ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1328 ผิดแผนเสียแล้ว
อีกคนหนึ่งได้เยาะเย้ยคนผู้นั้นว่า “พลังวิญญาณหมดสิ้น น้องชายเจ้าพูดอีกทีสิ! ประมุขน้อยเฉียนซีเป็นหนึ่งในผู้ปกครองหอหมอปีศาจ ยาเม็ดยาน้ำก็ล้วนมีมากตามต้องการ แม้ว่าพลังวิญญาณของคนบนลานประลองนี้จะหมดลง แต่พลังวิญญาณของประมุขน้อยเฉียนซีก็ไม่มีทางหมดสิ้นได้”
จากนั้นพวกเขาก็เห็นสตรีผู้หนึ่งที่ดื้อรั้นราวกับลมที่ไร้การควบคุมบนเวทีประลอง นางดื่มยาราวกับเป็นน้ำเปล่า
สุรุ่ยสุร่ายเสียจริง! ช่างฟุ่มเฟือยเกินไปแล้ว! ยาน้ำล้ำค่านี้สามารถใช้เช่นนี้ได้หรือ?
การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป แม้ว่าอีกฝั่งหนึ่งจะมีจำนวนมาก แต่ก็ยังคงไม่สามารถทำอะไรมู่เฉียนซีได้
ในที่สุดทุกคนก็ได้รู้ถึงความวิปริตของมู่เฉียนซี แม้แต่ยอดฝีมืออันดับหนึ่งของดินแดนโลกสี่ทิศอย่างนายน้อยอวิ๋นซิว ก็ยังไม่วิปริตถึงขนาดนี้
การโจมตีธาตุน้ำแตกต่างกันอย่างมาก!
กระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์กวาดไปทุกทิศทุกทาง!
นอกจากนี้ยังมีทักษะวิญญาณทำลายล้างที่ร้ายแรงและน่ากลัวจนถึงขีดสุด
ในการต่อสู้ครั้งนี้ ถ้าหากไม่มีใครมีพละกำลังพอในการควบคุมมู่เฉียนซี พวกเขาย่อมไม่มีโอกาสที่จะชนะได้เลย และคงทำได้เพียงถูกโจมตีเท่านั้น!
ผู้อาวุโสห้ากระซิบว่า “ผู้อาวุโสหก คนของเจ้าจะสามารถเอาชนะได้จริงหรือ?”
เขารู้สึกว่าสาวน้อยผู้นี้วิปริตจริง ๆ แม้ว่าเขาจะต่อสู้กับนางแบบตัวต่อตัว หากไม่ถูกนางฆ่าก็คงต้องทุกข์ทรมานเป็นอย่างมากแทน
ผู้อาวุโสหกดูมีความมั่นใจในชัยชนะ เขายิ้มและกล่าวว่า “ผู้อาวุโสห้า เจ้าก็รอดูเอาเถิด! ปล่อยให้สาวน้อยผู้นี้หยิ่งผยองอีกสักหน่อย”
ปัง ปัง ปัง! ผู้คนอีกสิบกว่าคนได้พ่ายแพ้ต่อมู่เฉียนซีและในเวลานี้คนบนลานประลองก็น้อยลงไปเรื่อย ๆ
แสงสีดำส่องประกายในดวงตาของมู่เฉียนซี ผู้อาวุโสหกไม่มีทางเดินหมากเช่นนี้โดยไม่มีเหตุผลอย่างแน่นอน ย่อมต้องมีแผนการที่จะเอาชนะ
ในบรรดาคนที่เหลืออยู่ น่าจะมีตัวหมากของเขาซ่อนอยู่
เมื่อมู่เฉียนซีเดินเข้าไปท่ามกลางคนเหล่านี้เพื่อต่อสู้ ทันใดนั้นแสงสีดำลำแสงหนึ่งก็พุ่งออกมา
ทุกคนเบิกตากว้างและกล่าวว่า “นั่นเป็นลมปราณของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหก!”
“คาดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหก!”
“ผู้อาวุโสหก อีกฝ่ายปล่อยสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ออกมา ฝ่าฝืนกฎ! ผิดกฎ!”
ผู้อาวุโสหกยิ้มแล้วกล่าวว่า “การประลองในครั้งนี้ เดิมเป็นการทดสอบความสามารถที่ครอบคลุม! ประมุขน้อยเฉียนซีสามารถที่จะใช้มหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์อย่างกระบี่ศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ได้ คนอื่น ๆ ก็ย่อมสามารถนำไพ่ไม้ตายของตัวเองออกมาได้เช่นกัน”
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหก ความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นนี้มิอาจมองข้ามได้ ครานี้ประมุขน้อยเฉียนซีจะยังสามารถหลบหลีกได้อีกหรือไม่?
มู่เฉียนซีกล่าว “อู๋ตี้!”
เมื่อเงาสีดำพุ่งขึ้นไป เงาสีขาวก็พุ่งเข้าไปพัวพัน
พวกเขาเห็นแมวน้อยสีขาวน่ารักตัวหนึ่ง และแม้ว่าแมวน้อยสีขาวจะตัวเล็ก แต่กลับสกัดกั้นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกได้
“สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้า!”
