ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก - บทที่ 558 เขามาเยี่ยม
ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก บทที่ 558 เขามาเยี่ยม
เมซ สมิธไม่เคยเชื่อเลยว่า ลูซี่ แคทซ์จะมีความสัมพันธ์กับไซมอน วิลเบิร์น เขาไม่อยากจะเชื่อเลย!
อย่างไรก็ตาม จู่ ๆ เขาก็นึกถึงสิ่งที่ลูซี่พูดกับเขา ในวันนั้นมันทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดใจ
เมซนั้นมีหัวใจที่มั่นใจ แต่ตอนนี้มันเริ่มสั่นคลอน
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่มั่นใจว่าลูซี่ชอบไซม่อนหรือเปล่า แต่เขารู้จักไซม่อนเป็นอย่างดี
ท้ายที่สุดแล้ว ผู้ชายคนนั้นเป็นเพลย์บอย และเคยมีมีเรื่องอื้อฉาวบางอย่างในอดีต
คนภายนอกไม่รู้เรื่องราวทั้งหมด เพราะว่าแฟน ๆ ของเขาปล่อยผ่านไป ไม่ว่าข่าวลือจะอื้อฉาวแค่ไหน พวกเขาก็ยังเชื่อว่าไซมอนยังเป็นไอดอลที่น่าเอ็นดูและสมบูรณ์แบบ
เมซอยู่ในแวดวงคนรวยรุ่นที่สอง ดังนั้นเขาจึงรู้แค่นิดหน่อย
ถึงแม้ว่าคนกลุ่มนี้จะไม่ได้ใหญ่แต่ก็ไม่ได้เล็ก ข่าวก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเขารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น กับภาพลักษณ์ของไซมอน ในหมู่ของพวกเขา เขาไม่ได้ดีที่สุด
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของความรัก ไซมอนอาจถือว่าเป็นคนที่คลั่งรักจนมากเกินไป
มีกระทั่งการพูดถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่อยากจะกระโดดตึก เพราะเขา!
แม้แต่ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์บางคนยังต้องการให้ไซมอนรับผิดชอบ!
ฮ่า! การที่เป็นผู้ชายแล้วทำแต่สิ่งที่หลอกลวงกับผู้หญิง เขาเป็นคนดีหรือไง
ในฐานะที่เขาเป็นเพื่อนกับลูซี่ หรือในฐานะอดีตคู่หมั้นของเธอ เมซจะทนเห็นเธอถูกนอกใจไม่ได้
เขาต้องทำอะไรบางอย่าง!
ขณะที่เขาคิดเรื่องนี้ เขาจ้องไปที่หมายเลขโทรศัพท์ที่เขาเพิ่มไว้เมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่เคยโทรไปเลย ความรู้สึกชั่วร้ายกระพริบผ่านดวงตาของเขาไป
เขากดที่หมายเลขเพื่อโทรหาบุคคลนั้น
ในขณะเดียวกันอีกด้านหนึ่ง
คืนนี้ ลูซี่เพิ่งทานอาหารเย็นกับคาริน่า เธอกำลังนอนอยู่บนโซฟา
เพราะว่า ซูซาน รีทสั่งไม่ให้ลูซี่ออกจากบ้าน เธอจึงถูกกักตัวอยู่ที่บ้าน
เมื่อเธอเบื่อ เธอจึงโทรหา เพื่อให้คาริน่ามาหาเธออยู่เป็นเพื่อนดูหนังและละคร วันนี้จึงเป็นวันที่ผ่อนคลายและมีความสุข
พวกเขาไม่มีอะไรทำ ดังนั้นพวกเขาจึงเล่นเกมและเล่นหมากรุกกัน
เมื่อพวกเขาต้องการที่จะฆ่าเวลา พวกเขาก็ไม่สนใจว่าสิ่งที่พวกเขาเล่นมันคืออะไร
คาริน่าเป็นเชฟที่ดีเลย ถ้าลูซี่มีทางของเธอ เธอคงอยากให้คาริน่าทำอาหารให้เธอทุกวัน ในขณะที่พวกเขาอยู่ที่กองถ่าย แต่สิ่งนี้ไม่ได้รับอนุญาต
ลูซี่ทำได้เพียงแค่คิดเรื่องนี้ไว้ เพราะในฐานะนักแสดง เธอต้องรักษารูปร่างของเธอไว้
ถ้าคาริน่าทำอาหารที่อร่อยแบบนี้ให้เธอทุกวัน เธอไม่มีทางลดน้ำหนักได้แน่นอน!
