ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1095 หมอปีศาจเผยโฉมหน้า
มู่เฉียนซีกล่าว “การประลองสองสนามนี้ไม่ได้ประลองในเวลาเดียวกัน เจ้าไม่เหมาะที่จะลงมือ ดังนั้น ข้าวางแผนว่าจะลงประลองทั้งสองสนาม”
“หอหมอปีศาจของข้าได้ตั้งรากฐานในแดนตะวันออกมาช่วงหนึ่งแล้ว ถึงเวลาที่ควรสร้างอำนาจและอิทธิพลให้กับหอหมอปีศาจแล้วล่ะ”
จวินโม่ซีกล่าว “ทุกอย่างเอาตามที่เจ้าได้วางแผนเอาไว้ก็แล้วกัน ส่วนข้าก็จะอยู่ปรุงยาอย่างเชื่อฟัง และรอกินของอร่อย ๆ ฝีมือเจ้า เรื่องคิดหาหนทางมอบให้เป็นหน้าที่ของเจ้า ข้าหวังว่าสาวน้อยผู้ใจดำอย่างเจ้าก็คงจะไม่ปล่อยให้ข้าอดอยากจนไม่มีของจะกินหรอกกระมัง”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “เจ้าวางใจเถอะ! ความหิวโหยมันไม่ทำให้เจ้าตะกละอย่างเจ้าตายหรอก”
เรื่องของหอหมอปีศาจทั้งหมดมอบให้เป็นหน้าที่ของโม่จิ่นจัดการ ส่วนมู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีก็ขังตัวเองอยู่ในห้องปรุงยา
ในระหว่างช่วงเวลานี้ เฟิงอวิ๋นซิวก็ได้มาเยี่ยมมู่เฉียนซี และจะมาขอบคุณนาง แต่กลับถูกโม่จิ่นขวางเอาไว้ด้วยเหตุผลที่ว่า มู่เฉียนซีกับจวินโม่ซีนั้นกำลังอยู่ในช่วงฝึกบำเพ็ญ
เฟิงอวิ๋นซิวรู้สึกผิดหวังและหดหู่ในใจเล็กน้อย เขากล่าวว่า “เฉียนซีกำลังเตรียมตัวเพื่อเข้าร่วมการประลองการปรุงยาครั้งใหญ่ของแดนตะวันออกเหรอ?”
โม่จิ่นพยักหน้าพลางกล่าว “ขอรับ!”
“แล้วหมอปีศาจก็เข้าร่วมประลองด้วยอย่างนั้นเหรอ?”
“เข้าร่วมแน่นอน หัวหน้าหอของพวกเราจะพลาดโอกาสดีที่จะทำให้หอหมอปีศาจมีชื่อเสียงโด่งดังได้เช่นไรกันล่ะ”
ดวงตาสีอำพันคู่นั้นของเฟิงอวิ๋นซิวเปล่งประกายขึ้น เมื่อถึงตอนนั้น เขาก็คงจะได้เห็นหมอปีศาจในตำนานท่านนั้นตัวเป็น ๆ แล้ว
เฟิงอวิ๋นซิวกล่าวถาม “แล้วเฉียนเยี่ยไปที่ใดแล้วล่ะ?”
“คุณชายมู่หรงออกไปฝึกฝนประสบการณ์ข้างนอก ครั้งนี้ก็เลยไม่ได้เข้าร่วมการประลองขอรับ”
“นึกไม่ถึงเลยว่าเฉียนเยี่ยจะออกไปเร็วถึงเพียงนี้” เฟิงอวิ๋นซิวประหลาดใจเล็กน้อย
หลังจากที่พูดคุยกับเฟิงอวิ๋นซิวเสร็จ โม่จิ่นก็ยกมือเช็ดเหงื่อที่ผุดพรายบนหน้าผากออก
คงไม่ได้เผยพิรุธออกไปกระมัง
นายท่านชอบแปลงกายเป็นคนโน้นทีคนนี้ที หากลูกน้องอย่างเขาไม่ฉลาดหลักแหลมพอและเผยพิรุธออกไป มีหวังต้องถูกนายท่านฆ่าตายเป็นแน่
ไม่นานนัก เวลาเจ็ดวันก็ผ่านไป
การประลองแรกที่เริ่มก็คือการประลองปรุงยาอายุไม่เกินร้อยปี การประลองการปรุงยาครั้งใหญ่แห่งแดนตะวันออกครั้งนี้ดึงดูดความสนใจของผู้คนทั่วทั้งแดนตะวันออกเป็นอย่างมาก อย่างไรเสีย นักปรุงยาก็เป็นหนึ่งในอาชีพที่น่ายกย่องมากอาชีพหนึ่งในแดนตะวันออก
การประลองในครั้งนี้ ท่านหัวหน้าตำหนักตงจี๋อย่างไป๋อู๋ห่าย และนายน้อยแห่งตำหนักตงจี๋อย่างเฟิงอวิ๋นซิวก็มาชมการประลองในครั้งนี้ด้วย
นอกจากนี้กองกำลังระดับสอง และกองกำลังระดับสองครึ่งก็มาร่วมรับชมการประลองด้วย
จื่อโยวเตรียมจะทำภารกิจสำคัญ จึงไม่มีโอกาสมาให้กำลังใจมู่เฉียนซี แต่คนของหอปี้ลั่วได้เดินทางมาเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
กองกำลังแต่ละกองกำลังได้มารวมตัวกัน เหล่าอัจฉริยะนักปรุงยาของกองกำลังแต่ละกองกำลังก็มาเข้าร่วมเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังมีเหล่าบรรดายอดปรมาจารย์นักปรุงยาที่ซ่อนตัวจากโลกภายนอกก็พาศิษย์มาเข้าร่วมการประลองในครั้งนี้ด้วย
ไป๋อู๋ห่ายหวาดกลัวหัวหน้าหอหมอปีศาจอย่างหมอปีศาจที่มีพลังจิตอันแข็งแกร่งผู้นั้นมาก อยากจะเห็นตัวจริงสักครั้ง!
