ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก - บทที่ 545 กลัวสุดขีด
ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก บทที่ 545 กลัวสุดขีด
เมื่อลูซี่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ขึ้นมา เธอพูดว่า “ยอมแพ้ซะเถอะ ฉันจะไม่ให้เงินคุณอีกต่อไป!”
อีกฝ่ายก็ตื่นตระหนกเมื่อได้ยิน
“ลูซี่ แคทซ์! หัดมีสำนึกซะบ้าง ใครเป็นคนพาแกและแม่ของแกไปเมื่อตอนที่แกกำลังจะตาย? อย่าบอกนะแกว่าอยากเห็นฉันตายตอนนี้?”
“ให้ฉันเตือนแกนะ ถ้าตอนนี้แกไม่สนใจฉัน อย่าโทษฉันที่เปิดโปงทุกอย่างแล้วกัน! ยังไงฉันก็จะตายอยู่แล้ว หลังจากที่ฉันเปิดเผยทุกอย่างแล้ว มันจะไม่เป็นธุระอะไรของฉันอีก”
เมื่อได้ยินคำพูดของลูซี่ ชายที่ในสายก็ยิ่งเพิ่มความโกรธที่รุนแรงขึ้น
เขาไม่คิดว่าลูซี่จะปฏิเสธเขาโดยตรงและไม่สนใจเขาแบบนี้
เป็นเพราะเธอไร้หัวใจ เธอก็ไม่ควรจะโทษสิ่งที่เขาพูดคำเหล่านี้
“คุณต้องการอะไร?”
สิ่งที่ชายคนนั้นพูดถึงคือ ช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดของลูซี่ เธอไม่ต้องการให้คนดู เพื่อน และแฟน ๆ รู้เกี่ยวกับวัยเด็กของเธอ
“ตอนนี้แกไม่สนใจฉัน แล้วฉันจะเปิดเผยทุกอย่างต่อสาธารณะ หรือแกจะนำเงินสดมาให้ฉันแล้วไปพบฉันที่บาร์”
ชายคนนั้นรู้ว่าวิธีนี้ได้ผลเสมอ
ลูซี่เป็นบุคคลสาธารณะ ดังนั้นเธอจึงกลัวเรื่องซุบซิบ และเรื่องอื้อฉาวมากที่สุด
สิ่งเหล่านี้อาจทำให้เธอไปฉาวอยู่บนอินเตอร์เน็ตได้
ลูซี่ก็กลัวสิ่งนี้เช่นกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้เธอต้องการเงินมากกว่าที่เคย
หากเธอต้องการเงิน เธอจะต้องเริ่มถ่ายทำรายการที่มีชื่อเสียง
เมื่อถึงจุดนั้น ลูซี่ก็จะไม่สามารถเปิดเผยอดีตของเธอได้ เพราะมันจะเป็นอันตรายต่ออาชีพการงานของเธอ
“ได้ รอฉันอยู่ที่นั่น”
แม้ว่าลูซี่จะกลัวที่จะไปที่นั่น แต่เธอก็จำเป็นต้องไป
ทั้งหมดนี้เพียงเพื่อให้เธอสามารถหาเงินเพื่อดำรงชีวิตต่อไปได้
หลังจากนั้นไม่นาน เธอนั่งแท็กซี่ไปยังสถานที่ที่พ่อเลี้ยงของเธอรออยู่
ในความเป็นจริง แม้ว่าเขาจะเป็นพ่อของเธอ แต่เขาเป็นเพียงพ่อเลี้ยงของเธอ ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของเธอ
เนื่องจากเขาเป็นพ่อเลี้ยงของเธอ ใคร ๆ ก็จะคิดว่าเขาเป็นพ่อของเธอ ดังนั้นลูซี่จึงไม่สามารถกำจัดเขาได้
แม้ว่าบางครั้งเขาจะทำตัวมากเกินไป แต่เธอก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น
ลูซี่อยู่ที่บาร์และนำเงินไปช่วยพ่อเลี้ยงของเธอ
“โอ้! ในที่สุดแกก็มาถึงสักที! เงินอยู่ที่ไหน?”
ตอนแรกเธอคิดว่าพ่อเลี้ยงของเธอกำลังจะตาย แต่เมื่อเธอมาถึงบาร์ เขาก็นั่งพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้อย่างสบายใจ
เขาเสียบไม้จิ้มฟันไว้ระหว่างฟัน และมองดูเธอด้วยใบหน้าที่สมเพช
“คุณไม่ได้บอกว่าคุณกำลังจะตายหรอกเหรอ? ทำไมคุณยังไม่ตายอีกซะที?”
ลูซี่เห็นเหตุการณ์ตรงหน้าเธอ และรู้ว่าเธอถูกเขาหลอกอีกแล้ว
“วิธีการมันไม่สำคัญ สิ่งสำคัญคือแกมีเงินสดอยู่แล้ว ไม่ว่าฉันจะตายหรือไม่ตาย มันก็ไม่สำคัญแล้ว”
หลังจากที่เขาพูดแบบนี้ เขาก็ลุกขึ้นและคว้าถุงเงินจากลูซี่
จากนั้นเขาก็นับเงินต่อหน้าเธอ
“ทำไมแกมีเงินแค่นี้เอง? ครั้งหน้าเอาอีกได้ไหม แค่นี้ยังไม่พอสอดช่องว่างระหว่างฟันของฉันเลย”
ขณะที่เขาพูดแบบนี้ เขาก็เก็บก้อนเงินสดใส่ในเสื้อของเขา
“คุณคิดว่ามันน่าตื่นเต้นมากเหรอที่จะหลอกฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า? ตอนนี้คุณแค่ทำกับฉันเหมือนเป็นตู้เอทีเอ็ม คุณจะมองหาฉันเมื่อคุณไม่มีเงิน ฉันมีหน้าที่อะไรที่ต้องคอยสสนับสนุนคุณต่อไปอีก?”
