ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก - บทที่ 235 เขาอยู่เคียงข้างเสมอ
ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก บทที่ 235 เขาอยู่เคียงข้างเสมอ
ความเจ็บปวดแผ่ซ่านออกมาจากฝ่ามือของเธอขณะที่คมของหัวเข็มขัดเหล็กบาดมือ และมันกดลึกลงไปในเนื้อของเธอ
เนลล์ดูซีดลงแต่เธอยังกัดฟันแน่นและพยายามอย่างเต็มที่ที่จะไม่ใส่ใจกับความเจ็บปวดนั้น
หลังจากที่เธอเหวี่ยงตัวไปเกือบ 20 ครั้ง ในที่สุดเท้าของเธอก็สัมผัสหินอีกด้านหนึ่ง เธอใช้โอกาสนี้ขยับร่างกายเข้าใกล้หน้าผามากขึ้นเพื่อที่เธอจะสามารถยืนได้
มันคงจะเป็นการเคลื่อนไหวที่ยากลำบากสำหรับคนปกติ แต่ไม่ใช่สำหรับเธอ
โชคดีที่เธอใช้เวลาที่ต่างประเทศเป็นเวลานานเพื่อฝึกฝนศิลปะการต่อสู้ ดังนั้นแม้ว่าความแข็งแกร่งของเธอจะไม่ดีเหมือนเดิม แต่ทักษะและเทคนิคของเธอยังคงที่ ซึ่งทำให้เธอผ่านการแสดงที่ยากลำบากนั้นมาได้
หลังจากที่เธอพบพื้นแล้ว เธอก็กะระยะภูมิประเทศดูและตระหนักถึงบางสิ่งบางอย่างที่โชคดี หน้าผาอาจจะสูงชันแต่มีหินปูดออกมาจำนวนมากและมีหญ้าอยู่เต็มพื้นผิว ในกรณีแบบนี้การปีนขึ้นไปก็ไม่ใช่เรื่องยาก
คำถามเดียวที่เหลืออยู่คืออะไรกำลังรอเธออยู่ที่นั่น?
เธอไม่ต้องการใช้แรงทั้งหมดในการปีนหน้าผาขึ้นไปเพียงเพื่อไปเจอกับเซลีนและคนของเธอ พวกมันต้องพาเธอกลับไปที่ห้องใต้ดินอย่างแน่นอน
ถ้ามันเกิดขึ้นจริง ความพยายามทั้งหมดของเธอก็จะสูญเปล่า
เมื่อคิดในใจเช่นนั้น เธอจึงมองมือที่มีเลือดออก การเสียเลือดทำให้ร่างกายของเธอเริ่มเย็นและข้อมือของเธอก็ชาจากความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทั้งหมด
โชคดีอาจจะเป็นเพราะว่าเธอรู้ว่ากำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย เธอยังคงมีสติและตึงเครียดมาก เลือดออกจึงทำให้ไม่รู้สึกเวียนหัวหรืออย่างน้อยก็ยังไม่ถึงจุดนั้น
เช่นนั้น เธอจึงกัดฟันแน่นขณะที่ฉีกผ้าออกจากชุดของเธอแล้วพันมันรอบ ๆ มือของเธอ
อย่างไรก็ตามอาจจะเป็นเพราะบาดแผลลึกและมือที่ยังมีเลือดออก จึงเริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะ
เนลล์รู้ว่ามันเป็นสัญญาณของการเสียเลือดมากเกินไป ดังนั้นเธอจึงหายใจเข้าลึก ๆ และกัดลิ้นตัวเองให้ตื่น
จากนั้นเธอก็เริ่มปีนขึ้นไปบนหน้าผา
แม้ว่าเซลีนและคนของเธอจะรอเธออยู่ที่นั่น เธอก็ตัดสินใจที่จะลองเสี่ยง
ถ้าเธอโชคดี เธอก็คงจะรอด แต่ถ้าโชคร้ายสิ่งที่ทำได้คือยอมรับชะตากรรมของเธอ
ด้วยความคิดนี้ทำให้ความลังเลของเธอหายไป และเธอก็เริ่มปีนขึ้นไป
เพราะมือของเธอได้รับบาดเจ็บสาหัส เธอจึงไม่น่าจะปีนหน้าผาสูงชันนี้ได้
แต่เธอไม่มีทางเลือก ถ้าอยู่ต่อไปก็เท่ากับอยู่รอความตาย
โชคดีที่หน้าผามีความสูงไม่กี่สิบเมตร เธอสามารถทำได้ถ้าเธออดทนได้นานพอ
เนลล์พยายามปีนหน้าผาขึ้นไปอย่างเต็มที่ แต่หลังจากนั้นไม่นานหน้าผากของเธอก็เต็มไปด้วยเหงื่อ ไม่ใช่เพราะความร้อนแต่เป็นความเจ็บปวด
มือของเธอกำลังเจ็บปวดมาก!
