนี้เจ้าได้พบกับปรมาจารย์ แดนเร้นลับก็มิได้มีประโยชน์อันใดนักสำหรับเจ้า เรื่องน้ำแกงข้าจะจดจำใส่ใจ ขอตัวก่อน”
แม้ในแดนเร้นลับจะมีโอกาสให้ไขว่คว้า ทว่าจำต้องคำนึงถึงบททดสอบและกับดักด้วย นอกจากนั้นแล้วยังต้องแก่งแย่งชิงดีกับผู้อื่น ด้วยฐานะของหลินมู่เฟิงเห็นจะไม่เหมาะแก่การเอาตัวเข้าไปเสี่ยงอันตรายเช่นนี้
“เทือกเขาชูอวิ๋น เทือกเขาชูอวิ๋น…” เมื่อจับความบางอย่างได้ ปากก็พึมพำไม่หยุด
ครั้นเห็นผู้เฒ่าซุนกำลังจะออกจากประตูไป เขาก็รีบพูดว่า “ผู้เฒ่าซุน เทือกเขาชูอวิ๋นอยู่ทางไหนหรือ”
ผู้เฒ่าซุนยกมือขึ้นชี้ไปยังทิศพายัพ “อยู่ทางนั้น ทำไม หรือว่าเจ้านึกครึ้มสนใจขึ้นมา”
หลินมู่เฟิงมองตามมือของผู้เฒ่าซุน สมองพลันส่งเสียงระเบิดทันใด
เข้าใจแล้ว!
ข้าเข้าใจแล้ว!
ทิศทางนั้นคือทิศทางที่คุณชายหลี่ทอดสายตามองไปยามที่เล่าถึงตู้เย็นไม่ใช่หรือ?
ที่แท้คำใบ้ก็อยู่ตรงนี้!
ฮ่าๆๆ สวรรค์เมตตาข้าแล้ว
เมื่อเป็นเช่นนี้ คุณชายหลี่ก็คงจะคำนวณทุกสิ่งไว้ตั้งแต่ต้น การเกิดขึ้นของแดนเร้นลับไม่แน่ว่าอาจเกี่ยวข้องกับ
เขาและตู้เย็นที่คุณชายหลี่ปรารถนาก็เป็นไปได้มากว่าจะอยู่ในแดนเร้นลับ!
คุณชายหลี่สมแล้วที่เป็นเทพเซียน!
เขาจะต้องทำภารกิจที่คุณชายหลี่บอกให้สำเร็จจงได้!
………………………………………………