ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก - บทที่ 267 มันเหมือนไม่ใช่เขา
ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก บทที่ 267 มันเหมือนไม่ใช่เขา
เนลล์รู้สึกสับสน
เกิดอะไรขึ้น?
กิดเดียนสังเกตเห็นความสับสนของเธอและลูบศีรษะของเธอด้วยความเอ็นดู เขาอธิบาย “นี่คือโจเซฟ การ์เร็ตต์ ลูกชายของตระกูลการ์เร็ตต์ที่เมืองหลวง เช่นเดียวกับผม คุณควรเรียกเขาว่าคุณลุงรอง”
ดวงตาของเนลล์เบิกกว้างด้วยความรู้สึกสับสน
ตระกูลการ์เร็ตต์ที่เมืองหลวงอย่างนั้นหรือ?
ครอบครัวเดียวกับ สเตฟานี่ การ์เร็ตต์ หรือเปล่า?
เธอหันไปมองโจเซฟที่ยิ้มตอบกลับมาด้วยความเป็นมิตร เห็นได้ชัดว่าสิ่งที่กิดเดียนพูดเป็นความจริง
ทันใดนั้น เนลล์รู้สึกอึดอัด บางครั้งความจริงก็ยิ่งกว่านิยาย
ไม่แปลกใจที่ท่านผู้หญิงโจนส์ และตระกูลมอร์ตันจะให้ความเคารพต่อเขาขณะอยู่ที่หอประชุมเซียนสุ่ย
โจเซฟยิ้ม “เธอจะพาหล่อนกลับไปที่บ้านเมื่อไหร่? ฉันจะได้ไปร่วมสังสรรค์”
กิดเดียนยิ้มออกมาด้วยความนอบน้อม “คุณปู่และคุณย่าเคยพบเธอมาก่อนแล้วครับ พวกเราจะกลับไปทันทีที่ผมจัดการเรื่องต่าง ๆ ในความรับผิดชอบเสร็จแล้ว”
“ดี ดี!” โจเซฟพยักหน้าด้วยความเห็นด้วยและรู้สึกโล่งอก “ดูเหมือนท่านผู้หญิงจะมีปีที่เบิกบานใจนะ”
ทันทีที่เขาพูดจบ เขาชำเลืองมองไปที่เนลล์อีกครั้งและรู้สึกพอใจมากขึ้น
“คุณผู้หญิง ตระกูลลีย์ และตระกูลการ์เร็ตต์ต่างเป็นเพื่อนกัน ตั้งแต่กิดเดียนเรียกฉันว่าคุณลุงรอง ฉันก็ควรจะดูแลเขา ถ้าเขาแกล้งเธอ แค่มาบอกฉัน ฉันสอนบทเรียนให้กับเขาเอง!”
เนลล์หัวเราะด้วยความเขินอายและพยักหน้า “ตกลงค่ะ ขอบคุณนะคะคุณลุงรอง”
“เฮ้อ!”
วิธีที่เธอพูดทำให้เขารู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก หลังจากนั้นเขาก็ยื่นการ์ดสีดำที่ประทับด้วยตัวอักษรสีทองให้กับเธอ
“ฉันเป็นแค่ผู้ชายธรรมดา และไม่ได้เตรียมของขวัญเอาไว้ ใช้การ์ดใบนี้นะ บางทีเธออาจจะได้ใช้การ์ดใบนี้ในภายหลัง”
เนลล์ตกใจ
เธอนึกไม่ออกเลยว่ามันเป็นการ์ดอะไร แต่เธอรู้ว่ามันแพงและไม่ใช่ทุกคนที่จะถือมันได้
เช่นนั้นเธอจึงโบกมือ “ไม่เป็นไรค่ะคุณลุงรอง ความตั้งใจของคุณ…”
“รับไป!”
กิดเดียนรับการ์ดเอาไว้และยัดลงในอุ้งมือของเนลล์ทันที
“เนลลี่ คุณโชคดีแล้ว วันนี้คุณลุงรองอารมณ์ดี และรู้สึกใจกว้าง ในอดีตพวกเรารู้จักท่านในนามของคุณลุงจอมงก ดังนั้นคุณรับของขวัญของเขาเอาไว้ดีกว่า”
เนลล์ไม่รู้จะพูดอะไรดี
โจเซฟหัวเราะและตำหนิกิดเดียน “เจ้าเด็กหยาบคาย! ไม่ใช่ว่าสมัยเด็ก ๆ เธอได้รับของเล่นจากฉันมากมายหรอกหรือ? และในตอนนี้ เมื่อเธอโตขึ้น เธอกลับพูดจากับฉันไม่ดีแบบนี้เหรอ? ดูเหมือนฉันจะตามใจเธอจนเกินไป!”