ลูซี่รู้สึกเหมือนกำลังจะตายจากความโกรธ ร่างกายของเธอสั่นไปหมด ถ้าพูดให้ถูก เธอโกรธมากจนฟันของเธอกระทบกันอย่างแรง
“อา! ดูสิ ลูกสาวฉันคนนี้หน้าตาดีทีเดียว เธอยังเป็นดาราหนังรายใหญ่อีกด้วย ถ้าตอนนี้เราถ่ายรูปเธอสองสามภาพ เธอคิดว่าครั้งหน้าถ้าฉันเงินฉันหมด เธอจะให้มันเอาเงินมาให้พวกเราไหม?”
พ่อเลี้ยงของลูซี่ชายตามองเธออยู่นาน แล้วจึงหันไปเผชิญหน้ากับพวกผู้ชายที่นั่งอยู่รอบตัวเขา
กลุ่มผู้ชายที่นั่งที่โต๊ะไม่คิดว่าพ่อเลี้ยงจะเอาความคิดดังกล่าวมาใช้กับลูกสาวของเขา
“นี่คุณ…”
ลูซี่หันกลับมามองพ่อเลี้ยงอย่างโกรธจัด ใบหน้าที่เย็นชาราวกับธารน้ำแข็งของเธอกระตุก
พ่อเลี้ยงของเธอหัวเราะและยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
เขาไม่กลัวที่จะทำให้ลูซี่โมโหขึ้น
ลูซี่เห็นว่าผู้ชายที่อยู่ข้างหลังพ่อเลี้ยงของเธอเริ่มเดินเข้ามาหาเธอ
“คุณ…คุณคิดจะทำอะไรน่ะ?”
ในขณะนั้น ลูซี่กลัวมากจนร่างกายของเธอหดเล็กลง เธอยังคงตั้งท่าเผชิญหน้าอยู่ ใบหน้าของเธอซีด และริมฝีปากของเธอไม่สามารถหยุดสั่นได้
เธอรู้สึกหวาดกลัว โกรธเคือง และผิดหวัง
เมื่อเห็นผู้ชายเดินเข้ามาใกล้เธออย่างช้า ๆ เธอรู้สึกว่าเธอรู้ว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร
ลูซี่ทนไม่ไหวที่จะเห็นพ่อเลี้ยงของเธอถูกฆ่าโดยพวกเจ้าหนี้เถื่อน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอมาถึง เธอสังเกตเห็นว่าพ่อเลี้ยงของเธอได้คบกับคนเหล่านี้ พวกเขาพร้อมที่จะรีดไถเงินจากเธอมากกว่านี้
ลูซี่นึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าพ่อเลี้ยงของเธอจะเป็นคนที่เสนอความคิดที่ผิด ๆ แบบนี้
เขายังอยากจะถ่ายรูปเธออีก…
เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้เธอก็รู้สึกหวาดกลัว
เธอไม่เคยโดนอะไรเช่นนี้มาก่อน ดังนั้นเธอจึงไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร
คนเหล่านั้นรีบต้อนลูซี่ไปชิดที่กำแพงอย่างรวดเร็ว
ลูซี่ค่อย ๆ เปลี่ยนท่าของเธอจากการยืนพิงกำแพงเป็นนั่งยอง ๆ และกอดเข่าตัวเองแน่น
“ช่วยด้วย! ได้โปรด! อย่าทำแบบนี้เลย!”
ลูซี่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอ้อนวอน และอ้อนวอนต่อกลุ่มผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าเธอ
เธอยังเด็กมากและไม่ต้องการทำลายอนาคตของเธอ
จากนั้น ลูซี่ก็ร้องขอความช่วยเหลืออย่างสุดเสียง
โจเอล ฟอสเตอร์ที่เพิ่งเดินเข้าไปในบาร์ ได้ยินเสียงกรีดร้องนี้
เขาคุ้นเคยกับเสียงนี้มาก ดังนั้นเขาจึงเดินตามเสียงนี้และพบว่า ลูซี่ แคทซ์กำลังโดนล้อมอยู่ตรงนั้น
เมื่อเขาไปถึงที่นั่น เขาสังเกตเห็นผู้ชายสองสามคนกำลังต้อนเธออยู่
โจเอลมักจะเกลียดสิ่งเหล่านี้ และเสียงนี้ก็ฟังเหมือนเสียงของลูซี่มากเกินไป
มันจะเป็นเรื่องบังเอิญได้หรือเปล่านะ?
โจเอลไตร่ตรองแล้วรีบมุ่งไปหาพวกผู้ชาย และจัดการพวกมันทีละคน
“ลูซี่ แคทซ์?!”
“ฉันขอร้อง! ช่วยฉันด้วย! ช่วยฉัน!”
ลูซี่เห็นพวกผู้ชายที่อยู่ข้างหน้าเธอรีบจากไปไปอย่างกะทันหัน เมื่อเธอเงยหน้าขึ้น เธอก็เห็นโจเอล ฟอสเตอร์กำลังยืนอยู่ตรงหน้าของเธอ