ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก - บทที่ 341 ไม่สามารถร่วมมือกันได้
ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก บทที่ 341 ไม่สามารถร่วมมือกันได้
เซลีนพยักหน้ารับ
“คุณปู่ หนูเคยแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง และมีหลายสิ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น หนูกลัว…”
ท่าทางของนายท่านใหญ่การ์เร็ตต์ดูซึมลง
“นั่นคืออดีต อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป หนูอย่าไปจมอยู่กับมัน เกรแฮมคนเล็กเป็นคนใจกว้างและเขาก็ไม่ได้รังเกียจหนู ดังนั้นหนูไม่ต้องกังวลเรื่องนี้”
เซลีนกัดริมฝีปากของเธอและส่ายหัวด้วยความแน่วแน่
“ไม่ มันเป็นความผิดของหนูทั้งหมด ถ้าหนูไม่ไปเจอคนผิดและรู้เรื่องของคุณพ่อและคุณย่าก่อนที่ผลจะออกมาแตกต่างแบบนี้ แม้ว่าหนูจะกลับมาที่ตระกูลการ์เร็ตต์แล้ว หนูรู้ดีว่าใคร ๆ ก็คิดว่าอดีตของหนูเป็นตราบาป”
“หนูอายค่ะคุณปู่ ทำไมหนูต้องสร้างปัญหาให้คนอื่นด้วย? มันจะยุติธรรมพอถ้าหากนายน้อยเกรแฮมใส่ใจ แต่เขาไม่และเขาก็ใจดีมาก นี่ก็เป็นเหตุผลมากพอแล้วที่หนูจะไม่ทำร้ายเขาและปล่อยให้ใคร ๆ ฉีกหน้าเขาด้วยการพูดว่าเขาแต่งงานกับลูกสาวของฆาตกร หนูทำไม่ได้!
ขณะที่เซลีนพูด เธอปิดใบหน้าของเธอเอาไว้พลางสะอื้น
นายท่านใหญ่การ์เร็ตต์โกรธมากจนสีหน้าของเขาไร้ซึ่งความรู้สึก และบรรยากาศภายในห้องก็ตึงเครียดขึ้น
หลังจากนั้นไม่นานเขาก็คำรามขึ้น “พวกสวะ! ใครคือลูกสาวของฆาตกร? หนูเป็นลูกบุญธรรมของพวกเขา! แม่ที่แท้จริงของหนูคือ ลูกสาวของตระกูลแจ็คแมน และไม่มีความเกี่ยวใด ๆ กับตระกูลเจนนิงส์ทั้งสิ้น! ความชั่วร้ายของตระกูลเจนนิงส์เกี่ยวอะไรกับหนูด้วย?”
เมื่อเขาพูดไปได้ครึ่งทาง นายท่านใหญ่การ์เร็ตต์ก็เริ่มไออย่างรุนแรงเพราะเขาโกรธจนเกินไป
อย่างรวดเร็ว เซลีนปลอบเขาด้วยการยื่นน้ำให้กับเขาและลูบหลังของเขาเบา ๆ หลังจากนั้นไม่นาน นายท่านใหญ่ก็รู้สึกดีขึ้น
เซลีนมองเขาอย่างทุกข์ใจ “คุณปู่ ดีขึ้นหรือยังคะ? หนูขอโทษ มันเป็นความผิดของหนูเอง หนูไม่ควรพูดเรื่องนี้ขึ้นมา…”
นายท่านใหญ่การ์เร็ตต์โบกมือและตอบกลับอย่างอ่อนแรง
“ปู่ไม่เป็นไรแล้ว หลานรัก อย่ากังวลไปเลย ปู่จะจัดการเรื่องนี้ให้หนูเอง คำพูดที่หนูได้ยินนั้นไม่สำคัญ ดังนั้นอย่าไปใส่ใจ ปู่รู้ว่าหนูมีความขัดแย้งกับลูกสะใภ้ตระกูลลีย์ และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมหนูถึงต้องแต่งงานกับเกรแฮมคนเล็ก เมื่อมีพวกเกรแฮมหนุนหลังหนู ลูกสะใภ้ตระกูลลีย์ก็จะไม่กล้ารังแกหนู แม้ว่าปู่จะจากไปแล้วก็ตาม