กิดเดียนยิ้มและไม่โต้เถียงใด ๆ
เห็นได้ชัดว่าชายทั้งสองคนนี้มีความผูกพันต่อกัน
เนลล์รู้สึกดีเล็กน้อยและเก็บการ์ด
“ขอบคุณนะคะคุณลุงรอง”
กิดเดียนถามขึ้น “แล้วทำไมคุณลุงรองถึงมาอยู่ที่จินเฉิงนี่ได้ครับ?”
การแสดงออกของโจเซฟดูหม่นหมองเมื่อเขาได้ยินคำถาม
“อย่าพูดถึงมันเลย คราวก่อนพวกเขาไม่ได้บอกเหรอว่าพวกเขามาตามหาเด็กที่นี่? ฉันมาที่นี่เป็นการส่วนตัวเพื่อมาดู แต่…เฮ้อ! ฉันไม่อยากจะเชื่อว่าจะมีคนเข้ามาทำให้ตระกูลการ์เร็ตต์วุ่นวายในวันนี้!”
กิดเดียนขมวดคิ้วเข้าหากันเมื่อเขาได้ยินความเกรียวกราดในคำพูดของเขา
“คุณหมายความว่าอย่างไร?”
โจเซฟนิ่งไปชั่วขณะราวกับนึกบางสิ่งขึ้นมาได้ จากนั้นเขาก็โบกมือด้วยความหงุดหงิด
“ลืมมันไปเถอะ มันไม่สำคัญ เป็นช่วงสั้น ๆ ที่เบาะแสนำเราไปสู่ทางตัน ครอบครัวนั้นปฏิบัติต่อตระกูลการ์เร็ตต์ราวกับคนโง่ และใช้สร้อยคอเพื่อหลอกฉัน บอกว่านั่นคือสมบัติของแอนนี่ ฮึ! ตลกดีใช่ไหม? แอนนี่ไม่เคยเป็นเจ้าของสิ่งของแบบนั้น!”
เนลล์เลิกคิ้ว
สร้อยคอหรือ?
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอนึกถึงสร้อยคอทับทิมบนคอของเธอ และยกมือขึ้นแตะจี้ที่อยู่ใต้เสื้อผ้าของเธอโดยไม่รู้ตัว
โจเซฟไม่เห็นท่าทีของเธอและดูเวลา
“เอาล่ะ ได้เวลาขึ้นเครื่องบินแล้ว เธออาจจะกลับไปตอนนี้ ใช่สิ กิดเดียน เพราะว่าเธออยู่ที่จินเฉิงนี้ ช่วยจับตาดูและรายงานเกี่ยวกับเด็กคนนั้น ปู่การ์เร็ตต์ป่วยและความปรารถนาสูงสุดของเขาคือ การได้พบเด็กผู้หญิงคนนี้ ฉันไม่อยากทำให้เขาผิดหวัง”
กิดเดียนพยักหน้า
“ครับ ผมจะทำ”
คนทั้งคู่กล่าวลาโจเซฟ
เมื่อพวกเขาเข้าไปในรถ เนลล์ถามสามีของเธอด้วยความสงสัย “เด็กที่คุณลุงรองการ์เร็ตต์พูดถึง… เธอเป็นเด็กผู้หญิงจากตระกูลการ์เร็ตต์ที่หายไปเมื่อยี่สิบปีก่อนหรือเปล่าคะ?”
กิดเดียนพยักหน้ารับ
เขานิ่งไปก่อนจะพูดต่อ “ตลอดเวลา ตระกูลการ์เร็ตต์ไม่เคยละความพยายามในการตามหาเธอเลย แต่แทบจะไม่มีเบาะแสใด ๆ เลยเพื่อตามหาเธอ มันเป็นเวลากว่ายี่สิบปีแล้ว และเธออาจจะไม่ได้มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้วก็ได้”
เนลล์กะพริบตา
“ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าคุณไม่ค่อยกระตือรือร้นกับเรื่องนี้เลยค่ะ? มันเหมือนไม่ใช่คุณเลย”
เธอรู้ดีว่ากิดเดียนเป็นผู้ชายแบบไหน
แม้ภายนอกของเขาจะดูเย็นชา ทว่าความจริงแล้ว ใครก็ตามที่เขาเห็นว่าเป็นครอบครัวเขาจะต้องให้ความสำคัญ เขาจะไม่แสดงความเฉยเมยเช่นนี้
กิดเดียนจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธอ
“คุณจำสิ่งที่ผมบอกคุณ เมื่อคุณถามผมเกี่ยวกับสเตฟานี่ได้ไหม?”
