ที่แท้ข้าก็คือลูกพี่เซียน - ตอนที่ 86 บุคคลระดับที่ท่านไม่กล้าจินตนาการถึง
เมื่อมายังประตูเมืองลั่วเซียน ก็เห็นหญิงชราคนนั้นกำลังรออยู่ที่ประตูอย่างกระวนกระวาย
แม้ว่านางจะอายุอานามมากแล้ว แต่ก็เป็นเพียงผู้ฝึกตนขั้นจินตัน นักพรตเทียนหมัวไม่ได้กุดหัวนางก็นับว่าเ เป็นความโชคดีในความอับโชค
เมื่อเห็นจักรพรรดิลั่วและนานนานกลับมา นางก็รีบร้อนเข้ามาหา ก่อนจะกล่าวอย่างกริ่งเกรง “ผู้น้อยคำนับจักรพรรดิ ลั่ว”
“ไม่ต้องมากพิธี”
จักรพรรดิลั่วรีบพยุงนางขึ้นมา ยามนี้เขาไม่กล้าวางก้าม เตรียมผูกสัมพันธ์ฉันมิตรกับหญิงชราในระดับที่เท่ากัน น ก็ใครใช้ให้นางรับลูกศิษย์ที่เก่งกาจไปเล่า
เขามองหญิงชราด้วยสายตาซับซ้อน แอบรู้สึกริษยาอยู่ลึกๆ ในใจ
หญิงชราคนนี้มีโชคชั้นหนึ่งหล่นทับ ได้ปีนป่ายไปเกาะขาคุณชายหลี่เอาเสียง่ายๆ เรียกได้ว่าก้าวเดียวขึ้นสวร รรค์เลยละ
น่ากลัวว่านางจะไม่รู้ ว่าผู้ที่ตนเองไปเกี่ยวข้องด้วยนั้นเป็นบุคคลระดับใด
ลำพังมูลค่าของกระดาษเขียนคำอวยพร ก็ไม่อาจประเมินได้แล้ว คงจะมากกว่าทั้งราชสำนักเซียนเฉียนหลงด้วย
ซ้ำไป
ในนั้นมีทำนองมรรคาจำแลงเป็นเซียนอยู่ ทั้งยังแฝงด้วยวิถีอายุวัฒนะ! หากแพร่งพรายออกไป ไม่รู้ว่าจะมีคน
คลุ้มคลั่งอีกมากมายเพียงใด
ส่วนนานนานก็ล้ำค่าไม่แพ้กัน แม้จะบอกว่าเป็นรากปราณระดับล่าง แต่ก็ถูกเซียนลูบศีรษะมาเชียวนะ!
นักพรตเทียนหมัวเป็นผู้ฝึกตนขั้นชูเชี่ยว แก่นหยวนอิงของเขาหลอมรวมอยู่ในร่างของนานนาน ทำให้พลังของนางย ยิ่งเพิ่มพูนอย่างไร้ขีดจำกัด
นอกจากนั้นแล้ว ด้วยความสัมพันธ์ของนานนานกับคุณชายหลี่ ภายภาคหน้าคุณชายหลี่เกื้อหนุนจุนเจือเพียงเล็กน้อย ก็ คงได้ผลประโยชน์มากโขเหนือจินตนาการ!
อิจฉา อิจฉาเหลือเกิน!
จักรพรรดิลั่วยิ่งนึกยิ่งอิจฉาตาร้อน ในใจก็ยิ่งชอกช้ำจนแทบอยากจะเข้าไปแทนที่นางให้รู้แล้วรู้รอด
น่าเสียดายที่ชะตาได้ถูกกำหนดไว้แล้ว ตนไม่อาจทรยศเจตจำนงของปรมาจารย์ ทำได้เพียงผูกไมตรีจิต และเป็นมิตรที่ด ดีต่อกัน
“ใคร่ขอถามว่าสหายมาจากสำนักใดหรือ” สีหน้าของเขาไม่ยักเป็นธรรมชาติสักเท่าไร กระทั่งถึงตอนนี้ยังไม่รู้จักสำนั กคนเขาเลย เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ใส่ใจอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
แต่ว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับนานนาน เขาต้องสืบความให้กระจ่าง
หญิงชรามิได้คิดมาก ตอบไปว่า “ผู้น้อยมาจากสำนักจินเหลียน”
จักรพรรดิลั่วขมวดคิ้วเล็กน้อย สำนักนี้เล็กเกินไป เขาไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ
กระนั้นจงซิ่วซึ่งยืนอยู่ด้านข้างก็เอ่ยขึ้นว่า “สำนักจินเหลียนที่ตั้งอยู่ทางตอนเหนือในดินแดนของราชวงศ์เซีย ยนเฉียนหลงใช่หรือไม่”
หญิงชราพยักหน้า “ใช่แล้ว”
จงซิ่วครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพูดว่า “ข้าจำได้ว่าประมุขสำนักจินเหลียนมีนามว่าอู๋หานเยียน”
“นั่นพี่สาวข้า…” หญิงชราทอดถอนใจคราหนึ่ง สีหน้าระคนความเจ็บปวด “เมื่อสามเดือน ก่อนนางออกไปฝึกฝนหาประสบการณ์ ถูกตัวต่อหมื่นพิษทำร้ายจนบาดเจ็บ เหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว”
“เช่นนั้นก็ดีน่ะสิ!”
