ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก - บทที่ 272 เรื่องบังเอิญทั้งหมด
ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก บทที่ 272 เรื่องบังเอิญทั้งหมด
ผู้สูงอายุทั้งสองผิดหวังเป็นที่สุด
อย่างไรก็ตาม เพราะชาร์ลสบอกว่าเธอเป็นภรรยาของกิดเดียน เป็นปกติที่พวกเขาไม่สามารถบังคับมันได้อีกต่อไป
ท่านผู้หญิงถอนหายใจออกมาด้วยความเสียใจ
“ผู้หญิงดี ๆ เหมือนเธอคงจะไม่ชอบลี หรือแต่งงานไปแล้ว จากเท่าที่เป็นอยู่ เมื่อไหร่ลีถึงจะแต่งงานและมีหลานชายตัวโตและอ้วนท้วนสมบูรณ์ให้กับฉัน?”
ท่าทางของชาร์ลสซึมลงเมื่อได้ยินคำนั้น
“คุณแม่ ไม่จำเป็นต้องวิตกกังวลจนเกินไป ลีเพิ่งจะกลับมาที่กริฟฟินไม่กี่วัน ดังนั้นเราจะทำให้เขาลำบากจนเกินไป ถ้าเขาไม่ได้มีใจเป็นของตัวเอง มันก็ไม่มีประโยชน์ไม่ว่าแม่จะกังวลแค่ไหนก็ตาม
ท่านผู้หญิงเองก็เข้าใจในเหตุผลนี้เช่นกัน แต่เธอไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้
หลังจากที่คิดได้ เธอก็ถอนหายใจออกมาในที่สุด และหนุดคิดถึงเรื่องนั้น
ค่ำคืนนั้นหลังจากที่เนลล์กลับไปแล้ว เธอเล่าให้กิดเดียนฟังเกี่ยวกับหญิงชราที่น่าสนใจที่เธอพบที่ด้านนอกสเตเดี่ยม
กิดเดียนไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านี้ แต่เห็นว่าเธอมีจิตใจดี เขาก็อดไม่ได้ที่จะมีความสุขกับเธอไปด้วย
ทันใดนั้นเองก็นึกได้ถึงตอนที่เธอคุยโทรศัพท์กับเจเน็ตระหว่างวัน เนลล์บอกกับกิดเดียนด้วยความตื่นเต้น “คุณรู้ไหมคะ? เจเน็ตใกล้จะคลอดแล้วนะ”
กิดเดียนเลิกคิ้ว
มันเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย?
เนลล์นับนิ้วของเธอ “ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งเดือน ในฐานะแม่ทูนหัวของเด็ก ฉันอยากจะไปที่ประเทศเอฟ เพื่ออยู่ข้าง ๆ เธอเมื่อถึงเวลานั้น ดังนั้นคุณควรจะไปกับฉันด้วย!”
กิดเดียนขมวดคิ้ว
แทบจะไม่ต้องคิด เขาปฏิเสธทันที “ผมไม่ไป”
เนลล์ไม่ปล่อยให้เขาทำตามใจชอบเช่นปกติ ขณะที่เธอพูดห้วน ๆ “ไม่ คุณต้องไปด้วย!”
“เพราะฉันคือแม่ทูนหัว คุณก็คือพ่อทูนหัว คุณจะไม่ไปได้อย่างไรถ้าฉันไป?”
กิดเดียนเงียบ
จากนั้นเขาก็ยิ้มอย่างเย็นชา
“ผมไม่ต้องการเป็นพ่อทูนหัว ผมอยากเป็นพ่อจริง ๆ มากกว่า”
เนลล์ไม่ได้ตอบเขากลับ
หลังจากตกตะลึงไปสองสามวินาที ในที่สุดเธอก็เข้าใจความหมายที่เขาต้องการจะสื่อ
ใบหน้าของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำทันที เธอมองไปทางซ้ายและขวาเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครอยู่ใกล้ ๆ ก่อนจะพูดออกมาด้วยความลำบากใจ “คุณพูดเรื่องไร้สาระอะไร?”
“คุณเรียกเรื่องนั้นว่าเรื่องไร้สาระได้อย่างไร? เราเป็นคู่สามีภรรยา การมีลูกเป็นเรื่องปกติไม่ใช่เหรอ?”
