ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 144 บุรุษคนโปรดของนาง
“พรวด!”
ใบหน้าไป๋จื้อหลินเต็มไปด้วยเลือด พลังชีวิตของเขาพุ่งแรงขึ้น รีบคว้าแมลงสีดำตัวใหญ่นั้นและเขวี้ยงมันทิ้งทันที
— ตุบ! —
แมลงตัวนั้นโดนเขวี้ยงติดพื้นอย่างแรง มันพยายามดิ้นรนสุดฤทธิ์ นักปรุงยาทั้งหกที่อยู่ข้าง ๆ เห็นเช่นนี้ ถึงกับเบิกตากว้าง ดวงตาแทบถลนออกมาด้วยความตกใจ
“อ๊า! กู่หนอน!”
“สวรรค์! กู่พิษ คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าใต้หล้านี้จะมีสิ่งดุร้ายเช่นนี้อยู่จริง ๆ”
สีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปในชั่วพริบตา “ท่านกั๋วกงเป็นอย่างไรบ้าง เข้าไปดูท่านเร็ว!”
มู่เฉียนซีพันแผลให้ใต้เท้ากั๋วกงอย่างรวดเร็ว จากนั้นน้ำเสียงต่ำของนางดังขึ้น “หยุดเอะอะโวยวายได้แล้ว ท่านกั๋วกงยังไม่ตายเสียหน่อย!” นางหยิบขวดยาลูกกลอนออกมายื่นให้กับไป๋มู่เฟิงก่อนจะกล่าวว่า “เอายาลูกกลอนนี้ให้ท่านกั๋วกงกินเพื่อบำรุงร่างกาย อีกเจ็ดวันข้าจะกลับมาดูอาการ”
ไป๋มู่เฟิงรับขวดยามา พยักหน้าตอบ “อืม”
“ท่านกั๋วกง ท่านพักผ่อนเถอะ” กล่าวจบมู่เฉียนซีลุกจากเตียงท่านกั๋วกง นางเดินไปหานักปรุงยาเหล่านั้น
“อีกเจ็ดวัน ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะไปรายงานตัวที่หอหมอปีศาจ พวกเจ้าล้วนแต่เป็นนักปรุงยา หากไม่ไปตามที่กล่าวเอาไว้คงจะรู้ต้องเจอกับอะไร ข้าไม่อยากกล่าวอะไรให้มากความ หวังว่าพวกเจ้าจะเข้าใจ”
พวกเขาเห็นดวงตาเขียวของเจ้าเด็กนี่กะพริบแสงเยือกเย็นน่าหวาดกลัวออกมา รอยยิ้มมุมปากนั้นทำให้พวกเขารู้สึกกลัว ขนลุกซู่ ทั้งมือเท้าก็เย็นราวน้ำแข็งขั้วโลก
เจ้าเด็กประหลาดนี่ สามารถจัดการกับแมลงกู่พิษได้อย่างง่ายดายทั้ง ๆ ที่พวกเขาไม่สามารถทำได้ ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่สามารถทำให้เจ้าเด็กนี่ขุ่นเคืองได้ และเมื่อพวกเขาดึงสติกลับมาอีกครั้ง พบว่าเจ้าเด็กตาเขียวอวดดีผู้นั้นกลับออกไปแล้ว
ไป๋จื้อหลินเดินเข้าไปที่เตียง กล่าวออกมาอย่างเป็นห่วงเป็นใย “ท่านพ่อ ในที่สุดท่านพ่อก็ฟื้นแล้ว วิเศษ วิเศษนัก!”
