ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก - บทที่ 231 ได้โปรดช่วยเธอ
ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก บทที่ 231 ได้โปรดช่วยเธอ
“คุณยังไม่ได้คืนเงินที่ผมเสียไปกลับคืนมาทำไมผมต้องโง่หย่ากับคุณ? เด็กโง่”
เสียงของเขาฟังดูไม่ได้เอาจริงเอาจัง ทว่ากลับทำให้เซลีนรู้สึกหนาวสั่น
ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตามคำพูดของเขาฟังดูรู้สึกเหมือนอสรพิษที่กำลังคืบคลานขึ้นมาบนหลังและลำคอของเธออย่างเชื่องช้า ในช่วงเวลาต่อมาราวกับว่ามันจะฉกเธอ
เธอตกใจมาก เธอรู้สึกได้ว่านิ้วของเขาเลื่อนลงมาตามใบหน้าของเธอ และเคลื่อนเข้าหาริมฝีปาก เธอจึงยกมือขึ้นผลักมันออกไป
“ไอ้สารเลว!” เธอด่า
“ฮ่าฮ่า!” เจสันหัวเราะเบา ๆ
“ถ้าผมเป็นไอ้สารเลว คุณก็เป็นเมียของไอ้สารเลว รู้สึกยังไงบ้างล่ะที่อยู่กับไอ้สารเลว กลัวไหม?”
เซลีพยายามเป็นอย่างมากที่จะสงบสติอารมณ์ เช่นนั้นเธอจึงยิ้มเยาะให้เขาแทน “ฉันสามารถเล่นเป็นสามีภรรยากับคุณได้ แต่ฉันขอเตือนคุณให้อยู่ให้ห่างจากฉัน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป อย่าได้มาแตะต้องฉันอีก”
จากนั้นเธอก็ลุกขึ้น และมุ่งหน้าไปที่ห้องน้ำ
เจสันลุกขึ้นยืนพร้อมกับยกยิ้ม เขาหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กออกมา และเช็ดที่นิ้วที่สัมผัสกับเซลีนก่อนหน้านี้ก่อนที่เขาจะโยนมันทิ้งลงในถังขยะ
“แม่บ้าน! จัดห้องคุณผู้หญิงให้เป็นระเบียบ และซื้ออะไรก็ตามที่เธอต้องการ”
หลังจากนั้นเขาก็ออกจากห้องของเซลีน
ห้องน้ำไม่สามารถใช้งานได้หลังจากเมื่อคืน เซลีนแค่ล้างมือของเธอ และมุ่งหน้าไปยังห้องพักแขก
แม่บ้านต้องจัดห้องของเธอให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และซื้อที่นอนใหม่ให้เธอรวมถึงสิ่งของที่จำเป็นทั้งหมด
เมื่อถึงเวลาที่ทุกอย่างเรียบร้อย ก็เป็นเวลากลางคืนเสียแล้ว และในที่สุดเซลีนก็สามารถกลับไปยังห้องของเธอได้
ในระหว่างช่วงเวลาอาหารค่ำ หนึ่งในผู้ช่วยของเจสันโทรหาเซลีน เขาบอกกับเธอว่าเจสันจะอาศัยอยู่ในวิลล่าอีกหลังหนึ่งในขณะนี้และจะยังไม่กลับมา
คนรับใช้สองคนอยู่ใกล้ ๆ เซลีน เมื่อเธอรับโทรศัพท์และพวกเขาก็อดที่จะสงสารคุณนายไม่ได้
พวกเขาแต่งงานกันเพียงไม่กี่วัน แต่พวกเขาก็เริ่มแยกกันอยู่แล้ว
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ทำไมพวกเขาไม่สามารถพูดคุยกันในฐานะสามีภรรยากันได้?
อย่างไรก็ตามเซลีนฮึดฮัดไม่พอใจ และวางสายโทรศัพท์เพื่อทานอาหารค่ำ
เธอดูสงบมากจนดูเหมือนไม่ใช่เธอเลย
คนรับใช้ต่างเป็นห่วงเธอ แต่เมื่อเฝ้าสังเกตเธอมาตลอดทั้งคืน นอกจากพูดน้อยกว่าปกติแล้ว นอกจากนั้นก็ไม่มีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับเธอ
ด้วยเหตุนี้คนรับใช้จึงค่อย ๆ คลายความกังวลลง
ในตอนกลางคืน เซลีนนั่งอยู่ตรงระเบียงเพื่อรับลมยามค่ำคืนหลังรับประทานอาหารค่ำ
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นและหลังจากที่เหลือบไปเห็นเบอร์โทรศัพท์ของผู้โทร เธอก็รับสายอย่างรวดเร็ว
“ในที่สุดคุณก็โทรหาฉัน”
เสียงจากปลายสายเป็นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่ง มีเสียงไอน้อย ๆ และพูดอย่างแผ่วเบา “ฉันขอโทษ เมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันรูสึกไม่ค่อยสบาย ดังนั้นฉันจึงไม่มีเวลาให้คุณ”
เซลีนไม่ได้แสดงปฏิกิริยาใด ๆ บนใบหน้าของเธอ “ตอนนี้คุณพอจะมีเวลาช่วยเหลือฉันไหม?”
