ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1433 นายท่านกลับมาแล้ว
แสงเย็นวาบผ่านดวงตาของมู่เฉียนซี นึกไม่ถึงเลยว่าคนของเป่ยกงจั๋วจะมาถึงที่นี่แล้ว เร็วกว่าที่นางจินตนาการเอาไว้มาก
ในเมื่อพวกนั้นค้นพบแล้วว่าคนของนางอยู่ที่นี่ เช่นนั้นก็ปิดบังเอาไว้ไม่อยู่แล้ว แต่กลุ่มคนที่มาถึงก่อนกลุ่มนี้ ต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุดจะเป็นการดีมาก
มู่เฉียนซีกินข้าวไป พลางสังเกตความเคลื่อนไหวของคนเหล่านี้ไป
และหลังจากที่พวกเขาออกไป มู่เฉียนซีกับชิงอิ่งก็แอบตามพวกเขาไป
เป้าหมายของพวกเขาก็คือคฤหาสน์ใหญ่แห่งหนึ่ง ด้านในมีกลิ่นอายอันแข็งแกร่งมากอยู่หลายร่าง ส่วนคนอื่นก็ล้วนแต่เป็นยอดฝีมือขั้นมหาจักรพรรดิทั้งสิ้น
ช่างให้ความสำคัญกับหอหมอปีศาจของนางมากจริง ๆ
มู่เฉียนซีแอบอยู่ด้านนอกคฤหาสน์ใหญ่นี้อย่างระมัดระวัง รอจนกว่าตะวันตกดิน ถึงจะเป็นโอกาสลงมือที่ดีที่สุด
ไม่นานนัก ดวงตะวันก็ค่อย ๆ ลับขอบฟ้าไป
และแน่นอนว่ามู่เฉียนซีไม่ได้วู่วามบุกเข้าไปตรง ๆ อย่างไรเสียด้านในก็มียอดฝีมือระดับสูงสุดอยู่ไม่มาก แต่จำนวนคนของพวกเขานั้นก็ไม่น้อยเลย
ส่วนนาง ต่อให้มีเสี่ยวหงกับอู๋ตี้เพิ่มมา ก็มีกันแค่สี่คนเท่านั้น
นางแอบย่องเข้าไปในมุมต่าง ๆ ของคฤหาสน์แห่งนี้ ติดตั้งอาวุธลับและโรยผงพิษไปทั่วบริเวณ
มู่เฉียนซีโบกมือพลางกล่าว “เสี่ยวหง เจ้าไปจุดไฟ อู๋ตี้ เจ้าไปโรยผงพิษ”
อู๋ตี้กับเสี่ยวหงกล่าว “นายท่าน วางใจเถอะ! พวกเราทำสำเร็จแน่นอน”
ส่วนมู่เฉียนซีกับชิงอิ่งรออยู่ด้านนอก รอดูผลลัพธ์!
ไม่นานนัก คฤหาสน์อันเงียบสงบแห่งนี้ก็เกิดไฟลุกโชนขึ้น และมีคนตะโกนขึ้นเสียงดังลั่นว่า “ไฟไหม้แล้ว!”
“ไฟไหม้ นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
“ไฟไหม้ได้ยังไง?”
“รีบช่วยกันดับไฟเร็วเข้า!”
พวกเขารีบช่วยกันดับไฟ และหาที่มาของการเกิดไฟไหม้ในครั้งนี้
แต่พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าหลังจากที่เกิดไฟไหม้แล้ว พวกเขาได้สูดดมพิษที่ไร้สีไร้กลิ่นเข้าไปในร่างกายแล้ว
ในขณะที่ไฟกำลังลามไปทั่ว ก็มีคนหลายคนล้มหมดสติไปอย่างลึกลับ
ตุบ ๆ ๆ!
ล้มไปหนึ่งคน สองคน สามคน…
“พวกเราโดนพิษเล่นงานเข้าแล้ว!”
“มีคนจงใจทำให้ไฟไหม้แล้ววางยาพิษพวกเรา!”
“รีบออกไปจากที่นี่เร็วเข้า!”
“คนของหอหมอปีศาจมาเจอพวกเราได้ยังไง!”
“ล่าถอย รีบล่าถอยเร็วเข้า!”
พวกเขาต่างตื่นตระหนกขึ้น และรีบหนีออกจากที่นี่อย่างรวดเร็ว
ตุบ!
ทว่า มีคนโดนพิษจนหมดสติไปในขณะที่กำลังวิ่งหนีออกไป
“เพลิงเผาสวรรค์!”
เงาร่างสีแดงวาบผ่านไป และเปลวไฟอันน่าสะพรึงกลัวก็พัดกระโชกมา
พลังอำนาจของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกทำให้ผู้คนที่ประสบพบเจออดที่จะหวาดกลัวจนตัวสั่นไม่ได้
ต่อมาเงาร่างสีขาวก็ปรากฏขึ้น และโจมตีจนพวกเขาไม่ทันตั้งรับ!