…
มู่เฉียนซีกลับถึงหอหมอปีศาจ บรรยากาศที่หอหมอปีศาจยังคงเต็มไปด้วยความครึกครื้น เยวี่ยเจ๋อเห็นบุรุษหน้าตางดงามก้าวเท้าเข้ามา กล่าวขึ้นว่า “รูปร่างเช่นนี้ของพี่ใหญ่ ข้าไม่คุ้นเคยเลยจริง ๆ”
มู่เฉียนซียิ้ม “ข้าจะเปลี่ยนกลับเดี๋ยวนี้แหละ ขอให้เจ้ารู้เอาไว้ว่าหน้าตาของหมอปีศาจเป็นเช่นนี้ก็เพียงพอแล้ว”
มู่เฉียนซีกลับเข้ามาที่ห้อง นางแปลงร่างกลับมาเป็นคนเดิมอย่างรวดเร็ว อันที่จริงการแปลงร่างนั้นง่ายมาก แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าก็เป็นอันจบ ระหว่างนางกับอาถิง มีพันธสัญญาต่อกันอยู่ ดังนั้นการแปลงร่างย่อมสะดวกรวดเร็วเป็นธรรมดา
มู่เฉียนซียิ้ม “หึ ๆ หากให้ทุกคนรู้ว่าหมอปีศาจเป็นผู้นำตระกูลมู่แล้วละก็ คงจะกลายเป็นเรื่องแสนยุ่งยาก การขยายหอหมอปีศาจในนามตระกูลมู่และใช้ชื่อของหมอปีศาจเพื่อปกป้องเช่นนี้ ถือว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้ว”
“การแปลงร่างข้ามเพศของข้าเป็นแค่เพียงเทคนิคง่าย ๆ ของข้าก็เท่านั้น ส่วนรูปร่างหน้าตานั่น เขาเป็นสหายของข้าเอง ข้ายืมหน้าตาเขามาใช้แล้วเป็นอย่างไร ไม่เลวเลยใช่ไหม ?”
เยวี่ยเจ๋อกล่าวหยอกล้อ “งดงามราวเทพเช่นนั้น พี่ใหญ่ไม่กลัวว่าหญิงงาม ๆ ทั้งหลายจะมาติดใจเอาหรอกหรือ ?”
“รูปงามเช่นนั้น แม้แต่สตรียังอายเลย เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก”
ทันใดนั้นเอง มีคนเข้ามารายงาน “คุณชายเยวี่ย หลี่อ๋องมาขอพบขอรับ”
เมื่อได้ยินว่าซวนหยวนหลี่เทียนมา มู่เฉียนซีพลันหมดอารมณ์หยอกล้อกับเยวี่ยเจ๋อทันที นางกล่าวพลางทำหน้านิ่วคิ้วขมวด “ซวนหยวนหลี่เทียนมาทำอะไรรึ ?”
หอหมอปีศาจเปิดวันแรกก็ดึงดูดผู้คนเข้ามาเป็นจำนวนมากเกินความคาดหมายของมู่เฉียนซี ซวนหยวนหลี่เทียนกล่าวน้ำเสียงเย็นชา
“มู่เฉียนซี กิจกรรมที่สำคัญของสำนักศึกษากำลังจะเริ่มขึ้นในเร็ววันนี้ เจ้าให้ความสำคัญกับส่วนรวมก่อนเรื่องการค้าของเจ้าหน่อยได้หรือไม่ ?”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้ม “หลี่อ๋องเข้าใจอะไรผิดแล้วกระมัง ? หอหมอปีศาจเพิ่งเปิดเป็นวันแรก ข้าก็แค่มาร่วมสนุกด้วยเท่านั้น”
“มาถึงชิงตูแล้ว เจ้าก็มาหอหมอปีศาจทันที ตกลงความสัมพันธ์ของเจ้ากับหมอปีศาจผู้ลึกลับนั่นมันอย่างไรกันแน่ ?” ซวนหยวนหลี่เทียนคาดคั้น
มู่เฉียนซีมองซวนหยวนหลี่เทียน สีหน้านางอ่านยาก เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “หลี่อ๋อง แน่ใจรึว่าอยากรู้จริง ๆ ?”