“นอกจากนี้หุ้นส้วน 15% ที่แม่ของหนูทิ้งเอาไว้ให้ จะถูกโอนไปเป็นชื่อของหนู จำเอาไว้ ไม่ว่าเกรแฮมคนเล็กจะพูดอะไรกับหนู หนูต้องไม่โอนหุ้นให้กับเขา เงินนี้มีไว้ให้หนูปกป้องตัวเอง หนูต้องเรียนรู้ที่จะต้องปกป้องตัวเองและไม่ไว้ใจใครง่าย ๆ”
ขณะที่เขาพูด เสียงไอของเขาก็ดังขึ้นอีกครั้ง ใบหน้าของเซลีนเต็มไปด้วยน้ำตา
“คุณปู่…”
“เซลีน ปู่ทำผิดกับแม่ของหนู ย้อนกลับไปถ้าปู่ไม่เรียกร้องให้เธอทิ้งผู้ชายคนนั้น หนูคงจะไม่โดนลักพาตัวไปและพลัดพรากจากตระกูลการ์เร็ตต์ และหนูจะไม่ต้องทนทุกข์มากขนาดนี้”
“แม่ของหนูเสียชีวิตด้วยโรคซึมเศร้า และมันเป็นเพราะหนู ปู่เพียงหวังให้หนูมีชีวิตที่ดีเพื่อเป็นการชดใช้สิ่งที่ปู่ทำกับแม่ของหนูและหนู”
เซลีนจับมือของเขาและร้องไห้ออกมา
ในขณะเดียวกันที่นอกบ้าน
จิม การ์เร็ตต์ แอบฟังบทสนทนาในบ้านและสีหน้าของเขาก็ดูไม่มีความสุข
หลังจากถอนหายใจอย่างรุนแรงเขาก็เดินจากไป
ณ การ์เร็ตต์ เรสซิเด้น ประกอบไปด้วยวิลล่าสามหลังที่เชื่อมต่อกัน นายท่านใหญ่อาศัยอยู่ในวิลล่าหลังหนึ่งส่วนลูกชายทั้งสองของเขาอาศัยอยู่ในอีกสองหลังตามลำดับ
เมื่อจิมก้าวออกมา เขาเห็นแฮเรียตจับแขนของโจเซฟเอาไว้ และพวกเขากำลังเดินมาหาเขา
ไม่ทันได้สังเกตว่าเขาโกรธมากแค่ไหน แฮเรียตทักทายเขาอย่างร่าเริง “พี่ชาย มันดึกแล้ว ทำไมคุณยังไม่นอนอีก?”
จิมเย้ยหยัน “ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวที่ยังไม่หลับไม่ใช่เหรอ? ฉันก็เห็นว่าพวกแกสองคนก็ยังเหมือนจะมีสุขภาพดี ตอนนี้ก็ตีสองแล้ว แต่แกก็ยังออกมาเดินเหมือนไม่กลัวความหนาว”
โจเซฟยิ้มออกมาอย่างใจเย็น “เราเป็นห่วงคุณพ่อ ดังนั้นเราค่อยไปนอนทีหลัง”
จิมหัวเราะเยาะ “ดี แกไม่คิดว่าว่าฉันไม่รู้ว่าแกกำลังทำอะไรอยู่เหรอ? แกแค่กังวลว่าจะไม่ได้รับมรดกหรือได้รับส่วนแบ่งน้อยลงถ้าคุณพ่อเสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน เลิกหลอกฉันเสียที ฉันรู้ว่าแกกำลังคิดอะไรอยู่”
โจเซฟดูอารมณ์เสียขึ้นมาทันที
“พี่ชาย ผมไม่รู้จะทำอย่างไรถ้าพี่คิดกับพวกเราแบบนี้ แต่พี่ไม่ควรตัดสินความเมตตาของคนอื่นด้วยการอาศัยมุมมองที่ใจแคบของพี่เอง พี่อาจจะจับตามองเรื่องมรดกของพ่อ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นจะคิดแบบเดียวกับพี่นะ”
จิมกัดฟันของเขา “พอ! แกเป็นคนมีเมตตาหรือไง? ทำไมแกถึงหาเรื่องมาบงการพ่อ? ถ้าแกเมตตาจริง ๆ แกคงไม่ปล่อยให้เธอหลอกพ่อเพื่อเอาหุ้น 15% ไปหรอก! ฉันจะบอกแกให้นะ หุ้นเหล่านี้เป็นของพวกการ์เร็ตต์ ทุกคนในตระกูลของเราควรได้รับส่วนแบ่ง ดังนั้นอย่าเก็บทุกอย่างเอาไว้กับแค่ตัวเอง! เรื่องอื่นฉันไม่สนใจหรอกแม้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม!”
