ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก - บทที่ 281 ห้ามล้ำเส้น
ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก บทที่ 281 ห้ามล้ำเส้น
เลียมขมวดคิ้ว “ผมมาที่นี่เพื่อลูกชายของผม แล้วมันเกี่ยวอะไรกับตระกูลแจ็คแมน และตระกูลกริฟฟิน”
หน้าอกของเจเน็ตแน่นขึ้น เธอยิ้มพร้อมกับแววตาที่ยิ้มเยาะ “ทุกคนรู้ว่าคุณเป็นแก้วตาดวงใจของพวกเขา ตั้งแต่คุณกลับไปพวกเขาก็ต้อนรับคุณ คุณทวดแห่งตระกูลกริฟฟินไม่ได้ดูแลคุณอย่างรักใคร่เหรอ? พวกเขาอาจจะกระโดดตึกลงมาได้นะถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณ”
ใบหน้าของเลียมตึงเครียด “โอ้จริงดิ? ถ้าคุณรู้แล้ว ทำไมคุณยังจะหลบซ่อนตัวจากผมอยู่ละ?”
“เลียม แจ็คแมน คุณอาจจะเป็นที่รักของพวกเขา แต่สำหรับฉัน คุณไม่ใช่ ฉันเตือนคุณอย่าบังคับฉันไม่งั้น … ‘
“อะไรหรือ?”
“ฉัน…”
เจเน็ตโกรธอย่างบ้าคลั่ง คน ๆ นี้ช่างน่ารำคาญจริง ๆ ?
เขารู้ว่าเธอกำลังแก้ไขและต้องสูญเสียทุกอย่างไป ทำไมเขายังผลักเธอไปยืนที่ตรงขอบด้วย?
เลียมเย้ยหยัน
“คุณวางแผนที่จะหยุดผมได้ไหมล่ะ ถ้าผมยืนยันที่จะยังมีลูกคนนี้? หรือกับกังฟูที่น่ากลัวของคุณ? หรือคุณจะบอกพ่อของคุณให้เขามาตีผม เหมือนที่เขาเคยทำไว้เมื่อสี่ปีก่อน?”
จิตใจของเจเน็ตว่างเปล่า
ราวกับว่าเธอตกลงไปในน้ำแข็ง ความหนาวสั่นเข้ามาครอบงำเธอ
เธอจ้องมองเขาอย่างเย็นชา “คุณจะลองดูก็ได้นะ”
เลียมชะงักก่อนจะพูดเสริมว่า “ผมเดาว่า พ่อของคุณจะไม่ทำแบบนั้นกับผม เมื่อสี่ปีที่แล้วผมเป็นแค่คนจนที่ไม่คู่ควรกับลูกสาวที่แสนดีของเขา
“แต่ตอนนี้สิ่งต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปแล้ว ผมเป็นทายาทของตระกูลกริฟฟิน ถ้าเขารู้ว่าลูกสาวของเขากำลังอุ้มท้องลูกของผม เขาจะไม่เสียใจเลยและเขาก็จะให้เกียรติผมกับคุณด้วย ถูกไหม?”
“เลียม แจ็คแมน อย่าล้ำเส้น!”
“ผมก็แค่พูดความจริงเท่านั้น มันไม่ใช่หรือไง?”
ทั้งคู่ยืนอยู่ตรงนั่นด้วยความเงียบสนิทจนได้ยินแต่เสียงหายใจ
สายตาของเจเน็ตมองเขาไปด้วยความไม่พอใจ
ในขณะเดียวกันเลียมก็เยาะเย้ยและปล่อยเธอไป
เขาหันไปจุดบุหรี่ และพ่นควันออกมาแล้วเขาก็นั่งลงบนโซฟาเพื่อดูผู้หญิงตรงหน้าเขา
เธอจ้องไปที่เขาพร้อมกับกอดอก ไม่เหลือความอ่อนโยนก่อนหน้านี้เธอเป็นเหมือนเม่นที่เต็มไปด้วยหนามพร้อมที่จะฟาดฟันและโจมตีใส่ทุกคนที่เข้ามาใกล้เธอ
เขาถูกโจมตีด้วยความหงุดหงิดอย่างทันที
เลียมมีความสุขมาก ๆ ทันทีที่เขารู้ว่าเด็กที่เธออุ้มท้องนั้นเป็นลูกของเขา
ในความคิดของเขา เขาไม่เคยคิดที่จะแยกแม่และลูกเลย
อย่างไรก็ตาม เธออยากอยู่ห่าง ๆ เขา เธอเลยมองเขาเหมือนกับว่าจะกินเขาเข้าไป
เขาไปทำอะไรให้เธอแค้นขนาดนั้น?