ซวนหยวนหลี่เทียน “หมอปีศาจผู้นั้นเป็นผู้ลึกลับ มีที่มาที่ไปไม่ชัดเจน อีกทั้งก่อนหน้านี้ก็อยู่ที่จื่อตูมาโดยตลอด ข้าอยากจะรู้จักตัวตนที่แท้จริงของเขาเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เขาเป็นอันตรายต่อราชวงศ์”
มู่เฉียนซี “อืม หมอปีศาจเป็นบุรุษคนโปรดของข้าที่ข้าเลี้ยงดูไว้ ข้าโปรดปราณเขามาก เขาต้องการเปิดหอหมอปีศาจข้าก็ให้ทุนกับเขา ให้เขาได้เปิดหอหมอปีศาจไปทั่วทั้งเซี่ยโจว อีกทั้งข้ายังให้น้องข้าผู้นี้ เป็นลูกมือคอยช่วยเขาดูแลอีกด้วย เอ๊ะ! คำตอบนี้จะทำให้หลี่อ๋องไม่พอใจหรือไม่ล่ะ ?”
เยวี่ยเจ๋อได้ยินวาจาพี่ใหญ่ก็เจ็บปวดใจจับจิต ทักษะการแต่งเรื่องของพี่ใหญ่นับวันยิ่งเก่งกาจขึ้นเรื่อย ๆ แล้วสิ
ทว่า… อาถิงในตอนนี้กำลังระเบิดความโกรธออกมาอย่างต่อเนื่อง “มู่เฉียนซีสตรีบ้า! ใครเป็นบุรุษคนโปรดของเจ้ากัน เจ้าจะบ้ากันไปใหญ่แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะใช้หน้าตาของข้าหากินเช่นนี้”
มู่เฉียนซีกล่าวติดตลก “ฮิ ๆ เจ้ามั่นใจในรูปร่างหน้าตาเจ้ามาตลอดมิใช่รึ ? ข้าก็คิดว่าต่อไปเจ้าจะใช้หน้าตาเพื่อหากิน จึงใช้โอกาสนี้ช่วยเจ้าก่อนอย่างไรล่ะ”
“เจ้า!”
นอกจากอาถิงที่โกรธกรุ่น ซวนหยวนหลี่เทียนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไม่แพ้กัน ความรู้สึกราวกับตนเองโดนสวมเขาก็มิปาน
“เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นเมื่อไหร่กัน ? ก่อนยกเลิกงานแต่งหรือหลังยกเลิกงานแต่ง” ซวนหยวนหลี่เทียนกล่าวอย่างกราดเกรี้ยว
มู่เฉียนซีโบกมือ ท่าทีนางมีเพียงความเฉยเมย “นั่นไม่ใช่เรื่องของหลี่อ๋อง …รองอาจารย์ใหญ่เรียกข้าไม่ใช่รึ ? เช่นนั้นรีบไปกันเถอะ” กล่าวจบนางก็เดินออกไปโดยไม่สนใจซวนหยวนหลี่เทียนแม้แต่น้อย
เมื่อมาถึงจุดพักม้าของสำนักศึกษาแคว้นชิง มู่เฉียนซีไม่คิดว่านางจะได้เจอกับคนคุ้นหน้าค่าตานั่นก็คือ พวกคนสำนักจินติ่งผู้ที่เคยไล่ฆ่านาง รวมไปถึงคุณชายอิ๋นเจี้ยนชุดชมพู
รองเจ้าสำนักจินติ่งยิ้ม กล่าวขึ้น “หลานชายข้ามิรู้ความจึงได้ทำเรื่องขาดสติเช่นนั้นไป วันนี้ข้าตั้งใจพาเขามาขอโทษสหายจื่อเยี่ยทุกคน”
มู่เฉียนซีกล่าวเสียงเย็นชา “มาขอโทษตอนนี้ ไม่คิดว่าสายเกินไปหน่อยรึ ?”