“อีกทั้งยังเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดของระดับห้า นี่มันไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย!”
“…..”
มู่เฉียนซีมองไปที่ผู้อาวุโสหกและยิ้มพลางกล่าวว่า “ผู้อาวุโสหกพูดถูก มีไพ่ไม้ตายไม่ใช้ก็คงไม่ได้ แต่ไพ่ไม้ตายของข้าไม่ได้มีเพียงกระบี่ในมือของข้าเท่านั้น”
ผู้อาวุโสหกสงบนิ่งมาก อย่างไรเสียเรื่องที่มู่เฉียนซีมีสัตว์พันธสัญญา เขาก็รู้เรื่องนี้นานแล้ว
ก็เพียงแค่ระดับห้า ภายใต้การโจมตีของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหก คงทนอยู่ได้ไม่นานนัก
โฮก! จากนั้นเสียงคำรามหวีดร้องก็ดังขึ้น
เสือตัวหนึ่งกระโจนใส่มู่เฉียนซี พลันนั้นดวงตาของทุกคนก็เบิกกว้างขึ้นพลางกล่าวว่า “สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกอีกตัวหนึ่ง!”
“สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกกลับปรากฏขึ้นสองตัวในวันเดียว”
“ข้าจำได้ว่าแม้แต่นายน้อยใหญ่และธิดาศักดิ์สิทธิ์คนก่อนก็ไม่มีคุณสมบัติทำพัธสัญญากับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกได้!”
ไม่ปกติ ต้องมีบางอย่างผิดปกติอย่างแน่นอน!
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกนั้นจับได้ยากมาก นับประสาอะไรกับการที่จะทำให้มันเชื่อง สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกยิ่งไม่ต้องกล่าวถึงเลย
ผู้อาวุโสหกยิ้มพลางกล่าว “ผู้มีพรสวรรค์ มันไม่ยากที่จะทำพันธสัญญากับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหก”
“เสี่ยวหง!” เมฆหมอกควันพวยพุ่งออกมาและเสี่ยวหงก็ได้เข้าไปพัวพันกับเสือตัวนั้น
“ประมุขน้อยเฉียนซีทำพันธสัญญากับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์สองตัวจริง ๆ อีกทั้งพวกมันยังอยู่ในระดับห้าอีกด้วย!”
“นางยังเป็นมนุษย์อยู่หรือเปล่า? กลับสามารถทำพันธสัญญากับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ได้ถึงสองตัว!”
“……”
แม้จะรู้ว่ามู่เฉียนซีมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์สองตัว แต่เมื่อเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ผู้อาวุโสหกก็ไม่สามารถสงบสติอารมณ์ลงได้
น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถหาสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกตัวที่สามได้ มิฉะนั้นเขาก็คงจะสามารถทำให้มู่เฉียนซีพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชได้อย่างง่ายดาย
แต่อย่างไรก็ตามสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าสองตัวก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหก รอให้สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าสองตัวนั้นของมู่เฉียนซีถูกกลืนกินเสียก่อนเถอะ
เมื่อถึงเวลาที่ถูกสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกสองตัวล้อมโจมตี มู่เฉียนซีคิดจะพลิกเป็นฝ่ายชนะ ก็คงเป็นเพียงความฝัน!
มู่เฉียนซีเองก็เดาความคิดของผู้อาวุโสหกออกเช่นกัน และแผนการตอบโต้ในตอนนี้ก็คือการจัดการผู้เป็นนายของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกทั้งสองตัวนั่น
ร่างสีม่วงปล่อยการโจมตีกวาดออกไปอย่างรุนแรง แต่พวกเขาเหล่านั้นก็ได้เตรียมการเอาไว้แล้ว คนกลุ่มหนึ่งได้ลงมือใส่มู่เฉียนซี เพื่อปกป้องผู้เป็นนายของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองตัวนั้นและป้องกันไม่ให้มู่เฉียนซีประสบความสำเร็จ
ปัง ปัง ปัง!
การโจมตีของมู่เฉียนซีแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พวกเขาไม่สามารถต้านทานได้
แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขากระอักเลือดออกมาจริง ๆ ก็คือ ทำไมสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกทั้งสองตัวถึงได้ต่อสู้กับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าสองตัวเป็นเวลานานขนาดนี้?
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกควรจะจัดการสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าจนพ่ายแพ้ไปในทันทีมิใช่หรือ?
แม้แต่ผู้อาวุโสหกเองก็ไม่อยากจะเชื่อสายตา สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองตัวนี้ดูเหมือนจะสามารถเพิกเฉยต่อแรงคุกคามของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงได้ อีกทั้งความแข็งแกร่งของพวกมันไม่ใช่สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าธรรมดาเลย ผิดแผนเสียแล้ว!
