ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก - บทที่ 176 ประธานลีย์กับใบหน้าอ้อนวอน
ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก บทที่ 176 ประธานลีย์กับใบหน้าอ้อนวอน
ท่านผู้หญิงควินตันเพิ่งมาและพาลิซซี่ออกไปเมื่อถึงเวลาออกไป
เด็กน้อยใจสลายที่จะต้องจากไปและความรู้สึกเดียวกันนี้ถูกส่งต่อไปถึงเนลล์
เธอประหลาดใจ ทันใดนั้นเองลิซซี่ก็ดึงแขนเสื้อของเธอเอาไว้ กะพริบดวงตากลม ลิซซี่ถามขึ้นว่า “คุณแม่ นานะบอกว่าคุณกับคุณพ่อกำลังจะมีน้องชายเล็ก ๆ ให้หนู เป็นเรื่องจริงไหมคะ?”
เนลล์ “??”
ท่านผู้หญิงนิ่งไป
แม้แต่กิดเดียนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็หยุดอะไรก็ตามที่เขากำลังทำอยู่และจ้องมองเธออย่างตกตะลึง
ราวกับว่าเวลาหยุดชะงักลง!
ลิซซี่รู้สึกงุนงงและเพิ่งรู้ในวินาทีต่อมาว่าเธอเพิ่งเปิดเผยความลับออกไป!
อ้าปากค้างด้วยความกลัว เธอยกแขนขึ้นปิดปากของเธอเอาไว้อย่างรวดเร็ว
ดวงตาที่ฉ่ำวาวนั้นกะพริบจับจ้องไปที่เนลล์อย่างน่าสงสาร
“ฮึก ฮึก ฮึก… คุณแม่ หนูไม่ได้ตั้งใจ!”
“หนูไม่อยากโกหกคุณแม่ หนูแค่อยากอยู่กับคุณ!”
“นานะบอกว่าคุณจะไม่ทิ้งคุณพ่อและจะอยู่ด้วยกันกับหนูตลอดไปกับน้องชายตัวเล็กด้วย!”
“ฮึก ฮึก ฮึก…หนูผิดเอง!”
เนลล์หันไปมองกิดเดียน
กับความซับซ้อนที่เกิดขึ้นบนใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา ริมฝีปากของชายคนนั้นกระตุก อยากจะฝังตัวเองลงไปในหลุมเสียเดี๋ยวนี้
ในขณะเดียวกัน ท่านผู้หญิงควินตันที่อยู่ฝั่งตรงข้าม พูดสวนขึ้นกับความจริงนั้นและหัวเราะเบา ๆ
“นี่…นี่ ฉันควรจะทำยังไงดี…”
ช่วงเวลาแห่งความอึดอัด ท่านผู้หญิงไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาอธิบายตัวเอง เธออาจจะต้องเผชิญกับความวุ่นวายครั้งใหญ่ในชีวิตของเธอ ทุกอย่างเสียหายกับเรื่องเล็กน้อยนี้
เนลล์หัวเราะออกมาเสียงดัง
“ฉันอยู่ที่นี่ กำลังคิดว่าการที่ฉันได้พบกับลิซซี่เป็นเพราะโชคชะตาได้อย่างไร! มันเป็นรักแรกพบของฉันกับเด็กน้อยคนนั้น เธอยังคงยืนยันว่าฉันเป็นแม่ของเธอ แต่พวกเรา แท้ที่จริงแล้ว เป็นครอบครัว ฉันเดาว่าสัญชาตญาณของฉันค่อนข้างแม่นยำ”
ทุกคนใจลอย
เนลล์ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่ว่าพวกเขาปิดบังตัวตนจากเธอ หรือเหตุผลอื่นในเรื่องนั้น มากกว่านั้นเธอยังไม่แสดงความโกรธออกมา
แต่เธอกลับเข้าใจสถานการณ์ และกำจัดบรรยากาศที่อึดอัดออกไป
อย่าง-อย่าง…
เข้าอกเข้าใจ!
