ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 1471 ฉวยโอกาสนี้ฆ่าเขา
ความทรงจำของมังกรเพลิงถูกพิฆาตวิญญาณลบล้างไป จากนั้นมังกรเพลิงก็เป็นลมหมดสติไป
ตุบ! พิฆาตวิญญาณโยนกระบี่มังกรเพลิงไว้ข้าง ๆ เขาก้มหน้าลง ก่อนจะใช้นิ้วมืออันเรียวยาวนั้นลูบไล้ผิวหน้าของมู่เฉียนซีอย่างแผ่วเบา
“แมวน้อย ประเดี๋ยวเราจะได้เจอกันแล้ว! รอให้ข้าพ้นจากการควบคุมของพระผู้นี้ แล้วข้าจะไปสนุกกับเจ้า! หลังจากนั้นเจ้าก็จะได้มาเป็นทาสกระบี่ที่ข้าสนใจมากที่สุด”
ในขณะที่กล่าวนั้น ดวงตาอันกระหายเลือดคู่นั้นพลันกลายเป็นสีดำมืดมิดแวววาวขึ้น
สัมผัสของผิวที่บอบบางดั่งหยกจากปลายนิ้วนั้นทำให้นิ้วของอินรั่วเฉินสั่นเทา
และในตอนนี้เอง มู่เฉียนซีก็ลืมตาขึ้นมาแล้ว ดวงตาคู่งามจ้องมองอินรั่วเฉินที่อยู่ตรงหน้า
“อินรั่วเฉิน!”
เมื่อได้ยินเสียงของมู่เฉียนซี อินรั่วเฉินก็รู้สึกใบหูร้อนผ่าวขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ก่อนที่จะเกิดความรู้สึกสำนึกผิดขึ้นเล็กน้อย
เขารีบดึงมือออก ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “แม่นางมู่ ข้าก็แค่จะดูว่าเจ้าฟื้นหรือยัง เจ้าฟื้นขึ้นมาแล้วก็ดี เยี่ยเฉียถูกกำจัดแล้ว”
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยความรู้สึกสงสัยว่า “เยี่ยเฉียถูกข้ากำจัดได้แล้วอย่างนั้นเหรอ ข้าเก่งกาจปานนั้นตั้งแต่เมื่อใดกัน?”
“เยี่ยเฉียเข้าร่างของเจ้า ต้องการจะครอบครองร่างของเจ้าเพื่อกลืนกินวิญญาณเจ้า แต่วิญญาณลิขิตสวรรค์เขาจะกลืนกินได้ง่าย ๆ ได้อย่างไรกันเล่า” อินรั่วเฉินกล่าว
“เมื่อครู่นี้ ข้าสัมผัสได้ว่าข้าเอาชนะพลังจิตนั่นได้”
นางเอาชนะพลังจิตนั้นได้ นางรู้!
แต่อย่างไรเสียนางก็คิดไม่ถึงว่าเพียงแค่เอาชนะพลังจิตนั้นได้ เยี่ยเฉียก็จะพ่ายแพ้ไป!
ดูเหมือนมันจะง่ายเกินไปสักหน่อยหรือไม่?
“จริงเหรอ ?” มู่เฉียนซียังไม่คลายสงสัย
อินรั่วเฉินกล่าวโกหกด้วยสีหน้าท่าทางจริงจังว่า “เดิมทีเขาก็เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยววิญญาณดวงหนึ่ง ที่ถูกหัวหน้าแคว้นผู้บุกเบิกแคว้นคนเก่าของข้าจับปิดผนึกเอาไว้ เดิมทีมันก็ไม่ได้มีพลังมากมายเท่าไรนักหรอก”
“แม่นางมู่ เจ้าอย่าได้ประเมินตัวเองต่ำเกินไปเลย! วิญญาณลิขิตสวรรค์ การกลับมาของลิขิตสวรรค์ เจ้าคือผู้เป็นที่รักแห่งสวรรค์!”