เจ้าของเสียงนั้นประหลาดใจเล็กน้อยก่อนจะพูดขึ้นว่า “แน่นอน คุณต้องการให้ฉันทำอะไรให้คุณ แค่บอกฉัน”
“ฉันต้องการให้คุณฆ่าใครบ้างคนให้กับฉัน”
ในตอนนั้นเจ้าของเสียงนั้นตกใจเพราะเธอไม่คาดคิดว่าเซลีนจะขอร้องอะไรที่ผิดปกติเช่นนี้
“ใคร?”
“นังเนลล์ เจนนิงส์”
…
กิดเดียนต้องไปทำธุระในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเนื่องจากมีบางอย่างเกิดขึ้นกับธุรกิจในต่างประเทศ
เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างบริษัทของเขากับนักลงทุนในพื้นที่ และผู้ที่รับผิดชอบในเรื่องนี้เกิดล้มป่วยขึ้นมากะทันหันในเวลานั้น เป็นเพราะไม่มีใครสามารถควบคุมสถานการณ์นั้นได้ กิดเดียนจึงถูกบังคับให้ต้องบินไปที่นั่นด้วยตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากเนลล์เสร็จสิ้นจากการทัวร์โปรโมตภาพยนตร์กับทิม เธอจึงมีเวลาว่างมากขึ้น
เธอช่วยเขาจัดกระเป๋าให้เรียบร้อยก่อนที่จะไปส่งเขาที่สนามบินด้วยตัวของเธอเอง
กิดเดียนมีความสุขที่ภรรยาของเขาอยู่เพื่อรอส่งเขาไป ก่อนที่เขาจะขึ้นเครื่อง เขาบอกแนนซี่ให้ดูแลเนลล์ให้ดี
หลังจากที่เธอส่งสามีของเธอไปแล้ว เนลล์ดูนาฬิกาข้อมือของเธอ เมื่อเห็นว่ายังเช้าอยู่เธอจึงกลับไปที่บริษัท
ซิงฮัวกำลังพัฒนาไปได้ดี แม้ว่าสเกลของมันจะเล็กกว่า แต่ศิลปินที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทก็เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อพิจารณาว่าพวกเขามีนักลงทุนรายใหญ่อย่างอันนิง อินเตอร์เนชั่นเนล อนาคตของพวกเขาก็ชัดเจนในตัวเอง
ลูซี่ได้เข้าร่วมในภาพยนตร์หลายเรื่องตลอดทั้งปี ซึ่งทำให้เธอได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ผู้ติดตาม Weiboของเธอเพิ่มขึ้นจาก 3 ล้านเป็น 10 ล้านคน
ด้วยเหตุนี้เนลล์จึงวางแผนเพื่อหาบทที่เหมาะกับลูซี่ และมอบให้เธอรับบทนักแสดงนำหญิง
นอกเหนือจากนั้น ศิลปินคนอื่น ๆ อีกหลายคนเพิ่งเสร็จสิ้นจากรายการวาไรตี้โชว์ออนไลน์ซึ่งถูกกำหนดไว้ล่วงหน้า แม้ว่าพวกเขาจะไม่สามารถรักษาตำแหน่งสูงสุดของการแข่งขันเอาไว้ได้ แต่พวกเขาก็สามารถทำให้ผู้คนจดจำพวกเขาได้
พวกเขาไม่ได้รับความนิยมเพียงชั่วข้ามคืน แต่พวกเขาสามารถดึงดูดความสนใจได้ ทำให้พวกเขามีแฟน ๆ ติดตามบน Weibo กว่าล้านคน
ถึงแม้ว่าจะไม่มากนักในฐานะมือใหม่ที่ยังไม่มีชื่อเสียง แต่พวกเขาก็ยังต้องพัฒนาขึ้นไปอีก
เมื่อจัดการกับเรื่องที่บริษัทแล้วเนลล์จึงกลับไปที่ อันนิง อินเตอน์เนชั่นเนล
เพราะมันเริ่มดึกแล้วเธอจึงพาแนนซี่มาด้วยกันและเลิกงานกลับบ้าน
“เนลลี่ พวกเราจะกลับบ้านกันได้หรือยัง?” แนนซี่ถามขณะที่เธอขับรถ