ผู้อาวุโสรองที่นั่งอยู่ข้างกายเขากล่าวว่า “ท่านหัวหน้าตำหนัก หมอปีศาจมู่ซีก็เข้าร่วมการประลองปรุงยาอายุไม่เกินหมื่นปีด้วยนะขอรับ ส่วนมู่เฉียนซีผู้นั้นลงประลองการปรุงยาอายุไม่เกินร้อยปีในวันนี้ คาดว่าหมอปีศาจจะมากับนางด้วย”
“หญิงอัปลักษณ์ หากเจ้ายังนอนหลับต่อเช่นนี้ เจ้าไม่จำเป็นต้องประลองก็ได้ที่สุดท้ายแล้วล่ะ” เมื่อมู่เฉียนซีได้ยินเสียงอาถิงดวงตาก็เบิกโพลงขึ้นทันที
ทันทีที่ลืมตาขึ้นก็ได้เห็นใบหน้าที่งดงามราวกับภูตขยายใหญ่อยู่ตรงหน้านาง มู่เฉียนซีกล่าว “อาถิง นี่เจ้าออกมาได้ยังไง?”
“วันนี้เป็นวันที่เจ้าเข้าร่วมการประลอง หมอปีศาจอย่างข้าก็ต้องไปเป็นเพื่อนเจ้าสิ ข้าได้ยินคนอื่นเขาพูดกันว่า เหล่าอัจฉริยะพวกนั้นพายอดฝีมือมาอยู่ข้างกายด้วย และข้าก็ต้องไปกับเจ้าแน่นอน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้คนอื่นรังแกเจ้าได้”
มู่เฉียนซีกล่าว “มีเจ้าไปด้วยก็ดีเหมือนกัน เราปรากฏตัวพร้อมกัน ก็จะไม่ต้องมีคนสงสัยว่าหมอปีศาจมู่ซีกับข้ามู่เฉียนซีเป็นคนคนเดียวกัน”
จวินโม่ซีกล่าว “สาวน้อย รีบไปเถอะ จะสายแล้ว!”
เวลาค่อย ๆ ผ่านไปอย่างช้า ๆ แต่เฟิงอวิ่นซิวก็ยังไม่เห็นคนที่อยากเห็น
เขากระวนกระวายใจขึ้น หรือว่าจะเกิดเรื่องขึ้นกับเฉียนซี?
“ซวนอี!” ในขณะที่เขากำลังจะให้ซวนอีไปดูนางที่หอหมอปีศาจ ทันใดนั้นเอง ที่ประตูทางเข้าก็ได้ปรากฏร่างสองร่างขึ้น
ผู้ที่หันไปเห็นร่างสองร่างนี้ ล้วนแต่จ้องมองดูอย่างไม่กระพริบตาเลยทีเดียว
ชายหนุ่มและหญิงสาวสองคนนี้ไม่สามารถพรรณนาออกมาเป็นคำพูดได้ เดิมทีความงามของนายน้อยเฟิงอวิ๋นซิวนั้นก็งดงามจนไม่เหมือนมนุษย์อยู่แล้ว ทว่า สองคนนี้ยิ่งไม่เหมือนมนุษย์ยิ่งกว่า!
ใบหน้าของหญิงสาวชุดม่วงผู้สูงศักดิ์ผู้นั้นงดงามประณีต ผิวพรรณขาวผ่องดุจดั่งหิมะอย่างไร้ที่ติ ดูอ่อนนุ่มบอบบางราวกับผลึกใสก็มิปาน
ดวงตาคู่นั้นดำขลับดุจดั่งรัตติกาลที่มืดมิด ทำให้ผู้คนที่เห็นเป็นต้องจ่อมจมไปอย่างไม่รู้ตัว
จมูกโด่งเป็นสันอย่างสมบูรณ์แบบ ริมฝีปากอันแดงระเรื่อดุจดั่งกลีบบุปผาที่ผลิบานก็มิปาน
ส่วนชายหนุ่มผู้ที่สวมชุดสีเขียวอ่อนก็ดุจดั่งภูต คิ้วสีเข้มดุจน้ำหมึก ผิวพรรณขาวละเอียดดั่งหิมะ โครงหน้าที่งดงามเปรียบประดุจภาพวาดของเหล่าทวยเทพ
ผมยาวสีเขียวเทาของเขาที่สยายลงมาจากไหล่ดูหนานุ่มราวผ้าไหมเนื้อดี แพขนตาดกหนาและเข้มชัดดุจปีกผีเสื้อขยับไหวเล็กน้อยก่อนที่เขาจะลืมตาขึ้นและเผยให้เห็นดวงตาสุกใสสีเขียวอ่อนที่สะกดหัวใจยิ่งนัก!