ขณะที่ลูซี่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกเศร้า
เธอลุกขึ้นเดินไปที่กระจกบานใหญ่
ลูซี่เห็นภาพสะท้อนที่เรียวบางของเธอ บีบไขมันตรงหน้าท้องที่ไม่มีอยู่ และถามคาริน่าที่กำลังล้างจานอยู่ในครัว
“คาริน่า สองสามวันที่ผ่านฉันอ้วนขึ้นหรือเปล่า?”
คาริน่ากำลังล้างจานและหันกลับมามองที่ลูซี่ เธอหัวเราะและพูดว่า “พี่ลูซี่ พี่อ้วนตรงไหน พี่ผอมขนาดนั้นและสวยอีก แทบจะไม่มีไขมันเลยด้วยซ้ำ”
ลูซี่ดีใจที่ได้ยินแบบนั้น เธอหันกลับมาพร้อมกับส่งจูบให้กับคาริน่า ก่อนจะเดินกลับไปที่โซฟาด้วยใบหน้าที่เห็นด้วย
ก้นของเธอยังไม่ทันได้แตะโซฟา ก็มีเสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้น
เธอตกใจเล็กน้อยเต็มไปด้วยความประหลาดใจ
ลูซี่เหลือบมองดูเวลา มันเป็นเวลาสองทุ่มแล้ว ใครจะแวะมาเยี่ยมกัน
ยิ่งไปกว่านั้น ในเมืองหลวงไม่ค่อยมีคนรู้ว่าเธอพักอาศัยอยู่ที่ไหน แล้วใครจะมาเยี่ยมเธอในตอนนี้
ลูซี่คิดว่าน่าจะเป็นซูซาน เธอจึงไม่คิดมากแล้วเดินไปเปิดประตู
อย่างไรก็ตาม เมื่อเธอไปถึงประตู เธอมองจากช่องมองก็ตกใจ เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนรออยู่ด้านนอก สีหน้าของเธอเปลี่ยนไป
คาริน่าที่กำลังล้างจานอยู่ในครัว ก็ได้ยินเสียงกริ่งประตูเช่นกัน
เธอคิดว่าเธอได้ยินเสียงของการเปิดประตู แต่หลังจากนั้นไม่นานก็ไม่มีเสียงเคลื่อนไหวใด ๆ เธอจึงถามด้วยความสงสัย “พี่ลูซี่ ใครเหรอ”
ลูซี่ไม่ตอบ
คาริน่าเช็ดมือของเธอด้วยผ้าแห้งแล้วเดินออกไป
เธอเห็นว่าลูซี่ยืนอยู่หน้าประตูแต่ไม่ยอมเปิดประตู เธองงและถามว่า “พี่ลูซี่ เป็นอะไรไป มีคนมาเคาะประตูไม่ใช่เหรอ ทำไมไม่เปิดล่ะพี่”
ใบหน้าของลูซี่เปลี่ยนไป เธอไม่รู้ว่าเธอควรจะหัวเราะ หรือร้องไห้ก่อนดี
หลังจากเวลาผ่านไปสักพัก เธอก็สูดหายใจเข้าลึก ๆ
ลูซี่เตรียมจิตใจให้พร้อมอย่างแน่ใจก่อนที่เธอจะเปิดประตู
ประตูเปิดออก คาริน่าก็ต้องตกใจเช่นกัน เมื่อเห็นชายร่างสูงที่มีรูปร่างที่ดียืนอยู่ตรงนั้น
เธอเอามือปิดปากและไม่พูดอะไร
โจเอล ฟอสเตอร์ สวมชุดสูทสีดำก่อนจะพาเอาอากาศเย็นจากภายนอกเข้ามา ดวงตาที่หล่อเหลาของเขา ถูกปล่อยออกมาพร้อมกับความงามที่อยู่ภายใต้แสงอันอบอุ่นในโถงทางเดิน ซึ่งทำให้คน ๆ หนึ่งกลั้นหายใจได้
เขาเพียงแค่จ้องไปที่ คาริน่าด้วยดวงตาที่เย็นชาและหันไปมองลูซี่อย่างวางมาด เขาถามเธอว่า “ทำไมคุณใช้เวลานานขนาดนั้น?”
