ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก - บทที่ 517 ท่ามกลางสายฝนที่ใกล้เข้ามา
ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก บทที่ 517 ท่ามกลางสายฝนที่ใกล้เข้ามา
”มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น”
โจเอลอดไม่ได้ที่จะถาม
ลีวายรีบเล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
เมื่อเขาได้รู้เรื่องเกี่ยวกับสะพานที่หัก แล้วลูซี่ที่กำลังห้อยอยู่ด้านล่าง โจเอลก็ตกใจมาก ตอนนี้เขาบอกได้เลยว่าเขาโกรธมาก
“แล้วทำไมถึงยังยืนอยู่ที่นี่กัน คุณปล่อยให้เธอห้อยอยู่ที่นั่นคนเดียวเหรอ?”
ลีวายรู้สึกผิดมากที่ถูกเขาตะโกนใส่อย่างเย็นชา
“นายน้อยฟอสเตอร์ เราไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ผมได้เรียกใครสักคนมาแล้ว แต่ฝนมันตกหนักมากและพวกเขากำลังเดินทางมาจากในเมือง มันใช้เวลาอย่างน้อยประมาณยี่สิบนาทีเพื่อมาที่นี่ ผมกลัวว่าลูซี่ไม่อาจจะทนได้นานขนาดนั้น”
คาริน่ากังวลมากจนน้ำตาของเธอไหลออกมาจากดวงตาของเธอ
“นายน้อยฟอสเตอร์ คุณต้องช่วยพี่ลูซี่นะ คุณมีมีเงินทองและมีทางออกที่ดีใช่ไหม?”
ใบหน้าของโจเอลเปลี่ยนเป็นโกรธทันที
“ผมไม่ใช่พระเจ้า และผมไม่อยากให้ใครต้องมานองเลือดที่นี่ ผมทำอะไรได้บ้าง”
ความหวังได้คืบหลานใส่พวกเขา ใบหน้าของคนกลุ่มนั้นมืดมัวทันที
ในตอนนั่นเอง ที่เริ่มมีฟ้าผ่าลงมา
บนท้องฟ้าถูกปกคลุมอีกครั้ง
ทุกคนตกใจกับเสียงฟ้าร้องและทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงขาดมาจากใต้หน้าผา มีคนร้องไห้ “เชือกคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน”
ทุกคนหน้าซีดแล้ววิ่งไปที่ขอบหน้าผาเพื่อมองดู
ในตอนแรกเชือกติดอยู่กับสะพาน เพราะว่ามันทรุดโทรมมาหลายปีและการกร่อนของหิน การฉีกขาดที่เล็กน้อยจากจุดหนึ่ง เหมือนเป็นการขู่ว่าจะหัก
“พวกเราจะทำยังไงดี”
คาริน่าร้องไห้ออกมา
ใบหน้าของโจเอลมืดลงทันที ทันใดนั้นเขาก็หันไปมองเห็นเชือกที่อยู่ไม่ไกลออกไป
“เชือกนั้นมันยาวแค่ไหน”
ลีวายรู้ทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร
เขาขมวดคิ้วและพูดอย่างเศร้าว่า “มันไม่ปลอดภัยที่จะใช้คนลงไป เพียงแค่ใช้เชือกกับสภาพอากาศแบบนี้ที่มีฝนตกหนัก หน้าผามันยาวหลายร้อยเมตรมันง่ายที่จะลื่นไถลตกลงไป มันอันตรายเกินไป”
โจเอลไม่ฟังที่เขาพูดเลย เขาถามซ้ำกับคำถามเดิมว่า “ผมถามว่าเชือกนี้มันยาวแค่ไหน”
ลีวายตกใจกับรังสีของเขา เขาหดตัวกลับไปเล็กน้อย และพูดกลับมาว่า “มันประมาณห้าสิบถึงหกสิบเมตร สะพานมีความยาวเพียงแค่สี่สิบเมตร ดังนั้นมันเพียงพอ”
โจเอลไม่ได้พูดอะไรอีก ด้วยใบหน้าที่เย็นชาเขาหันกลับไปที่เชือก ถอดแจ็คเก็ตที่เปียกของเขาออก เหลือเพียงเสื้อยืดเท่านั้น จากนั้นเขาก้เอาเชือกรัดไว้ที่ร่างกายของเขา
“นายน้อยฟอสเตอร์!”