มู่เฉียนซีได้ยินเช่นนี้ก็ตกใจผงะไปครู่หนึ่ง นางมีความรู้สึกว่าที่อินรั่วเฉินกล่าวนั้นไม่ถูกต้อง
นางกล่าว “ข้าดีใจที่วิญญาณของข้าเป็นวิญญาณพิเศษเช่นนี้! เพราะมันทำให้ข้าได้เจอกับคนที่สำคัญมาก และวิญญาณของข้าก็ช่วยพวกเขาได้เช่นกัน”
“แต่มันก็ทำให้ข้าต้องแยกจากกับท่านพ่อท่านแม่ของข้า ต้องแยกจากญาติสนิทของข้าเหมือนกัน สวรรค์คงจะไม่รักและโปรดปราณคนคนหนึ่งโดยไร้เหตุผลเป็นแน่ เจ้าว่าใช่หรือไม่?”
แสงสลัววาบผ่านดวงตาของอินรั่วเฉิน “ใช่!”
มู่เฉียนซีหยิบกระบี่มังกรเพลิงขึ้นมา มังกรเพลิงไม่มีการตอบสนองเลยแม้แต่น้อย “เจ้านี่ หลับไปแล้วอย่างนั้นเหรอ?”
หลังจากมู่เฉียนซีตื่นขึ้นมา มิตินี้ก็ได้พังทลายไปโดยสมบูรณ์
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
การต่อสู้ด้านนอกยังคงเป็นไปอย่างดุเดือดและต่อเนื่อง
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันจนได้รับบาดเจ็บพอ ๆ กัน และในขณะที่อินรั่วเฉินและมู่เฉียนซีปรากฏตัวออกมานั้น ดวงตาที่ไร้ซึ่งคลื่นใด ๆ คู่นั้นของชิงอิ่งก็พลันฉายแววดีใจออกมา
“เฉียน!”
อินรั่วเฉินกล่าว “แม่นางมู่ พักก่อนเถอะ! ข้าจะไปรับมือกับปรมาจารย์แห่งแคว้นเอง”
เมื่อปรมาจารย์แห่งแคว้นเห็นอินรั่วเฉินออกมาได้เช่นนี้ เขาก็ตกตะลึงนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ
“ท่านเทพมารล่ะ?”
“เหตุใดข้าถึงไม่รับรู้ถึงการมีอยู่ของท่านเทพมารแล้ว หรือว่าเจ้า อินรั่วเฉิน เจ้า…”
“นี่มัน เป็นไปได้ยังไงกัน?”
ตอนนี้ปรมาจารย์แห่งแคว้นสั่นไปทั้งตัว เขากำลังหวาดกลัว…หวาดกลัวอินรั่วเฉิน
หรือว่าจะไม่ใช่เพียงแค่อินรั่วเฉินคนเดียว?
มู่เฉียนซีกล่าว “เจ้าภิกษุเฒ่า เจ้าหยุดคำนึงหาเทพมารอะไรนั่นของเจ้าได้แล้ว! เขาถูกข้าทำลายวิญญาญดับสูญไปแล้ว”
แน่นอนว่าเขายอมเชื่อว่ามู่เฉียนซีเป็นคนฆ่า แต่เขาไม่เชื่อว่าอินรั่วเฉินจะเป็นคนฆ่า
“เศษเสี้ยววิญญาณของท่านเทพมารดับสูญไปแล้ว ภารกิจของข้าก็ล้มเหลวแล้ว แต่ข้าไม่มีทางยอมให้พวกเจ้าอยู่เป็นสุขแน่”
ดูเหมือนว่าปรมาจารย์แห่งแคว้นบ้าคลั่งไปแล้ว พลังวิญญาณอันน่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านออกมา
“อมิตาพุทธ!” อินรั่วเฉินยกมือทั้งสองข้างขึ้นประสานกัน และกล่าวด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบ
ภายในชั่วพริบตาเดียว แสงสีทองอร่ามก็เปล่งประกายส่องสว่างเจิดจรัสขึ้น!