แม้ว่าจะรู้สึกเจ็บปวดมากแค่ไหนเธอก็ไม่อาจหยุด
เธอรู้ว่าถ้าเธอหยุด ความกล้าของเธออาจจะหมดไปและหมดสิ้นเรี่ยวแรงที่จะปีนต่อไป
ในตอนนี้เธอต้องใจเย็นและมีเหตุผล ทว่าสติของเธอก็เลือนลางเต็มทน
แม้ว่าจะพันมือของเธอด้วยเศษผ้าจากชุดของเธอ แต่การปีนผาก็ทำให้บาดแผลของเธอมีเลือดออกอีกครั้ง
หลังจากนั้นไม่นานเลือดก็ย้อมผ้าเป็นสีแดงและเริ่มไหลลงมาตามเรียวแขนของเธอ
ชั่วขณะนั้นสายตาของเธอก็เริ่มพร่าเลือน ราวกับว่าเธอได้ตายลงไปแล้วในชั่วขณะนั้น แต่เธอกัดลิ้นตัวเองอีกครั้งและบังคับให้ตัวเองตื่น
‘อดทนไว้! ฉันเกือบจะถึงแล้ว! ฉันจะทำให้ได้!’
เธอส่งเสียงให้กำลังใจตัวเองในใจ จากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงดังมาจากด้านบน
“คุณลีย์ ที่นี่มีร้องรอยอยู่แถว ๆ ริมผาและดูเหมือนใหม่”
“ไปหามา!”
“ครับท่าน!”
ประกายแห่งความหวังถูกจุดขึ้นในดวงตาของเนลล์ขณะที่เธอมองขึ้นไปด้วยความตื่นเต้น
‘เขาคือกิดเดียน เขามาที่นี่เพื่อตามหาฉัน!’
เสียงของเขาชัดเจน และเธอจำจดเสียงของเขาเอาไว้ในใจของเธอ เธอจะไม่มีวันจำผิด!
“กิดเดียน! ฉันอยู่นี่!” เธอกรีดร้อง
ด้านบนของหน้าผา กิดเดียนกำลังค้นหาร่องรอยอยู่รอบ ๆ ด้านบนของหน้าผา และหลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงดังขึ้น
ร่างกายของเขานิ่งไปชั่วขณะ ลมทะเลแรงมากมันทำให้เสียงผู้หญิงแตกเป็นเสี่ยงๆ แต่เขายังพอจะจับใจความได้
“กิดเดียน! ฉันอยู่ข้างล่างหน้าผานี้! ช่วยฉันด้วย!”
เขาเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้น ขณะที่เขาก้าวไปที่ริมหน้าผาอย่างรวดเร็ว
เมื่อเขาเห็นร่างเล็กห้อยลงมาจากหน้าผาดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกใจ
“เนลลี่”
เนลล์พยายามเต็มที่เพื่อจะมองไปที่เขา พวกเขาสองคนอยู่ห่างออกไปเจ็ดถึงแปดเมตร พวกเขาไม่ได้อยู่ไกลจนเกินเอื้อม แต่เพราะชั้นหมอกบาง ๆ จึงทำให้ไม่สามารถมองเห็นหน้าของกันและกันได้อย่างชัดเจน
ดวงตาของเธอเริ่มมีน้ำตาคลอ และน้ำตาของเธอน้ำตาแทบจะไหล
เธอปีนขึ้นไปบนหน้าผา และไม่ได้แสดงความอ่อนแอใด ๆ ออกมา แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เมื่อเธอเห็นเขา กำแพงโลหะที่สร้างขึ้นในใจของเธอและความมุ่งมั่นที่แข็งแกร่งก็แทบจะแตกสลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
ราวกับว่าเขารู้สึกได้ว่าภรรยาของเขากำลังร้องไห้ กิดเดียนฟังด้วยความรู้สึกกังวลเมื่อเขาพยายามทำให้เธอมั่นใจ “เนลลี่ เกาะไว้! ผมกำลังจะลงไป!”
เจ้าหน้าที่ตำรวจคนหนึ่งที่ตามเขามาที่เกิดเหตุอย่างรวดเร็วพูดขึ้นว่า “คุณลีย์มันอันตรายเกินไป ให้เราจัดการ!”