แต่ผู้อาวุโสหกกลับคิดไม่ถึงเลยว่า ความผิดพลาดนี้ยังคงไม่สิ้นสุด!
มู่เฉียนซีกวาดล้างแกนวิญญาณสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ของตำหนักเป่ยหานไปอย่างไม่มีเหลือแม้แต่นิดเดียว
แกนวิญญาณทั้งหมดนี้ล้วนตกถึงท้องของอู๋ตี้แล้ว และตอนนี้มันก็กำลังต่อสู้อยู่กับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกที่น่าเกลียดอีกครั้ง!
อู๋ตี้โกรธขึ้นมาแล้ว และในที่สุดมันก็เลื่อนขั้น
ทุกคนเห็นว่าพลังของแมวน้อยสีขาวตัวนั้นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ อย่างกะทันหันและในไม่ช้าก็ปล่อยพลังของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกออกมา
“ข้าไม่ได้มองผิดไปใช่ไหม! แมวน้อยตัวนั้นเลื่อนขั้นแล้ว!”
“ทำไมถึงเลื่อนขั้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ได้ นี่มันลึกลับเกินไปแล้วกระมัง!”
“…..”
หลังจากอู๋ตี้เลื่อนขั้น มันก็ยิ้มพลางกล่าวว่า “จะไม่เสียเวลากับเจ้าแล้ว ข้าเพิ่งเลื่อนขั้น รู้สึกหิวเป็นอย่างยิ่ง”
ทันใดนั้นแมวน้อยสีขาวซึ่งมีขนาดเท่าฝ่ามือก็สูงขึ้นราวกับภูเขา และแรงกดดันที่น่ากลัวก็ทำให้งูดำตัวสั่น
กรงเล็บของเจ้าแมวตัวสีขาวเคลื่อนไหวไปและจับงูดำตัวนั้นได้ในทันที งูดำตัวนั้นไร้กำลังที่จะต่อสู้ได้อย่างสิ้นเชิง
ผู้คนเหล่านั้นที่มองดูฉากนี้อยู่ด้วยความไม่อยากจะเชื่อ ก็พากันพึมพำว่า “ข้าคงจะมิได้ตาฝาดไปใช่หรือไม่!”
สีหน้าของผู้อาวุโสหกเองก็ดูไม่ได้อย่างยิ่งเช่นกัน “แม้ว่าแมวน้อยสีขาวตัวนั้นจะเลื่อนขั้นไปแล้ว แต่มันก็เพิ่งเลื่อนขั้น มันจะไปจัดการกับสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกที่ได้รับการเลื่อนขั้นมาเป็นเวลานานจนตายได้อย่างไรกัน! เป็นเช่นนี้ไปได้อย่างไร?”
อู๋ตี้ควักแกนวิญญาณของงูดำออกมา จากนั้นมันก็กลับกลายเป็นร่างจิ๋วโดยถือแกนวิญญาณนั่นไว้ในอุ้งมือ ก่อนที่มันจะ…แคร่ก! แทะแกนวิญญาณนั้นลงท้องไปอย่างรวดเร็ว
ผู้อาวุโสหกแทบจะอาเจียนออกมาเป็นเลือด ฆ่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกแถมยังกัดแทะแกนวิญญาณอีกด้วย
ส่วนเสี่ยวหงตอนน้ีโกรธมาก ขณะที่มันกำลังถูกเสือไล่ล่า! แต่เจ้าแมวโง่ตัวนี้กลับกินอย่างสบายใจ
“เจ้าแมวโง่ ยังไม่รีบมาช่วยอีก!”
อู๋ตี้กล่าวว่า “รอข้ากินเสร็จก่อนค่อยว่ากัน อย่างไรเสียหมูขี้เกียจอย่างเจ้าก็ดวงแข็ง ไม่ตายง่าย ๆ หรอก!”
ความน่าเกรงขามของอู๋ตี้พัดผ่านและมู่เฉียนซีก็กวาดล้างผู้คนออกไปไม่น้อยเช่นกัน
ตอนนี้เหลือเพียงห้าคนบนเวทีประลอง เมื่อเห็นว่าเสี่ยวหงกำลังดิ้นรนที่จะจัดการกับเสือตัวนั้น มู่เฉียนซีก็ฝ่าแนวป้องกันและพุ่งเข้าหาผู้เป็นนายของเสือตัวนั้นทันที
“ทักษะโยวหลัว!”
พรวด! หนึ่งกระบวนท่าสามารถทำให้คนผู้นั้นตกลงจากเวทีประลองได้ และคนผู้นั้นก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนกระอักเลือดออกมา พร้อมกันนั้นการควบคุมเสือนั่นก็ถูกทำลายลง
ในขณะนี้เอง ก็ได้มีการโจมตีมาจากด้านหลังของมู่เฉียนซี
สีหน้าของผู้อาวุโสหกกลายเป็นดุร้ายขึ้นมา มู่เฉียนซี นี่ต่างหากล่ะที่เป็นทักษะมือสังหารที่แท้จริงของข้า เจ้าแพ้แล้ว!
.