เดิมทีพวกเขาก็เป็นยอดฝีมือที่ถูกฝึกฝนมาเป็นอย่างดี แต่การโจมตีเช่นนี้ช่างน่าทึ่งมากจริง ๆ โจมตีถึงขั้นทำให้ผู้คนบาดเจ็บล้มตายไปนับไม่ถ้วน!
บางคนกว่าจะหนีออกมาได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ทว่า เมื่อหนีออกมาได้แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ…
แกร่ก! จู่ ๆ ร่างในชุดสีเขียวร่างหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าพวกเขาอย่างรวดเร็วดุจดั่งเทพมาร และหักคอพวกเขาอย่างไร้ความปรานี
จากนั้น คนต่อไปก็โดนหักคอเช่นนี้เหมือนกัน!
ชิงอิ่งลงมือรวดเร็วมาก ฆ่าพวกเขาแต่ละคนตายไปอย่างง่ายดายราวกับฆ่าไก่
“มังกรเพลิงสังหาร!”
“บัวแดงพิฆาต!”
“ทักษะโยวหลัว!”
ส่วนมู่เฉียนซีก็ฉวยโอกาสนี้ลอบโจมตีพวกเขาเช่นกัน ถึงแม้ว่านางจะมีพลังเพียงแค่ขั้นจักรพรรดิ แต่พลังในการสังหารของนางนั้น แม้แต่ยอดฝีมือระดับสูงสุดก็ไม่อาจต้านทานได้!
ปัง ปัง ปัง!
พวกเขามีจำนวนคนมากมายถึงเพียงนี้ แต่กลับประสบพบเจอกับหายนะเข้าแล้ว!
อ๊า! ยังมีคนที่น่าสังเวชยิ่งกว่า
ยังไม่ทันหนีออกมาได้ก็ถูกอาวุธลับนานาชนิดโจมตีเข้าแล้ว!
มู่เฉียนซีใส่ยาพิษรุนแรงเข้าไปในอาวุธลับเหล่านี้ด้วย เพียงสัมผัสเท่านั้นคนผู้นั้นก็จะถึงแก่ความตาย!
ไม่นานนัก การบาดเจ็บล้มตายของคนเหล่านั้นก็ยิ่งทวีความน่าสังเวชมากขึ้นเรื่อย ๆ
จนในที่สุดก็มีคนจำมู่เฉียนซีได้
“เจ้า นี่เจ้าคือมู่เฉียนซี!”
“มู่เฉียนซี นี่เจ้า นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะมาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้”
มู่เฉียนซีกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ในเมื่อพวกเจ้าจำข้าได้แล้ว เช่นนั้นก็ไม่มีความจำเป็นต้องมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว”
“มังกรน้ำแข็งท้าสวรรค์!”
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
คฤหาสน์แห่งนี้ถูกเผาจนสิ้นซาก แม้แต่ร่างของสุนัขรับใช้ของเป่ยกงจั๋วเหล่านี้ก็ถูกแผดเผาไปด้วย
อู๋ตี้กับเสี่ยวหงกล่าว “นายท่าน ทุกอย่างเรียบร้อย ตายเรียบ ไม่เหลือแม้แต่คนเดียวขอรับ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “เราต้องรีบเดินทางกลับไปให้เร็วที่สุด คาดว่าอีกไม่นานเป่ยกงจั๋วต้องมาที่นี่แน่ เราต้องไปเตรียมรับศึกกันก่อน!”
หลังจากที่นางได้ออกไปจากทุ่งรกร้างอันกว้างใหญ่ในครานั้น จนถึงตอนนี้ทุ่งรกร้างอันกว้างใหญ่ได้เปลี่ยนไปมากแล้ว
ตอนนี้ใจกลางของทุ่งรกร้างอันกว้างใหญ่ก็ยังคงเป็นเมืองแห่งความโกลาหลอยู่ อย่างไรเสียที่นี่ก็เป็นสถานที่ที่เป็นทำเลดีมาก
และมันได้เปลี่ยนชื่อเมืองแล้วด้วย เป็นเมืองหมอ
ในตอนนี้ ทั่วทั้งทุ่งรกร้างอันกว้างใหญ่อยู่ในการเตรียมการป้องกันอย่างรัดกุม หากเกิดการเคลื่อนไหวอันใดขึ้นก็จะต้องรายงานให้ท่านเจ้าเมืองเย่รับทราบ
ตอนนี้ ณ ห้องโถงแห่งจวนท่านเจ้าเมืองเมืองหมอ สีหน้าของหลาย ๆ คนเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
“ยังไม่มีข่าวของพี่ใหญ่เลย ไม่รู้ตอนนี้พี่ใหญ่เป็นยังไงบ้าง”
“ไม่มีข่าว ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว นายท่านต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน”
“คิดเอาไว้อยู่แล้วเชียวว่าหัวหน้าตำหนักเป่ยหานนั่นไม่ใช่คนดีอะไร รู้เช่นนี้ข้าฆ่าเขาให้ตายไปซะตั้งนานแล้ว!”
