ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก - บทที่ 131 เอาคืน
ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก บทที่ 131 เอาคืน
เนลล์ขมวดคิ้ว จิตใต้สำนึกต่อต้านบทสนทนาที่โน้มน้าวอยู่นี้และท่าทางของเขา
“แต่ปกติคุณก็งานยุ่งเหมือนกันนะคะ! นอกจากนี้ฉันก็เพิ่งจะมีงานยุ่งเมื่อเร็ว ๆ นี้นี่เอง มันไม่ใช่ว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นตลอดเวลา”
“ต้องไม่เป็นแบบนั้น”
ในบางเรื่องผู้ชายคนนี้ก็ยังคงเอาแต่ใจ
กิดเดียนพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มเข้ม “ผมเป็นผู้ชาย การรับภาระของครอบครัวเป็นสิ่งที่ผมต้องรับผิดชอบ นั่นคือสิ่งที่ผมควรทำ แต่คุณไม่เหมือนกัน คุณแค่เป็นคุณนายลีย์ ที่ดีก็พอ ถ้าคุณสนใจ คุณสามารถพัฒนางานอดิเรกและอาชีพของคุณเองได้ แต่คุณไม่ควรเข้าใจผิด”
เนลล์ไม่มั่นใจในคำพูดของเขา
“คุณกำลังพูดว่างานของคุณสำคัญ แต่งานของฉันเป็นแค่ทางเลือกเหรอคะ? กิดเดียน ลีย์ คุณเอาเปรียบกันเกินไป!”
“ฉันบอกคุณเมื่อนานมาแล้ว ว่าฉันไม่ใช่นกขมิ้นที่คุณจะเลี้ยงไว้ในกรง ฉันไม่ต้องการให้คุณมาประคบประหงมฉันตามมาตรฐานของคุณ”
“ใช่ บางทีงานของฉันอาจจะไม่ได้มีค่าในสายตาของคุณ แต่มันสำคัญมากสำหรับฉัน ฉันไม่ต้องการเป็นเพียงเครื่องประดับของใครสักคน ฉันจะไม่มีวันล้มเลิกอาชีพของฉัน!”
ผู้หญิงคนนี้เริ่มที่จะใจร้อนขึ้นจากที่เธอพูด และน้ำเสียงของเธอเริ่มฉุนเฉียวขึ้นในตอนท้าย จากนั้นแก้มของเธอพองขึ้นและหันใบหน้าที่บึ้งตึงหนีไปด้านอื่น
ดวงตาของกิดเดียนจ้องมอง
“ผมพูดเมื่อไรว่าให้คุณเลิกทำงานของคุณ?”
“คุณไม่ได้พูดแบบนั้นเหรอ? สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเป็นคุณนายลีย์ที่ดี และฉันสามารถทำงานของฉันควบคู่ไปด้วยได้ หากฉันมีเวลาว่าง!”
เธอเน้นคำว่า ‘เมื่อฉันมีเวลาว่าง’ ราวกับจะเตือนว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นมันไม่มีเหตุผลและทำลายคุณค่าในตัวเธอมากแค่ไหน
กิดเดียนมองไปที่หญิงสาวในอ้อมกอดของเขาผู้ที่ดูเหมือนกำลังโกรธราวกับลูกแมวตัวเล็ก ๆ แล้วก็ยิ้มออกมา
เนลล์กำลังโกรธ เธอเห็นว่าเขาประสาทจริง ๆ ที่หัวเราะออกมาแบบนั้น มันยิ่งเพิ่มความโกรธและหญิงสาวกำลังจะเหลืออด
เธอพยายามต่อกรกับเขา…
“ปล่อยฉันไป! ฉันคุยกับคุณเสร็จแล้ว ฉันจะไปที่เตียง!”
เธอดึงมือออกจากเขาด้วยกำลังที่มีทั้งหมด อย่างไรก็ตามมือที่จับอยู่ของเขาราวกับเหล็กที่กดลงบนตัวของเธอ หญิงสาวไม่สามารถดิ้นหลุดออกมาได้ไม่ว่าเธอจะพยายามมากอย่างไรก็ตาม
เนลล์ร้องไห้ออกมาด้วยความโกรธเคือง
ทั้งโกรธและผิดหวัง เธอยอมแพ้ในที่สุดและหันไปหาเขา
“กิดเดียน! คุณแกล้งฉัน!”
