ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก - บทที่ 182 เมินเฉย
ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก บทที่ 182 เมินเฉย
พล็อตเรื่องนั้นง่ายต่อการทำความเข้าใจ แต่ในตอนแรก เนลล์ค้นพบว่ามันยากที่จะทำการตบจริง
อย่างไรก็ตามทิมมีความต้องการสูงและการตบหลอกก็ไม่ตอบโจทย์ อย่างไรก็ตามถ้าตบแรงจนเกินไปเธออาจจะทิ้งรอยตบไว้บนใบหน้าของจอร์จและนั่นอาจจะส่งผลต่อการถ่ายทำฉากต่อไป
พวกเขาได้รับคำสั่งให้มุ่งหน้าไปอีกด้านหนึ่งซึ่งผู้ช่วยผู้กำกับสอนวิธีการตบที่มองดูหนัก แต่ที่จริงแล้วมันเบามาก
เซลีนที่เห็นสิ่งนี้ เธอเดินเข้าไปหาทิมและยิ้ม “การถ่ายทำเป็นไปอย่างราบรื่นไหมผู้กำกับคูมบส์?”
ทิมที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เงยหน้าของเขาขึ้นมองเธอ
การแสดงออกของเขาไม่อาจคาดเดา และเขาตอบกลับด้วยเสียงเรียบ “อืม”
จริง ๆ แล้วเขาไม่ได้สนใจเรื่องอื้อฉาว แต่หลังจากที่เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้น เขาก็ตระหนักได้ถึงเรื่องเล็กน้อย ท้ายที่สุดแล้วพวกเขาก็อยู่ในวงการเดียวกัน
ด้วยเหตุนี้เขาจึงรู้สึกไม่ประทับใจเซลีน ถึงอย่างนั้นเขาก็เป็นมืออาชีพและไม่อยากให้เธออึดอัด
เขาตัดสินใจเลือกเธอเป็นนักแสดงนำคนที่สองในครั้งนี้ เพราะเขาเชื่อว่าเธอเหมาะกับตัวละครนี้อย่างแท้จริง
ทิมมีสายตาในการคัดเลือกนักแสดงที่เหมาะสม มันเป็นความสามารถที่แท้จริงของเขาและไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถมองเห็นในสิ่งที่เขาเห็นได้ เขาตาถึงและสามารถระบุได้ว่าอะไรคือสิ่งที่เขาต้องการ
เซลีนไม่รู้ว่าเขารู้สึกอะไรและคิดว่าเหตุผลที่เขาเลือกเธอคือชื่อเสียงและความนิยมที่แพร่หลายของเธอ
อย่างน้อยที่สุด มันคือวิธีของเขาที่ยืนยันทักษะการแสดงของเธอ
ดังนั้นแม้ว่าทิมจะไร้ซึ่งความรู้สึกกับเซลีน แต่ในภายหลังยังสั่งให้ไคลี่นำเก้าอี้มาให้เธอและให้เธอนั่งลงข้าง ๆ เขา
“มันค่อนข้างเศร้าที่ฉันต้องพูดว่า พี่สาวและฉันเป็นพี่น้องกันแท้ ๆ แต่พวกเราแทบจะไม่ได้คุยกันเลยในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ฉันจึงไม่รู้ว่าด้วยซ้ำว่าเธอต้องการเข้าวงการการแสดง”
เธอถอนหายใจขณะที่พูดจบเธอแสดงสีหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก
“ถึงอย่างนั้นฉันก็เชื่อมาตลอดว่าไม่ว่าคุณจะเลือกทางไหน คุณต้องภูมิใจและพิสูจน์ตัวเองด้วยความสามารถของคุณ ฉันไม่เคยคิดว่าพี่สาวจะหุนหันพลันแล่นขนาดนี้ แต่ฉันตกลงแล้วว่าจะช่วยเธอ แต่เธอใช้วิธีนี้สร้างกระแสให้กับตัวเธอเอง”
ทิมขมวดคิ้ว ยิ่งเธอพูดมากเท่าไรก็ยิ่งยากที่จะเข้าใจถึงความหมายของสิ่งที่เธอพูด
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ใส่ใจในการแปลความหมายคำพูดของเธอแม้แต่น้อย ที่กองถ่าย ทั้งหมดที่เขาคำนึงถึงคือภาพยนตร์ของเขาและเขาไม่สนใจอะไรอย่างอื่น
แม้เซลีนจะมองมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น เขาลุกขึ้นยืนและร้องเรียกผู้ช่วยผู้กำกับด้วยเสียงดัง เนลล์และจอร์จที่ยังคงอยู่ระหว่างการพูดคุย “พวกคุณเสร็จกันหรือยัง? ถ้าใช่ ก็เริ่มกันอีกครั้ง!”