“ความหมายอันลึกซึ้งแห่งพุทธะ โพธิคือความว่างเปล่า!”
ตูม!
แสงสีทองอร่ามนั้นทำให้ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งพุทธสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น
มู่เฉียนซีเองก็แปลกใจอยู่เล็กน้อย “พระผู้นี้ซ่อนอุบายเอาไว้มากมายเท่าใดกัน! เก่งกาจ! เก่งกาจยิ่งนัก!”
แม้แต่เป่ยกงจั๋วที่ได้พบเห็นยอดฝีมือในดินแดนเบื้องบนมามากมายแล้ว ในตอนนี้เขาก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้นเช่นกัน “นี่เขา…นี่เขายังใช่มนุษย์อยู่หรือไม่!”
“กฎแห่งธรรม นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะตรัสรู้กฎแห่งธรรมแล้ว แต่ว่า…เห็น ๆ กันอยู่ว่าเขาเป็นแค่คนในดินแดนชั้นล่าง”
เป่ยกงจั๋วและเหล่าบรรดาลูกน้องทั้งหลายของเขาเมื่อเห็นเช่นนี้ก็รู้สึกพรั่นพรึงหวาดกลัวขึ้นในหัวใจ!
พวกเขาประเมินดินแดนสี่ทิศต่ำเกินไปแล้ว มู่เฉียนซีหนีออกมาได้ ยังเข้าใจได้ว่าเป็นเพราะมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์เทพนิรันดร์ นางถึงได้วิปริตถึงเพียงนั้น
ทว่า…
พระภิกษุผู้นี้…
ปัง ปัง ปัง!
ครั้นแล้ว ร่างของปรมาจารย์แห่งแคว้นก็แหลกสลายไปภายใต้พลังอันน่าสะพรึงกลัวนี้
เป่ยกงจั๋วกล่าว “ถอย! รีบถอยเร็วเข้า!”
สิ่งที่เรียกว่าเทพมารผู้แข็งแกร่งผู้นั้นถูกมู่เฉียนซีกำจัดไปจนสิ้นแล้ว
ปรมาจารย์แห่งแคว้นผู้นั้นก็ตายไปแล้ว ตอนนี้คนของเขาไม่สามารถต้านทานพวกเขาได้
มู่เฉียนซีคาดเดาถึงความคิดของเป่ยกงจั๋วออก จึงรีบกล่าวว่า “ขวางพวกมันเอาไว้! อย่าให้เป่ยกงจั๋วหนีไปได้เด็ดขาด”
และในขณะที่มู่เฉียนซีจะลงมือขัดขวางเป่ยกงจั๋วนั้นเอง จู่ ๆ เงาดำเงาหนึ่งก็พุ่งเข้ามา และนี่ก็คือวิญญาณของปรมาจารย์แห่งแคว้น
แม้ว่าร่างกายจะถูกทำลายลงแล้ว แต่วิญญาณของเขายังคงอยู่
“แม่นางมู่!” อินรั่วเฉินตะโกนขึ้น
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาใช้พลังอันแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ตอนนี้เขาจึงอ่อนแอและไร้เรี่ยวแรงเป็นอย่างมาก
“เฉียน!” ชิงอิ่งเองก็ไม่ได้สนใจเป่ยกงจั๋วอีกแล้ว อีกทั้งยังพุ่งไปหมายจะจับวิญญาณของปรมาจารย์แห่งแคว้นอีกด้วย
ปรมาจารย์แห่งแคว้นที่เหลือเพียงแค่วิญญาณดูเหมือนจะโหดเหี้ยม แต่ความจริงแล้วกลับไม่ได้แข็งแกร่งแต่อย่างใดเลย!