“นายน้อยรอง คุณทำมันไม่ได้”
เด็กที่มีฐานะที่มากับเขาเต็มไปด้วยความตกใจ
ถ้าพากเขายังไม่เข้าใจกับสิ่งที่เขากำลังวางแผนที่จะทำในตอนนี้ พวกเขาก็คือคนไม่มีเหตุผล
พวกเขารู้จักมานานแล้ว ทุกคนรู้ว่าเขาารักความสวยงาม อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเป็นแบบนี้
ฝนตกหนักมาก แต่เขาจะลงไปด้วยเชือก มันบอกได้ว่าเขาบ้าระห่ำขนาดไหน
หนึ่งในนั้นที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับโจเอลรีบโนมน้าวทันที “นายน้อยโจเอล ฟอสเตอร์ มันไม่จำเป็นเลย คุณไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้เลย ถึงแม้ว่าคุณแคทซ์จะได้การยอมรับว่าเป็นคนสวย แต่พวกเขาก็บอกแล้วว่าผู้ช่วยเหลือใกล้จะมาถึงแล้ว คุณไม่ต้องลงไปด้วยเองหรอก”
โจเอลมองชายคนนั้นด้วยใบหน้าที่เย็นชา “คุณไม่เห็นเหรอว่าเชือกมันกำลังจะขาด คุณคิดว่าเธอสามารถจับมันไว้ได้ถึงยี่สิบนาทีไหม”
คนนั้น “…..”
ชายหนุ่มอีกคนที่มากับเขา เห็นสถานการณ์ก็มาออกความคิดเห็น
“นายน้อยฟอสเตอร์ นี่มันไม่ใช่ตัวคุณเลย ไม่เห็นจำเป็นจะต้องเสี่ยงชีวิตของคุณ เพื่อคนที่คุณไม่รู้จักเลย ใช่ไหม?”
โจเอลหัวเราะอย่างเย็นชา
น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความทะนงตน ราวกับเป็นคำพูดที่เขาต้องการที่จะคุยโอ้อวด
“ใครบอกว่าผมไม่รู้จักเธอ”
ทุกคน “???”
โเอลเหลือบมองอย่างเย็นชา ที่เต็มไปด้วยความชั่วร้ายอย่างกล้าหาญ “เธอเป็นหนี้ผม ผมกังวลว่าจะไม่มีใครจ่ายเงินผมคืน ถ้าเธอตายโอเคไหม?”
“…”
ทุกคนตกอยู่ในความเงียบไปสักพักนึง ภาพลักษณ์ของชายหนุ่มคนนี้สดใสอีกครั้ง เพราะความไม่แน่นอนของเขา
โจเอลไม่ได้ใส่ใจพวกเขา หลังจากที่ผูกเชือกเข้ากับรอบเอวของเขา เขาส่งอีกอีกฝั่งหนึ่งไปที่ลีวาย
“บอกใครสักคนสองสามคนที่แข็งแรงจับให้แน่น ถ้ามีสิ่งใดผิดปกติ คุณจะไม่สามารชดใช้ได้แม้แต่ชีวิตของคุณ เข้าใจไหม?”
ลีวายรู้ว่าโจเอลกำลังลงไปที่นั่นด้วยตัวเอง ทำให้เขารู้สึกกลัวอย่างมาก เขาจะกล้าปธิเสธได้อย่างไร
เขาพูดด้วยใบหน้าที่คร่ำครวญ “นายน้อยฟอสเตอร์ ทำไมคุณไม่คิดอีกสักครั้ง คุณ…..เอ่อ ถ้าคุณเกิดอุบัติเหตุผมไม่สามารถชดใช้สิ่งที่ตามมาได้แน่นอน”
โจเอลเป็นลูกชายคนรองของตระกูลฟอสเตอร์ เป็นทายาทของหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นที่นี่ แม้แต่เด็กที่มีฐานะที่มากับเขาในวันนี้ ยังไม่ยอมให้เขาเดินจากไป ลีวายก็ด้วย
ตามนิสัยของตระกูลฟอสเตอร์แล้ว พวกเขาอาจจะต้องถูกฝังไปพร้อมกับโจเอลแน่นอน
โจเอลยิ้มอย่างเย็นชา
“นั่นคือเหตุผลที่คุณจะต้องถือเชือกไว้แน่น ๆ เข้าใจไหม?”