โจเซฟขมวดคิ้ว
“พี่ชาย คุณพ่อแบ่งหุ้นให้เซลีนและไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับพวกเราเลย”
“ฮ่า!” จิมทำท่าราวกับได้ยินเรื่องตลก “เซลีน เจนนิงส์เหรอ? เธอเหรอ? พ่อฟังแกและตอนนี้เขาคิดว่าเธอเป็นลูกของจูลี่ นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเขาถึงมอบมันให้เธอ เมื่อเขารู้ว่าเธอไม่ใช่ลูกของจูลี่ แกคิดว่าใครจะได้หุ้นไป?”
สีหน้าของโจเซฟหม่นลง
“พี่หยุด! มันเป็นเรื่องไร้สาระ!”
“ฉันพูดเรื่องไร้สาระ หรือแกรู้สึกผิดกันแน่? ฉันรู้เรื่องนี้มาตลอด ฉันแค่เก็บมันไว้เป็นความลับเพื่อให้พ่อมีความสุข แต่แกมันโง่ที่คิดว่าฉันไม่รู้! ฉันจะบอกแกให้นะ ถึงจะไม่มีใครห้ามจากสิ่งที่แกกำลังทำ แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้แกได้หุ้นทั้งหมดไป ถ้าแกไม่เชื่อฉัน ค่อยดูแล้วกันว่าสุดท้ายใครจะชนะ!”
จากนั้นเขาก็เดินออกไป
เธอขมวดคิ้ว แฮเรียตจับแขนโจเซฟและพูดขึ้นเบา ๆ “โจเซฟ พี่ชายจะบอกตัวตนที่แท้จริงของเซลีนให้พ่อรู้ไหม?”
โจเซฟส่ายหัว
“ไม่หรอก พ่อยังไม่ได้ทำพินัยกรรม การเปิดเผยตัวตนของเธอในเวลานี้ไม่เป็นผลดีกับเขา สมมุติว่าเขาจะเริ่มสู้ เขาจะรอจนกว่าพ่อจะทำพินัยกรรม”
แฮเรียตถอนหายใจอย่างโล่งออก
“เราทำทุกอย่างเพื่อให้คุณพ่อได้อยู่นานขึ้นอีกหน่อย คุณไม่สังเกตหรือว่าตั้งแต่เซลีนกลับมา พ่อก็สุขภาพดีขึ้นมากและดูมีกำลัง? คราวนี้เขาป่วยเพราะอุบัติเหตุ”
โจเซฟพยักหน้า
“นั่นคือความจริง พวกเราการ์เร็ตต์ต้องพึ่งพาคุณพ่อในตอนนี้ เมื่อเขาจากพวกเราไป ครอบครัวจะต้องแตกแยกจากกันเหมือนกับเม็ดทรายที่กระจัดกระจาย ไม่สามารถร่วมมือกันได้ เมื่อเวลานั้นมาถึงครอบครัวการ์เร็ตต์จะไม่มีทางสู้กับใครได้ ผมกลัวว่าเมื่อถึงตอนนั้น พวกเราจะถูกแยกออกจากสี่ตระกูลใหญ่”
แฮเรียตก็เป็นกังวลกับเรื่องนี้เช่นกัน
อย่างไรก็ตาม โจเซฟลูบมือของเธออย่างแผ่วเบาและปลอบเธอ “โชคดีที่คุณพ่อไม่เป็นอะไร ดังนั้นเราจึงไม่ต้องกังวลมากนัก เราแค่ต้องคอยดู ถ้าอาการของเขายังทรงตัว พวกเราค่อยกลับไปนอน”
แฮเรียตพยักหน้า