ผู้ช่วยผู้กำกับตอบกลับ “ได้!”
“เริ่ม! กลับไปประจำตำแหน่งของคุณ”
ในทันทีเนลล์และจอร์จกลับสู่ตำแหน่งเดิม เมื่อเสียง “แอคชั่น!” ดังขึ้น เสียงตบหน้าจอร์จก็ดังขึ้น
ศีรษะของจอร์จโยกไปอีกข้างหนึ่งในขณะที่เขาถูกตบ เขามองไปที่เนลล์ด้วยความไม่เชื่อสายตา
“เจ้ากล้าตบจักรพรรดิหรือ? เจ้ารู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร?”
เนลล์ยกมือขึ้นเท้าเอวและคำราม “ใครจะสน! ข้าไม่สนใจไม่ว่าท่านจะเป็นบุตรแห่งสวรรค์ก็ตาม! ท่านไม่อาจเย้ยหยัน…อ๊ะ!”
แทนที่จะรอให้เธอพูดจบ จอร์จจับแขนของเธอแล้วบิดไปด้านหลังของเธอ ตามเรื่องเนลล์ไม่ยอมจำนนง่าย ๆ และกระทืบเท้าของจอร์จ เขาร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวดและคลายมือของเขาออก เช่นนั้นเธอจึงหันกลับมา อย่างไรก็ตามพวกเขาทั้งสองคนยืนอยู่บนทางลาดชัน สุดท้ายการโต้เถียงนี้ทำให้พวกเขาคว้ากันและกันไว้และล้มกลิ้งลงมาตามทางลาดชัน
ทิมเอาแต่จ้องมองไปที่หน้าจอ เมื่อฉากนั้นเสร็จสิ้น เขาพูดขึ้น “ดี ต้องทำอย่างนั้นแหละ! คัท!”
หลังจากนั้นเนลล์กับจอร์จก็ลุกขึ้นและถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
เซลีนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ สังเกตเห็นว่าทิมไม่สนใจเธออีกต่อไป เธอกัดริมฝีปากของเธอ ขณะที่เธอรู้สึกถึงความร้อนรนเพราะความอับอายบนใบหน้าของเธอ
เธอเดาว่า ทิม คูมบส์ เป็นผู้กำกับมือใหม่ เธออาจจะไม่ได้มีชื่อเสียงเท่า A-lister แต่ในวงการบันเทิง เธอเป็นคนมีชื่อเสียงที่ได้รับความนิยมซึ่งอยู่เหนือจาก B-list
แม้ว่าชื่อเสียงของเธอจะไม่ได้ดีเหมือนในอดีด แต่เธอก็ยังมีมูลค่าทางการค้า ผู้กำกับคนไหนก็ต้องยอมและไว้หน้าเธอ
ทำไมเขาถึงเมินเฉยต่อเธอ?
เซลีนกำลังเดือดดาลด้วยความโกรธ แต่เธอไม่สามารถอารมณ์เสียได้เพราะเธออยู่ในฉาก
สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือกัดฟันแน่น ไม่นานนักเธอก็ลุกขึ้นและจากไปด้วยความโกรธ
เมื่อเซลีนลุกจากไปแล้ว ในที่สุดทิมก็มองไปที่ด้านหลังของเธอ
เขาขมวดคิ้ว จากนั้นเขาก็สังเกตเห็นเก้าอี้ที่เธอนั่งอยู่ก่อนหน้านี้และสั่งอย่างไม่สนใจว่า “เอาเก้าอี้ออกไป มันเกะกะฉัน”
ทีมงานคนหนึ่งนำเก้าอี้ออกไปและทิมก็นั่งลงอีกครั้ง
เนลล์ใช้เวลาถ่ายทำตลอดทั้งเช้า
ในที่สุดก็เที่ยงวันและถึงเวลาทานอาหารและพักเที่ยง หญิงสาวหมดเรี่ยวแรง
เธอรับขวดน้ำที่ทีมงานส่งให้เธอ ขณะที่เธอกำลังดื่มน้ำเธอเห็นทิมเดินมาหาเธอ
เธอเรียก “ผู้กำกับคูมบส์”
ทิมตอบรับเธอด้วยการพยักหน้ารับและเอ่ยขึ้น “หลังจากช่วงบ่ายนี้ ฉากในช่วงสองชั่วโมงแรกไม่เกี่ยวข้องกับคุณ ดังนั้นคุณสามารถไปพักผ่อนได้นะ เวลา 16:00 น. คุณจะต้องเข้าฉากถ่ายทำร่วมกับเซลีน ดังนั้นเตรียมตัวให้พร้อม”
เนลล์พยักหน้า “ได้ค่ะ เข้าใจแล้ว”
จากนั้นทิมก็จากไป
หลังจากรับประทานอาหารกลางวันในตอนเที่ยง เนลล์กลับไปพักผ่อนในห้องของเธอ
เธอเพิ่งนอนลงบนเตียงเมื่อได้รับโทรศัพท์จากฮันนา
เนลล์เลิกคิ้ว เธอคิดว่ามีปัญหาที่ไม่ดีบางอย่างเกิดอีกตามสัญชาตญาณ
แน่นอนเมื่อรับสาย ฮันนาผู้ตื่นตระหนักก็พูดขึ้น “พี่เนลลี่มีข่าวร้าย! คุณเป็นประเด็นร้อนใน Weiboอีกแล้ว!”