เมื่อก่อนเธอเคยเป็นคนอ่อนโยน แต่ตอนนี้เธอตั้งใจที่จะหนีไปพร้อมกับลูกของเขา ซ่อนตัวและหลบหนีการติดต่อกับเขาไปตลอดชีวิต?
นี่มันอะไรกัน? แก้แค้น?
ใบหน้าของเลียมเปลี่ยนไปหลังจากคิด
ในที่สุดเจเน็ตก็ได้รวบรวมสติของตัวเอง
หลังของเธอที่ยืดตรงมองเขาอย่างใจเย็นและตอบด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง “ฉันขอโทษ สำหรับเมื่อสี่ปีก่อน ฉันยอมรับว่าคืนนั่นมันเป็นความผิดของฉัน แต่ฉันไม่ใช่ความตั้งใจ เพราะงั้นช่วยปล่อยให้ฉันเป็นอิสระได้ไหม?
“เราไม่เหมาะสมกัน มันคือสิ่งที่คุณเคยพูดไว้คราวก่อนไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไมคุณถึงไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?
“ฉันแค่อยากมีชีวิตที่เรียบง่ายและเงียบสงบ คุณแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นว่าเด็กอยู่ที่นี่ มันจะไม่ส่งผลกระทบต่อคุณ อย่างแน่นอน
“ถ้าคุณกังวลกับเรื่องนี้จริง ๆ ฉันสามารถไปในที่ที่ห่างไกลได้นะ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเห็นลูกไปตลอดชีวิต คุณไม่ต้องกังวลด้วยซ้ำว่าเด็กจะเป็นภัยอันตรายต่อคุณหรือเปล่า มันไม่ดีหรือไง?”
สายตาของชายคนนั้นเปลี่ยนเป็นสายตาเย็นชาทันที
เขาจ้องมองผู้หญิงตรงหน้าอย่างเยือกเย็น การจ้องมองของเขาเป็นน้ำแข็งเย็นมากจนมันสามารถตรึงสิ่งมีชีวิตได้
“จะไม่เป็นภัยอันตรายงั้นเหรอ? ฮา! คุณคิดว่าผมจะเชื่อหรือไง?”
เจเน็ตหัวใจแทบหยุดเต้น
จากนั้นเขาก็พูดต่อว่า “คุณจะต้องทนเจ็บปวดเป็นอย่างมากเพื่อเก็บลูกของผมไว้ และใช้มันเพื่อขู่ผม ผมรู้ว่าพวกคุณแฮนค็อกกำลังทำอะไรอยู่ หลังจากที่เราเคยอยู่ด้วยกันมาก่อน แม้ว่าคุณจะต้องการ แต่ผมจะไม่ทำตามความต้องการของคุณ ”
ใบหน้าของเจเน็ตแดงไปด้วยความโกรธ
“คุณกำลังพูดเรื่องอะไรของคุณ? ใครขู่คุณ?”
“คุณทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้ เพื่อรักษาเด็กคนนี้เอาไว้ แบบนี้เรียกว่าไม่ถือสาอะไรกับผมเหรอ?”
ทันใดนั้นเขาก็ลุกขึ้นยืน และเข้ามาใกล้เธอก่อนจะโพล่งอย่างเย็นชา “อืม คุณควรรู้ว่า พวกสารเลวในตระกูลกริฟฟินที่ไม่สามารถทนเห็นที่ผมมีตัวตน แต่ก็ทำอะไรกับมันไม่ได้อยู่ดี ผมได้ยินมาว่าคุณค่อนข้างสนิทกับคนในนั้น? มันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่? ก่อนที่ผมนอนกับคุณหรือหลัง?”
เจเน็ตโกรธจนยกแขนของเธอเพื่อตบเขา แต่เขาหยุดไว้ได้ก่อน
ดวงตาของเธอถูกปกคลุมไปด้วยความชุ่มฉ่ำบาง ๆ
“เลียม แจ็คแมน คุณทำให้ฉันอับอายได้ แต่คุณอย่างบังอาจพลาดพิงถึงพ่อฉัน! คุณไม่มีสิทธิ์พูดเรื่องนั้นเกี่ยวกับเขา!”
“ผมไม่มีสิทธิ์เหรอ? ฮ่า!”