“ยังไม่กลับ ไปทานอาหารเย็นก่อน”
เนลล์จะไม่ยอมแพ้ให้กับโอกาสที่หาได้ยากในการเดินเที่ยวรอบเมือง
ดังนั้นพวกเขาจึงไปทานอาหารเย็นที่ร้าน เทารัน เฮ้าส์ ที่อยู่ใกล้ ๆ และแวะไปช้อปปิ้งที่ห้างสรรพสินค้า
เนลล์ได้ยินมาว่าแนนซี่เป็นเด็กกำพร้าและนอกจากน้องชายคนเล็กที่ยังเรียนมัธยมอยู่เธอก็ไม่เหลือใคร
ต้นเดือนกันยายนซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เปิดภาคการศึกษาใหม่สำหรับโรงเรียนมัธยมปลายส่วนใหญ่ เนลล์ไปช้อปปิ้งของเธอพร้อมกับซื้อข้าวของมากมายรวมทั้งเลื้อผ้าสำหรับเด็กมัธยมปลาย เธอให้วันหยุดกับแนนซี่เพื่อให้เธอมีเวลาร่วมกับน้องชายก่อนโรงเรียนจะเปิดเทอม
เพียงแค่นั้นแนนซี่ก็มีความสุข เธอขึ้นเครื่องในคืนนั้นและเดินทางกลับ
วันที่สองเนลล์ไปทำงานตามปกติ
ขณะที่เธอกำลังพบกับลูกค้าในตอนบ่ายเธอก็ได้พบกับเซลีน
มันเป็นเรื่องบังเอิญล้วน ๆ ในความจริงเธอกำลังพบกับลูกค้าของเธอในร้านกาแฟก่อนที่เธอจะเห็นเซลีนนั่งอยู่ยังที่นั่งที่ห่างออกไป
เนลล์คิดว่ามันแปลกแต่ไม่ได้กังวลมากเกินไป
บางทีเธออาจจะคิดมากไป แต่เธอรู้สึกว่าการจ้องมองของเซลีนที่มองมาที่เธอในวันนี้แปลกไป
เซลีนดูเย็นชาและไม่พอใจมาก
เนลล์รู้สึกได้ว่ามันเป็นสัญญาณแห่งความเกลียดชังในตัวเธอ ดังนั้นเธอจึงไม่สนใจเซลีนเป็นพิเศษอะไร
หลังจากประชุมเธอไม่ได้กลับไปที่บริษัทในทันที เธอขึ้นรถและบอกให้ไปส่งที่ร้านเครื่องปั้นดินเผาชื่อดังทางฝั่งตะวันออกของเมืองแทน
เธอไม่รู้ว่ากิดเดียนคิดยังไงตอนที่เขามอบแจกันให้เธอเมื่อสองสามวันก่อนและบอกว่าเขาทำเอง
พูดตามความจริงแล้วเธอไม่ได้ชอบแจกันมากเท่าไร ไม่ใช่ว่าเธอไม่ชอบเครื่องปั้นดินเผา แต่เธอคิดว่าเขาทำได้ไม่ดีนัก
นอกเหนือจากความคมที่ไร้เหตุผลเวลามันแตกแล้ว ภาพวาดบนนั้นยังน่าเกลียดเกินกว่าจะรับไหว
อย่างไรก็ตามเขาบอกกับเธอว่าเขาเป็นคนวาดภาพบนแจกันเป็นตัวแทนของเธอและเขาเองพร้อมด้วยลูก ๆ อีกสามคน
ขณะที่เนลล์มองไปที่เด็กที่น่าสงสารบนภาพวาดทั้งสามคนบนแจกัน เนลล์เลือกที่จะเงียบเมื่อมองไปที่พวกเขา
สิ่งที่แย่ที่สุดคือกิดเดียนไม่คิดว่าแจกันไม่สวย
เขาเคยขอให้เธอซื้อคืนให้กับเขาด้วยซ้ำเพราะเขาบอกว่าเป็นมารยาทที่ดีที่จะให้ของขวัญคืน
เพราะว่าเขาได้มอบแจกันให้เธอแล้ว เนลล์จึงรู้สึกว่ามันไม่เหมาะสมที่ไม่ทำอะไรเลย
นอกจากนั้นเธอยังถูกแสดงให้เห็นถึงด้านหน่อมแน้มของเขา
เมื่อไม่มีทางเลือก เนลล์จึงตอบแทนความดีด้วยการจะมอบของบางอย่างให้กับกิดเดียน
ด้วยเหตุนี้เธอจึงขึ้นรถมา และตัดสินใจที่จะงีบหลับ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