“ท่านผู้นำตระกูลมู่ ครานี้หลานชายข้าได้รับบทเรียนแล้ว หากเขารู้จักตัวตนของท่านผู้นำก่อนหน้านี้ เขาคงไม่คิดทำเรื่องเช่นนั้นลงไปแน่” อิ๋นลี่ยิ้มกว้างประหนึ่งกำลังสนทนาเรื่องเล่น ๆ
“เจ้าหมายความว่า หากเป็นสตรีอื่นทั่วไป เจ้าก็คงปล่อยให้หลานชายเจ้าทำเรื่องระยำต่ำช้าเช่นนี้ได้ตามอำเภอใจรึ ?”
อิ๋นลี่ยิ้มเล็กน้อย “ข้าสั่งสอนเขาไม่ดีพอเอง ข้ารับปากว่าต่อไปจะไม่เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นอีก”
แท้ที่จริงแล้วพวกเขานั้นสนับสนุนวิธีการฝึกเช่นนี้ของอิ๋นเจี้ยนมาก มันจะทำให้อิ๋นเจี้ยนสามารถทะลวงพลังขึ้นไปอีกระดับอย่างรวดเร็ว แต่เขาคิดไม่ถึงว่าครานี้อิ๋นเจี้ยนจะพลาดท่ามาลงมือกับคนอย่างผู้นำตระกูลมู่เอาได้
ตระกูลมู่อยู่ในแคว้นเล็ก ๆ อย่างแคว้นจื่อเยี่ย ต่อให้ตระกูลมู่มีเงินทองมากมายเพียงใด สำนักจินติ่งก็มิได้หวาดกลัว สิ่งที่พวกเขาหวาดกลัวนั่นก็คือ ผู้นำตระกูลมู่ นางเป็นว่าที่พระชายาของเยี่ยอ๋องผู้โหดร้ายในใต้หล้านี้
สามปีก่อน สำนักป้านซิงแห่งแคว้นชิงถูกทำลายโดยเยี่ยอ๋องภายในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน แล้วไม่นานมานี้ พวกเขาก็ได้ยินข่าวมาว่าสำนักจี๋หั่วแห่งแคว้นจื่อเยี่ยก็ถูกเยี่ยอ๋องทำลายลงแล้ว
ด้วยเหตุนี้ สำนักจินติ่งของเขาจึงมิกล้าที่จะไปก่อเรื่องให้เยี่ยอ๋องต้องโกรธเกรี้ยว
มู่เฉียนซีโบกมือ “สั่งสอนไม่ดีพอรึ ? นั่นก็เป็นเรื่องของสำนักจินติ่งของเจ้า ไม่เกี่ยวกับข้า อีกอย่าง ตลอดเวลาที่ข้าเดินทางมา ข้าทั้งตกใจทั้งหวาดกลัว และยังรู้สึกอันตรายถึงชีวิต รองเจ้าสำนักอย่างเจ้าคิดว่าเรื่องนี้ เพียงแค่กล่าวคำขอโทษก็จบได้ง่าย ๆ รึ ?”
อิ๋นลี่ยิ้มอ่อน “ไม่เพียงแค่นั้นแน่นอน วันนี้ข้าเตรียมของเรียกขวัญชิ้นโตให้กับท่านผู้นำตระกูล หวังว่าจะช่วยบรรเทาความหวาดกลัวของท่านผู้นำตระกูลได้บ้าง”
“นำของมา”
สิ่งของถูกยกมาตรงหน้ามู่เฉียนซี ทั้งเงินทอง หยกงามหลากหลายชนิดส่องประกายระยิบระยับ
มู่เฉียนซีขมวดคิ้วก่อนจะกล่าวขึ้น “รองเจ้าสำนัก เจ้าคิดว่าคนอย่างข้าขาดแคลนสิ่งของเหล่านี้รึ ? เห็นได้อย่างแจ่มแจ้งว่าพวกเจ้าไม่มีความจริงใจที่จะขอโทษมากพอ ข้าไม่อาจรับคำขอโทษของพวกเจ้าเอาไว้ได้ พวกเจ้าดูแลตัวเองกันดี ๆ ล่ะ”
.