ลีวายไม่กล้าพูดอะไรอีก และพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง
ในทางตรงกันข้าม คาริน่ารู้ว่าลูซี่กำลังจะได้รับการช่วยเหลือ จึงรีบไปข้างหน้าเพื่อจับปลายเชือกอีกด้านหนึ่งไว้ พร้อมกับรอยยิ้มบมใบหน้าของเธอ
เธอพูดให้กำลังโจเอล “นายน้อยฟอสเตอร์ ไม่ต้องกังวล แม้ว่าทุกคนจะปล่อยมัน ฉันจะไม่ปล่อยมันถึงแม้ว่าฉันจะต้องตาย ฉันจะไม่ปล่อยคุณสองคนตกลงไปอย่างแน่นอน”
ใบหน้าของโจเอลหม่นหมองในคำพูดของเธอทันที
เขาจ้องมองคาริน่าอย่างดุเดือด
ผู้หญิงคนนี้พูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่
ถ้าคนอื่นปล่อยไป จะทำยังไงเธอจะสามารถจับมันไหวเหรอ
ด้วยขนาดตัวเธอที่เล็กแบบนี้ อาจจะทำให้เธอโดนลากลงไปด้วยกัน
เด็กที่มีฐานะที่เหลือเห็นคาริน่าแสดงซื่อสัตย์ของเธอ พวกเขาก็เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าพวกเขาอย่างทันที
โจเอลตัดสินใจที่จะลงไป ในมุมมองของเขา มันเป็นเพียงการตามหานักแสดงสาวที่สวยงาม นั่นคือสิ่งที่เขากำลังจะทำในตอนนี้
จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น ด้วยโอกาสนี้อย่างแน่นอน พวกเขาจะรีบแสดงความซื่อสัตย์ของพวกเขาเช่นกัน
ดังนั้นกลุ่มคนก็คว้าเชือกกับคาริน่าแล้วพูดอย่างเด็ดขาด “นายน้อยโจเอล ไม่ต้องห่วง พวกเราจะดึงพวกคุณสองคนขึ้นมาอย่างแน่นอน”
“ใช่ ๆ พี่สะใภ้ และพี่จะต้องปลอดภัย”
คำว่า “พี่สะใภ้” ทำให้กลุ่มของลีวายก็ตกตะลึง
อย่างไรก็ตามสีหน้าของโจเอลไม่ได้เปลี่ยนสักเท่าไหร่ เขาพยักหน้า และจับเชือกก่อนจะลงไปที่หน้าผา
ณ ในอีกด้านหนึ่ง
ลูซี่รู้สึกเหมือนกับว่าวที่ติดกับต้นไม้ ที่สามารถขาดจากกันได้ตลอดเวลาจากพายุ
เธอยังมีประจำเดือนอยู่ ไม่เพียงแขนที่กำลังเจ็บปวดจากรับน้ำหนัก แต่ท้องของเธอก็ยังปวดด้วยเพราะความเย็นที่มาจากฝน
ในตอนนี้ลูซี่ไม่สามารถทนมันไว้ได้อีกต่อไป เธอรู้สึกว่าการมองของเธอเป็นภาพเบลอ ๆ เธอเห็นร่างหนึ่งค่อย ๆ ไต่หน้าผาลงมาหาเธอ
ฝนตกหนักทำให้มันเบลอฉากข้างหน้าไปทั้งหมด สิ่งที่เธอเห็นก็คือม่านของฝนที่ตกลงมา ร่างของฮีโร่คนหนึ่งที่ตกลงมาจากท้องฟ้าลงมาหาเธอพร้อมกับออร่าความเย็นที่ตัดผ่านทุกสิ่งออกไป
เธอรู้สึกแข็งทื่อ และพยายามที่จะเปิดปากส่งเสียง แต่ก็ไม่มีอะไรออกมา
คอของเธอแหบจนไม่สามารถพูดออกมาได้