ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก - บทที่ 561 เกี่ยวกับเงินทั้งหมด
ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก บทที่ 561 เกี่ยวกับเงินทั้งหมด
หลังจากที่เพลงจบลง ลูซี่ก็หายใจหอบอย่างถี่ โจเอลจึงพาเธอไปที่บริเวณพักคอยเพื่อนั่งลง เขาพึมพำ “นั่งที่นี่สักครู่ ผมต้องไปจัดการกับบางเรื่องก่อน”
ลูซี่พยักหน้าอย่างอ่อนโยน
เจด้า สเวนสันได้เห็นทั้งหมดนั่น ซึ่งยืนอยู่ไกล ๆ
เธอยังสวมชุดราตรีสีลาเวนเดอร์ในคืนนี้ด้วย เพราะนี่เป็นสีที่โจเอลชอบ
ย้อนกลับไปเมื่อทั้งสองยังคบกันอยู่ เขาจะบอกเธอว่าการได้เห็นเธอใส่ชุดนี้ทำให้เขานึกถึงดอกวิสทีเรียที่บานสะพรั่ง สง่างาม ภาคภูมิใจ และน่าทึ่ง
แม้ว่า เจด้า สเวนสันจะรู้ว่าคำพูดของ โจเอล ฟอสเตอร์นั้นไม่ได้จริงใจ แต่เธอก็เชื่อว่าสิ่ง โจเอล ฟอสเตอร์พูดนั้นมันเป็นเรื่องจริง
ก่อนที่โจเอลจะคบหากับลูซี่ แคทซ์ ก็ยังมีผู้หญิงอีกหลายคนที่วนเวียนอยู่รอบตัวเขา
อย่างไรก็ตาม ผู้หญิงส่วนใหญ่อยู่ได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น แต่เจด้า สเวนสัน เป็นคนที่อยู่กับเขานานที่สุด
ดังนั้นโลกภายนอกจึงเชื่อว่า ไม่ว่าโจเอล ฟอสเตอร์ จะเล่นสนุกมากแค่ไหน เจด้า สเวนสันก็คือคู่แท้ของเขา
ยิ่งไปกว่านั้น ภูมิหลังตระกูลของเจด้าก็ไม่เลวเลย ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้โดดเด่นเท่าสี่ตระกูลที่ยิ่งใหญ่ แต่พวกเขาก็ยังค่อนข้างมีชื่อเสียงในหมู่ของคนรวย และคนที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง
ในฐานะนักแสดงที่มีชื่อเสียงที่มีความสวย เมื่อก่อนเธอมั่นใจในรูปร่างหน้าตาของเธอมาก
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้เมื่อเธอมองดูผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ได้รับความรัก และความห่วงใยจากผู้ชายคนนั้นแล้ว ความหึงหวงก็ค่อย ๆ เพิ่มมากขึ้นจนมาถึงคอของเธอราวกับเถาวัลย์ที่รกรุงรัง จนเธอรู้สึกเหมือนเธอไม่สามารถหายใจได้
พี่เอลซ่าผู้จัดการของเจด้ายืนอยู่ด้านหลังเธอ โดยที่เธอไม่รู้ตัว และเธอกำลังมองลูซี่ แคทซ์ ซึ่งนั่งอยู่ในบริเวณที่พักด้วยสายตาที่มีความประสงค์ร้าย
เอลซ่าเยาะเย้ย “จิ้งจอกตัวน้อยจากกองขยะกำลังพยายามที่จะปีนขึ้นไปเป็นคนชั้นสูง เธอกล้าดียังไงถึงทำท่าทางอวดดีแบบนั้น”
เจด้า สเวนสันจึงหันไปมองเธอ ในดวงตาที่สวยงามของเจด้ามีสีแดงปรากฏอยู่ให้เห็น “พี่เอลซ่า พี่คิดว่านายน้อยฟอสเตอร์ไม่ต้องการฉันแล้วใช่ไหม?”