“หลีกไป!”
เนลล์หายใจไม่ออกเมื่อได้ยินเสียงจากด้านบน เธอจึงไม่สามารถพูดอะไรได้สักคำ
สิ่งที่เธอสามารถทำได้คือพยักหน้า
ตอนนั้นเองกิดเดียนพบเชือกที่พุ่มไม้ใกล้ ๆ แต่ไม่มีต้นไม้อยู่รอบ ๆ ดังนั้นเขาจึงมัดปลายเชือกอีกด้านหนึ่งไว้บนหมุดเต็นท์และเตรียมตัวลงไปหาเธอ
เพราะร่างกายของเนลล์เล็กกะทัดรัดไม่ได้หนักขนาดนั้น หมุดอาจจะรับน้ำหนักของเธอได้ แต่ถ้าหมุดต้องรับน้ำหนักของเขาและเธอไว้ด้วยกัน มันคงจะเป็นไปไม่ได้ที่จะรับไหว
เขาจึงตะโกนขึ้น “ผู้ชาย! ฉันต้องการผู้ชายตรงนี้!”
ผู้ชายจำนวนมากวิ่งเข้ามากิดเดียนเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงร้องเรียกให้ช่วย
กิดเดียนส่งเชือกให้พวกเขาและสั่ง “จับเอาไว้! เมื่อฉันบอกให้คุณดึง ก็ดึง!”
“ครับท่าน!”
ผู้ชายเหล่านี้เป็นบอดี้การ์ดของเขาซึ่งครอบครัวของเขาฝึกฝนมาตั้งแต่ยังเด็กและพวกเขามีความแข็งแรงมากกว่าสิ่งอื่นใด
จากนั้นกิดเดียนก็ลงไปพร้อมกับเชือกที่ผูกเอวของเขาเอาไว้
เขาว่องไวราวกับลิงขณะที่เขาลงจากหน้าผากสูงชันและอีกไม่นานเขาก็มาถึงที่ที่เนลล์ห้อยอยู่
จากนั้นเขาก็มองเห็นได้ชัดว่าเธอเจ็บแค่ไหน โดยเฉพาะแขนที่มีเลือดไหล สิ่งที่เห็นมันเจ็บปวดเสียดแทงเข้าไปในหัวใจของเขา ราวกับว่ามีมือยักษ์บีบหัวใจของเขาและเขาหายใจไม่ออก
เนลล์หมดแรงจากการห้อยตัว เป็นเพราะความต้องการของเธอที่จะห้อยตัวที่หน้าผา เมื่อเธอเห็นเขาความมุ่งมั่นสุดท้ายของเธอก็เริ่มหมดลง
เพียงเรียกชื่อของเขา ขาของเธอก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงและเริ่มจะหล่นลง
แต่ยังโชคดี แขนแกร่งของกิดเดียนเอื้อมมาหาเธอและคว้าเอวของเธอไว้ กิดเดียนรีบดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขา
เขาดูเกร็งเมื่อเขารับเธอไว้ มันไม่ชัดเจนว่าความรู้สึกของเขานั้นโกรธหรือมีความสุขกันแน่ ในขณะที่เนลล์สงบลงและพิงอกแกร่งของเขา
“คุณรออีกสักนาทีได้ไหม?” เขาถามเธอด้วยความอ่อนโยน
เนลล์พยักหน้ารับ
กิดเดียนผูกเชือกรอบเอวของเธอและผูกเงื่อนเพื่อให้ร่างกายของเธอมั่นคงก่อนที่จะไม่มีอะไร เขาจับเธอด้วยมือข้างเดียวและตะโกนว่า “ดึง!”
เชือกเริ่มขยับ
เขาปล่อยให้เธอเกาะที่คอของเขาและเขาก็เริ่มปีนขึ้นไปบนหน้าผากอย่างรวดเร็ว
เนลล์ไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้ชายคนหนึ่วจะปีนขึ้นไปบนหน้าผาสูงชันได้เร็วขนาดนี้ด้วยแขนเพียงข้าวเดียวและสองขาโดยมีคนเกาะคอของเขา
เธอกอดคอของเขาเอาไว้แน่น ใขณะที่ขาของเธอเหวี่ยงไปที่ช่องระหว่างขาของเขาราวกับหนวดปลาหมึกที่ตายแล้ว
คางของเขาอยู่ตรงหน้าของเธอ และกลิ่นหอมสดชื่นจากร่างกายของเขาราวกับกลิ่นหอมจากสวรรค์เมื่อเธอได้กลิ่น