ท่านผู้หญิงน้ำตาแทบจะไหลออกมา กับดวงตาแดงก่ำ เธอก้าวไปข้างหน้าและจับมือของเนลล์ขณะที่เธอละล่ำละลัก “เนลลี่ ฉันขอโทษ ฉัน…”
“ฉันเข้าใจค่ะ” เนลล์ยิ้มและลูบมือของหญิงชราที่วางอยู่เหนือมือของเธอเป็นการปลอบประโลม
“ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือความรักที่พ่อแม่มีต่อลูก แน่นอนว่าพวกเขามีอนาคตของลูกอยู่ในใจเสมอ คุณต้องการจะรู้ว่าผู้หญิงแบบไหนกันที่หลานชายของคุณแต่งงานด้วย แม้ว่าวิธีที่ทำอาจจะไม่ถูกต้อง แต่ด้วยเจตนาแล้วฉันเข้าใจได้ค่ะ”
ด้วยคำพูดนั้น ท่านผู้หญิงเบิกตาขึ้น
“ฉันรู้ เนลลี่ของพวกเราเอาใจใส่ผู้อื่นเป็นอย่างดี”
เนลล์ยิ้มจาง ๆ โดยไม่พูดอะไรออกไป
เธอหันไปสนใจลิซซี่และคุกเข่าลง
รู้ว่าเธอเป็นคนผิด ลิซซี่ก็เอามือปิดหน้าด้วยความไม่สบายใจ
เนลล์ไม่สามารถกลั้นเสียงหัวเราะของเธอเอาไว้ได้ขณะที่เธอเอื้อมมือไปดึงมือนุ่มนิ่มของลิซซี่ออกจากใบหน้า เธอยิ้ม “ไม่ต้องปิดใบหน้าสวย ๆ เอาไว้ มันดูไม่น่ารักเมื่อโดนมือปิดเอาไว้!”
เธอแอบมองจากระหว่างนิ้วของเธอ ลิซซี่จ้องมองเธออย่างระมัดระวังและถาม “คุณแม่ ไม่โกรธเหรอคะ?”
เนลล์ส่ายศีรษะ “ไม่โกรธค่ะ”
“หนูโกหก หนูไม่ดี!”
“โอ๋ หนูเป็นเด็กดี แค่อย่าทำมันอีกในครั้งต่อไปและหนูจะไม่เป็นไร”
“จริงหรอคะ? คุณแม่จะไม่โกรธใช่ไหมถ้าหนูปรับปรุงตัว?”
“ใช่ ถูกต้องแล้ว”
เมื่อเนลล์พยักหน้าอย่างเอาจริงเอาจัง ลิซซี่กระโดดขึ้นด้วยความดีใจ และยื่นมือเข้าไปในอ้อมแขนของเนลล์
“ฮึก ฮึก ฮึก… คุณแม่ หนูคิดถึงคุณแม่จริง ๆ ในที่สุดหนูก็มีแม่สักที”
ร่างเล็กนุ่มนิ่มในอ้อมแขนของเธอทำให้หัวใจของเนลล์ละลาย
แม้แต่ความไม่สบายใจที่ถูกทำให้เจ็บช้ำน้ำใจก็ดูเหมือนจะลดลงไปมากเช่นกัน
เธอยิ้มและลูบหลังของลิซซี่เบา ๆ ก่อนจะตอบด้วยความรักว่า “ใช่ ตอนนี้ลิซซี่มีแม่แล้ว แม่จะรักหนูให้มาก”
ลิซซี่ดีใจมาก
เมื่อไม่สามารถเลื่อนเวลาออกไปได้อีกต่อไป กิดเดียนเหลือบมองนาฬิกาของเขาและพูดขึ้น “พวกเราต้องไปสนามบินตอนนี้ อย่านอนดึกจนเกินไปและขอให้สนุกในสองวันนี้”
เขาพูดขึ้นอีกหลังจากหยุดไปชั่วขณะ “ผมจะพาเนลลี่ไปเยี่ยมที่เมืองหลวงในภายหลังนะครับ”
ลิซซี่ไม่เต็มใจที่จะจากกับเนลล์ แต่เธอก็ประพฤติตัวดี สุดท้ายแล้วเธอก็ส่งพวกเขาไปที่สนามบินก่อนที่จะกล่าวอำลาอย่างไม่เต็มใจ
ก่อนออกเดินทาง เนลล์จูบที่หน้าผากของเด็กหญิงและมอบจี้หยกให้กับเธอ มันเป็นเครื่องรางที่เธอมีติดตัวมาตั้งแต่เธอยังเด็ก เธออยากให้ลมพัดสิ่งที่ไม่ดีไปจากลิซซี่ และต้องการให้เครื่องรางนี้มอบความโชคดีให้กับเธอ
หลังจากกล่าวอำลาแล้ว เนลล์ก็ขึ้นเครื่องบิน