เมื่อแววตาของเขาเย็นลงเขาก็บีบข้อมือของเธอราวกับว่าจะบดขยี้กระดูกของเธอ
“เขาไม่ได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อบังคับให้ผมออกไปเพียงเพราะสถานะที่ต่ำต้อยของผมที่มันไม่คู่ควรกับครอบครัวแฮนค็อกของเขาหรือไง? ตอนนี้ผมเป็นทายาทของตระกูลกริฟฟิน ผมไม่ต้องพูดอะไรกับเขาด้วยซ้ำ?”
หัวใจของเจเน็ตจมลงสู่ก้นบึ้งของเธอ เมื่อจ้องมองไปที่เขาซึ่งมันเหน็บหนาวอย่างที่คิด
“เอาล่ะ แม้ว่าเขาจะทำผิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่มันก็ผ่านมาสี่ปีแล้ว คุณปล่อยมันไปไม่ได้ไหม?”
“ผมทำไม่ได้!”
ในตอนนั้นเลียมดูเหมือนจะคิดได้ว่าอารมณ์ที่ละเอียดอ่อนบางอย่างที่ฝังลึกอยู่ในใจได้หลุดออกไป
เขาควบคุมอารมณ์ไว้ เขาสบัดแขนของเธอออกและหันหลังให้เธอ
“อย่าคิดมากเกินไป ผมไม่สามารถปล่อยมันไปได้เพราะผมไม่สามารถปล่อยให้ใครก็ตามที่มาดูถูกผมหลุดมือไป แม้ว่ามันจะไม่เกี่ยวอะไรกับคุณก็ตาม
เจเน็ตยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น
“คุณไม่จำเป็นต้องพูดซ้ำ ฉันรู้”
แน่นอนว่าเธอไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับมัน
เขาดูถูกเธอ ในวันที่เธอยืนอยู่ข้างพ่อของเธอและเลิกกับเขา
เมื่อมองดูแล้วเวลาก็หมุนเป็นวงกลมและเธอก็กลับมาที่ที่เธอเคยอยู่ เธออาจจะยังเป็นเธอคนเดิมแต่เขาไม่ใช่
ทันใดนั้นเจเน็ตก็รู้สึกเหนื่อยล้า
เธอพูดด้วยน้ำเสียงเบา ๆ “มันดึกแล้วฉันควรจะได้พักแล้ว ถ้าคุณไม่มีอะไรก็ออกไปซะ อย่าให้ฉันต้องเรียกตำรวจ”
เลียมเย้ยหยันอย่างเย็นชา “โทรหาตำรวจ? คุณคิดว่าผมจะกลัวไหมล่ะ?”
สายตาของเขาจ้องมองไปที่ท้องของเธออย่างอ้อยอิ่ง
เจเน็ตกัดฟันอย่างหงุดหงิด
คนอันธพาล
เธอตอบอย่างไร้ประโยชน์ “คุณต้องการอะไร? ฉันต้องทำอย่างไรคุณถึงจะออกไป?”
เลียมลองคิดดู เขาเดินเล่นไปที่โซฟาและนั่งลงโดยไม่เร่งรีบ
“ผมจะพาเด็กไปด้วยอย่างแน่นอน เพราะผมไม่เคยคิดที่จะปล่อยให้ลูกหลงไปในทางที่ผิด ดังนั้นผมจะคอยเฝ้าดูแลและอยู่ใกล้ ๆ คุณในตอนนี้ อย่ารำคาญจนวิ่งหนีไปล่ะ คุณจะไปที่ไหนก็ได้ตามที่คุณต้องการ แต่หลังจากที่เด็กเกิด”
“เออใช่ เพื่อเป็นการขอบคุณ ผมจะให้เงินจำนวนหนึ่งเผื่อในอนาคตคุณต้องการอะไร ไม่ต้องกังวลผมไม่โกงผู้หญิงเรื่องเงินหรอก”
จากความโกรธแค้น สีหน้าของเจเน็ตก็ซีดลง
“ไปไห้พ้น! ไม่มีใครต้องการเงินสกปรกของคุณ!”
เธอตะโกนขณะพยายามผลักเขาออกไป
เจเน็ตรู้ว่าเลียมพยายามจะเข้าไปในความคิดของเธอ
ท้ายที่สุด ทุกคนรู้ดีว่าลูกสาวคนโตของแฮนค็อก หญิงสาวจะขาดเหลืออะไรถ้าไม่ใช่เงิน