จักรพรรดิลั่วชะงักไป ก่อนจะได้สติกลับมาทันใด ในใจเต็มตื้นเหลือแสน
ทว่าจากนั้นก็รีบกระแอมออกมา “ข้าหมายถึง…เช่นนั้นก็ชวนให้ปวดใจยิ่งนัก!
แต่วางใจเถิด ก็แค่ตัวต่อหมื่นพิษ ราชวงศ์เซียนเฉียนหลงของข้ามีโอสถวิเศษที่ใช้ถอนพิษนี้อยู่พอดี ประเดี๋ยวจ จะไปนำมาช่วยเจ้า!”
ในใจของเขาลิงโลด กำลังกังวลอยู่พอดีว่าจะสานสัมพันธ์กับพวกเขาได้อย่างไร โอกาสมาถึงแล้ว!
หญิงชราสีหน้าพลันปีติ กล่าวอย่างเหลือเชื่อ “ท่านยินดีมอบยาถอนพิษให้ข้าจริงหรือ”
นางย่อมกระจ่างดีว่าราชวงศ์เซียนเฉียนหลงมียาถอนพิษ เพียงแต่ตลอดสามเดือนมานี้ ไปขอความช่วยเหลือมาไม่รู้กี่สำนั ก ถูกปฏิเสธมามากเหลือรับ สำนักจินเหลียนเป็นเพียงสำนักเล็กเท่าเมล็ดงา ไม่มีใครเห็นอยู่ในสายตา ไม่มีใครยินดี ช่วยเหลือ
“เจ้าตามข้ามา!”
จักรพรรดิลั่วพาหญิงชราตรงไปยังราชวงศ์เซียนเฉียนหลง จากนั้นก็ปรี่ไปยังคลังสมบัติพร้อมกับหยิบโอสถวิเศษหญ้าเ เซียนมาตั้งไว้ตรงหน้าหญิงชรากองหนึ่งจนดูราวกับเป็นภูเขาขนาดย่อม
“นี่ นี่ นี่…”
หญิงชราตะลึงงันไป แทบหายใจไม่ทั่วท้อง
นางมีชีวิตอยู่มาสามร้อยกว่าปี แม้แต่ฝันก็ยังไม่กล้าฝันว่าจะได้เห็นโอสถวิเศษมากมายเพียงนี้
ต่อให้สุ่มเลือกมาให้นางเพียงหนึ่งต้น ก็มากพอให้นางมองว่าเป็นสมบัติล้ำค่า ยินดีหนักหนาที่ได้รับ
จักรพรรดิลั่วแยกประเภทโอสถวิเศษ พลางกล่าวอย่างกระหยิ่มใจ “สำนักของพวกเจ้าอยู่ทางเหนือที่แห้งแล้ง โอสถวิเศษอา าจไม่พอ! กองนี้ไว้ให้นานนานใช้ขั้นฝึกลมปราณ ตรงนี้ใช้สำหรับขั้นจู้จี ยังมีตรงนี้อีกกอง ใช้ยามฝึกขั้นเชื่อม มตัน…หากไม่พอก็มานำไปเพิ่มได้ทุกเมื่อ อย่าได้ตระหนี่กับนานนาน!”
“เรื่องนั้น ข้า ศิษย์ข้าคนนี้…” หญิงชรามองนานนาน รู้สึกว่าตนเองสมองชาหนึบ นางเป็นใครกันแน่ ถึงทำให้จักร รพรรดิลั่วเป็นเช่นนี้!
จักรพรรดิลั่วมองหญิงชราอย่างหนักแน่น เอ่ยว่า “เกรงว่าท่านจะไม่รู้ว่าท่านรับศิษย์อย่างไรมา แต่ว่า…ข้าจะบอก ท่านว่านานนานอาจเป็นวาสนาอันยิ่งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สำนักจินเหลียนของพวกท่านก่อตั้งขึ้นมา พวกท่านต้องดูแ แลความปลอดภัยของนาง หากเลี้ยงดูนางได้ดี สำนักจินเหลียนของพวกท่านอาจถึงขนาดอยู่เหนือราชวงศ์เซียนเฉียนหลง ห หากเลี้ยงดูได้ไม่ดี จุดจบเป็นอย่างไรคงไม่ต้องให้ข้าบอก”
อยู่เหนือราชวงศ์เซียนเฉียนหลง?