ขากลับใช้เวลาบินสองชั่วโมงครึ่ง เมื่อขึ้นเครื่องแล้ว เนลล์นั่งลงและหลับตาไร้ซึ่งการตอบโต้ใด ๆ
ใบหน้าของเธอปราศจากรอยยิ้มก่อนหน้านี้ ใบหน้าที่นิ่งเฉยบ่งบอกถึงความโกรธของเธอ
กิดเดียนเหลือบไปมองเธอด้วยความกระวนกระวายใจ เขาอยู่ในอาการสองจิตสองใจแต่รู้ว่าเขาก็มีส่วนผิด
เขาควรจะหยุดท่านผู้หญิงที่ลากลิซซี่เข้ามาในเรื่องที่ไม่ดีเช่นนี้ แทนที่จะปล่อยให้พวกเขาทำแบบนี้ กิดเดียนพาตัวเองไปตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
เมื่อเครื่องบินขึ้น ทุกอย่างในห้องโดยสารเงียบลง ไม่มีเสียงเอะอะโวยวายและแม้แต่การสนทนาแลกเปลี่ยนเป็นครั้งคราวก็จมอยู่ในกระแสลมในห้องโดยสาร
กิดเดียนไม่แน่ใจว่าเธอหลับอยู่หรือเปล่า เขารู้สึกเสียใจกับสถานการณ์แบบนี้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดหรือถามอะไรออกไป
สุดท้ายแล้วด้วยความเป็นห่วงว่าเธอจะเป็นหวัด เขาจึงถอดเสื้อนอกและสวมทับให้กับเธอ
เขาประหลาดที่แจ็คเก็ตที่เพิ่งวางลง เมื่อผู้หญิงคนนั้นดันมันออกและโยนมันทิ้งไปข้าง ๆ
อ้าว เธอยังไม่หลับเหรอ?
ด้วยความประหม่า เขากระซิบถามขึ้นว่า “คุณโกรธผมเหรอ?”
เธอหัวเราะเยาะอย่างเย็นชาโดยไม่ตอบเขา
กิดเดียนอธิบายด้วยความไม่พอใจ “ผมอยากบอกให้คุณรู้ แต่ผมก็ไม่อยากทำท่านผู้หญิงต้องอับอายในที่สาธารณะ อย่างที่สอง ผมหวังว่าเธอจะอธิบายให้คุณฟังเป็นการส่วนตัว วิธีนั้นมันคงจะดีกว่า ใครจะไปรู้ว่าวันนี้ลิซซี่จะเปิดเผยเรื่องทั้งหมด? เนลลี่ผมไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้”
เนลล์ลืมตาขึ้นในที่สุด และยิ้มเยาะไปที่เขา
“เหรอคะ นี่คือเหตุผลที่คุณปิดเรื่องนี้จากฉันเหรอคะ?”
กิดเดียนยอมรับด้วยสีหน้าเคร่งเครียด และตอบกลับด้วยเสียงห้าว “ไม่”
“คุณพยายามจะบอกอะไรให้ชัดเจนกว่านี้ไหมคะ?”
“ผม…”
กิดเดียนพูดไม่ออก
ประธานลีย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยเลยในชีวิตของเขาที่จะวิงวอนขอใครอย่างสุภาพ แน่นอน เขาพร้อมที่จะคุกเข่าลงและขอร้อง แต่ลดเกียรติด้วยคำพูดนั้น
ในที่สุดเขาก็เริ่มรำคาญตัวเองก่อนจะพูดออกมาอย่างจริงจังว่า “ผมขอโทษ ผมผิดเอง!”
เนลล์หัวเราะเยาะ
“ผมรู้ ผมไม่ควรช่วยคุณย่าปกปิดความจริงจากคุณ มันเป็นความผิดของผมเอง!”
“ห๊ะ!”
“เนลลี่ ได้โปรดยกโทษให้ผม!”
เมื่อหันไปเนลล์ก็ไหวไหล่ให้เขาอย่างเย็นชา
กิดเดียนจ้องมองเธอขณะที่ยืนนิ้วออกไปดึงที่แขนเสื้อแล้วเขย่าเบา ๆ
“คุณภรรยา…”
อ้าปากค้าง!
คุณเคยเห็นปีศาจทำหน้าตาอ้อนวอนหรือไม่?
เกือบถูกจู่โจมด้วยอาการขนลุก เนลล์หันมามองหน้าเขา เธอกัดฟันและพ่นลมหายใจของเธอ “ไปเลยนะ!”