เป่ยกงจั๋วกล่าว “ภิกษุผู้นี้ยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง รีบหนีเร็วเข้า!”
เป่ยกงจั๋วฉวยโอกาสนี้ใช้หยกส่งตัวระยะไกลหลบหนี แม้จะไม่สามารถข้ามดินแดนได้ แต่มันสามารถพาเขาไปให้พ้นจากอันตรายนี้ได้ไกลมาก
มู่เฉียนซีกล่าว “ตามไป!”
ปรมาจารย์แห่งแคว้นกล่าว “มู่เฉียนซี หัวหน้าหอมู่ อันที่จริงแล้ว…อันที่จริงแล้วอินรั่วเฉินไม่ได้ศักดิ์สิทธิ์เหมือนอย่างที่เห็นภายนอก”
“ตัวตนที่แท้จริงของเขา เกรงว่าเขาคงจะไม่กล้าบอกเจ้ากระมัง!”
“ข้าแนะนำให้เจ้าฉวยโอกาสในตอนนี้ ตอนที่เขากำลังอ่อนแอฆ่าเขาซะ มิเช่นนั้น…มิเช่นนั้นแล้วคนที่จะต้องตายก็จะเป็นเจ้า หึ ๆ ๆ เป็นเจ้า!”
ก่อนที่ปรมาจารย์แห่งแคว้นจะพูดจบ อินรั่วเฉินก็ลงมือแล้ว แสงแห่งธรรมได้หลอมทำลายดวงวิญญาณสุดท้ายของปรมาจารย์แห่งแคว้นจนสิ้น ทำให้เขากล่าวคำพูดนั้นออกมาไม่ทัน!
“อินรั่วเฉิน!” มู่เฉียนซีมองไปที่เขา
อินรั่วเฉินกำหมัดแน่น มู่เฉียนซีกลับยิ้มพลางกล่าวว่า “นึกไม่ถึงเลยว่าโอรสศักดิ์สิทธิ์ฟ้านอินก็เป็นคนใจแคบ ชอบคิดเล็กคิดน้อยด้วย ไม่ยอมให้คนอื่นพูดจาใส่ร้ายเจ้า!”
“ความจริงแล้วเจ้าร้ายเพียงใด ข้าน่ะเหรอจะไม่รู้ ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าเฒ่าหัวโล้นนั่นบอกหรอก”
อินรั่วเฉินกล่าว “แม่นางมู่ ที่เขาพูดนั้นไม่ผิด! ข้าเสียพลังไปมากมายเพียงนั้น ตอนนี้หากเจ้าจะฉวยโอกาสนี้ฆ่าข้า มันก็เป็นเรื่องที่ง่ายมาก”
“เจ้าเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าหากข้าฆ่าเจ้า ข้าก็จะไม่ได้ฝักกระบี่กลับมา”
อินรั่วเฉินนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะกล่าวออกมาว่า “ข้าโกหกเจ้า ความสามารถของเจ้าในตอนนี้สามารถฆ่าวิญญาณของข้าได้ เมื่อข้าตายแล้ว ฝักกระบี่ก็จะกลับคืนสู่ผู้เป็นเจ้าของของมัน”
“เจ้าบ้าไปแล้วหรือไง!”
“ข้าพูดความจริง!”
“พระภิกษุเช่นเจ้า ช่างไม่กลัวความตายเลยจริง ๆ! แต่หากเจ้าตาย ใครจะพาพวกเราออกไปล่ะ! ข้ายังอยากจะฆ่าเป่ยกงจั๋วอยู่ เจ้าอย่ามัวแต่เสียเวลาอยู่ที่นี่เลย”
อินรั่วเฉินมีความลับ มู่เฉียนซีเองก็รู้อยู่แก่ใจดี แม้ว่าเขาจะปกปิดเอาไว้ไม่อยู่ แต่นางก็ไม่สามารถลงมือฆ่าเขาได้ลง