ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1176 กำลังจะสูญเสียการควบคุม
คนชุดคลุมยาวสีดำนั้นหลบหลีกอย่างรวดเร็ว การโจมตีของจิ่วเยี่ยทำได้เพียงแค่ให้ชุดคลุมยาวสีดำของเขาขาดเป็นรูหลายรูก็เท่านั้น
นักเล่นคาถาอาคมอย่างพวกเขาไม่ได้เชี่ยวชาญในการต่อสู้ แต่กลับเชี่ยวชาญในการใช้คำสาปลอบทำร้ายผู้อื่น
การเผชิญกับการโจมตีอย่างซึ่ง ๆ หน้าเช่นนี้ เกรงว่าเขาจะสู้ไม่ได้แม้กระทั่งกู้เสี้ยวเทียน
เผชิญหน้ากับอันตรายที่ถึงแก่ชีวิตเช่นนี้ คนชุดคลุมยาวสีดำกลับตื่นเต้นจนตัวสั่นขึ้นมา
“ท่านแข็งแกร่งจริง ๆ ด้วย!”
เขาไม่มีทางยอมให้ตัวเองถูกองค์ชายจิ่วเยี่ยผู้นี้ฆ่าตายไปอย่างง่ายดายแน่นอน เขากล่าว “กู้เสี้ยวเทียน ตกลงคัมภีร์หมื่นคำสาปอยู่ที่ไหนกันแน่?”
“หาไม่เจอ ในคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกรไม่ได้มีคัมภีร์หมื่นคำสาปอยู่เลย”
“เป็นไปไม่ได้! หากคัมภีร์หมื่นคำสาปไม่ได้อยู่ในคลังเก็บของล้ำค่าของเผ่ามังกร เผ่าคำสาปของพวกข้าก็ต้องรู้สิ เกรงว่า…”
“ฮ่า ๆ ๆ!” จู่ ๆ นักเล่นคาถาอาคมผู้นี้ก็หัวเราะขึ้นอย่างบ้าคลั่งราวกับคนบ้า
สีหน้าของกู้เสี้ยวเทียนพลันเขียวคล้ำขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยว “เจ้าวิปริตนี่เป็นบ้าไปแล้วหรือไง!”
ปัง! คนชุดคลุมยาวสีดำผู้นี้หัวเราะขึ้นอย่างลำพองใจ ดูเหมือนว่าจะไม่สนใจแม้แต่พลังอันน่าสะพรึงกลัวนั้นของจิ่วเยี่ยที่ใกล้เข้ามา
เสียง ตูม! ดังสนั่นสะท้านฟ้าสะเทือนดินขึ้น
คนชุดคลุมยาวสีดำนี้ไม่ได้ถูกพลังนั้นกลืนกินแต่อย่างใด อักขระลวดลายสีดำบางอย่างผุดพรายออกมาจากในร่างกายของเขา ต้านทานการโจมตีนั้นของจิ่วเยี่ยเอาไว้
มู่เฉียนซีรู้สึกคุ้ยเคยกับอักขระลวดลายเหล่านี้มาก มันเหมือนกับอักขระลวดลายเมื่อตอนที่คำสาปของจิ่วเยี่ยกำเริบมาก แต่ก็ไม่ได้เหมือนกันทั้งหมด
ถึงแม้ว่าอักขระลวดลายนั้นจะปกป้องคนชุดคลุมยาวสีดำเอาไว้ไม่ให้ตาย แต่เขาก็ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย!
ตุบ! ร่างของเขาร่วงตกลงมาสู่พื้นในทันที
แกร่ก แกร่ก! ตกลงมาจากที่สูงถึงเพียงนั้น คาดว่ากระดูกทั่วทั้งร่างของเขาคงจะแตกหักเป็นเสี่ยง ๆ ไปแล้วเป็นแน่
ทว่า มู่เฉียนซีกลับเห็นเขากำลังยิ้มอยู่ เขาที่กำลังจะตาย นึกไม่ถึงเลยว่ายังจะยิ้มออกได้
รอยยิ้มนั้นทำให้มู่เฉียนซีรู้สึกเกิดลางสังหรณ์ที่ไม่ดีขึ้น
นางกล่าว “จิ่วเยี่ย พวกเรารีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ!”