“ตอนนี้สิ่งที่พวกเราทำได้ดีที่สุดก็คือรักษาแนวป้องกันสุดท้ายนี้เอาไว้ให้ดีที่สุด แล้วรอนางกลับมา”
“ข้าไม่ทำมันแล้ว! ข้าหิวจะตายอยู่แล้ว ข้าจะออกไปตามหาสาวน้อยตอนนี้นี่แหละ!”
จวินโม่ซีที่นิ่งเงียบที่สุดมาโดยตลอด หลายวันที่ผ่านมานี้เขากินไม่ได้นอนไม่หลับเลย
และในตอนนี้เอง น้ำเสียงอันสดใสเสียงหนึ่งดังขึ้น “ข้าก็หิวจะตายอยู่แล้ว รีบให้พ่อครัวเตรียมของอร่อย ๆ ต้อนรับการกลับมาของข้าเร็วเข้าสิ!”
คนผู้นี้เป็นชายหนุ่มผู้หนึ่ง หน้าตาเปรอะเปื้อนไปด้วยฝุ่น รูปร่างหน้าตาดูธรรมดามาก แต่พวกเขามองแค่แวบเดียวก็ดูออกแล้วว่าเป็นใคร
“พี่ใหญ่!”
“นายท่าน!”
“นายท่าน!”
“สาวน้อย!”
พวกเขาอุทานขึ้น!
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “เยวี่ยเจ๋อ โม่จิ่น เย่เฉิน เซียวเหยา เจ้าตะกละจวิน ไม่เจอกันนานเลยนะ!”
“เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย พวกเราก็ดีใจ!” พวกเขาที่สีหน้าเคร่งเครียดวิตกกังวลมาหลายวัน ในที่สุดก็ยิ้มออกแล้ว
เย่เฉินกล่าว “ข้าจะรีบไปบอกพ่อครัวเตรียมอาหารเดี๋ยวนี้เลย!”
“นายท่านเชิญนั่ง ๆ!”
“นายท่าน ให้ข้านวดไหล่ให้นะ!”
มู่เฉียนซีกลับมาทำให้พวกเขารู้สึกมีเรี่ยวแรงขึ้นทันที!
จวินโม่ซีกินจนจุกแล้ว!
หลังจากที่กินอิ่มหนำสำราญแล้ว พวกเขาจึงพูดคุยเรื่องจริงจังขึ้น!
เนื่องจากศัตรูรายใหญ่กำลังจะมาเยือน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมให้รอบคอบ
มู่เฉียนซีเอ่ยปากกล่าวว่า “เย่เฉิน เจ้าน่าจะรู้ข่าวแล้วใช่หรือไม่ว่าตำหนักเป่ยหานรู้ฐานที่ตั้งของพวกเราแล้ว”
เย่เฉินพยักหน้าพลางกล่าว “อืม! หากนายท่านยังไม่กลับมา พวกเราก็เตรียมความพร้อมที่จะสู้กับพวกมันให้พังกันไปข้างนึงแล้วเช่นกัน”
“แล้วตอนนี้ล่ะ?” มู่เฉียนซีเลิกคิ้วพลางกล่าวถาม
“ตอนนี้แล้วแต่นายท่านจะตัดสินใจ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “หากเป็นแค่กองกำลังของตำหนักเป่ยหานเพียงอย่างเดียว พวกเราคงไม่ถูกบีบให้มาถึงขั้นนี้ แต่นี่มันไม่ใช่! ข้าไม่อาจรู้ได้เลยว่าเป่ยกงจั๋วมีกองกำลังอยู่ในมือมากเท่าไร”
“ดังนั้น หน้าที่ของพวกเราก็คือปกป้องเมือง! ปกป้องเมืองเอาไว้ให้ได้ จากนั้นก็เพิ่มความแข็งแกร่ง แล้วค่อยตอบโต้!”
โม่จิ่นกล่าว “พวกเราก็อยากเพิ่มความแข็งแกร่งขึ้นจนแทบบ้าคลั่งอยู่แล้ว แต่เวลามีจำกัด ยอดฝีมือระดับสูงสุดของพวกเราก็มีไม่พอ!”
มู่เฉียนซียิ้มพลางกล่าว “ตอนนี้เราไม่มียอดฝีมือระดับสูงสุด แต่เราสามารถสร้างยอดฝีมือระดับสูงสุดออกมาได้มากมาย ขอเพียงเวลาแค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น จำนวนยอดฝีมือระดับสูงสุดของพวกเราต้องเยอะไม่แพ้พวกนั้นแน่นอน เช่นนี้ พวกเราก็มีโอกาสตอบโต้ได้แล้ว”
.
.