ลูซี่หยุด
เธอแอบคิดว่า ‘ฉันควรบอกความจริงเขาดีไหม ฉันสองจิตสองใจเพราะเห็นคุณ’
ลูซี่ไม่กล้าบอกความจริงกับเขาว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดังนั้นเธอจึงหัวเราะอย่างช้า ๆ
“อืม…พอดีประตูมีปัญหานิดหน่อย มันติดนิดหน่อย ฮ่าฮ่า…ฉันเลยต้องบิดสองสามครั้งถึงจะเปิดได้”
โจเอลมองดูเธออย่างจริงจัง และไม่รู้ว่าจะเชื่อสิ่งที่เธอพูดดีไหม
วินาทีต่อมา เขาหันไปทางคาริน่าที่ยังคงตะลึงงันและพูดอย่างว่างเปล่าว่า “ไม่มีอะไรให้คุณต้องทำแล้ว กลับไปได้แล้ว”
คาริน่ากลัวเขา แม้ว่าเธอจะรู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างลูซี่กับโจเอล แต่เธอก็ไม่รู้เกี่ยวกับข้อตกลงล่าสุดของพวกเขา
เธอเห็นสีหน้าไม่พอใจของโจเอล ก็กลัวว่าเขาจะทำร้ายลูซี่ ดังนั้นเมื่อโจเอลพูดแบบนี้ เธอจึงหันไปมองสีหน้าของลูซี่
ใบหน้าของลูซี่หดหู่ แต่เธอไม่ได้คิดอะไรมาก เธอเหลือบมองคาริน่าและพูดว่า “คาริน่าเธอกลับบ้านได้แล้ว ฉันยังมีบางอย่างต้องจัดการต่อ”
คาริน่ายังคงรู้สึกหมดหนทางและขมวดคิ้วไปด้วยความกังวล
“พี่ลูซี่ พี่…”
ลูซี่หันกลับมาและยิ้มให้กำลังใจเธอ
“ไม่ต้องห่วง ไม่เป็นอะไร พรุ่งนี้อย่าลืมมาทำอาหารกลางวันให้พี่ด้วย!”
คาริน่าได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า จากนั้นจึงหยิบกระเป๋าและเดินออกไป
หลังจากที่คาริน่าออกไป โจเอลก็ก้าวเข้าไปในบ้าน
ลูซี่ตั้งใจซื้อรองเท้าแตะผู้ชายมาคู่หนึ่ง เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อสองวันก่อน
เธอไม่ต้องการให้ชายคนนั้นมา แต่เธอไม่รู้ว่าอะไรทำให้เธอต้องซื้อรองเท้าแตะสำหรับเขาโดยเฉพาะ
หลายครั้งที่เธอเกลียดตัวเองที่เอาแต่ใจอ่อน ส่วนหนึ่งของเธอเกลียดมัน แต่เธอก็ไม่สามารถต้านทานตัวเองได้และเพิ่งซื้อมันมา
โจเอลเห็นรองเท้าแตะผู้ชายคู่ใหม่อยู่ด้านข้าง อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นทันที
เขาเปลี่ยนเป็นรองเท้าแตะก่อนจะเดินเข้าไปข้างใน
“เพิ่งกินข้าวเย็นไปเหรอ”
บ้านยังคงอบอวลไปด้วยกลิ่นของอาหาร เขาไม่จำเป็นต้องมองไปรอบ ๆ เพราะได้กลิ่นมันแล้ว