ชายคนนั้นพูดขณะที่ดึงเธอเข้าสู่อ้อมแขนของเขา
เนลล์หน้าแดงขึ้นกว่าเดิมอย่างช่วยไม่ได้
พวกเขากำลังกอดกันก่อนที่คนรับใช้จะเข้ามารายงาน “คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง มีแขกของท่านผู้หญิงมา”
เนลล์กระโดดขึ้น และรีบผลักกิดเดียนออกไป
เมื่อหันกลับไปมอง เธอเห็นว่าคนรับใช้ก้มศีรษะของเขาลงราวกับว่าเขาไม่รู้เห็นว่าพวกเขาอยู่ใกล้ชิดกัน มีเพียงริมฝีปากของเขาที่ยกยิ้มขึ้นเท่านั้นที่ขัดต่อการแสดงออกของเขา
ใบหน้าของเนลล์แดงขึ้นทันที
กิดเดียนโบกมือของเขาอย่างไม่ไยดี “รู้แล้ว เราจะลงไปทันที”
“ทราบแล้ว”
หลังจากที่คนรับใช้ถอยออกไปแล้ว เนลล์ก็ยืนขึ้นและบ่นออกมา “เป็นความผิดของคุณทั้งหมดเลย มันไม่ดีเลยนะคะ ที่มีคนอื่นมาเห็นเข้า”
ชายคนนี้ดูเป็นปกติขณะที่เขาจัดเสื้อผ้าของเขาให้เรียบร้อยและยิ้มออกมา “ทำไมคุณต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ขณะที่อยู่ที่บ้านด้วย?”
เนลล์ไม่อยากสาธยายเรื่องนี้กับเขา “ช่างเถอะ คุณย่าเรียกหาเราแล้ว ไปเถอะค่ะ”
ตระกูลลีย์มีคนไม่มาก เชื้อสายโดยตรงในคนรุ่นใหม่นี้มีเพียงกิดดียนเท่านั้น ด้วยพ่อแม่ของกิดเดียนเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ครอบครัวจึงแทบไร้ซึ่งผู้คน
ท่านผู้หญิง และนายท่านก็เริ่มอายุมากแล้ว อีกทั้งนายท่านก็ยังมีสุขภาพที่ไม่แข็งแรง กิดเดียนก็ไม่ชอบเข้าสังคมและงานยุ่งอยู่ตลอดทั้งปี ดังนั้นเขาจึงแบ่งเวลามาที่คฤหาสน์ลีย์น้อยมาก เพราะฉะนั้นท่านผู้หญิงก็ปฏิเสธผู้มาเยือนอย่างสุภาพอยู่ตลอดเวลา เช่นนั้นกิดเดียนและเนลล์จึงไม่รู้ว่าใครมาเยี่ยมในวันนี้
ด้วยความอยากรู้เนลล์จึงตามกิดดียนไปที่ห้องโถงด้วย
วันนี้ที่ห้องโถงด้านหน้ามีความคึกคักที่หาได้ยาก ชายวัยกลางคนและหญิงชราผมขาวนั่งอยู่ที่โซฟาหรูหราโดยหันหลังให้เธอ
ท่านผู้หญิงควินตันจับมือของหญิงชราผู้นั้นเอาไว้ด้วยความรักขณะที่พวกเขาพูดคุยกัน ใบหน้าของท่านผู้หญิงควินตันเต็มไปด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย
มีสาวใช้หลายคนยืนอยู่ กำลังเสิร์ฟชาและรอรับคำสั่ง โดยปกติท่านผู้หญิงไม่ชอบการปฏิบัติเช่นนี้ แต่สำหรับการต้อนรับเป็นพิเศษสำหรับวันนี้ มันแสดงให้เห็นว่าเธอให้การต้อนรับแขกด้วยใจของเธอ
กิดเดียนดึงเนลล์ให้เดินตามมา
“คุณย่าครับ”
“กิดเดียน และเนลลี่ พวกเธออยู่ที่นี่หรือ?”
ท่านผู้หญิงควินตันทักทายเขาด้วยรอยยิ้ม และบอกให้พวกเขานั่งลง
“มานี่ ให้ฉันแนะนำคุณให้รู้จัก นี่คือคุณย่ากริฟฟิน คนที่ฉันเคยพูดถึงหลายครั้ง และนี่คือคุณลุงชาร์ลส กริฟฟิน คุณปู่กริฟฟินกำลังเล่นหมากรุกกับคุณปู่ของคุณในห้องดื่มชา!”
เธอดึงกิดเดียนและเนลล์ เข้ามาเพื่อแนะนำให้รู้จักกับท่านผู้หญิงกริฟฟิน
“นี่คือหลานชายของฉัน กิดเดียน ลีย์ นี่คือหลานสะใภ้ของฉัน เนลล์ เจนนิงส์”
ท่านผู้หญิงกริฟฟิน และเนลล์จ้องตากันก่อนที่ดวงตาจะเบิกกว้าง
“ท่านผู้หญิง คือคุณ?”