กิดเดียนไม่รู้จะช่วยอย่างไร ทำได้เพียงหัวเราะ
“คุณผู้หญิงน้อย ๆ ของผม ค่อนข้างมีอารมณ์รุนแรง ผมแค่พูดไม่กี่คำเท่านั้นแต่คุณกลับทำให้มันเลวร้ายขึ้นไปอีกหรือ? หืม?”
เขาปล่อยมือจากเอวของเธอและจับคางมนของเธอด้วยมือข้างหนึ่งบังคับให้เธอหันกลับมา เนลล์พยายามต่อต้านหลายต่อหลายครั้ง ทว่าในที่สุดก็ล้มเหลว ในที่สุดผู้ชายคนนั้นก็จับคางมนของเธอบังคับให้เธอหันหน้ามาเผชิญหน้ากับเขา
คุณผู้หญิงน้อย ๆ ที่เต็มไปด้วยความโกรธ ดวงตาใสของเธอเป็นสีแดงก่ำในตอนนี้ และมีน้ำตาคลอหน่วยอยู่ในดวงตาของเธอ ราวกับว่าเธอกำลังกลั้นน้ำตา ราวกับว่าน้ำตาของเธอจะไหลออกมาถ้าเขาพูดอีกเพียงคำเดียว
กิดเดียนตกอยู่ในภวังค์ชั่วครู่
เขามองไปที่ดวงตาแดงก่ำคู่นั้นราวกับกำลังมองย้อนเวลากลับไปในอดีต ในคืนที่ฝนตกเมื่อหลายปีก่อน…เด็กสาวผู้ดื้อรั้นก้าวเดินไปข้างหน้าทีละก้าวบนโคลน ไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองไม่ว่าเธอจะร้องไห้มากแค่ไหนก็ตาม
มันสัมผัสหัวใจของเขาเงียบ ๆ
เขาเม้มริมฝีปากและปล่อยคางของเธอก่อนจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาของเธอออก
“ผมไม่ได้ตำหนิคุณด้วยซ้ำที่คุณไม่อยู่บ้านสองสามวันนี้ก็เอาแต่ทำงาน แต่เพียงคำพูดไม่กี่คำกลับทำให้คุณร้องไห้ คุณรู้สึกเสียใจจริง ๆ หรือ?”
น้ำเสียงของเขาอ่อนลงอย่างทำอะไรไม่ถูก
เนลล์ไม่ได้อยากจะร้องไห้
เธอไม่ใช่คนที่จะร้องไห้ง่าย ๆ แต่มันเป็นความจริงที่ว่าเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาเธอจมอยู่กับงานและเธอเครียด เมื่อเธอกลับมาที่บ้านด้วยสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคยทำให้จิตใจและร่างกายของเธอผ่อนคลายลง
หลังจากที่เธอโดนผู้ชายคนนั้นตำหนิ ความขื่นขมและทุกข์ใจทั้งหมดที่สะสมมานานตลอดสองสามวันก็ระเบิดออก
เธอร้องไห้หนักขึ้น แม้ว่าเธอจะไม่ได้ส่งเสียงมันออกมา ทว่าหยาดน้ำตาที่ไหลมาเป็นทางบนพวงแก้มของเธอเหมือนกับลูกปัดที่ขาดออกจากเชือก
กิดเดียนรู้สึกขบขันกับท่าทางของหญิงสาว นอกจากความขบขันแล้ว เขายังรู้สึกทำอะไรไม่ถูก
สิ่งที่เขาทำได้คือหยิบทิชชู่และเช็ดน้ำตาให้เธอเรื่อย ๆ
ในหัวใจของเขานั้น…เขารักเธอแทบตายแม้ว่าเธอจะแสดงความโศกเศร้าและดื้อรั้นออกมา เธอไม่รู้เลยว่าในตอนนี้เธอดูน่ารักมากแค่ไหน
ความเย่อหยิ่งเย็นชาที่เคยเป็นจางหายไป และไม่มีไหวพริบและความระมัดระวังอย่างเคร่งครัดตามปกติอีกต่อไป เธอปล่อยวางการป้องกันและแสดงส่วนที่เปราะบางที่สุดของเธอออกมาต่อหน้าเขาราวกับเด็กโดยไม่มีเงื่อนไข
หลังจากเวลาผ่านไปได้ไม่นานในที่สุดเนลล์ก็หยุดร้องไห้และรู้สึกเหนื่อย
เธอจับมือของเขาและใช้แขนเสื้อของเขาเช็ดน้ำมูกและน้ำตาบนใบหน้าของเธอราวกับเล่นตลก กิดเดียนมือแข็ง…
เนลล์เลิกคิ้วมองเขาและยิ้มอย่างชั่วร้าย
“ท่านประธานลีย์ จำไว้ว่าทีหลังอย่าทำให้ผู้หญิงน้อยใจ นี่คือผลของการกระทำ” จากนั้นเธอก็ส่งเสียงขู่เหมือนนกยูงตัวน้อยที่เพิ่งชนะการต่อสู้
กิดเดียนตกตะลึงไปชั่วขณะ
เขามองไปที่แขนเสื้อราคาแพงที่เต็มไปด้วยน้ำตาและไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี หลังจากที่เนลล์ ‘แก้แค้น’ เธอก็พร้อมที่จะจากไป
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เธอกำลังจะยืนขึ้น ข้อมือของเธอก็ถูกจับและเธอถูกดึงลงไปอีกครั้ง
“อ๊ะ! คุณจะทำอะไร?”