“ไม่ใช่อย่างแน่นอน พวกเธอทั้งคู่อยู่คบกันมานานมาก หล่อนเป็นอะไรกับเขาถ้าเทียบกับเธอ หล่อนเป็นแค่ตัวตลกช่วงสั้น ๆ เอง ผู้ชายอย่างพวกเขาอาจจะออกนอกเส้นทางไปบ้าง และโง่เขลาบ้างในบางที แต่สุดท้ายแล้วพวกเขาก็จะกลับมาหาเธอตลอด”
“แต่… ฉันก็ยังรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี”
เจด้า สเวนสันส่ายหัวและน้ำตาเริ่มไหลอาบแก้ม เธออารมณ์เสียมากจนร่างกายของเธอสั่นเล็กน้อย ซึ่งทำให้เธอดูกระวนกระวายอย่างมาก
“พี่ไม่รู้หรอก นับตั้งแต่วันนั้น เขาก็มีท่าทางที่เหินห่างกับฉันมาก ฉันมีความรู้สึกว่าเขาได้ลบฉันออกจากหัวใจของเขาไปแล้ว”
พี่เอลซ่าขมวดคิ้วและมองไปรอบ ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครสนใจพวกเขา เธอกระซิบเสียงต่ำว่า “เธอไม่ได้ติดสินบนแอสทริด ลินด์ ให้ก่อวีรกรรมที่กองถ่ายหรือไง ทำไมมันถึงได้ล้มเหลวล่ะ มันยังทำให้นายน้อยฟอสเตอร์มีโอกาสรับบทฮีโร่ช่วยผู้หญิงคนนั้นด้วย นั่นเป็นความล้มเหลวครั้งยิ่งใหญ่เลยนะ”
เมื่อกล่าวถึงเหตุการณ์นั้น เจด้า สเวนสันก็กัดริมฝีปากด้วยความเกลียดชัง
หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอตอบว่า “แอสทริด ลินด์เป็นคนโง่ที่ไม่มีความสามารถ เธอถูกนายน้อยฟอสเตอร์สืบหาจนเจอ โชคดีที่ฉันจ่ายเงินให้เธอมาก จนสามารถทำให้เธอหุบปากได้ ดังนั้นเธอเลยพาดพิงมาถึงฉัน”
ผ่านไปครู่หนึ่ง เจด้าก็พูดต่อ “ไม่ว่ายังไง ฉันจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ”
พี่เอลซ่ารู้ว่าไม่มีอะไรที่เธอจะสามารถพูดเพื่อเปลี่ยนใจของเจด้าได้ เธอจ้องเขม็งแล้วถามว่า “แผนของเธอคืออะไร?”
เจด้า สเวนสันส่ายหัว “ฉันยังไม่รู้เลย”
พี่เอลซ่ายิ้ม “พี่มีข้อมูลบางอย่างที่พี่เพิ่งรู้มา เธออยากรู้เรื่องนี้ไหมล่ะ?”
เจด้า สเวนสันรีบเงยหัวทันทีเมื่อได้ยินคำถาม “มันคืออะไรเหรอ?”
พี่เอลซ่าเอาของเธอไปใกล้ ๆ ที่หูของเจด้า และกระซิบบางอย่างที่หูของเธอ
ใบหน้าของเจด้าเต็มไปด้วยความประหลาดใจในทันที ตามด้วยความตื่นเต้นอย่างบ้าคลั่ง
“พี่พูดจริงเหรอ?”
พี่เอลซ่าพยักหน้า “ใช่ จริงร้อยเปอร์เซ็นต์ ตอนที่พี่ได้ข่าวครั้งแรก ฉันยังสงสัยเลยว่ามันเชื่อถือได้ไหม ดังนั้นพี่เลยส่งคนออกไปตรวจสอบ ปรากฎว่ามันเป็นความจริง พ่อบุญธรรมของเธอเป็นนักพนันและติดยาด้วยนะ เงินทั้งหมดที่เธอทำในช่วงหลายปีที่ผ่านมาก็หมดไปเพราะพ่อบุญธรรมของเธอ และแม่ของเธอยังต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลเพราะเป็นโรคหัวใจ ส่วนใหญ่แล้วเหตุผลที่เธอออกเดตกับนายน้อยฟอสเตอร์ก็น่าจะเป็นเพราะเงินของเขา”
เจด้า สเวนสันรู้สึกมีความสุขกับข่าวที่ได้ยิน
“ทั้งหมดก็เพื่อเงิน… ถ้ามันเป็นเรื่องของเงิน มันก็ง่ายที่จะจัดการ”
พี่เอลเซ่ก็พยักหน้าด้วยเช่นกัน เธอเหลือบมองไปที่ไกล ๆ ก่อนจะหันกลับมาและตบไหล่เจด้า
“ตอนนี้พี่ได้ให้ข้อมูลกับเธอแล้ว เธอจะทำไหมมันก็มันขึ้นอยู่กับเธอเอง ถ้าเธอทนเห็นพวกเขาไม่ได้ เธอควรกลับไปก่อน อย่าทำสิ่งที่ยากสำหรับตัวเอง”
เจด้า สเวนสันพยักหน้า “โอเค ฉันเข้าใจ”