และเสียงของคนชุดคลุมยาวสีดำนั้นก็ดูเหมือนว่าจะดังขึ้นพร้อมกับเสียงของมู่เฉียนซี
ทั่วทั้งร่างกายของเขาผุดพรายเต็มไปด้วยอักขระลวดลายสีดำอันร้ายกาจ และน้ำเสียงอันชั่วร้ายก็ดังขึ้น
“ด้วยกายของข้า ด้วยเลือดของข้า ร้องเรียกฝ่าบาท!”
ทันใดนั้นร่างกายของเขาก็ได้หายสาบสูญไป และได้พลันเปลี่ยนเป็นอักขระลวดลายสีดำ
ในตอนนี้อักขระลวดลายสีดำนั้นก็ได้ย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด
คนชุดคลุมยาวสีดำได้หายไปแล้ว และร่างกายของเขาที่ได้เปลี่ยนกลายเป็นอักขระสาปสีดำที่ตอนนี้กำลังพุ่งเข้าหามู่เฉียนซี
“ซี!”
สีหน้าของจิ่วเยี่ยพลันเปลี่ยนไป เขารีบพุ่งไปที่มู่เฉียนซีด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด
“แย่เล้ว! ซีเอ๋อร์ คนทุกคนของเผ่าคำสาปล้วนแต่เป็นหุ่นเชิดที่คัมภีร์หมื่นคำสาปได้สร้างมาทั้งสิ้น พวกเขาเคารพนับถือคัมภีร์หมื่นคำสาปเป็นบรรพบุรุษของพวกเขา และพวกเขาก็มีวิธีที่จะเรียกคัมภีร์หมื่นคำสาปออกมาด้วย”
“คนผู้นี้ใช้ชีวิตของตัวเองเป็นเครื่องสังเวย เพื่อเรียกคัมภีร์หมื่นคำสาปออกมา เกรงว่าผนึกที่อาถิงปิดเอาไว้จะ…”
ฉ่า!
มู่เฉียนซีรู้สึกเหมือนจะได้ยินชั้นน้ำแข็งที่อยู่ในแหวนมังกรเทพวารีแตกลงแล้ว อักขระสาปสีดำได้ห้อมล้อมมู่เฉียนซีเอาไว้ นี่ไม่ได้นำพามาซึ่งการโจมตี แต่กลับทำให้มู่เฉียนซีกังวลใจดุจดั่งไฟแผดเผา
กู้เสี้ยวเทียนเห็นเช่นนี้ก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น “คัมภีร์หมื่นคำสาปอยู่ที่สาวน้อยผู้นี้จริง ๆ ด้วย! นึกไม่ถึงเลยว่านังสาวน้อยผู้นี้จะกล้าโกหกข้า!”
“ซี!” จิ่วเยี่ยมาถึงนางแล้ว
มู่เฉียนซีกล่าว “จิ่วเยี่ย เจ้ารีบออกไปเร็วเข้า! เร็ว!”
คัมภีร์หมื่นคำสาปกำลังจะพุ่งออกมา และนี่ก็ไม่สิ่งที่นางจะสามารถควบคุมได้
มู่เฉียนซีถูกอักขระคำสาปสีดำนี่โจมตี จิ่วเยี่ยเองก็ไม่กล้าลงมืออย่างตามใจ เพราะหากพลังของซีเกิดโดนพลังของเขาขึ้นมาแล้วละก็ นางจะได้รับบาดเจ็บง่ายมาก
และแน่นอนว่าเขาก็ไม่ฟังคำพูดนี้ของมู่เฉียนซีที่บอกให้เขาออกไปตอนนี้
มู่เฉียนซีกล่าว “สุ่ยจิงอิ๋ง รีบส่งจิ่วเยี่ยไปที่แดนนรกก่อน ยิ่งไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งดี!”
สุ่ยจิงอิ๋งตอบ “อืม!”