“หญิงสาวผู้น่ารัก คือคุณหรือ?”
นี่พวกเขาเคยรู้จักกันมาก่อนหรือ?
ในที่สุดเนลล์ก็มีปฏิกิริยา เธอก็อยู่ระหว่างจะหัวเราะหรือร้องไห้
กิดเดียนได้สติขึ้นมาอีกครั้งและเขาตระหนักได้ว่าหญิงชราผู้ตลกที่เนลล์เล่าให้ฟังเมื่อคืนนั้นน่าจะเป็นท่านผู้หญิงกริฟฟิน
สิ่งนี้ทำให้ท่านผู้หญิงควินตันไม่เข้าใจ เธอรีบถามอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าพวกเขากำลังหัวเราะ
“เกิดอะไรขึ้น? เนลลี่ คุณเคยพบกันท่านผู้หญิงกริฟฟินมาก่อนหรือ?”
เนลล์พยักหน้าและเล่าให้เธอฟังถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
ท่านผู้หญิงควินตันอดที่จะหัวเราะไม่ได้หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้น
หญิงชราทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกันเมื่อพวกเขายังเด็ก ไม่กี่สิบปีที่ผ่านมาตระกูลกริฟฟินถือว่าเป็นครอบครัวที่ร่ำรวยอันดับหนึ่งในประเทศจีน แต่นายท่านกริฟฟินชอบทำการตลาดต่างประเทศและย้ายครอบครัวของเขาไปที่ต่างประเทศด้วย ดังนั้นชื่อเสียงของพวกเขาในประเทศจีนจึงลดลง
อย่างไรก็ตาม มันก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างหญิงทั้งสอง แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ใช้เวลาร่วมกันเป็นเวลาหลายปีที่ผ่านมา ทุกครั้งที่ท่านผู้หญิงควินตันไปยังประเทศF เธอจะต้องไปพบกับท่านผู้หญิงกริฟฟินเสมอ
ครั้งนี้คือว่าเป็นครั้งแรกที่ตระกูลกริฟฟินกลับสู่ประเทศจีนหลังจากไปอยู่ต่างประเทศมากว่ายี่สิบปี
มีข่าวลือว่าเป็นเพราะหลานชายคนเล็กของตระกูลกริฟฟิน ในตอนนั้นชาร์ลส กริฟฟินและภรรยาของเขาหย่าขาดจากกันเพราะความแตกหักทางความสัมพันธ์ของพวกเขา โดยไม่คาดคิดว่าภรรยาของเขากำลังตั้งครรภ์ระหว่างการหย่าขาด ทว่าตระกูลกริฟฟินยังไม่รู้ในเวลานั้นและเพิ่งรู้หลังจากที่หย่าขาดไปแล้ว
อย่างไรก็ตามเธอก็ออกไปแล้วและการแต่งงานก็สิ้นสุดลง แม้ว่าตระกูลกริฟฟินจะค้นหาเธออย่างไร แต่อีกฝ่ายก็ยังหลบเลี่ยงพวกเขาต่อไป
ต่อมาภายใต้การหลบเลี่ยงโดยเจตนาของเธอ ทำให้ทั้งสองฝ่ายค่อยๆ ขาดการติดต่อกัน
แม้ว่ากว่าครึ่งปีแล้วที่อดีตภรรยาของชาร์ลสเริ่มป่วยในที่สุด ก่อนที่เธอจะเสียชีวิต เธอบอกความจริงกับลูกของเธอและแจ้งให้คนในตระกูลกริฟฟินทราบด้วย
ครั้งนี้ตระกูลกริฟฟินกลับมายังประเทศจีนเพื่อสร้างความเคยชินให้กับพวกเขากับสภาพแวดล้อมที่เด็กอาศัยและเติบโตขึ้น โดยมีแผนที่จะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเขา
ท่านผู้หญิงควินตันอารมณ์ดีขึ้นหลังจากได้ยินเรื่องนี้
“พวกคุณโชคดีจริง ๆ ที่หาเด็กคนนั้นเจอ และเขายินดีที่จะยอมรับคุณ พวกเรายังตามหาเด็กจากตระกูลการ์เร็ตต์ไม่เจอ ฉันไปพบนายท่านใหญ่กาเร็ตต์มาเมื่อเวานและฉันทนไม่ได้จริง ๆ ที่เห็นเขาเป็นแบบนั้น”