ลูซี่ แคทซ์รอเกือบหนึ่งชั่วโมง ระหว่างรอก็มีชายคนหนึ่งเข้ามาคุยกับเธอ เนื่องจากเธอรู้สึกเบื่อ เธอจึงสนุกกับการพูดคุย
ทุกคนที่เข้าร่วมงานประเภทนี้เป็นสังคมที่มีประสบการณ์ ในตอนที่เธอเต้นรำกับโจเอล ฟอสเตอร์ ทุกคนต่างก็รู้ถึงตัวตนของเธอ ดังนั้นเมื่อชายคนนั้นเห็นว่าเธอกำลังหัวเราะกับเรื่องตลกของเขา เขาจึงรีบพูดขึ้นว่า “ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รู้จักคุณแคทซ์ในวันนี้ ถ้าคุณมีโอกาสช่วยพูดเห็นพ้องกับผมต่อหน้านายน้อยฟอสเตอร์ด้วยครับ”
ระหว่างการสนทนา มีเช็คปรากฏอยู่ในมือของเขา และเขาก็ส่งให้
นัยน์ตาคมกริบของลูซี่แวบวาบชั่วครู่ เธอยิ้ม “นายฮิวจ์ คุณไว้ใจฉันมากเกินไป นายน้อยฟอสเตอร์และฉันเป็นแค่เพื่อนกัน ฉันเกรงว่าจะไม่สามารถช่วยอะไรได้”
ผู้ชายที่ชื่อฮิวจ์เป็นคนฉลาด เมื่อได้รับคำตอบจากลูซี่ เขาก็ไม่ได้ยืนกราน เขารับเช็คคืนและยกแก้วไปทางเธอ “ไม่มีปัญหา ผมก็ยังรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้รู้จักกับคนฉลาดและสวยอย่างคุณแคทซ์”
โจเอล ฟอสเตอร์กลับมาทันเวลาพอดี และเห็นฉากนี้พอดิบพอดี ลูซี่ยิ้มอย่างมีเสน่ห์ ความงามของเธอสดใสดั่งคริสตัลเมื่ออยู่ใต้แสง ส่องประกายอย่างระยิบระยับ แม้ว่าเธอจะนั่งอยู่ในมุมที่เปลี่ยว เหมือนกันว่าเธอส่องแสงออกมา เมื่อเปรียบเทียบกับเธอ ทุกคนในห้องบอลรูมดูเหมือนจะน่าเบื่อ
เขาเดินเข้ามาแล้วเอามือโอบเอวเธอ ลูซี่ แคทซ์ยิ้มให้เขา “คุณมาแล้ว”
ดวงตาของเธอเป็นประกายเมื่อมองไปที่เขา และในทันที โจเอลก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรง แม้ว่าเขาจะตอบกลับไปแค่เสียงในลำคอเท่านั้น
“นายน้อยรองฟอสเตอร์ นามสกุลของผมคือฮิวจ์ ผมชื่นชมคุณมานานแล้ว เป็นเกียรติที่ได้พบกับคุณที่นี่”
ชายที่ชื่อฮิวจ์แนะนำตัวเองอย่างกระตือรือร้น ลูซี่สอดมือเข้าไปที่ข้อศอกของโจเอลและบอกเขาว่า “ฮิวจ์เป็นผู้ชายที่น่าสนใจมาก ฉันรู้สึกเบื่อระหว่างรอคุณ แต่โชคดีที่เขาเข้ามาคุยกับฉัน”
โจเอลก้มหัวลงแล้วเห็นแววตาของคู่หูของเขา
เขายิ้มและลูบหัวเธอ “ขอโทษด้วย ครั้งต่อไปผมจะไม่ทำให้คุณรอนาน”
น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรัก
ลูซี่ตกใจที่หัวใจของเธอเต้นผิดจังหวะ
ผู้ชายคนนี้… เขาทำสิ่งนี้อย่างจงใจใช่ไหม
เธอต้องยอมรับว่าแม้ว่าปกติแล้ว โจเอล ฟอสเตอร์จะดูขี้เล่น แต่เขาก็ดูเหมือนคนละคนเมื่อเขาจริงจังขึ้นมา
พูดง่าย ๆ คือ มีเสน่ห์
ในตอนนี้ โจเอล ฟอสเตอร์กำลังพูดคุยกับคุณฮิวจ์ ก่อนที่ชายทั้งสองจะชนแก้วกัน โจเอลยิ้มและพูดว่า “ขอบคุณที่ช่วยดูแลลู ถ้าคุณมีเวลา คุณสามารถมาเยี่ยมที่หุ้นส่วนฟอสเตอร์ได้ เราเป็นเพื่อนกันแล้ว ไม่ต้องเกรงใจ”
ดวงตาของนายฮิวจ์เป็นประกายด้วยความประหลาดใจและยินดี “ขอบคุณ นายน้อยรองฟอสเตอร์ ผมจะไปเยี่ยมอย่างแน่นอน”
เขารู้ว่าผู้ชายอย่าง โจเอล ฟอสเตอร์จะทำตามคำพูดของเขา โดยปกติแล้วมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับคนที่อยู่ในสถานะแบบเขาที่จะเชื่อมโยงกับตระกูลฟอสเตอร์ แต่ด้วยคำเชิญของโจเอล ฟอสเตอร์ มันง่ายมากที่จะได้เข้าสู่หุ้นส่วนฟอสเตอร์