ลำแสงสีฟ้าอ่อนได้ห่อหุ้มร่างของจิ่วเยี่ยเอาไว้ แต่ไม่นานนักก็ถูกพลังอันมืดมิดกลืนกินไปแล้ว
จิ่วเยี่ยกล่าว “ซี ข้าไม่ไป!”
คัมภีร์หมื่นคำสาปเป็นสิ่งที่ไม่สามารถเอาแน่เอานอนได้เลย ของสิ่งนี้อันตรายมาก เขาจะยอมให้ซีเผชิญหน้ารับมันคนเดียวได้อย่างไร
สุ่ยจิงอิ๋งกล่าวอย่างจนปัญญาว่า “ซีเอ๋อร์ ข้าไม่สามารถบีบบังคับส่งจิ่วเยี่ยไปได้”
ปัง! คัมภีร์หมื่นคำสาปทำลายผนึกกักขังนั้นแล้ว และออกมาจากแหวนมังกรเทพวารี
เมื่อคัมภีร์นั้นลอยออกมาอยู่กลางอากาศ อักขระสาปสีดำนั้นก็พุ่งเข้าไปในคัมภีร์หมื่นคำสาปราวกับว่าเป็นเครื่องเซ่นไหว้ที่บำรุงมันก็มิปาน และในขณะที่อักขระสาปนั้นกำลังจะสลายหายไป น้ำเสียงอันบ้าคลั่งของคนชุดคลุมยาวสีดำก็ดังออกมา “ฮ่า ๆ ๆ! องค์ชายจิ่วเยี่ย ถึงแม้ว่าตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ผ่านมาท่านจะสามารถยับยั้งคำสาปในร่างของท่านได้ แต่ทันทีที่ท่านได้เจอกับคัมภีร์หมื่นคำสาป คำสาปในร่างของท่านก็จะกำเริบขึ้นอย่างสมบูรณ์ ก็ไม่รู้เหมือนกันนะว่าคนอย่างท่านจะสามารถทนไหวหรือไม่”
“ใช้ดวงจิตดวงวิญญาณของข้าแลกกับโอกาสที่จะทำลายผู้แข็งแกร่งอย่างท่าน ข้าช่างสุขใจยิ่งนัก!”
“ข้าดีใจมากที่มีองค์ชายจิ่วเยี่ยตายไปพร้อมกับข้า!”
ดวงตาคู่นั้นของมู่เฉียนซีเย็นยะเยือกลง “ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก! ตายไปพร้อมกับเจ้าอย่างนั้นเหรอ จิ่วเยี่ยจะไม่มีวันตายไปพร้อมกับคนชั่วช้าอย่างเจ้าเด็ดขาด!”
“ในที่สุดข้าก็ได้รับอิสระภาพอีกครั้ง ดู ๆ ไปแล้วเหล่าบรรดาลูกหลานของข้าก็มีความกตัญญูรู้คุณเหมือนกัน อีกทั้งยังส่งหุ่นเชิดที่ไม่เลวให้กับข้าอีกด้วย ฮ่า ๆ ๆ ความสามารถนี้ แม้แต่สวรรค์ก็ต้องอิจฉาริษยา!”
มู่เฉียนซีพุ่งออกไปกอดจิ่วเยี่ยเอาไว้แล้ว!
“สุ่ยจิงอิ๋ง ขวางเอาไว้ให้ข้า! ต้องขวางมันไว้ให้ได้!”
ผู้พิทักษ์นิรันดร์มีพลังการปกป้องที่แข็งแกร่งที่สุด แต่เมื่อเผชิญหน้ากับคัมภีร์หมื่นคำสาปเช่นนี้ พวกเขาโจมตีไม่ได้ ทำได้เพียงแค่ต้านทานเอาไว้เท่านั้น!
“ตกลง!” ลำแสงสีฟ้าอ่อนได้แผ่ซ่านออกมาจากหัวใจของมู่เฉียนซี และได้ต้านทานพลังคำสาปชั่วร้ายนี้ไว้ได้
“สาวน้อย เจ้ามันน่าทึ่งเกินไปแล้ว! เจ้าไม่เพียงแต่จะเป็นผู้ทำพันธสัญญากับศาลาเรือนรางเก้าชั้นเท่านั้น นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะเป็นผู้ทำพันธสัญญากับดอกบัวหงส์เก้ากลีบด้วย” คัมภีร์หมื่นคำสาปกล่าวด้วยน้ำเสียงอันชั่วร้าย
คนอื่น ๆ เห็นเช่นนี้ต่างก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น
อะไรนะ?