กิดเดียนมองหญิงสาวในอ้อมแขนของเขา ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเข้ามาใกล้เธอ และดวงตาที่ลึกลับและสีเข้มของเขาก็จ้องมองเธอ เขาพูดอย่างเป็นอันตรายว่า
“คุณกำลังจะไปหลังจากที่แกล้งผมเสร็จแล้วเหรอ หืม?”
เนลล์อ่อนลงเล็กน้อยเมื่อมองดวงตาสีเข้มของเขา
อย่างไรก็ตามเธอรวบรวมความกล้าที่จะเชิดหน้าของเธอขึ้น “คุณรังแกฉันก่อน ฉันก็แค่เอาคืน” ชายคนนั้นยิ้มอย่างเย็นชา
“เอาคืนเหรอ? นั่นเป็นข้อแก้ตัวที่ไม่เลว ดูเหมือนว่าผมจะเรียนรู้จากตัวอย่างของคุณ”
จากนั้นเขาก็ก้มศีรษะลงและจูบที่ริมฝีปากของเธอ
เนลล์ตัวแข็งเพราะความตกใจและดวงตาของเธอเบิกกว้าง
จูบของผู้ชายคนนั้นมีพลังควบคุมเป็นอย่างมาก แม้จะพยายามดิ้นหนีเพียงสักครั้งเธอก็ไม่อาจหลุดพ้น ทว่าชายคนนั้นกลับใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของเธอและพยายามเปิดริมฝีปากและฟันของเธออย่างรุนแรง ล่วงล้ำปากของเธอ
ลมหายใจถี่แผ่วเบาซึ่งเป็นของเขาโดยเฉพาะได้ชะล้างเธอ ครอบครองและเอาแต่ใจ เนลล์สำลักลมหายใจเพราะจูบนั้น ในขณะที่เธอไม่สามารถทนได้อีกต่อไปและต้องการที่จะผลักเขาออกไป ชายหนุ่มกลับดึงให้กลับไป
อย่างไรก็ตามเธอรู้สึกตัวได้ชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะพูดเขาก็รุกล้ำริมฝีปากและเรียวลิ้นของเธออีกครั้ง
เนลล์ไม่อาจรู้ได้ว่าจูบนี้ใช้เวลานานเท่าไร เธอเริ่มรู้สึกมึนงงราวกับว่าสมองของเธอนั้นถูกบดละเอียดทำให้เธอสูญเสียการตัดสินใจไป
หลังจากนั้นเสียงกรีดร้องเบาๆดังขึ้นที่ด้านนอกประตู
ด้วยความตกใจ เนลล์เงยหน้าขึ้นมองและเห็นป้าจอยซ์ยืนอยู่ที่ประตูพร้อมกับอาหารเย็นทั้งสองชุด ใบหน้าแดงก่ำขึ้นเพราะความลำบากใจและไม่รู้ว่าเธอควรจะเข้าไปหรือออกมาดี
“ทะ…ท่าน คะ…คุณผู้หญิง ฉะ ฉะ ฉัน ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะรบกวนคุณ ฉะ…ฉัน จะออกไปเดี๋ยวนี้”
เธอออกไปอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ
ใบหน้าของกิดเดียนดำราวกับก้นหม้อและตะโกนอย่างน่าเกรงขามว่า “กลับมานี่!”