เนลล์หัวเราะ “มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ? มันแสดงให้เห็นว่าพี่เนลลี่กำลังมีชื่อเสียงนะ!”
“คุณไม่ได้เป็นประเด็นร้อนในเรื่องที่ดีนะ มันเป็นเรื่องที่ไม่ดี ดูสิพี่เนลลี่!”
นอกจากเรื่องตลกแล้ว เนลล์ก็กังวลเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของเธอเช่นกัน เธอลงชื่อเข้าใช้ Weibo อย่างรวดเร็ว และดู
คราวนี้คำค้นหาคือ #NellDirector#
เธอแตะมันและเห็นรูปถ่ายสองสามรูป
มันเป็นทางเดินที่มืดสลัว ทิม คูมบส์ กำลังพยุงตัวเองอยู่ตรงกำแพงและศีรษะของเขาก็ลดต่ำลง มือข้างหนึ่งของเนลล์วางบนไหล่ของทิม จากมุมนี้ดูเหมือนว่าเธอกำลังกอดและอยากจะจูบทิมด้วยซ้ำ
เนลล์นิ่งอึ้ง เธอโกรธจนหัวเราะออกกมา
เอาจริงเหรอ?
เสียงของฮันนาดังขึ้นจากปลายสายอีกด้านของโทรศัพท์ “พี่เนลลี่ มีใครสักคนถ่ายภาพพวกนี้โดยมีจุดประสงค์เพื่อใส่ร้ายคุณหรือเปล่า? มันไม่มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างคุณกับผู้กำกับคูมบส์ใช่ไหม?”
เนลล์เงียบและกรอกตา
“ไม่มีแน่นอน!”
นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน?
เธอและ ทิม คูมบส์ อย่างนั้นหรือ?
เนลล์นวดขมับของเธอและพูดขึ้น “ฉันรู้ว่าใครทำแบบนี้ ไม่ต้องกังวล! ฉันจะจัดการมันเอง”
ฮันนาก็ยังคงกังวลอยู่เล็กน้อย
“พี่เนลลี่ นี่เป็นวันแรกของการถ่ายทำแล้วภาพพวกนี้ก็ปรากฏขึ้น คนที่ไม่รู้จักคุณจะคิดว่าคุณยั่วยวนผู้กำกับให้ได้รับบทนักแสดงนำหญิง! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคน ๆ นั้นต้องการทำลายชื่อเสียงของคุณก่อนที่คุณจะมีชื่อเสียง ร้ายกาจแค่ไหนกัน!”
เนลล์เงียบในตอนแรกก่อนเธอจะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา
“เธอต้องมีความสามารถแบบนั้นก่อนที่เธอจะทำสำเร็จ ถ้าเธอลงเอ่ยด้วยการเล่นงานตัวเธอเองแทน เธอก็มีแต่จะต้องโทษตัวเอง”
หลังจากนั้นเธอก็พูดขึ้นเบา ๆ ว่า “เอาล่ะ ไม่ต้องกังวล ปล่อยให้เป็นประเด็นร้อนไปและไม่ต้องทำอะไร ฉันรู้ว่าจะต้องจัดการอย่างไร”