สำนักจินเหลียนก่อตั้งมาได้ไม่ถึงพันปี ไหนเลยจะกล้าฝันไกลเพียงนั้น
หญิงชราใจสั่นระรัว ตื่นเต้นหน้าแดงก่ำ เอ่ยเสียงสั่นเครือ “เป็นเพราะคุณชายก่อนหน้านี้…ใช่หรือไม่?”
จักรพรรดิลั่วยิ้มบาง “เหอๆ ท่านรู้ไว้เพียงว่าเขาเป็นบุคคลระดับที่ท่านไม่กล้าจินตนาการถึงด้วยซ้ำ”
เฮือก
หญิงชรารู้สึกว่าหัวใจกระตุกวูบอย่างรุนแรง เข้าไปรับนานนานจากมือของลั่วซืออวี่อย่างสั่นเทา
นางแทบไม่กล้าออกแรง ด้วยกลัวว่าจะทำให้นานนานเจ็บ
นางเงียบงันด้วยความหวั่นกลัว ก่อนจะรีบเอ่ยว่า “ข้าจะดูแลนานนานให้ดี!”
มารับผู้ยิ่งใหญ่กลับบ้านนี่นะ! ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิต ก็ไม่กล้าปล่อยให้เด็กคนนี้เป็นอันตรายแม้แต่ปลายก้อย !
“อืม”
จักรพรรดิลั่วพยักหน้า ขอเพียงหญิงชราคนนี้ไม่โง่งม ก็จะรู้ว่าควรทำอย่างไร
……
หลี่เนี่ยนฝานกับต๋าจี่มาถึงเชิงเขาแล้ว กำลังค่อยๆ มุ่งหน้าไปยังเรือนสี่ประสาน
ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ท้องฟ้ามืดหม่นลง ราตรีอนธการคืบคลานเข้าปกคลุมทั้งผืนป่า จนเส้นทางเดินขึ้นเขามืดสนิท ย ยื่นมือออกไปมองไม่เห็นห้านิ้ว
ในป่าอันมืดมิด บางครั้งบางคราวก็มีเสียงร้องคำรามแปลกๆ ดังมา ชวนให้ขนหัวลุกยิ่งกว่าเดิมเสียอีก
‘พลาดซะแล้ว รู้ทั้งรู้ว่าช่วงนี้ปีศาจอาละวาดหนัก ฉันก็ดันกลับมาช้าขนาดนี้ สวรรค์ช่วยคุ้มครอง อย่าให้ฉันเจ จอปีศาจเลยนะ!’ หลี่เนี่ยนฝานพร่ำภาวนาอยู่ในใจ
อันที่จริงในใจของเขากระวนกระวายแทบแย่ แต่เป็นเพราะมีต๋าจี่อยู่ข้างๆ จึงลอบรำพัน ‘ทำไมก่อนหน้านี้ถึงไม่รู้เลย ยว่าทางเดินที่นี่แม้แต่โคมไฟก็ไม่มี ถ้ามีตะเกียงหรือไฟฉายก็ดีน่ะสิ จริงๆ ก็ไม่ดี ฉันพกตะเกียงไฟฟ้าที่บ้านติ ดตัวมาก็ได้แล้ว’
ท่ามกลางความมืด ดวงตาเรียวแหลมสองคู่หลบเร้นอยู่ในป่า จับจ้องหลี่เนี่ยนฝานและต๋าจี่ไม่วางตา
เป็นหนูขนาดยักษ์ใหญ่สองตัว
“พี่ใหญ่ดูเร็ว ตรงนั้นมีปุถุชนมาสองคน”
“วะฮ่า สตรีคนนั้นงามยิ่งนัก เนื้อต้องอร่อยมากเป็นแน่!”
“ใช่แล้ว ดึกดื่นป่านนี้ยังมาให้พวกเราเจอได้ เป็นโอกาสหายากโดยแท้ สวรรค์เมตตาแล้ว”
“เจ้าไม่รู้อะไรซะแล้ว กลางคืนนี่แหละจะมีชายหญิงเข้าป่ามา มิหนำซ้ำพวกเราไม่ต้องลงมือถอดเสื้อผ้าให้ด้วย
เข้าใจหรือยัง”
“เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว พี่ใหญ่ช่างปราดเปรื่อง”
ทว่าในขณะที่พวกมันเตรียมตัวลงมือนั้นเอง ก็พบว่าโฉมงามคนนั้นตวัดสายตามองมาทางนี้อย่างแนบเนียน
เพียงแวบเดียว สมองของพวกมันก็พลันขาวโพลน ร่างแข็งทื่อ โลหิตสดทะลักไหล!
หลังจากนั้น ในป่าก็มีน้ำแข็งแกะสลักรูปหนูเพิ่มขึ้นมาอีกสองตัว!