นี่ใช่มนุษย์จริง ๆ หรือ มิใช่ทวยเทพที่ปรากฏกายมาจากแดนสวรรค์หรือ?
เฟิงอวิ๋นซิวมองไปที่ใบหน้าประดุจภาพวาดนั้นก็ตกใจผงะไปครู่หนึ่ง ใบหน้านี้เขารู้สึกคุ้นเคยมาก ทว่า ในวันนี้กลับแพรวพราวสุกสกาวเป็นอย่างยิ่ง
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อนางยืนอยู่กับชายหนุ่มผู้นั้นแล้วดูเหมือนว่าได้แย่งชิงความแพรวพราวสุกสกาวทั้งหมดไปก็มิปาน
นี่ต่างหากที่เป็นความสูงศักดิ์ที่เชิดหน้าอย่างทระนงในใต้หล้า และเมื่อเขานึกนำคนในใจผู้นั้นมาเปรียบเทียบกับหญิงสาวตรงหน้า ดูเหมือนว่าจะขาดบางอย่างไป เฟิงอวิ๋นซิวใจลอยไปชั่วครู่
ในตอนนี้ทุกคนก็ตกอยู่ในความโกลาหล “พวกเขาสองคนเป็นใคร เข้าประลองการปรุงยาอายุไม่เกินร้อยปีในครั้งนี้ด้วยเหรอ?”
“หน้าตาดีจนน่าโกรธจริง ๆ หวังว่าพวกเราจะสามารถเอาความมั่นใจกลับมาได้ด้วยฝีมือการปรุงยานะ”
“……”
มู่เฉียนซีไปลงชื่อและตรวจสอบอายุ
ไม่นานนักผลการตรวจสอบก็ถูกประกาศออกมา
“มู่เฉียนซีจากหอหมอปีศาจ อายุสิบเจ็ดปี พลังวิญญาณขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับหก”
การประลองครั้งนี้ยุติธรรมและเป็นกลาง สามารถเผยข้อมูลส่วนตัวผู้เข้าประลองได้
เหล่าบรรดานักปรุงยาที่ถูกสองคนนี้โจมตีด้วยความงดงามก็เรียกความมั่นใจกลับมาได้แล้ว พลังวิญญาณแค่ขั้นจักรพรรดิแห่งภูตระดับหก อายุก็แค่สิบเจ็ดปี ฝีมือการปรุงยาของพวกเขาต้องเอาชนะหญิงสาวผู้นี้ได้อย่างแน่นอน
ชายชราผู้ตรวจสอบมองอาถิงและกล่าวถาม “คุณชายท่านนี้ไม่ได้เข้าร่วมประลองการปรุงยาด้วยเหรอ?”
มู่เฉียนซีกล่าว “เข้าร่วมแน่นอน เพียงแต่ไม่ใช่วันนี้”
ชายชราผู้นั้นได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึงขึ้น “คุณชาย ทะ ท่าน หรือว่าจะเข้าร่วมการประลองปรุงยาอายุไม่เกินหมื่นปีอย่างนั้นเหรอ?”
ชายหนุ่มผู้สดใสบริสุทธิ์ผู้นี้ดู ๆ ไปแล้วอายุก็ไม่ได้ห่างกับหญิงสาวผู้นี้มากนัก ช่างดูไม่ออกจริง ๆ ว่าอายุจะเกินร้อยปีแล้ว!
ผู้ที่สนใจสองคนนี้ได้ยินคำพูดนี้ของมู่เฉียนซีแน่นอน
ในใจของไป๋อู๋ห่ายมีการคาดเดาอยู่แล้ว สายตาของเขาจ้องมองไปที่ร่างในชุดเขียวอ่อนร่างนั้น
“คนผู้นั้น คือหมอปีศาจมู่ซี!”
ผู้อาวุโสรองกล่าว “มีโอกาสเป็นไปได้สูง ในที่สุดหมอปีศาจผู้ลึกลับก็ปรากฏตัวออกมาสักที”
เฟิงอวิ๋นซิวเองก็ตกใจผงะไปเช่นกัน “ชายหนุ่มผู้นั้น คือหมอปีศาจมู่ซี”
นี่ช่างแตกต่างไปจากที่เขาได้จินตนาการเอาไว้มาก ในใจของเขาคิดเอาไว้ว่าหมอปีศาจมู่ซีอย่างน้อยก็เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นชายหนุ่มบริสุทธิ์งดงามเช่นนี้ได้
อาถิงมองชายชราตรงหน้าและกล่าวว่า “เป็นเช่นนั้นแน่นอน”