เนลล์นิ่งไป
เธอคิดถึงเรื่องนี้และทันทีที่รู้มันเริ่มทำให้เธอเข้าใจ
“กิดเดียน คุณ…”
“อืม ผมเป็นคนเห็นแก่ตัว ผมไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายในชีวิตของเรา และไม่ต้องการให้เกิดปัญหาอีกต่อไปแล้ว ดังนั้นผมจึงไม่สนใจไม่ว่าพวกเขาจะเจอเด็กคนนั้นหรือไม่”
เนลล์หัวเราะ
“คุณพูดแบบนั้นได้อย่างไรคะ? เขาเป็นกังวลมาก คุณไม่ใส่ใจกับสภาวะความลำบากใจของเขาได้”
กิดเดียนเผยยิ้มออกมา และโอบรอบเอวบางของเธอเอาไว้
ใบหน้าของเคลื่อนเข้ามาใกล้เธอจนกระทั่งจมูกของพวกเขาทั้งคู่สัมผัสกัน
“ครับ ผมเป็นผู้ชายแบบนั้น เพื่อคุณ ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้น”
“กิดเดียน ลีย์…”
เนลล์ไม่เห็นด้วยกับความคิดของสามีของเธอ ก่อนที่เธอจะทันได้พูดต่อ กิดเดียนจุมพิตลงบนริมฝีปากของเธอ อีกครั้ง มันเป็นจูบที่เร่าร้อน ในไม่ช้าเธอสูดหายใจเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าไปอีก และวางมือทั้งสองข้างลงบนไหล่ของเขา เธอหอบและพูดขึ้น “แต่มันไม่ดีเลยนะคะ หรือไม่ใช่?”
กิดเดียนหัวเราะ “เนลลี่ คุณต้องการให้ผู้หญิงคนอื่นกลับมาและแย่งสามีของคุณไปงั้นหรือครับ?”
เนลล์กลอกตาของเธอ
“เธออาจะไม่ได้ชอบคุณเลยก็ได้! เลิกหลงตัวเองสักที!”
กิดเดียนหัวเราะออกมา
เนลล์พูดเสริม “จริงจังค่ะ ถ้าคุณสามารถช่วยเหลือเขาได้ แน่นอน ก็ควรทำค่ะ เขาเป็นกังวลมาก แล้วมันคงไม่น่าอภัยถ้าคุณมีเบาะแส แต่ปฏิเสธที่จะช่วย”
กิดเดียนปล่อยเธอและจัดเสื้อผ้าและทรงผมที่ยุ่งเหยิงให้เธอ จากนั้นเขาก็นั่งตัวตรง
เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “ผมเข้าใจสิ่งที่คุณพูด แต่ไม่ต้องเป็นห่วง ตะกูลการ์เร็ตต์ไม่ได้กังวลและตื่นตระหนกอย่างที่พวกเขาแสดงออกตอนนี้”
“คุณลุงรองการ์เร็ตต์ตั้งใจตามหาเด็กคนนี้ เพราะนายท่านใหญ่การ์เร็ตต์ป่วย คนใกล้ตายและพวกเขามักจะคิดถึงความเสียใจที่เกิดขึ้นในชีวิตของพวกเขาขณะที่จวนเจียนจะตาย”
“คุณลุงรองไม่ต้องการให้นายท่านใหญ่การ์เร็ตต์รู้สึกเสียใจ เขาจึงตัดสินใจตามหาเด็กคนนี้ อย่างไรก็ตามสมาชิกคนอื่นในครอบครัวก็ไม่ได้รู้สึกแบบเดียวกัน ท้ายที่สุดแล้วเมื่อนายท่านใหญ่เสียชีวิต ครอบครัวทั้งหมดก็จะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ความขัดแย้งและความร้าวฉานในครอบครัว ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีการแยกตัวออกไปและครอบครัวเกือบแตกแยกออกจากกัน
“ถ้าเด็กคนนั้นกลับมา สิ่งแรกขณะที่นายท่านใหญ่ยังคงอยู่ ทุกคนจะตามหาเธอ เมื่อเขาเสียชีวิต คุณคิดว่าเธอจะอยู่รอดท่ามกลางความขัดแย้งภายในครอบครัวได้อย่างไร?”