ศาลาเรือนรางเก้าชั้น ดอกบัวหงส์เก้ากลีบ มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์!
ถึงแม้ว่ากู้เสี้ยวเทียนจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็จ้องมองมู่เฉียนซีด้วยสายตาที่เร่าร้อนแผดเผา
ส่วนคนอื่น ๆ ก็ตกตะลึงนิ่งอึ้งไปกับชื่อของมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ทั้งสองนี้ นี่มัน…
สุ่ยอู๋ซินเองก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย เดิมทีคิดว่าท่านมู่เป็นผู้ทำพันธสัญญากับท่านมังกรวารีเท่านั้น กลับคิดไม่ถึงเลยว่านางจะไม่ได้ทำพันธสัญญากับมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์แค่เพียงชิ้นเดียว
“ในตอนนี้ ดอกบัวหงส์เก้ากลีบอ่อนแอมาก ไม่มีทางขวางข้าได้หรอก! ในเมื่อข้าได้ออกมาแล้ว ข้าก็สามารถข้ามมิติทำให้หุ่นเชิดของข้าเชื่อฟังข้าได้”
ดวงตาของจิ่วเยี่ยในตอนนี้ล้ำลึกลงไปหลายเท่าแล้ว!
“จิ่วเยี่ย!” มู่เฉียนซีกอดจิ่วเยี่ยเอาไว้แน่น
แต่ก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนัก ในตอนนี้นางรู้สึกได้ว่าร่างกายของเขาเริ่มร้อนผ่าวขึ้นแล้ว
ฉึก! เสื้อผ้าของเขาฉีกขาด ความมืดมิดก็เริ่มแผ่กระจายไปทั่วทั้งตัวเขา
คัมภีร์หมื่นคำสาปกล่าว “เจ้าก็เป็นผู้ที่วิปริตคนนึงเหมือนกันนะ โดนคำสาปหนึ่งในคำสาปโบราณสิบสามชนิดอันน่ากลัวเช่นนั้นเข้าไปแล้ว นึกไม่ถึงเลยจริง ๆ ว่าเจ้าจะสามารถยืนหยัดมาได้นานถึงเพียงนี้ แต่เจ้าก็ทำได้เพียงเท่านี้แล้วล่ะ”
แกร่ก! หน้ากากที่บดบังใบหน้านั้นของจิ่วเยี่ยก็ได้แตกออกเป็นเสี่ยง ๆ และใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยอักขระสาปสีดำ
ดวงตาสีฟ้าอันเย็นยะเยือกคู่นั้นพลันเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินเข้มและเต็มไปด้วยความกระหายเลือด
ต่อให้มู่เฉียนซีฉีดยาให้และให้เขากินยาหัวใจโพธิ์เข้าไป แต่กลับไม่ได้ผลเลยแม้แต่น้อย
คัมภีร์หมื่นคำสาปหัวเราะขึ้นด้วยความลำพองใจ “ฮ่า ๆ ๆ! สาวน้อย เจ้าใช้ยาลูกกลอนยับยั้งคำสาปของข้าเนี่ยนะ เจ้ามันช่างไร้เดียงสาเกินไปแล้ว เจ้าหมอนี่โดนคำสาปที่แข็งแกร่งที่สุดของข้า ต่อให้เป็นยาของหม้อเทพนิรันดร์มันก็ใช้ไม่ได้!”
“ทุกอย่างที่ศาลาเรือนรางเก้าชั้นทำกับข้า ข้าจะต้องเอาคืนเป็นเท่าตัวกับผู้ที่เป็นพันธสัญญาของมันถึงจะถูก หลังจากที่หุ่นเชิดของข้าไม่สามารถควบคุมสติได้ สิ่งแรกที่จะทำก็คือทำให้เจ้าตายทั้งเป็น เจ้าค่อย ๆ สนุกกับมันเถอะ!”